หลังจากถูกมรสุมจนเป็นกระแสทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กับกรณีที่บอสใหญ่แห่งกันตนา ตุ๊กตา-จิตรลดา ดิษยนันท์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ต่อว่านักแสดงคนหนึ่งที่เอาเวลาถ่ายละคร หนีไปเที่ยวทะเล โดยอ้างกับกองถ่ายว่าติดเรียน งานนี้เลยทำให้กระทบถึงนางเอกสาว ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ เพราะเจ้าตัวมีละครกับกันตนาถึง 2 เรื่องด้วยกัน คือ ธิดาพญายม กับ เจ้าสาวสลาตัน ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เปิดใจชี้แจงถึงเรื่องราวทั้งหมดแล้วว่า ไม่ใช่ตนเองที่กระทำอย่างนั้น เพราะทางธุรกิจกองถ่าย ได้ทำการยกกองจริง และเจ้าตัวก็ได้พาครอบครัวไปเที่ยว ถ้าแอบกองถ่ายไปจริง จะกล้าโพสต์รูปในอินสตาแกรม เพื่อทำร้ายตัวเองทำไม ตอนนี้ก็ได้เคลียร์กับคุณตุ๊กตาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ได้เข้าใจตรงกัน  และถ่ายทำตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องที่แฟนคลับไปคอมเมนต์ต่อว่าคุณตุ๊กตานั้น ขวัญได้บอกว่า แล้วแต่หลายคนจะมอง แต่เจ้าตัวก็ได้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ทางด้านกำลังใจนั้น เจ้าตัวบอกว่า ได้กำลังใจจากไฮโซอ้าย ครอบครัวและคนรอบข้างเป็นอย่างดี

กับบทละครเรื่อง เจ้าสาวสลาตัน ทำไมเขาไม่ให้เรามาหมดเลย ดูเหมือนให้วันต่อวัน? “มันไม่ถึงกับวันต่อวันนะคะ บทก็มี เหมือนถ่ายทำกันปกตินะคะ ก็มาเรื่อยๆ” แต่เห็นขวัญบอกว่ามันน้อย เป็นเพราะคนเขียนบทบอกว่าเขางานเยอะรึเปล่า? “คือที่ขวัญได้ยินมา คนเขียนบทเขาเขียนอยู่ 4 เรื่องก็เขียนกันไม่ทัน แต่อันนั้นมันไม่ใช่หน้าที่เรา หน้าที่เรามันก็มีบทที่เราได้ถ่าย เราก็แค่ถ่ายตรงนั้นเอง ไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าเรื่องทุกเรื่องเนี่ย ขวัญให้คำกระจ่างในหน้าที่ของขวัญไปแล้ว ขวัญไม่อยากพูดในที่มันก้าวก่ายหรือเกินตัวขวัญไป เพราะว่าขวัญเป็นเด็ก แต่ที่ขวัญพูดไปเนี่ย พูดในฐานะคนทำงาน ในฐานะนักแสดงว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าสิ่งที่เป็นผลกระทบตามมา มันสะเทือน พี่อย่าลืมนะว่าผู้จัดเขาไม่มีวันตกงาน แต่คนที่ตกงานคือนักแสดง เวลาขวัญทำอะไรไป ขวัญคิดและรอบคอบ จะพยายามไม่ทำอะไรที่ดูก้าวก่ายและก้าวร้าว หรือดูแย่”  คนเขาเลยสงสัยว่าตอนนี้เราถ่ายไปได้กี่ตอนแล้ว? “ไม่เคยนับเลย คือตัวหนูเวลามาทำงานเหมือนจับกัง รายได้ของหนูคือข้าวในกองที่ขวัญกิน ค่าตอนละครนี้ขวัญให้แม่หมดเลย ถึงเวลาไปทำงานก็ไปทำ พอไม่มีงานก็ไปดูหนัง เข้าสปา ชีวิตของขวัญมีแค่นี้ค่ะ”

