ชีวิตคือการเดินทาง........
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
29 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
ไปทำธุระที่ฮานอยเช้าไปเย็นกลับ 2

ต่อจากภาคแรกค่ะ
หลังจากที่ตกลงกะพ่อหนุ่มเวียด เค้าก็พาเราบึ่งไปชมสถานที่ต่าง ๆ อันแรกเลยน่าสนใจมากค่ะ ร้านตัดผมของชาวฮานอย เค้าจะอยู่ข้างทาง เป็นระยะ ๆ ค่ะ จะมีช่างตัดผม แขวนกระจกที่ต้นไม้ ที่ขี้นอยู่ เป็นร่มเงาให้กับถนนหนทางของฮานอย เป็นที่สวยงาม เหล่าช่างตัดผมทั้งหลายก็ทำงานกันบนบาทวิถี ใต้ร่มไม้ใหญ่ มีเก้าอี้ตัวนึง กระจกอัน ก็ทำมาหากินกันได้แล้วค่ะ จากนั้นก็ไปชม ทำเนียบประธานาธิบดี เมืองเห็นบ้านพักลุงโฮด้านหลัง ร่มรื่นมากค่ะ ไปสุสานประธานาธิบดีโฮจิมินห์ผ่านทะเลสาบตะวันตก อันเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในฮานอย และ ทะเลสาบคืนดาบที่ตรงทะเลสาบข้ามไปเป็นเกาะเล็ก ๆ มีวัดหง็อกเซินตั้งอยู่ ชมร้านค้าข้างทะเลสาบคืนดาบบรรยากาศดีมากเลยค่ะ ร้านกาแฟ เยอะมาก มีเทอเรสข้างนอกสไตล์ปารีเซียง เลยค่ะ แล้วก็ขับเข้าไปชมแหล่งการค้าบนถนนสายเก่า 36 สาย ก็อย่างที่บอก ว่าเหมือน ย่านสำเพ็ง พาหุรัด เยาวราชบ้านเรา ร้านค้าเป็นแถวทิวเลยค่ะ ผ่านชมโรงอุปรากร(ที่จัดแสดงหุ่นกระบอกน้ำด้วย) ผ่านป้อมที่มีธงเวียดนาม จำไม่ได้เรียกว่าอะไร สรุปแล้วรอบฮานอย ในเวลาครึ่งชั่วโมง โอ้...ผ่านตลาดสดด้วยเห็นหมาหัน วางขาย เรางี้ไม่กล้าหายใจสูดกลิ่นหมาหันเข้าไปเลยอ่ะ กัวๆๆ
หลังจากท่องยุทธภพด้วยความรวดเร็ว ทัวร์แบบเบิร์ดอาย ซ้อนท้ายมอร์เตอร์ไซด์แล้ว ก็ได้เวลาส่งเรากลับที่ออฟฟิสของพ่อหนุ่ม เราก็ไปเคลียร์เอกสาร พร้อมให้คนที่ออฟฟิสช่วยโทรแจ้งแท๊กซี่ให้เราด้วย ว่าเราจะมารอเค้าที่หน้าออฟฟิ้สตอนทุ่มครึ่ง และตกลงราคากันอย่างเสร็จสรรพ ครั้งแรกเราจ่ายไปตั้งเกือบสองแสนด่อง พอขากลับเค้าต่อรองราคาให้เราเหลือ แสนด่อง เราก็อำลาทุกคนในออฟฟิส และ พ่อหนุ่มแสนใจดีคนนั้น ออกมาเผชิญชีวิต เวลาในตอนนั้น 5.45 น. เราก้อออกมาเดินเล่น หวังว่าจะไปช้อปปิ้ง คนที่ออฟฟิสก็เตือนด้วยความหวังดี ว่าให้ระวังด้วยนะ ฮ่า...ดีจิง ๆ เรามีหน้าเป็นอาวุธ ไม่มีใครกล้ายุ่งกะเราแน่ เราก็เดินไปทางที่คาดว่าจะไปทะเลสาบคืนดาบ เพราะมันอยู่ใกล้กะถนน 36 สายอ่ะ เดินไปได้ 25 นาที เหนื่อยแฮก ๆ เลย บรรยากาศข้างทางก็จะมีประชาชีชาวเวียด มานั่งยอง ๆ บ้างก็นั่งเก้าอี้เล็ก ๆ ข้างถนนคุยกัน เล่นหมากฮอลสก้นบ้าง ก็นั่งกินเฝอ จริงๆ นะตอนนั้นหิวมากเลยอยากกินเฝอมากแต่ มองไปเห็นเครื่องในเยอะแยะเลย แล้วก็อะไรไม่รู้กลม ๆ สีส้ม ๆ เลยไม่กล้ากิน กลัวสั่งผิดเป็นเนื้อหมาอ่ะ เลยต้องยอมทนหิว ในที่สุด....