คอลัมน์ "เทรนดี้" โดย "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" นักร้องหนุ่ม "กอล์ฟ-พิชญะ" เผยถึงการเบนเข็มลุยงานละคร แต่ยังไม่ทิ้งงานเพลงที่ตนเองรัก พร้อมทั้งพูดถึงความรักกับสาวรัสเซียที่แฮปปี้สุดๆ แถมครอบครัวทั้ง 2 ฝ่ายไฟเขียวด้วย...

เบนเข็มมาทำหน้าที่นักแสดงอีกคน สำหรับนักร้อง หนุ่มกอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล ที่ตอนนี้มีทั้งผลงานซิทคอม "ระเบิดเที่ยงแถวตรง" ทุกวันอาทิตย์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 5 อีกทั้งยังมีละครเทิดพระเกียรติ "ลูกหนี้ที่รัก" คอลัมน์ "เทรนดี้" โดย "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" เลยชวนหนุ่มกอล์ฟมาพูดคุยถึงการทำงานในฐานะพระเอกละคร รวมทั้งอัพเดตถึงงานเพลงที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังทุ่มเทแรงกายแรงใจทำเองแทบทุกขั้นตอนโดยไม่มีสังกัดคอยดูแลเหมือนเมื่อก่อน และถามถึงเรื่องราวความรักกับสาวนอกวงการชาวรัสเซีย เคธี่ เอคาทริน่า โคเลนเบท ที่ตอนนี้ดูเหมือนเจ้าตัวจะอินเลิฟสุดๆ เพราะนอกจากเปิดตัวเต็มที่มากกว่าที่ผ่านมาแล้ว ยังพาไปเจอครอบครัวทั้ง 2 ฝ่ายมาแล้วอีกด้วย งานรุ่งรักแฮปปี้แบบนี้ เชื่อเลยว่าใครๆ ก็อิจฉาหนุ่มกอล์ฟทั้งนั้นล่ะจ้ะ!!!

Q : เป็นยังไงบ้างช่วงนี้กำลังทำอะไรอยู่?

A : ช่วงนี้ถ่ายละครช่อง 3 คือ เรื่อง "ลูกหนี้ที่รัก" และก็มีซิทคอมที่ออนแอร์อยู่คือ "ระเบิดเที่ยงแถวตรง" ทางช่อง 5 และก็กำลังทำเพลงอยู่ แล้วตอนนี้รับละครไว้อีกเรื่องด้วยครับ แต่รายละเอียดเดี๋ยวไว้บอกอีกที สำหรับเรื่อง "ลูกหนี้ที่รัก" ผมเล่นกับ เต้ย (จรินทร์พร จุนเกียรติ) ก็ดีครับ แต่ยังไม่ได้ออนแอร์ เพราะเหมือนคิวของนักแสดงไม่ค่อยตรงกัน แต่ตอนนี้ใกล้จะปิดกล้องแล้ว ถ่ายไปได้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ก็น่าจะได้เห็นเร็วๆ นี้ครับ คิดว่าไม่น่าเกินเดือน ต.ค.นี้ครับ

Q : เนื้อเรื่องและคาแรกเตอร์ที่กอล์ฟได้รับในละคร "ลูกหนี้ที่รัก" เป็นยังไงบ้าง?

A : เรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ เป็นละครเทิดพระเกียรติที่สอนให้คนอย่าเป็นหนี้ ให้อยู่แบบพอมีพอใช้ครับ ในเรื่องผมรับบทเป็นตากล้อง ซึ่งคุณแม่มีบริษัทใหญ่ แต่เราไม่อยากทำงานบริษัทเพราะว่าติสท์ สุดท้ายก็ต้องกลับมาทำเพราะใช้ตังค์หมดไปกับการถ่ายรูปรอบโลกครับ เรื่องนี้เป็นละครสั้น มีประมาณ 12 ตอนครับ

Q : ร่วมงานกับเต้ยก็สบายเลย เพราะเคยทำงานด้วยกันมาก่อนแล้ว?
A : ร่วมงานกับเต้ยในเรื่องนี้ก็สนุกดี กับเต้ยก็ร่วมงานกันนานมากแล้วครับ พอเคยร่วมงานกันก็สบายเลย เพราะสนิทกัน รู้จักกันอยู่แล้วว่าเป็นยังไง เต้ยเป็นคนตลก ถามว่ากลัวคนจับคู่นอกจอไหม ก็ไม่กลัวนะ เพราะเรามีคู่นอกจออยู่แล้ว แต่คนจะชอบจับคู่แบบคู่จิ้น เหมือนว่าในจอดูเหมาะกันครับ

Q : คาดหวังเรื่องกระแสไหม เพราะตอนไมค์มาเล่นละคร "รากบุญ" ทางช่อง 3 กระแสตอบรับก็ดีเหมือนกัน?

