เวลาโกรธ ใช้อุบายไหนระงับได้เร็วที่สุด
คัดลอกจาก //managerroom.com/board/viewtopic.php?t=2410&sid=fb8bb342b4d51d1b6298d84ac8519c68 ผมมักจะมารู้สึกตัวหลังโกรธ และจัดการกับคนรอบข้างด้วยวาจาไปแล้ว มาคิดเสียใจทีหลังทุกที ตอนโกรธรู้สึกตัวสั่น ต้องจัดการอะไรบางอย่าง น่าจะเป็นเรื่องการยึดมั่นถือมั่นอย่างนึงหรือเปล่า เพื่อนๆ ขอประสบการณ์การระงับความโกรธ ที่ได้ผลหน่อยซิครับ จะได้นำมาใช้บ้าง
เวลาโกรธ ใช้อุบายไหนระงับได้เร็วที่สุด [ 29 มี.ค. 2005 6:03 ] โดยคุณ น้อย ผู้ตอบ#6629 [ - ]
พระพุทธเจ้าท่านมีสอนไว้ ในเรื่องความโลภ ความโกรธ ความหลง และจริตนิสัยอื่น ๆ แนวทางการปฏิบัติเป็นการสวนทางกับสิ่งที่เกิดกับใจ สวนทางกับสิ่งที่ทำให้เสียหลัก อุบายแก้ความโกรธที่ท่านสอนไว้คือ เมตตามาก ๆ ไม่ใช่ง่ายที่จะแก้ไข ไม่ใช่ง่ายที่จะควบคุม แต่แก้ได้ ฝึกได้ อันดับแรกคือตั้งสติให้ดี ๆ คอยสังเกตุจิตของตนเอง ฝึกที่จะอดทน ฝึกที่จะข่มใจ ฝึกที่จะแผ่เมตตามาก ๆ บ่อย ๆ สุดท้ายฝึกที่จะใช้ปัญญาหาเหตุผล ไม่ใช่งานง่ายที่จะแก้นิสัยตนเอง แต่รับรองแก้ได้ ใช้เวลาหน่อย ใช้ความพยายามหน่อย...จากหนักจะเริ่มเป็นเบาลงได้ ลด ละ เลิกได้ในที่สุด...ที่สำคัญจะต้องมีสติรู้เท่าทันให้ได้ จะต้องควบคุมและแก้ไขให้ ได้ ถ้าตั้งใจแล้วรักษาความตั้งใจแล้วเชื่อมั่นว่าสำเร็จ...ให้กำลังใจช่วยครับ
[ 29 มี.ค. 2005 13:01 ] โดยคุณ เนรัญชรา ผู้ตอบ#6633 [สมัครสมาชิก: 28 มี.ค. 2005 - ตอบ: 3]
พิจารณาตาม ขันธ์ 5/การเกิดขึ้นตั้งอยู่และการดับไปของจิต
[ 31 มี.ค. 2005 9:56 ] โดยคุณ - ผู้ตอบ#6673 [ - ]
ลองใช้วิธีนี้ดูนะคะ ตั้งสติให้ดีๆ แค่รู้ ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง แสดงว่าเรามีสติ จากนั้นถ้าข่มไม่ไหว ลองหายใจเข้าออก ลึก ๆ สัก๒-๓ที ถ้ายังข่มไม่ไหว อาจารย์ให้ใช้วิธีหลบค่ะ เพื่อตั้งหลักและไม่ให้เราต้องทำวิบากกรรมอะไรที่เราจะต้องมาเสียใจภายหลังค่ะ ขอเอาใจช่วยนะคะ
ลองดูค่ะ [ 31 มี.ค. 2005 22:20 ] โดยคุณ YOYO ผู้ตอบ#6690 [สมัครสมาชิก: 19 มี.ค. 2005 - ตอบ: 21]
Create Date : 18 สิงหาคม 2549 |
|
4 comments |
Last Update : 11 ตุลาคม 2549 22:23:22 น. |
Counter : 1895 Pageviews. |
|
|
|
ความโกรธ คืออารมณ์เดือดพล่านที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ในยามที่เราต้องเกี่ยวข้องผู้อื่น
อ่านเทคนิควิธีทำให้หายโกรธแบบง่าย ๆ
ท่านสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตครอบครัวและการทำงาน
วิธีที่ ๑. ยามใดเมื่อเราโกรธ เราต้องรู้ตัวของเราเองว่า เรากำลังได้รับพิษร้ายเข้าไปแล้ว
ควรสร้างความรู้สึก"สะดุ้งกลัว"ขึ้นมาทันที และ พยายามระงับความโกรธนั้นไว้
ไม่ให้พิษโกรธกำเริบแสดงเป็นกริยาอาการอะไรออกมาอย่างเด็ดขาด
ด้วยการพิจารณาโทษของความโกรธให้มากที่สุด
ตัวอย่างวิธีคิด
"หากเราโง่เขลาคิดตอบโต้ผู้อื่นด้วยความโกรธเมื่อใด
พิษร้ายของความโกรธก็จะเพิ่มขึ้นและหมักหมมอยู่ในใจมากขึ้นทุกที
มันจะคอยออกมาเผาลนจิตใจของเราไปชั่วกาลนาน
เสมือนหนึ่งเราได้สร้างนรกให้เกิดขึ้นในใจของตัวเอง "
(เป็นการนำคุณธรรมข้อ "โอตตัปปะ"หรือ "ความสะดุ้งกลัว" มาอธิบาย
ให้ตัวเองเห็นถึงผลร้ายของความโกรธ / สุตตันต.เล่ม ๑๓ ข้อ ๑๑ หน้า ๑๔ )