หลงทางค่ะ ไม่รู้อยู่ที่ไหนแล้วอ่ะ ทำงัยดีไม่รู้ และแล้วก็เห็นหนุ่ม ๆ อยู่ข้างฟุตบาท โบกมือหยอย ๆ เลยอ่ะ เราก็ไม่แน่ใจ มอร์เตอร์ไซด์รับจ้างเปล่าหว่า แล้วมันพูดภาษาอังกฤษได้มั๊ยฟะ เราก็เลยเดินผ่านไปซักพัก ไม่ไหวแล้วเมื่อยอ่ะ แล้วสวรรค์ก็มาโปรด พ่อหนุ่มกลางคน คนนึ่งโบกมือเรียกเราพลางส่งภาษาอังกฤษด้วย เจอแล้ว! เหยื่อของเรา เราก็เลยจ้างเค้าให้ขับรถพาเราไปส่งที่ถนน 36 สาย (แบบไม่ถามราคาซักแอ่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าระยะทางแค่ไหนน่ะดิ คิดว่าไปต่อรองเอาข้างหน้าดีกว่า) พอส่งถึงที่เราก็ถามราคา เค้าบอกเราว่า สองหมื่นด่อง โห เวลาเค้าบอกสองหมื่นน่ะ เค้าบอกโดยตัดศูนย์ไปตัวนะ อย่างง ล่ะเพราะเรางง มาแล้วตอนขึ้นแท๊กซี่ เราฟังราคาแบบนี้ปั๊บโห แพงไปเพ่ (ลืมคำนวณเป็นเงินไทย) เราก็บอกว่าหมื่นด่องพอ เค้าก็ยิ้มแล้วก้อตกลงด้วย ดีใจสุด ๆ ต่อราคาได้ด้วยอ่ะ เราก้อเลยสวมรอยถามเค้าอีกว่า ให้มารับเราอีกทีตอนหกโมงครึ่งได้ป่ะ แล้วให้ไปส่งที่หน้าออฟฟิส เค้าก็โอเค แล้วก็จอดรถรอเราที่นั่นเลย เฮ้ย!! เราก้อเลยรีบถามราคาอีกที กลัวชาร์จค่ารอตั้งชั่วโมงนึงอ่ะ แต่เค้าก็ใจดีมากบอกว่าคิด หมื่นด่องเท่าเดิมนั่นแหล่ะ เราก็โอเคทันที แล้วก็ลงมือเดินช้อปกระจาย แต่ขอบอกว่าเสียเวลาข้ามถนนสุดยอดน่ากลัวเลยอ่ะ เรายืนตั้งนานแน่ะข้ามไม่ได้ซะทีไม่มีจังหวะรถชลอเลยอ่ะ สุดท้ายเห็นสาวฝรั่งเดินแบบหน้าตาเฉยเลยไม่รอรถหยุดเลยอ่ะ เราก็เลยเอามั่ง ขาสั่นเลยล่ะ แต่ก็ข้ามสำเร็จ คือที่ฮานอยเนี่ย เราต้องข้ามถนนไปเลยนะ รถเค้าจะหยุดให้เมื่อเราข้ามไป แบบต้องเสี่ยงตายเอาเองนะ และแล้วเราก็เจอร้าน แบ๋งห์หมี่ ก้อขนมปังฝรั่งเศสผ่ากลางใส่ใส้หมูสับกับซอสแล้วก้อแตงกวา เราก็เลยซื้อมากินอันนึง อันละ หมื่นด่อง (โห...ราคาเท่าค่ารถเลยฟ่ะ) จากนั้นเราก็เดินกินพร้อมกับดูของไปด้วย (ตอนไปลืมเช็คเงินว่าค่าเงินด่องเท่ากับเท่าไหร่ในเงินบาทน่ะ) เลยไม่ค่อยกล้าซื้อของมากนัก ในที่สุดก็ได้เวลานัด เดินไปก็กลัวหาที่ ๆ นัดกะมอร์เตอร์ไซด์ไม่เจอเหมือนกัน เพราะร้านค้าคล้าย ๆ กันเยอะมาก เป็นภาษาเวียดนามหมดเลย ที่สุดก็เดินถูกทางด้วยแหล่ะ เจอคนขับมอร์เตอร์ไซด์ ก้อซ้อนท้ายกลับไปหน้าออฟฟิส จากนั้นเราก็อยู่ในขั้นตอนรอ แท็กซี่ ครั้นมองไปฝั่งตรงข้ามเห็นร้านขายน้ำผลไม้แบบไซเดอร์ ก็ข้ามไปซื้อกินซักแก้วหิวน้ำแล้ว แก้วนึงตั้ง ห้าพันด่อง แล้วเราก็เลยซื้อผลไม้ (ลูกพีช) 5 ลูก สองหมื่นห้าพันด่อง แล้วก็มารอแท็กซี่จนมารับเราไปสนามบิน เราก็ซื้อของที่สนามบินอีกนิดหน่อย จากนั้นก็ไปเช็คอิน แล้วก็ไปรอเครื่องกลับบ้านเที่ยวบินตอน 3ทุ่มครึ่ง ถึงบ้านเกือบเที่ยงคืนแน่ะ........เหนื่อยจริง ๆ เลยฮานอยฉบับรวบรัดเนี่ย แต่ก็ได้อีกรสชาตินึง ที่สำคัญกลับมาเช็คยอดเงิน โอ้...หมื่นด่องเท่ากับประมาณ 25 บาทไทยอ่ะ ถูกมาก ๆ เลย โดยเฉพาะคุณพี่มอร์เตอร์ไซด์ เจ้านายเรายังบอกเลยว่าทำไมมอร์เตอร์ไซด์คิดราคาถูกจัง ถ้าเป็นบ้านเราเป็นร้อยแล้ว ระยะทางขนาดนั้น..... เสียดายลูกพีชอีกอย่าง 5 ลูกแค่ หกสิบกว่าบาทเอง


Create Date : 29 สิงหาคม 2550
Last Update : 29 สิงหาคม 2550 16:17:16 น. 1 comments
Counter : 533 Pageviews.

 

เอ่อ อ่านลำบากง่า
มันติดกันเป็นพรืดเลย



โดย: p_tham วันที่: 29 สิงหาคม 2550 เวลา:17:58:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แอมป้า
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add แอมป้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.