ชีวิตคือการเดินทาง

****หมายเหตุ***ห้ามผู้ใดนำข้อความ และ ภาพในบล๊อกนี้ไปใช้หรือนำไปตัดต่อดัดเเปลงโดยไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของเป็นอันขาด หากละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ******

This road is mine
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ชีวิตคือการเดินทางบนถนนที่เราเลือกเอง เลือกที่จะเป็น ขอให้ทุกคนมีความสุขที่ได้เดินบนเส้นทางของตัวเอง เเล้วคุณจะรู้ว่าทางเดินนี้มันสวยงามเพียงใด
New Comments
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add This road is mine's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 
For my memory in Chiang-Mai

ภาพความทรงจำที่ดีๆมากมายที่เกิดขึ้นที่เชียงใหม่ เรียกได้ฉันรักมันเเละมีความสุขมากกับการได้มาใช้ชีวิตเกือบร่วมเดือนที่เชียงใหม่

เหมือนกับว่าทีเเรกที่มาไม่ได้คาดหวังอะไรว่าเราจะได้เรียนรู้อะไรไปแต่ไหน เเต่มารู้ตัวอีกที ฉันว่าก้อได้อะไรกลับไปเยอะเเยะมากมายเหมือนกัน

ฉันได้อะไร.....

ได้ตอกบัตรตอนเช้า ได้กินข้าวร้านเดิมๆตอนเที่ยง(เพราะมันมีไม่กี่ร้านหรอกแถวนั้น) ได้เเวะซื้อผลไม้รถเข็นขอคุณลุงใจดี ได้เล่นกับไอ้ยุ่งหมาที่โรงงาน ได้โบกรถสองเเถวกลับบ้าน ได้กินข้าวเย็นข้างทางที่หน้าปากซอย(ที่มีเเต่ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู ข้าวผัด หมูเเดง บะหมี่)ที่ผงชูรสจัดจ้านมาก ได้กินขนมปังสังขยาที่ถูกและอร่อยที่สุดในโลก ร้านนมที่ขายนมรสชาติมนต์เเต่ราคาถูกกว่ามนต์มาก ได้เล่นเนตชั่วโมงละสิบบาท ได้จ่ายค่าซักผ้าโดยเฉลี่ยครั้งละยี่สิบบาท ได้ซื้อยาคูลย์กินตอนเบรกสิบโมง ได้กินข้าวมันไก้เกือบทุกเช้า ได้เห็นหมาโกลเด้นตัวเท่าหมีที่ร้านข้าวมันไก่ ได้เสียตังค์ไปเกือบร้อยกับค่ารถเเดงเวลาเข้าเมือง(เวียง)เเต่ละสุดสัปดาห์ ได้ยินเสียงลูกหมาจ๊อกแจ๊กจอแจที่หน้าปากซอยทุกเช้าจนอยากจะเอาไปเลี้ยง ได้กินข้าวต้มเจ้าสัวที่อร่อยมากที่เเถวสถานีรถไฟเชียงใหม่.....อ้อ ได้ทำกระเป๋าตังค์หายด้วย อันนี้เรียกว่าได้รึเปล่านะ

ได้เดินเที่ยวเตร็ดเตร่ในเวียงอย่างอิสระ ได้เข้าวัด เข้าพิพิทธภัณฑ์ เข้าหอศิลป์เพื่อศึกษาศิลปวัฒนธรรมล้านนาที่ชื่นชอบ ได้ดูเทศกาลศิลปวัฒนธรรม ได้ดูนิทรรศการดีๆเกี่ยวกับเซรามิค ได้เข้าดูแกลอรี่ภาพสวยๆหลายที่ ได้เที่ยวร้านขายของเเฮนเมตสวยๆที่ถนนนิมมานต์เหมินทร์ ได้ร่วมทำบุญที่วัด(จริงๆเเค่ปักตุงที่กองทราย..ขนทรายเข้าวัด สงกรานต์น่ะ) ได้เรียนรู้ทีมาที่ไปเมืองเชียงใหม่เเละการก่อตั้งเมือง ได้เที่ยวถนนคนเดินสามครั้ง ได้ฟังเพลงเหนือ ฟังเสียงสะล้อซอซึง(ช้อบชอบ ^^) ได้ซึมซับภาษาเหนือๆ ได้เห็นคนโดดน้ำตูมๆที่คูเมืองเมื่อหน้าร้อนมาถึง ได้ท่องเที่ยวด้วยสองเท้าของเราเอง อยากไปไหนก้อไปตามใจเราเอง



