Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
8 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
The LAST LECTURE

บทบันทึกก่อนจากไป



ผู้เขียน : Randy Pausch with Jeffery Zaslow
ผู้แปล : หนูดี วนิษา เรซ
สำนักพิมพ์ : อมรินทร์
จำนวนหน้า : ๒๒๓ หน้า
ราคา : ๑๗๕ บาท
ระดับความชอบ : ๘.๕/๑๐

เป็นหนังสือขายดีในงานสัปดาห์หนังสือ ฉบับที่อ่านพิมพ์ครั้งที่ ๙ ภายในเดือนตุลาคม ๒๕๕๑ เดือนเดียว
เป็นเรื่องของ Randy Pausch ศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน ที่กำลังจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในตับอ่อน เมื่อเขารู้ก็เกิดการเตรียมตัว เริ่มจากย้ายครอบครัวคือภรรยาและลูก ๓ คนไปอยู่ใกล้ครอบครัวของเธอ และรับการบรรยายครั้งสุดท้าย ที่มหาวิทยาลัย

เท่าที่ได้รับทราบการบรรยายครั้งสุดท้ายที่หลายคนมักพูดถึงคือของ บิล เกตส์, สตีป จ็อบ และ เจ. เค. โรว์ลิ่ง แต่ทั้งสามคนบรรยายที่มหาวิทยาลัย Harvard

ส่วนของ Randy Pausch บรรยายในมหาวิทยาลัยที่เขาสอน และเป็นการบรรยายครั้งสุดท้ายจริงๆ เพราะเขากำลังจะเสียชีวิต และหัวข้อที่เขาเลือกบรรยายชื่อ ทำความฝันในวัยเด็กของคุณให้เป็นจริงได้อย่างแท้จริง
สำหรับความฝันของ Randy Pausch ในวัยเด็กมี ๖ ข้อ จากนั้นเขาก็บรรยายถึง ๖ ข้อนี้ ฝันเป็นจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ความฝันจะยุ่งเกี่ยวกับ Walt Disney และ อเมริกันฟุตบอล

แล้วคุณล่ะครับ เคยฝันอะไรไว้ในวัยเด็กบ้างไหม? ทำได้แค่ไหนกันแล้วครับ

จากการบรรยายครั้งสุดท้ายนี้ Randy Pausch เลยต่อยอดด้วยการเล่าแนวคิด การใช้ชีวิต ประวัติของตัวเองโดยให้ Jeffery Zaslow เป็นผู้เรียบเรียงให้ โดย Randy จะพูดให้ฟังขณะออกกำลังกาย

บทที่พูดถึงพ่อแม่ จะเห็นได้ว่าพ่อแม่ของ Randy เปิดโอกาสให้ลูกทำในเรื่องที่ฝันอย่างเต็มที่ เขายกตัวอย่างตอนที่จะวาดรูปต่างๆ ในห้องนอน พ่อเขาฟังเหตุผล แล้วอนุญาตเสียด้วย ยอดเยี่ยมครับ

คนรอบตัวอื่นๆ ที่เขาพูดถึงคือ ภรรยา ลูก และผู้ร่วมงาน ก็เป็นบันทึกถึงคนเหล่านั้นได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะลูกๆ ที่ยังเล็ก Randy ก็กะว่าจะเอาบันทึกเล่มนี้ไว้ให้ลูกอ่านตัวตนของผู้เป็นพ่อ

บท แรงใจจากผู้คน ก็ดีครับ จะได้เห็นว่ากำลังใจสำคัญนักสำหรับการเดินผ่านเรื่องต่างๆ ไปได้

หลายเรื่องเป็นแนวคิดที่คุ้นเคย แต่เมื่อรู้ว่าคนที่สื่อสารเป็นผู้ใกล้ตาย เรื่องเลยทรงพลังมากขึ้น นึกง่ายๆ หากเรารู้ว่าเรากำลังจะตาย เราจะทำอะไร เราเตรียมพร้อมไว้ดีหรือยัง คนข้างหลังจะคิดถึงเราอย่างไร

มีมุกจากที่อบรม 7 Habits คือให้เราคิดว่าหากเราตาย เราอยากให้คนที่จะมากล่าวในงานศพเรา พูดถึงเราอย่างไร ทีละคน หากคิดว่าเราดีกับคนเหล่านั้นไม่พอ เริ่มแก้ไขเสียแต่วันนี้