มีอีกกระแสหนึ่งเขาบอกว่า ที่กองยกไปเพราะว่าเป็นดาราอีกคนหนึ่ง คืออ๋อม-อรรคพันธ์ ตรงนี้เราได้ยินไหม? “ขวัญไม่อยากให้มันแตกแขนงไปไกลค่ะ ขวัญอยากให้มันจบแค่ตรงนี้ แล้วก็ผ่านไป” แอบรู้สึกอะไรไหมว่าเป็นคนนั้น แต่ทำไมมาโยงเป็นเรา? “ไม่ค่ะ ขวัญรู้สึกอบอุ่นมากกว่ากับเหตุการณ์นี้ คือขวัญเข้าใจว่าพี่ตุ๊กตาเขาเป็นผู้บริหารระดับสูง แกไม่รู้ว่างานในกองมันมีผิดพลาดอะไร แต่ก็อาจแค่รับรู้ว่ากองไม่ถ่าย แต่พอมาดูในอินสตาแกรม เห็นว่าเราไปเที่ยวทะเล คนทุกคนมีอารมณ์หมดไม่ว่าจะเป็นใคร แต่เราเป็นเด็ก เรามีหน้าที่ให้ความกระจ่าง ปกป้องอาชีพเราด้วย แม่เราด้วย เพราะว่าคนที่เป็นผู้จัดการเราคือคุณแม่ เพราะว่าเขาว่าแม่เราทำงานไม่เป็น” เหมือนเราโตขึ้นในการควบคุมอารมณ์ได้มากกว่าเดิม ในการที่จะออกมาพูด? “ใช่ค่ะ คือที่ขวัญบอกว่า เหตุการณ์ทุกอย่างที่ผ่านมา มันสอนขวัญหมด ตรงนี้ที่ขวัญขออนุญาตออกมาพูด เพราะว่าขวัญไม่ต้องการโดนสังคมประณามเหมือนกับเหตุการณ์ครั้งก่อน ขวัญเคยโดนแล้ว ขวัญเจ็บมากกับการที่ไม่ได้พูด เจ็บกับการที่ขวัญไม่ได้ปกป้องตัวเองและคนรอบข้างอย่างแม่เลย แล้วตรงนี้ทำให้ขวัญดีใจที่ได้มายืนปกป้องตัวขวัญ ได้มายืนปกป้องแม่เราได้ว่า ไม่มีใครมาว่าแม่เราได้ว่าแม่ทำงานไม่เป็น อาชีพเราไม่ได้สั่นคลอนว่า ความรับผิดชอบเราแย่หรือต่ำ”

แล้วเรื่องนี้เราไม่ได้คุยกับอ๋อมให้มันกระจ่าง? “ขวัญว่ามันไม่ใช่หน้าที่ขวัญ อันนี้คือหน้าที่ของธุรกิจกอง เขาจะถ่ายหรือไม่ถ่าย ถ้าเขาไม่ถ่ายก็เรื่องของกองเขา ว่าเพราะอะไร จะให้หนูมานั่งรับรู้ทุกเรื่องมันก็ไม่ไหว ขวัญก็เอาแค่ตัวขวัญก่อนค่ะ อย่างวันนั้นพอเราได้ชี้แจงในรายการคันปากเสร็จใช่ไหมคะ ขวัญก็กลับไปถ่ายละครเหมือนเดิม” บรรยากาศกองเป็นยังไงบ้าง? “บรรยากาศปกติค่ะ ทุกคนก็ถ่ายทำกันต่อไป ทีมงานเป็นคนที่ใกล้ชิดขวัญอยู่แล้ว เขารู้ว่าทุกคนให้กำลังใจขวัญหมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นยังไง แต่ทุกคนก็เข้าใจว่าทุกอย่างมันต้องมีความผิดพลาดกันได้” พี่ตุ๊กตามีลงมาดูเองบ้างไหม? “ไม่ค่ะ”

อย่างเรื่องที่แฟนคลับมีไปคอนเมนต์ต่อว่าพี่ตุ๊กตา เรามีกลัวไหมว่าแฟนคลับเราก้าวร้าวรึเปล่า? “อันนี้นานาจิตตังค่ะพี่ คนคิดได้หลายอย่าง แต่อยากให้มองไปในแง่ที่ดีก็คือ เขารักษาในสิ่งที่มันถูกต้องมากกว่า”  มีห้ามปรามแฟนคลับบ้างไหม? “ขวัญไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว ขวัญทำได้อย่างหนึ่งก็คือ ขวัญพูดว่าพี่ตุ๊กตาขอโทษขวัญแล้ว เข้าใจขวัญแล้ว ถึงแม้ว่าจะประจานเราในสื่อ แต่ขอโทษเป็นการส่วนตัวอย่างที่ทุกคนบอก แต่อันนี้มันก็ไม่เป็นไร สังคมไทยเราจะให้ผู้ใหญ่มานั่งขอโทษเด็ก อันนี้มันก็ไม่ถูก”  เรียกว่าตอนนี้เราพอใจแล้ว? “ขวัญขอแค่ผู้ใหญ่เอ็นดูเราเหมือนเดิมแค่นี้พอแล้ว อย่าเข้าใจขวัญผิด ถ้าเกิดว่าขวัญผิดจริง น้อมหัวรับเลย จะเรียกขวัญเข้าไปตักเตือนลงโทษยังไงก็ได้ แต่อันนี้ที่ขวัญโดนประจานหรืออะไร คือขวัญไม่ได้ทำ มันคือการเข้าใจผิด อันนี้ขวัญตอบไม่ได้”