ได้มิตรภาพที่ดีๆ ได้เฮียมาหนึ่งคน ได้อาจารย์เพิ่มอีกหลายคน ได้โดนเเกล้ง(ตลอดอะ....เห็นเราเป็นไรเนี่ย) เฮียต้อมเเละพี่หนุ่มผู้ถ่ายทอดวิทยายุทธเเก่ข้า...ขอคาราวะทั่นหนึ่งขวดเบียร์ ได้ที่นี่เป็นเเหล่งความรู้ที่เเรกที่ฉันได้ศึกษาเกี่ยวกับเซรามิคอย่างจริงจัง ได้ผลงานที่ดี อาร์ต มาก ฉันชอบบบบ ได้ทำอะไรด้วยตัวเองเกือบทุกโปรเสส ได้ช่วยพี่ๆจัดดิสเพลย์ที่งานบิ๊ก แฟร์ ได้นั่งทางข้าวร่วมโต๊ะกับอาจารย์เคร๊กหัวหน้าดีไซน์เนอร์ เเละป้าเจ้าของเปรมประชา ได้พี่ๆเป็น advicer ที่ดีมาก ยินดีให้คำปรึกษา ขออะไรได้เสมอ ขอบคุณมากๆค่า ฉันเองก็ไม่เคยรู้สึกมีความสุขกับการทำงานเซรามิคเท่านี้มาก่อนเลย ฉันร่าเริง มีชีวิตชีวา เหมือนได้เรียนรู้เเละเล่นเเละลองอะไรไปในตัว เเตกต่างกับไอดีนะ ที่นั่นมีเเต่ความกดดัน เเต่ที่นี่มันเหมือนเป็นครู เป็นเเหล่งความรู้ที่ขึ้นอยู่กับตัวเองเเหละว่าจะตักตวงอะไรไปได้มากน้อยเเค่ไหน ทำอะไร ลองอะไร มีคนช่วยเหลือเเละเเนะนำเป็นอย่างดี เป็นเรื่องที่ดีมากๆ

อื่นๆอีกมากมาย ถ้าเขียนคง error.....

วันเเรกๆที่เชียงใหม่เป็นอะไรที่ช้าเเละกว่าจะหมดไปแต่ละวัน รู้สึกว่ามันนานมากๆ รู้สึกเหงาเเละเหมือนอะไรที่เคยทำที่กรุงเทพ มันกลับไม่ได้ทำเลยพอมาที่เชียงใหม่ ผ่านไปแต่ละสัปดาห์ด้วยความรู้สึกผ่านๆไปวันๆ เเต่ไม่น่าเชื่อพอมาอ่านไดอารี่ที่เขียนในสัปดาห์สุดท้ายที่เหลืออยู่ที่เชียงใหม่นั้น เป็นความรู้สึกที่เเสดงออกได้เลยว่า ฉันสนุก ฉันมีความสุขอย่างที่ไม่ค่อยได้เป็นที่กรุงเทพ ฉันกลายเป็นคนที่ร่าเริงที่สุดในโลกเเละกวนตีนพอกรุ้มกริ้มสำหรับพี่ๆที่ทำงาน เป็นภาพมิตรภาพที่ดีๆที่เกิดขึ้นในสถานที่ร่วมงานที่ทำให้ฉันเกิดความรู้สึกผูกพัน และอยากจดจำไว้เป็นภาพความทรงจำที่ดีในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต.....รู้สึกว่าตัวเองขี้เว่อร์แหะ.....ช่วยไม่ได้ มันเกิดความรู้สึกคล้ายๆอย่างนั้นจริงๆนี่

พอใกล้จะจากลาเชียงใหม่นั้น ฉันรู้ว่าเวลาช่วงนั้นมันเดินเร็วขึ้นๆ...ในวันสุดท้ายที่ทำงานฉันเลยอยากจะขอมากๆเลย...ฉันอยากให้เวลามันช่วยเดินให้มันช้าๆลงได้ไหม ฉันก้อเเค่อยากจะเก็บเกี่ยวภาพความทรงจำดีๆในเวลาที่เหลืออยู่ให้มากที่สุด ให้นานที่สุด ภาพถ่ายของฉันเกือบทุกภาพในวันนั้นล้วนเป็นภาพขาวดำ ...มันคือภาพที่จะกลายเป็นภาพอดีตอันหอมหวานของฉัน....ในไม่ช้านี้

ภาพเฮียต้อมกลึงปูนเเละเสียงร้องเพลงไม่ขาดสาย ภาพพี่อู๋ทำเเม่พิมพ์ปูน(อย่างไม่เนี๊ยบด้วย) ภาพน้าจันทร์ปั้นตันเเบบด้วยดินน้ำมันอย่างเนี๊ยบที่สุด ภาพพี่อุดมขัดงานบิสของตัวเองอย่าขยันขันเเข็ง ภาพพี่อดุลย์กับจังหวะการเคลือบของตัวเอง ภาพพี่เต๊ะเรียกประชุมทุกเช้า ภาพพี่อ๊อดนั่งเล่นกีตาร์และทำงานด้วยความตั้งใจ ภาพพี่หนุ่ม(รับข้าไว้เป็นศิษย์ด้วย ปลื้ม)กับงานติสเเตกตลอด(แต่สวยอะ) ภาพพี่อุ๊ที่กำลังบ่นว่าผู้ใดที่มาทำลายงานของเธอเสียหายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เเละเธอก้อทำใหม่อีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความพยายาม

ขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่ทำให้ทุกภาพความทรงจำที่ดีๆมีความหมาย

ขอบคุณเป็นพิเศษกับเฮียต้อม ในที่สุดเฮียก็ยอมเรียกตัวเองว่าเฮีย น่าประทับใจจัง ขอบคุณมากที่สอนให้ระวังจริงจังกับการกั้นปูนเวลาทำเเม่พิมพ์ เเละขอบคุณที่อุตสาห์ทำเครื่องมือให้เป็นที่ระลึก พี่ชาย...น้องคนนี้ไม่ลืมสิ่งที่พี่ขอหรอก ยังไงก้อไม่ลืมคนเชียงใหม่หรอกน่า

ขอบคุณพี่หนุ่มที่กรุณาสอนเทคนิคลับสุดยอดแก่ข้า วิทยายุทธนี้ข้าจะขอมอบต่อไปแก่บุคคลที่สมควรจริงๆตามที่ทั่นได้บอกข้าไว้ 55

ขอบคุณพี่เต๊ะที่ให้ความกรุณารับพวกเรามาร่วมทำงานหนึ่งเดือน และไม่หวงเลยกับความลับต่างๆ

บอบคุณพี่อดุลย์ที่ให้เรามาร่วมงานเลี้ยงบ้านใหม่ นับว่าเป้นการเลี้ยงครั้งเดียวที่พี่ๆจัด(ครั้งเดี่ยวจริงๆ เพราะอยู่กันมาหนึ่งเดือนไม่ยอมพาไปเลี้ยงเล้ย)

ขอบคุณที่นี่ที่เปิดโอกาสให้เรามาฝึกงาน เป็นนักศึกษาฝึกงานรุ่นบุกเบิกแห่งเเผนกออกแบบ

เเละขอบคุณพี่ๆทุกคนมากๆ ประทับใจจริงๆ กลับกรุงเทพเเล้วคงจะคิดถึงเชียงใหม่มาก คิดถึงคนที่เชียงใหม่ คิดถึงเสียงอู้คำเมืองของคนที่เชียงใหม่ คิดถึงตัวเองที่อยู่ที่เชียงใหม่ คิดถึงการใช้ชีวิตที่เชียงใหม่ ขอบคุณจริงๆ T_T

หนึ่งพันภาพพอดีที่เชียงใหม่ มากมายเพียงพอที่จะบันทึกสิ่งดีๆกลับไป ภาพสุดท้ายถ่ายที่สถานีรถไฟ วันที่จากลาเชียงใหม่ ในเกือบนาทีสุดท้ายที่จะจากไป ..... รถไฟพาตัวฉันกลับไปกรุงเทพได้ เเต่ใจส่วนนึงฉันว่ามันยังคงอ้อยอิ่ง ลอยวนๆอยู่เเถวสันกำแพงและเมืองเชียงใหม่นี่เเหละ....ฉันว่า




Create Date : 04 พฤษภาคม 2550
Last Update : 27 พฤษภาคม 2550 1:44:21 น. 2 comments
Counter : 541 Pageviews.

 
อ่านแล้วเจอยู่คำหนึ่ง "เซรามิก" ทำให้คิดถึงน้องโอ๋ น้องสาวที่น่ารักของผม เธอก็เรียนเซรามิก ที่ราชภัฎ สารคาม จริงๆแล้วเธออยากเข้าสถาปัต แต่เธอคงไม่เก่งปานนั่น ตอนนี้เธอเรียนจบแล้วกำลังเริ่มต้นชีวิตการทำงาน...

เชียงใหม่ .... ผมเคยไปที่นี่บ่อยสมัยที่น้องเรียนที่ ม.แม่โจ้ ผมชอบนะ บรรยากาศดี อยากมีชีวิตตอนเรียน ป.ตรี ที่นั่นจังแจ่ก็ไม่มีโอกาส แต่อย่างน้อยนะ ผมก็เคยไปเรี่ยนหลักสูตรระยะสั้น 7 วัน ที่ ม.แม่โจ้ สมัยเป็นบัณฑิตตกงาน 555+ เดี๋ยวนี้คงไม่ได้ไปเชียงใหม่แล้วเพราะ น้องลงมาทำงานที่กรุงเทพแล้ว...


โดย: naigod วันที่: 29 พฤษภาคม 2550 เวลา:6:18:34 น.  

 
แอบเข้ามาชม ทำ Blog ได้สวยน่าชมทีเดียวเชียวค่ะ
แล้วจะแอบกลับมาเยี่ยมมาชมอีกนะคะ


โดย: ทองน้อย IP: 125.25.45.171 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:54:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.