A : ของผมมันคนละเวลาครับ ของไมค์จะเป็นช่วงไพร์มไทม์ ซึ่งกอล์ฟเองไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วเพราะว่ากอล์ฟเน้นร้องเพลงมากกว่า คือในส่วนละครเราก็อยากลองดูครับ เพราะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เข้าถึงคนจำนวนมากดี ก็อยู่ในจอด้วยครับ เป็นละครเทิดพระเกียรติในหลวงด้วย ก็เลยอยากเล่นครับ

Q : กลายเป็นว่าช่วงนี้ กอล์ฟ-ไมค์ เริ่มหันมาทำงานละครบ้างแล้ว กลัวถูกเปรียบเทียบไหมว่าใครเล่นแล้วกระแสจะดีกว่ากัน?
A : ไม่กลัวครับ เพราะอย่างที่บอกว่ากอล์ฟไม่ได้เน้น เราทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำ ถ้าใครจะดังมากหรือน้อยกว่าก็ไม่สำคัญอยู่แล้ว เพราะสุดท้ายคนก็เรียก กอล์ฟ-ไมค์ อยู่ดี (ยิ้ม) ทุกวันนี้ออกอัลบั้มเดี่ยวมา 2 ปีแล้ว คนก็ยังเรียก กอล์ฟ-ไมค์ อยู่ ผมก็ไม่ซีเรียสอยู่แล้ว สมมติว่าไมค์ดังขึ้นมามาก เขาก็ยังเรียก กอล์ฟ-ไมค์ๆ (ยิ้ม) หรืออย่างกอล์ฟเดินไปไหนก็เรียก กอล์ฟ-ไมค์ อยู่ดี ซึ่งมันก็ดีนะ (หัวเราะ) จริงๆ ตอนนี้กอล์ฟเน้นทำเพลงและทำธุรกิจแว่นตาของตัวเองด้วยมากกว่าครับ

Q : แล้วฟีดแบ็กซิทคอม "ระเบิดเที่ยงแถวตรง" เป็นไงบ้าง?
A : เรื่องนี้สนุกดีครับ ส่วนฟีดแบ็กเวลาไปเดินข้างทางคนก็จำได้ จะเรียกเราว่าดินปืนๆ กอล์ฟว่าเวลาเล่นละครมันอยู่ในสื่อในจอให้คนได้เจอมากกว่า ถามว่าทำให้เราชอบการแสดงมากขึ้นไหมคือ เราไม่ได้ไม่ชอบการเล่นละครนะ แต่เราก็โอเคเล่นได้ ยิ่งถ้าบทสนุกๆ ท้าทายก็ยิ่งน่าตื่นเต้น แต่มันเหนื่อยเพราะต้องตื่นเช้าไปกอง ถามว่าทำได้ไหมก็ทำได้ไม่บ่นเลยนะ เราก็ทำเต็มที่ แต่พอถ่ายเสร็จแล้วย้อนกลับมาดูแล้วเปรียบเทียบกับการทำเพลง ผมว่าถ่ายละครเหนื่อยมากเลยนะ ต้องตื่นเช้าไปแต่งหน้าทำผม ถ่ายยาวถึงกี่โมงก็ไม่รู้ คือกอล์ฟเป็นคนชอบแพลนชีวิตว่าต้องไปทำอะไรต่อ ซึ่งงานเพลงทำให้เราคำนวณระยะเวลาในการทำงานได้ดีกว่า เราจะรู้ว่าเล่นคอนเสิร์ต 1 ชม.จบ เดินสายโปรโมตเพลงที่ไหนบ้าง แต่ละครเราจะไม่แน่ใจว่า 12 ซีนเนี่ยถ่ายถึงกี่โมง แล้วจะต้องเพิ่มตอนไหม แต่ก็โอเค ไม่ถึงขั้นจะทำไม่ได้ ถ้าเราเล่นแล้วคนเห็นพัฒนาการที่ดีมันก็สานต่อไปเล่นอันอื่นได้ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ดีครับ