อ้ายให้กำลังใจยังไงบ้าง? "ไม่มีอะไรเลยค่ะ อ้ายเขาเป็นผู้ใหญ่ เขาก็ให้เกียรติและเชื่อในตัวขวัญว่า เราไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นแรงสนับสนุนให้เรายืนในสิ่งที่มันดี แต่เขาก็มีเตือนให้เราระวัง เราออกมาพูดได้แต่อย่าลืมว่า เราเป็นเด็ก นั่นเป็นสังคมไทย อย่าก้าวร้าว เขาก็กลัวเราจะมีอารมณ์ แต่เราก็ผ่านอะไรมาเยอะ ขวัญเรียนปริญญาโทแล้ว มันมีอะไรที่สอนขวัญทุกวัน ส่วนเขากลัวเราเสียภาพลักษณ์มั้ย ขวัญว่าไม่ค่อยห่วงขวัญเท่าไหร่หรอก เขาห่วงแม่มากกว่า เขาจะคอยดูแลแม่ เพราะทุกวันขวัญยิ่งแกร่งขึ้น แต่ทุกวันคนที่อ่อนแอลงคือแม่" จะถือว่าอ้ายเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่สำคัญไหม? "คือแค่เรามีคนดีๆ มาเป็นห่วง ไม่ใช่แค่ตัวขวัญคนเดียว แต่เขามาเป็นห่วงครอบครัวเราด้วย มาดูแลคนที่เรารักก็คือแม่เราด้วย มันก็ทำให้เราหายห่วงเรื่องแม่ได้เหมือนกัน บางทีเราก็พะวักพะวง ไหนจะแม่ ไหนจะปัญหารอบด้าน แต่เขาก็ทำให้แม่โอเคขึ้น ส่วนมันเป็นบทพิสูจน์ตัวเขาด้วยมั้ยว่า อยู่ข้างเราทั้งเรื่อง ร้ายและดี ขวัญว่าทุกวันมันเป็นบทพิสูจน์ เป็นการเรียนรู้กันและกัน"

เขาดูแลแม่เรายังไง? "คือมันก็ใช้ชีวิตปกติ ทุกวันนี้หนูเหลือแม่คนเดียว ถ้าหนูมีเพื่อนสนิทก็อยากให้รักหนู และรักแม่หนูด้วย แม่มีคนเดียวถ้าหนูไปกับเขา แม่อยู่บ้านก็เหงา ก็อยู่กันเป็นครอบครัวแบบนี้ค่ะ เวลาเราไปไหนเขาก็มีมารับ เพราะแม่ไปไหนชอบไปแท็กซี่ ส่วนคนนี้แม่จะโอเค ไฟเขียวรึเปล่า คืออ้ายเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาจีบ มานั่งคบ แต่แม่ทุกคนก็ห่วงลูกแหละ ไม่ใช่เมื่อก่อนห่วงมาก ตอนนี้ไม่ห่วง แต่แม่ดูว่าคนไหนดี คนไหนไม่ดี คนไหนไม่ดีเข้ามาแม่ก็จะพองตัวเป็นโดเรม่อนเตะออกทันที (ยิ้ม) ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แม่คงไม่ได้ถึงกับไฟเขียว แต่ก็ให้เกียรติ ให้สเต็ปเขาก้าวเข้ามา แม้ว่าจะแต่งงานแล้ว ขวัญเชื่อว่าก็ไม่ให้ไฟเขียวอยู่ดี ถ้าเขาทำอะไรผิด ขวัญเชื่อว่าแม่ก็จะพองตัวเป็นปลาปักเป้าค่ะ อ้ายเองก็ไม่เกร็งนะเวลาอยู่กับแม่ เพราะเขาสนิทกันมานานค่ะ".