รำลึก หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
รำลึก หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง จากจังหวัดเชียงใหม่ก็ลงมาที่จังหวัดลำปาง กราบสักการะสุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งล้านนาในอดีตอีกรูป คือ หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ ผู้เปี่ยมไปด้วยศีล สมาธิ ปัญญา จนได้รับการยอมรับยกย่องให้เป็น "เนื้อนาบุญที่ยิ่งใหญ่ในพระพุทธศาสนา" หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นเครือญาติสายตรงของตระกูล ณ ลำปาง ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ในจังหวัด เกิดที่บ้านท่าเก๊าม่วง ริมแม่ น้ำวัง อำเภอเมือง เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2455 เมื่อวัยเด็กเป็นคนรูปร่างค่อนข้างบอบบาง ผิวขาว แต่ดูเข้มแข็ง คล่องแคล่ว และมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด หลังจากจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 5 ได้ 2 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรหน้าไฟในงานศพเจ้าอาวาสวัดบุญยืน (วัดป่าดั๊ว) เป็นเวลา 7 วัน นับเป็นการสร้างพื้นฐานความศรัทธาในพระ พุทธศาสนา จนถึงปี พ.ศ.2470 ท่านจึงตัดสินใจบรรพชาเป็นสามเณรอีกครั้ง จากนั้นชีวิตท่านก็เริ่มเข้าสู่ร่มเงาพระบวรพุทธศาสนาอย่างแท้จริง สามเณรเกษมเริ่มฉายแววแห่งความเป็นเลิศในเส้นทางธรรม มุ่งมั่นและจริงจังที่จะแสวงหาความรู้เกี่ยวกับพระธรรมวินัย ศึกษาอักขระขอม ตลอดจนภาษาพื้นเมือง เพื่อจะได้ทำความเข้าใจในพระธรรมคัมภีร์ที่จารขึ้นด้วยอักขระโบราณในกลุ่มเมืองทางเหนือให้กระจ่างชัดขึ้น โดยฝากตัวเป็นศิษย์ของครูบาจันตาหรือพระครูพิชัยมงคล เจ้าอาวาสวัดพิชัยมงคล ผู้เชี่ยวชาญแตกฉานในด้านภาษาโบราณและวิทยาคมเร้นลับต่างๆ และในช่วงนี้เองที่ทำให้ท่านได้เริ่มฝึกวิปัสสนากรรมฐานในป่าช้าอันวิเวกท้ายวัดพิชัยมงคล และเริ่มรับรู้ถึงความสงบจากการเจริญภาวนาซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของวัตรปฏิบัติที่มุ่งการปฏิบัติภาวนา เพื่อหาทางหลุดพ้นจากวัฏสงสาร ปี พ.ศ.2475 สามเณรเกษมได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดบุญยืน ได้รับฉายา "เขมโก" แปลว่า ผู้มีธรรมอันเกษม นับแต่นั้นมาเส้นทางตามรอยพระบรมศาสดาของท่านก็แจ่มชัดสว่างไสว ด้วยปณิธานอันแรงกล้าที่จะสืบทอดพระศาสนา และแสวงหาความหลุดพ้นจากอนิจจัง อันเป็นความไม่เที่ยงแท้ของโลก ท่านสนใจใฝ่ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างลึกซึ้ง จึงหมั่นศึกษาภาษาบาลีเป็นพิเศษ สามารถสอบนักธรรมเอกได้ในปี พ.