อีกมุกจากทิเบต ให้ล้างจานก่อนนอน ตอนล้างก็พิจารณาว่าหากเราเสียชีวิตคืนนี้ คือนอนไม่ตื่น เราได้เตรียมเรื่องต่างๆ พร้อมหรือยัง ยังขาดอะไรบ้าง มุกนี้มาจากเล่ม ภูมิคุ้มใจ ครับ

การขอบคุณผู้อื่นเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งครับ ในเล่มนี้ก็พูดไว้ด้วย ผมมักจะท่องคำดีๆ ๕ คำ
สวัสดี ขอโทษ ไม่เป็นไร ขอบใจ ขอบคุณ
ท่องมานานตั้งแต่เด็กเลยครับ หาทางใช้บ่อยๆ เลย

ทั้งหลายทั้งปวงเรียกว่า มรณสติ นั่นคือให้นึกถึงความตาย แล้วเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ

พระอาจารย์วิชัย จากภาคเหนือ เคยเทศนาไว้ว่า ให้เตรียมวีซ่าให้พร้อมเดินทางเสมอ

อีก ๒ เล่มที่พูดในแนวมรณสติ คือ นั่งคุยกับความตาย ของ เชิด ทรงศรี และ Tuesdays with Morrie

พึงสังวรณ์ ทุกคนต้องตาย ดังนั้นดีกับคนรอบข้างให้เยอะที่สุด เดี๋ยวก็ตายจากกันแล้ว
อยากให้เขานึกถึงเราอย่างไร เมื่อเราจากไป เราก็ทำตัวแบบนั้นแหละครับ

Website หาข้อมูลเพิ่มเติม //www.thelastlecture.com ที่นี่จะมีบันทึกการบรรยายครั้งสุดท้ายให้ชมด้วย
อีกเวบเป็นโปรแกรมที่ทีมงานของ Randy พัฒนามาคือ //www.alice.org
เข้าไปชม เจอคำคมๆ อีก
We cannot change the cards we are dealt, just how we play the hand.
—Randy Pausch
ถ้าเป็น 7 Habits จะตรงกับอุปนิสัยที่ ๑ : Be Proactive พร้อมที่จะเผชิญเรื่องต่างๆ อย่างมีสติ

หนังสือดี อ่านได้เรื่อยๆ ได้แนวคิดในการดำเนินชีวิต ต้องชื่นชมคนบันทึก Jeffery Zaslow ที่ถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือได้อย่าสละสลวย หลังๆ คนดังๆ ใช้วิธีนี้เยอะครับ ไม่ต้องเขียนเอง พูดให้คนที่มีทักษะด้านนี้ดีๆ เขียนแทน

รักกันมากๆ นะครับ ชีวิตนี้ช่างน้อยนัก แต่สำคัญนัก เพราะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อว่าจะเกิดเป็นอะไรต่อในชาติหน้า

บุญรักษาครับ

-------------------------------------------------------------------

เชิญแวะร้านค้าออนไลน์ของผมครับ


Books
Toys & Games
DVD






Create Date : 08 ธันวาคม 2551
Last Update : 6 กันยายน 2552 17:28:43 น. 17 comments
Counter : 2087 Pageviews.

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ตอนเด็กฝันว่าอยากเป็นทหารเรือ
ครั้นโตขึ้นก็ไม่ได้เป็นมหารเรือ
แต่ก็สมดังใจดังฝันว่า
จะขอเป็นคนปิดทองหลังพระ
ว่าแล้วก็หลับฝันดีเน๊าะคุณ


โดย: อุ้มสี วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:22:44:01 น.  

 
อ้อ ลืมบอกไป โครงการ alice ใช้ตัวละครในเกม SIM2 มาให้เขียนเรื่อง จะเป็นการสอนเขียนโปรแกรม โดยเราไม่รู้ตัว ในหนังสือใช้ศัพท์ว่า หันหัวหลอก ที่เคยได้ยินคือ สุดยอดการสอนคือไม่ต้องสอน หลอกให้เรียนรู้เอง สุดยอดครับ


โดย: คนขับช้า IP: 203.130.145.99 วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:23:30:01 น.  

 
ครับ

ดูหนังสือเล่มนี้คร่าวๆแล้วคิดถึงคุณครูมอร์รี่ที่ผมกำลังอ่านอยู่เหมือนกันครับ


โดย: jonykeano วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:12:00:01 น.  