Q : ถามถึงงานเพลงตอนนี้อยู่ในช่วงไหนแล้ว?
A : ก็อยู่ในช่วงผลิตเพลงครับ ผมพยายามจะทำให้เป็นอัลบั้ม แต่ว่าตอนนี้จะปล่อยซิงเกิ้ลก่อน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้เพราะเพลงแรกเพิ่งใกล้จะเสร็จครับ ก็คงปล่อยทีละเพลงเพราะว่าไม่อยากรอแล้ว เพราะถ้ารอก็เหมือนครั้งที่แล้วที่รอนานมากเลย กว่าจะรอเป็นอัลบั้มเสร็จครบทุกเพลงแล้วปล่อย กอล์ฟรู้สึกว่ามันช้าครับ ส่วนเรื่องโปรดักชั่นจริงๆ กอล์ฟคิดในส่วนมิวสิกวิดีโออยู่แล้วครับ อันนี้ไม่ค่อยห่วง แต่จะห่วงเรื่องโปรโมตเรื่องสื่อว่าจะให้ไปอยู่ตรงไหนดี อาจจะจ้างโปรโมเตอร์ไม่ก็จัดการเอง หรืออาจจะคุยกับค่ายเพลงครับ

Q : ดูเป็นคนที่มีโปรเจกต์ในหัวเยอะมาก?
A : ใช่ครับ เป็นคนชอบครีเอทเอง สนุกดี ถามว่ามีเหนื่อยไหมก็เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกดี แต่บางทีก็มีช่วงที่ร่างกายเหนื่อย กลับมาก็หลับเลยก็มี แต่หายเหนื่อยเพราะมีกำลังใจที่ดีจากแฟนผมครับ (ยิ้ม)

Q : ถามถึงเรื่องความรัก พอเริ่มเปิดตัวแฟน มีภาพแฟนออกมาตามสื่อแล้วเป็นไงบ้าง?
A : ก็ปกติครับ กอล์ฟก็โตแล้ว แล้วกอล์ฟไม่ชอบมานั่งปิดบังอะไรมากมายอยู่แล้ว เราอยู่ในวงการนี้มานานแล้ว จากที่เขาเห็นเราเป็นเด็กๆ ก็โตขึ้นมาเรื่อยๆ มันก็คงถึงเวลาแล้วครับ อย่างเวลาผมไปไหนกับเขาก็มีคนจับตามองแต่ว่าเขาชินแล้วครับ แต่ส่วนมากคนที่มองพอมองผมแล้วจะหันไปมองแฟนผมมากกว่า (หัวเราะ) เพราะเขาเด่นกว่าผมอีกเพราะผมทองครับ ถามว่าเขามีเขินบ้างไหมก็ไม่ค่อยครับ เหมือนเขาชิน แล้วเขาเป็นคนสบายๆ ด้วยครับ ตอนนี้คบกันมา 5-6 เดือนแล้วก็ดีครับ

Q : ได้เจอที่บ้านของทั้ง 2 ฝ่ายรึยัง?
A : เจอหมดแล้วครับ ผมพาไปเจอคุณพ่อคุณแม่และก็พี่น้อง ก็โอเคครับ เขาเป็นคนเข้าหาคนครับ เป็นฝรั่งที่ไม่ปิดกั้นตัวเอง เป็นคนไนซ์ แล้วเขาเข้าหาที่บ้าน เหมือนว่าพอคุณแม่เขามา เขาก็อยากให้คุณแม่เขามาเจอครอบครัวกอล์ฟเหมือนกัน ส่วนผมก็เจอแต่คุณแม่ของเขาครับ ก็โอเคครับ คุณแม่เขาก็โอเคกับเราดี เขาก็บอกประมาณว่าคนแบบนี้แหละที่เขาอยากเห็นลูกเขาอยู่ด้วย (ยิ้ม) ก็ดีใจกับตัวเองด้วย (หัวเราะ)

Q : สำหรับเราเรียกว่าคนนี้เป็นคนที่ใช่ แล้วมองอนาคตร่วมกันไหม?
A : ถ้าไม่ใช่ก็คงไม่เปิดน่ะ (ยิ้ม) ถามว่าที่ผ่านมาที่มีข่าวแต่ก็ไม่ได้พูด แต่พอครั้งนี้ค่อนข้างเปิดตัวมากก็รู้สึกว่าโล่งครับ ส่วนเรื่องอนาคตร่วมกัน กอล์ฟมองว่าเราทำวันนี้ให้ดีที่สุดครับ อนาคตจะเป็นยังไงเราก็ต้องก้าวไปด้วยกันแหละ ช่วงกันสนับสนุนกันและกันมากกว่า กอล์ฟเป็นคนที่มองวันนี้ ทำวันนี้ให้ดีแล้วจะเกิดวันข้างหน้าเองครับ คงไม่ได้ไปกะเกณฑ์อะไร ทุกอย่างเป็นเรื่องอนาคตน่ะครับ