ชีวิตคือการเดินทาง

****หมายเหตุ***ห้ามผู้ใดนำข้อความ และ ภาพในบล๊อกนี้ไปใช้หรือนำไปตัดต่อดัดเเปลงโดยไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของเป็นอันขาด หากละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ******

This road is mine
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ชีวิตคือการเดินทางบนถนนที่เราเลือกเอง เลือกที่จะเป็น ขอให้ทุกคนมีความสุขที่ได้เดินบนเส้นทางของตัวเอง เเล้วคุณจะรู้ว่าทางเดินนี้มันสวยงามเพียงใด
New Comments
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add This road is mine's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 
เที่ยววัดพม่าในตัวเมืองลำปาง

ตอนนี้มาฝึกงานเกี่ยวกับเซรามิคอยู่ที่ลำปางคะ โดยส่วนตัวเป้นคนที่ชอบท่องเที่ยวเเละศึกษาศิลปวัฒนธรรมมาก ถือโอกาสวันหยุดสุดสัปดาห์มาเที่ยวเล่นในตัวเมืองซะเลย.....


ตั้งใจจะศึกษาศิลปะของวัดพม่าที่อยู่ในตัวเมืองลำปาง วัดพวกนี้เป็นวัดที่สร้างโดยพ่อค้าชาวพม่าที่มาทำธุรกิจค้าไม้ที่ลำปางในสมัยก่อน ก็จะทำการสร้างวัดเพื่อเป็นการทำบุญ ศิลปะส่วนใหญ่จึงเป็นฝีมือของช่างพม่า

เหมารถสองเเถวในตัวเมือง(รถที่เขียนป้ายว่า"รอบเวียง")ราคา180 บาท ให้พาไปเที่ยววัดสำคัญๆหลักๆในเมือง ที่ๆจะไปคือวัดพระเเก้วดอนเต้าสุชาดาราม วัดศรีรองเมือง วัดศรีชุม เเละป้อมปืนโบราณ"หออะม็อก" เริ่มกันเรย...

วัดพระเเก้วดอนเต้าเป็นศิลปะในราชสำนักพม่า ที่นี่มีวิหารไม้ยอดทรงปราสาทเเบบศิลปะพม่า คือจะมียอดซ้อนกันหลายๆชั้น เน้นที่การฉลุลายไม้เเละเเผ่นโลหะประกอบตัวสถาปัตยกรรม


เเละที่โดดเด่นมากคือการประดับกระจกสีที่เพดาน เสา ที่ตรงเพดานจะเห็นว่ามีตราเหมือนตราราชวงศ์สกอตเเลนด์ (มีอักษรรูปตัวที ม้าเเละสิงโต) แต่จริงๆเเล้ว มีอักษรเขียนเป้นภาษาพม่าว่า "ฝีมือช่างบัณฑะเลย์"



ที่เพดานมีคิวปิดด้วยนะ


ที่วัดพระเเก้วคอนเต้าเดิมเคยเป็นที่ประดิษฐานพระเเก้วมรกตเเละกระเเก้วอีกองค์ที่ตอนนี้ย้ายไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงเเล้ว พระเเก้วทั้งสององค์มีลักษณะที่เหมือนกัน เเละล้วนเป็นพระศิลปะล้านนา

วัดสุชาดารามเป้นวัดที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับวัดพระเเก้วดอนเต้า เเต่ตอนนี้รวมเป็นวัดเดียวกันเเล้วเรียกว่า"วัดพระเเก้วดอนเต้าสุชาดาราม...เเละนี่คือเจดีย์ของวัดสุชาดาราม เจดีย์ทรงระฆังล้านนา


สถานที่ต่อไปคือ..วัดศรีรองเมือง วัดนี้มีวิหารไม้เเบบพม่า โดดเด่นที่ตัวอาคารที่มีสีเหลืองเเดงสดใส การประดับกระจกภายในวิหารที่วัดนี้ถือว่าสุดยอด




หลังคาของวิหารจะมีลักษณะซ้อนๆกันอย่างนี้(คนละเเบบกับที่วัดพระเเก้ว ที่นั่นเป็นยอดปราสาท )

เชื่อมั้ยว่านี่คือพระอุโบสถ...อุโบสถที่มีสถาปัตยกรรมเเบบตะวันตก พบในวัดเเบบพม่า ... !!! หินด้านหน้าทางเข้า เชื่อว่าน่าจะเป็นใบเสมา มีวางอยู่รอบๆตัวอุโบสถ

เสาเเบบพม่า


ต่อไปคือ"วัดศรีชุม"...วัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

อุโบสถทรงจัตรุมุข มีหลังคาเป้นทรงปราสาท จะเห็นได้ว่าที่นี่มีความงดงามของการเเกะสลักเเผ่นโลหะตกเเต่งบริเวณเชิงชายของหลังคาได้อย่างละเอียดเเละงดงามมากๆ..สวยยยย