 
อือม์...อ่านคร่าว ๆ แล้วคิดถึง Tuesday with Morrie จริง ๆ ด้วย

อีกสองเล่มที่เป็นแนวมรณานุสสติที่อยากแนะนำคือ มรรคาแห่งชีวิต กับ ก่อนอาทิตย์อัสดง ของพระไพศาล วิสาโลค่ะ

เป็นการเตรียมพร้อมที่พร้อมจริง ๆ


โดย: แม่ไก่ วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:20:54:45 น.  

 
ดูแล้วชักได้หลายเล่มนะครับ แนวนี้
ใครมีเล่มไหน บอกกันบ้างอีกครับ
ช่วงนี้อ่าน ไล่ล่าแสงตะวัน อีกเล่มครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:21:01:17 น.  

 
Tuesdays with Morrie

.

.

.

หนึ่งในดวงใจตลอดกาลของผมเลยครับพี่

ถ้าพี่ชอบงานเขียนเกี่ยวกับการมรณานุสติ
แนะนำงานเขียนของพระชาวธิเบตครับ
หลายเล่มเลยครับที่เขียนได้ดีมากๆเกี่ยวกับความตาย
และสภาวะของคนใกล้จะตาย



โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:22:45:20 น.  

 
สวัสดีค่ะ

แวะมาเยี่ยมพร้อมได้รับข้อคิดดีๆ ขอบคุณนะคะ


โดย: กิ่งลีลาวดี วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:23:22:30 น.  

 
อยากบอกว่าทั้งสองเล่มเคยอ่านแต่เพียงผ่านๆ ค่ะ ยังไม่ได้เจาะลึกจริงจัง





โดย: ปณาลี วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:15:04:00 น.  

 
ปกติไม่ค่อยได้อ่านแนวนี้ค่ะ
ใจมันคิดไปเองว่า
ยิ่งอ่านจะยิ่งเครียดไปใหญ่

แต่เล่มที่พูดถึงเรื่อง
การไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยที่เราเดยอ่านเรื่อง วิชาสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยไม่ได้สอน
เล่มนี้เราชอบมากกกก.. โดนสุดๆ

เคยอ่านรึยังคะ
ถ้าชอบแนวนี้ น่าจะชอบเล่มนี้ด้วย







โดย: January Friend วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:20:56:35 น.  

 
ู^
^
เห็น หนุ่มเมืองจันท์ พูดถึงไว้เหมือนกันครับเล่มนี้
เดี๋ยวจะลองหามาอ่านดูครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:22:24:23 น.  

 
เคยได้ยินชื่อหนังสือนี้มานานแล้วค่ะ ไปดูที่เอเชียบุคส์ก็หมด เลยจองไว้แบบไม่ต้องซื้อก็ได้ วันนี้เขาโทร.มาตามว่าหนังสือมาแล้ว ก็เลยรีบไปดู...
ปกสวยค่ะ ดูดี อารัมภบทก็ดี เกือบซื้อแล้วค่ะ แต่พอเปิดอ่านไปสักบทสองบท (จะเสียตังค์ซื้อเล่มไหนเกินร้อย อ่านก่อนทุกทีเลยค่ะ)...เลยวางลงแล้วแอบเดินตัวลีบออกจากร้านไป...
เคยซื้อแนวนี้เล่มนึง The Secret น่ะค่ะ... คือมันดังมากก็เลยยอมซื้อ อ่านๆ ไปซักครึ่งเล่มก็หยุดไว้ก่อน...
คือ เกิดความรู้สึกที่เรียกว่า cliche (คลิเช) หมายถึงว่า รู้สึกเหมือนเหตุการณ์นี้เคยเจอมาแล้ว เรื่องแบบนี้เคยอ่านมาแล้ว ก็เลยทำให้รู้สึกเฉยๆ กับการเล่าเรื่องที่เขาพยายามจะให้เราฮือฮา เกิดแรงบันดาลใจอะไรทำนองนั้น...
แต่ถ้าไปห้องสมุดแล้วเจอ คงจะยืมมาอ่านค่ะ...
ขออภัยนะคะที่เห็นไม่ตรงกัน...


โดย: เดเวินเชอร์ (Devonshire ) วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:22:29:08 น.  