ศ.2479 การลด ละ วาง ของท่านเริ่มแสดงให้เห็นจากการที่ท่านปฏิเสธการเข้าสอบเปรียญ 3 ประโยค ซึ่งจะนำสู่การมีสมณศักดิ์ จุดประสงค์สำคัญของหลวงพ่อเกษมหาได้อยู่ที่สมณศักดิ์ไม่ ท่านต้องการตีความและเข้าใจในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ให้แจ่มแจ้งมากกว่า หลวงพ่อเกษมให้ความสน ใจในการเจริญวิปัสสนากรรมฐานเป็นพิเศษ จึงฝากตัวเป็นศิษย์ครูบาแก่น สุมโน พระภิกษุ ฝ่ายอรัญวาสีผู้เจริญวิปัสสนาและถือธุดงค์เป็นวัตรปฏิบัติ เมื่อเจ้าอาวาสวัดบุญยืนมรณ ภาพ คณะสงฆ์และชาวบ้านจึงนิมนต์หลวงพ่อเกษมให้รับตำแหน่งสืบต่อ ซึ่งตอนแรกท่านไม่สู้เต็มใจนักด้วยเห็นว่าเป็นเครื่องถ่วงต่อการแสวง หาความหลุดพ้น แต่เมื่อพิจารณาแล้วว่าการดูแลภารกิจของวัดก็เป็นสิ่งจำเป็นประการหนึ่งในฐานะผู้สืบทอดพระศาสนา ท่านจึงตกลงเป็นเจ้าอาวาสวัดบุญยืน ปี พ.ศ.2492 ภารกิจของ วัดเริ่มเบาบางลง ท่านจึงลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส แต่ถูกคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ยับยั้งเป็นเวลาหลายปี จนในที่สุดท่านจึงตัดสินใจหลบออกจากวัดบุญยืนเงียบๆ ทิ้งเพียงข้อความบอกลาชาวบ้าน ซึ่งตอนหนึ่งกล่าวถึงความตั้งใจของท่านไว้ดังนี้ "ทุกอย่างเราสอนดีแล้ว อย่าได้คิดไปตามเรา เพราะเราสละแล้ว การเป็นเจ้าอาวาสเปรียบเหมือนหัวหน้าครอบครัวต้องรับภาระหลายอย่าง ไม่เหมาะสมกับเรา เราต้องการวิเวกไม่ขอกลับมาอีก" จากนั้นหลวงพ่อเกษมเริ่มเจริญวิปัสสนาตามสถานที่วิเวกต่างๆ เช่น ป่าช้าของศาลาวังทาน ป่าช้าบนดอยแม่อาง ฯลฯ ก่อนที่จะปักหลักตั้งมั่นบำเพ็ญธรรมที่ป่าช้าประตูม้า ซึ่งก็คือ "สุสานไตรลักษณ์" และต่อมาก็กลายเป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาในวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อเกษม เขมโก จนชื่อเสียงและเกียรติคุณขจรขจายไปทั่วประเทศ ดังที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เปรียบเทียบไว้ใน "หนังสืออนุสรณ์ครบรอบ 80 พรรษา ของหลวงพ่อเกษม" ความว่า "ชีวิตและปฏิปทาของหลวงพ่อเกษม เขมโก ย่อมเตือนใจให้ระลึกถึงพระพุทธพจน์ที่ว่า สีลคนโธ อนุตตโร กลิ่นศีลยอดเยี่ยมกว่ากลิ่นทั้งปวง" หลวงพ่อเกษมละสังขารเมื่อวันที่ 15 มกรา คม 2539 นับเป็นการสูญเสียพระอริยสงฆ์ผู้มีวัตรปฏิบัติเคร่งครัด ตัดแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง ลาภ ยศ ชื่อเสียง หลุดพ้นจากวัฏสงสารด้วยดวงจิตที่แน่วแน่ ประกอบด้วยการบำเพ็ญศีลอันบริสุทธิ์ มีสมาธิตั้งมั่น และปัญญาแห่งธรรมอันสว่างไสว ที่จะหาได้ยากยิ่งในโลกปัจจุบัน แม้กาลเวลาจะล่วงเลยไปนานเพียงใด ท่านยังคงเป็นที่เคารพศรัทธาและยึดมั่นของพุทธศาสนิกชนไม่เสื่อมคลาย วัตถุมงคลต่างๆ ที่ท่านจัดสร้างหรือปลุกเสกก็ล้วนทรงคุณค่า เป็นที่นิยมสะสม และแสวงหาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทุกวันที่ 28 พฤศจิกายน จะมีลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนจากทั่วทุกสารทิศมารวมกันที่สุสานไตรลักษณ์ เพื่อร่วมทำบุญและกราบสักการะหลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นประจำทุกปี ครับผม คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง โดย ราม วัชรประดิษฐ์ ข้อมูลจาก
Create Date : 19 พฤษภาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2555 2:50:52 น. |
Counter : 6556 Pageviews. |
|
|
|