ภายในอุโบสถ พระพุทธรูปแบบพม่าจะมีลักษณะเเบบนี้ จะเห็นได้ว่าตรงชายจีวรจะเน้นลักษณะพริ้วพับของผ้าอย่างเหมือนจริง

การประดับกระจกสีที่ประตูโบสถ์ เเละการเเกะสลักลายพันธ์พฤกษา งดงามเเละละเอียดมากๆ



ต่อไปเป็นวิหารไม้ ที่เเต่ก่อนเคยเกิดเพลิงไหม้เสียหาย เเต่ว่าบริเวณงานเเกะสลักไม้ตรงด้านหน้ายังคงหลงเหลือให้เห็นความงามอยู่

ดูกันชัดๆ

วัดในเเถบล้านนานี้ อาคารที่เป็นวิหารจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าอุโบสถ เนื่องจากวิหารจะเป้นที่ประกอบพิธีกรรมของสงฆ์ร่วมกับชาวบ้าน เเต่ว่าอุโบสถจะใช้ประกอบพิธีกรรมเฉพาะสงฆ์เท่านั้น ดังนั้นตัวอาคารของวิหารจึงมีขนาดใหญ่กว่าเเละมีความสำคัญมากกว่าด้วย


ภายในวิหาร มีการตกแต่งด้วยลายคำ("คำ"แปลว่าทอง ในภาษาล้านนา)ที่ออกจะใหม่อยู่ คงเพราะว่าเนื่องจากการบูรณะที่เกิดจากเหตุเพลิงไหม้...เป้นภาพลายรดน้ำเหมือนศิลปะภาคกลาง น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นความเป้นพม่าในการตกแต่งเเบบเเต่เดิม(ไม่รู้ว่าเเต่ก่อนมันเป้นยังไง)


ซุ้มประตูทางเข้าวัด (เปิดออกไปเห้นมัสยิดอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน)


สุดท้ายเดินย่ำเท้าไปตามถนนรองเวียง ริมทางถนนเเห่งนี้เเต่เดิมเคยเป้นกำแพงเมืองของนครลำปาง เเต่ปัจจุบันไม่เหลือร่องรอยเเล้ว เหลือเพียงเเต่ส่วนหนึ่งของกำเเพงที่เคยเป้นป้อมปืนมาก่อน นั่นคือ "หออะม็อก" คำว่าอะม็อกแปลว่าปืนใหญ่ ...

ในหนังสือท่องเที่ยวบอกว่าที่นี่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะขับรถเลยผ่านไป...ก้จริงอยู่นะ มันอยู่ท่ามกลางบ้านเรือนผู้คน ไม่ค่อยมีใครสังเกตเห้น...นึกสงสัยจังว่าคนที่มาเที่ยวลำปาง จะมีสักกี่คนกันที่เดินตามหาป้อมปืนโบราณเเห่งนี้...ช้านคนนึงล่ะ...

ปิดท้ายยามเย็นด้วยทางเดินริมเเม่น้ำวัง..เย็นวันนั้นท้องฟ้าสวยสดใสเเละมีเเดดออกอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้โผล่มาให้เห็นราวสี่ห้าวันเเล้ว...อากาศวันนั้นดีที่สุดเท่าที่ได้มาอยู่ที่นี่เลย




Create Date : 09 พฤษภาคม 2550
Last Update : 2 มิถุนายน 2550 2:00:32 น. 5 comments
Counter : 3488 Pageviews.

 
ตอนฝึกงาน ปี 3 ผมก้อไปฝึกงานที่ลำปาง
อยู่มัน 2 เดือน ไม่กลับบ้านเลย
เพราะมัวแต่เที่ยวๆๆๆๆ มันส์จนลืมบ้านเลย
*****************************************
ปล.ที่สำคัญต้องมีเพื่อนที่นั่นพาเที่ยวน่ะ
จะสนุกมากหรือหาเพื่อนคนที่นั่นให้ได้ 555


โดย: jetmom3425 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:45:08 น.  

 
เพิ่งรู้ว่าลำปางมีวัดพม่าด้วย


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:18:22 น.  

 


โดย: naigod วันที่: 29 พฤษภาคม 2550 เวลา:6:31:27 น.  

 
สวัสดีค่ะ วัดในลำปางมีเยอะ เก่าแก่และสวยงาม ไปมาหลายปีแล้วค่ะ ยังนึกถึงภาพเก่า ๆ ได้ เป็นศิลปะที่สวยงามมากเลย ชอบไปเที่ยวแบบนี้เหมือนกัน เข้าวัดแล้วรู้สึกสบายใจ ปลอดโปร่ง


โดย: วันวานที่ผ่านมา วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:12:13:27 น.  

 
เป็น blog พม่า และแปลภาษาพม่าได้ดีจริงๆครับ


โดย: ต้าโก่ว วันที่: 12 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:48:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.