 
ู^
^
เห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติครับ
ผมก็อ่าน The Secret ไม่จบเหมือนกัน
จริงๆ เรื่องดีๆ แนวคิดดีๆ มีอยู่เต็มไปหมด แค่เราต้องหมั่นสะสม เพราะเมื่อถึงเวลาต้องใช้ จะได้หยิบใช้อย่างทันท่วงที ถ้าเราไม่หมั่นเติมแนวคิดดีๆ อาจฝืดเมื่อจำเป็นต้องหยิบมาใช้ครับ ผมคิดอย่างนี้นะ

อีกอย่างถ้าเขาเขียนเรื่องแนวเดิม แต่ทำให้อ่านได้ไม่เบื่อ ต้องให้เครดิทคนเขียน เล่มนี้ผมว่าคนเขียนเก่ง ทำเรื่องเดิมๆ ให้น่าอ่าน

เช้าวันนี้ไปตักบาตร เจ้าขายข้าวคนเดิมที่ซื้อประจำไม่มาขายเป็นวันที่สอง อีกเจ้าบอกว่าป้าคนนั้นเสียแล้วเมื่อคืน
ค่ำวันนี้มาจดบันทึก แอบเห็นว่ายังติดเงินป้าคนนั้นอยู่เลย ๑๐๐ บาท เพราะวันนั้นผมมีแบ้งค์พัน แกไม่มีทอน

ที่เล่าไม่ได้กลัวแกมาทวงเงิน
แต่จะบอกว่าชีวิตแสนสั้นจริงๆ ครับ
ทำอะไรก็รีบทำ

พรุ่งนี้เย็นจะไปสวดศพป้าคนขายข้าวแกง

ขอบคุณที่ทำให้ผมได้ตักบาตรทุกเช้าด้วยฝีมือของป้า
หากผมทำอะไรล่วงเกิน ด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา ขออโหสิกรรมด้วย

ขอให้ดวงวิญญานป้าจิตสู่สคติครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:23:07:15 น.  

 
แวะมาอ่าน
ในคืนที่หงุดหงิดโปรแกรมในคอมหาย


โดย: อุ้มสี วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:0:56:01 น.  

 
สวัสดีครับพี่


The secret ไมไ่ด้เป็นหนังสือแนวคิดใหม่เลยครับ
หนังสือแนวนี้มีมานานมาก
ผมอ่านมาเรื่อยๆ
ไม่ได้เชื่อทั้งหมด เพระาบางอย่างก็ดูขายฝันมากไปหน่อยครับ

แต่การกำหนดความเชื่อ
ให้เชื่อในสิ่งที่ดี ที่ถูกต้อง
ก็ดูจะสอดคล้องกับคำสอนแนวพุทธ

เช่น ให้คิดดี ทำดี พูดดี

ถ้าแนวนี้ผมเชื่อ

แต่ถ้าแบบเน้นปาฏิหาริย์มากๆก็อ่านแล้วรู้สึกตะหงิดๆครับ






ตอนนี้กำลังอ่าน "เจินกวนเจิ้งเย่า"
เป็นหนังสือแปลเล่มหนาครับ
พูดถึงการปกครองบ้านเมืองในสมัยราชวงศ์ถัง

อ่านแล้วนึกถึงบ้านเมืองตัวเองขึ้นมาทันใด




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:8:04:40 น.  

 
ขอบคุณที่ไปแวะชมนะครับ


โดย: Untrue วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:13:02:21 น.  

 
กำลังอ่านอยู่เลยค่ะเล่มนี้
ยังอ่านไม่จบเลย


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:5:04:44 น.  

 
กำลังอ่านอยู่เลยค่ะเล่มนี้
ยังอ่านไม่จบเลย


โดย: cheap gucci IP: 220.178.103.66 วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:15:32:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนขับช้า
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




ย้ายมาเป็นคนสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖

เคยมาเป็นคนนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ ๑ เมษายน ๒๕๕๘

เคยมาเป็นคนสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๕๗

เคยเป็นคนกรุงเทพฯ ตั้งแต่ ๑ เมษายน ๒๕๕๒

ย้ายที่ทำงานในจังหวัดสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๖
เคยเป็นคนสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มิถุนายน ๒๕๔๕

เคยเป็นคนนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ ๑ สิงหาคม ๒๕๓๙

เคยเป็นคนระยอง ตั้งแต่ ๒๕๓๗
Friends' blogs
[Add คนขับช้า's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.