พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 
30 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 

"เช่า-ปล่อย"พระ แล้วต้องคืนมั้ย? (เช่าพระเครื่อง-ปล่อยพระเครื่อง แล้วต้องคืนมั้ย?)

"เช่า-ปล่อย"พระ แล้วต้องคืนมั้ย?


>เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมจะซื้อ-ขายพระต้องพูดว่า "เช่า-ปล่อย" ได้ยินบ่อยๆ ตั้งแต่เด็กจนโต ด้วยความโง่ ยังเคยงงว่าถ้าเช่าแล้วต้องคืนเมื่อไหร่ เช่ากันทำไม ซื้อเลยไม่ได้เหรอ ใครคิดเหมือนผมบ้าง? (ไม่ต้องยกมือก็ได้) เช่า-ปล่อย : ซื้อ-ขาย (พระ) จริงๆ ศัพท์คู่นี้ก็แปลว่าซื้อ-ขาย นั่นแลแต่ไม่พูดตรง บัญญัติมานาน แต่ใครริเริ่มไม่รู้...ไม่ระบุ

         เหตุเพราะคนรุ่นเก่าเค้าไม่ซื้อ-ขายพระกัน อีกทั้งสมัยนั้นพระก็ยังไม่แพง คงกลัวว่า...บาป! มีแต่ให้-แจก แลกเปลี่ยนกัน เมื่ออยากได้พระของคนอื่น แต่ไม่มีของที่บ้านมาแลก จะทำไง กระดากปากที่จะพูดว่า "ซื้อ" ออกจะถือสาไม่กล้าพูดซะด้วยซ้ำ จึงเอ่ยว่า "เช่า" เป็นคำแทน ส่วนค่าเช่าก็เอา "เงิน" นั่นแหละ... แลกเปลี่ยน (โถ...กำ!)

         คำว่า "ขาย" ก็พูดไม่ได้...น่าเกลียด จึงแก้เกี้ยวเป็น "ให้เช่า" หรือ "ปล่อย" เพื่อเลี่ยงบาลีและสบายใจ...ไม่บาป!หุหุ ปัจจุบัน เมื่อการเช่า-ปล่อยพระกลายเป็นอาชีพอีกแขนง มีการตลาด-ร้านค้า-โปรโมต-โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ บรรยายสรรพคุณ-พุทธคุณและราคาเสร็จสรรพ ครบถ้วน 4P ตามตำรามาร์เก็ตติ้ง ที่สอนในทุกสถาบัน ครบเครื่องแม้เรื่องการใช้สื่อ ป้ายเล็ก-ป้ายใหญ่ โปสเตอร์-ใบปิด เบียดชิดติดสินค้าสุรา ยาสีฟัน สบู่ ฯลฯ

       ฮิตแม้ในเว็บไซต์-สื่อหนังสือพิมพ์-เคเบิลทีวีและแม็กกาซีน มีให้เห็นไม่ต้องดิ้นรน ค้นหา แยกแยะเสร็จสรรพ ระหว่างพระเก่า-ใหม่ ถ้า "พระเก่า" คนเช่าเค้ามักมีข้อมูล เสาะแสวงหากันเองอยู่บ้างแล้ว การตลาดจึงเน้นไปที่ความน่าเชื่อถือของร้านค้าและผู้ให้เช่า

         มีกิจกรรมประกวดพระ เพื่อยกระดับวงการ แต่ถ้า "พระใหม่" อันนี้จะหลากหลาย ทุกกลยุทธ์ไม้ตายของการตลาดภาคพิสดาร งัดมาประชัน งัดมาขยาย เป็นจุดขาย-จุดเด่น ยิ่งยุคองค์พ่อจตุคามฯ อลังการงานสร้างจนเลยเส้น...คงจำได้

       หลวงพ่อ-หลวงปู่ที่มีเมตตา ประสานงากับลูกศิษย์ที่คิดการณ์ไกล ยังเผลอพลาดท่า กลายเป็นพรีเซ็นเตอร์... ไม่รู้ตัว โปรโมตจนเกินงาม เป็นความหวังดีประสงค์ร้ายอย่างไร้ศิลปะ เจตนาการสร้าง...ถ้าบริสุทธิ์ ก็ช่วยหยุดคิดหยุดทำ...เสื่อม! รักษาภาพพจน์พระคุณเจ้ากันหน่อย แต่ถ้าวัดเหนื่อยกรรมการรวย จะมอดม้วยตกนรก...แหง็ม! (แช่ง)

        โลกวันนี้แปรเปลี่ยนเร็วมาก ใจคนก็เพี้ยนเปลี่ยนไปตามราคาน้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วฯ เมื่อตีความเรื่องพระเครื่องกันมั่วๆ ผิดๆ ไม่เข้าใจความคิดแก่นแท้ของศาสนาและคนรุ่นเก่า สังคมไร้สิ่งยึดเหนี่ยว เอาวัตถุมาเป็นฟางให้เกี่ยวเกาะ

         เมื่อมีคนอยากได้ ก็ย่อมมีคนตอบสนอง มองเป็นช่องทางกอบโกยผลประโยชน์ ถ้ายังชีพ-จำหน่ายพระอย่างสุจริต ก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย แต่ถ้าละโมบและหลอกลวง เอาชาวบ้านที่มีจิตศรัทธามาเป็นเหยื่อ เห็นพระเครื่องเป็นแค่สินค้า ใช้ศาสนามาเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ เมื่อนั้นชีวิตคงอิ๊บอ๋าย!


พระเครื่อง คือพระเครื่อง เป็นวัตถุมงคลไว้ยึด-ย้ำจิตใจให้เป็นคนดี ไว้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์องค์อรหันต์ จะได้มีหิริโอตตัปปะ จึงได้โปรด (Please!) ช่วยกันระลึกเสมอในทุกครั้งที่เช่าหาบูชาพระ เราอาจซื้อได้แต่วัตถุที่เป็น "องค์แทน" แต่พุทธคุณซื้อขายไม่ได้ เกิดได้-เสื่อมได้ หมดอายุ-Expire ได้... ถ้าทำเลว!

      ก่อนจะให้พระเครื่องฯ เครื่องรางของขลัง ต้องเติมพลังของเราก่อน เริ่มต้นจากปลุกเสกตัวเองให้ศักดิ์สิทธิ์ ทาน-ศีล-ภาวนา ศึกษาและหมั่นปฏิบัติ พุทธคุณไม่ต้องดิ้นรนหา เกิดเอง-สำเร็จเอง...ถ้าทำดี คอนเฟิร์มนะโยม!

คอลัมน์ คำคมคารมเซียน




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2555
0 comments
Last Update : 30 พฤษภาคม 2555 8:34:02 น.
Counter : 2837 Pageviews.


amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.