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๒ มองเห็นผลดีของการระงับความโกรธด้วยเมตตา ว่าทำให้เรานอนหลับฝันดี
มีเพื่อนเยอะแยะ ใครเห็นใครก็รักไคร่ มีสุขภาพจิตดี มีความสุขตลอดเวลา
โห..คุ้มค่าจริง ๆ เลย
(ดูอานิสงส์เมตตา ๑๑ ประการ / สุตตันต.เล่ม ๑๖ ข้อ ๒๒๒ หน้า ๓๖๑ )
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๓. เมื่อรู้สึกโกรธ หรือ เคืองใจใครก็ตาม ให้ตั้งสติระลึกนึกถึงความดีของคน ๆ นั้นไว้ในใจ
เช่นเขาเคยทำดีอะไรให้แก่เราบ้างไหม หรือ เขามีส่วนดีอื่นๆ ที่น่าประทับใจอะไรบ้าง
นึกอย่างนี้มาแทนความคิดไม่ชอบใจ ความโกรธก็จะหายไปเอง
ตัวอย่าง
"นายมีโกรธนายแดงที่พูดจาดูถูกตน แต่พอนายมีนึกถึงเมื่อครั้งนายแดงเคยช่วยมา
ทาสีบ้านให้ทั้งวันเมื่อปีที่แล้ว นายมีก็หายโกรธนายแดง"
"คุณเจ ไม่ชอบหน้าคุณจอนเลย เพราะคุณจอนชอบพูดจากวนประสาท แต่คุณเจก็
พยายามคิดว่าคุณจอนถึงแกจะชอบพูดกวนประสาท แต่แกก็ยังดีที่ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่
คิดได้ดังนี้คุณเจ ก็เกิดความรู้สึกที่ดีต่อคุณจอนขึ้นมาบ้าง "
(ดู วิธีระงับความอาฆาต ด้วยการมองเห็นความดีของเขา /สุตตันต.เล่ม๑๔
ข้อ ๑๖๑-๑๖๒ )
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๔ เมื่อโกรธคนใกล้ตัว เช่น แฟน , พี่น้อง , เพื่อนร่วมงาน หรือ โกรธคนไกลตัวเช่น
นักการเมือง ฯลฯ
ให้ลองนึกมโนภาพหน้าตาของเขาให้เป็นเด็กเล็ก ๆ อายุสัก 1-2 ขวบ
โดยให้คิดเหมือนกับ ว่าเขาเป็นลูกของเรา สร้างความรู้สึกเอ็นดูเมตตาเหมือน
พ่อแม่รักลูก ความโกรธจะหายไปเป็น ปลิดทิ้ง วิธีนี้แม้ดูง่าย ๆ และ น่าขำ แต่ก็
สามารถทำให้หายโกรธได้ผลเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
( ดูคำสอนเรื่องให้รักผู้อื่นเหมือนมารดารักบุตร /สุตตันต เล่ม๑๗ ข้อ ๑๐ หน้า ๑๑ )
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๕ คิดตั้งหลายวิธีแล้วก็ยังไม่หายโกรธ มาลองใช้วิธี "ไม่คิด" ดูก็ได้ ด้วยการ
หายใจเข้าปอดลึก ๆ ยาว ๆ ทำลมหายใจให้ละเอียด (นึกจินตนาการว่าลมหายใจ
ของเราเป็นอะไรบางอย่างที่ละเอียด อ่อน บางเบา ในขณะที่หายใจ ) หายใจเข้า
ออกติดต่อกันสัก ๑๐ ครั้ง ความโกรธก็จะสลายหมดไป กลายเป็นความสบายใจ
มาแทนที่
(ดูอานิสงส์อานาปาสติ ทำให้เกิดปีติ สุข จิตใจสงบระงับ ร่าเริง / สุตตันต.เล่ม ๖
ข้อ ๒๘๘ ข้อ ๑๗๐)
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๖ วิธีนี้ง่ายที่สุด เหมาะสำหรับเพื่อนสนิท หรือ คู่รัก ในยามที่เกิดความไม่เข้าใจกัน
หรือ ทะเลาะกันจนต่างฝ่ายต่างโกรธ นั่นคือ "การให้ของขวัญ" เป็นวิธีแก้ไข
ปัญหาความโกรธที่ได้ผลดีอีกวิธีหนึ่ง วิธีนี้เป็นการแสดงออกที่ทำให้หายโกรธ
ทั้งผู้ให้และผู้รับ
(ดูสังคหวัตถุ ๔ คือ การให้ พูดจาไพเราะ ช่วยเหลือเจือจาน ร่วมทุกข์ร่วมสุข สมานไมตรีไว้ตลอดกาล/
สุตตันต.เล่ม๓ ข้อ๒๖๗ หน้า๒๒๐)
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๗ ให้มองว่าทั้งตัวเราและคนที่เราคนโกรธ ต่าง เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น
คือ ไม่มีใครสามารถรอดจากความทุกข์ แก่ เจ็บ ตายได้สักคน ให้คิดจินตนาการ
มองเห็นคนที่เรากำลังโกรธอยู่ เห็นภาพในอนาคตสมมุติว่าเขากำลังป่วยหนัก
ใกล้ตาย เขาจะต้องพบกับความทุกข์ทรมานแค่ไหน จากนั้นให้หวนคิดถึงตัวเราเองว่า
เราเองสักวันหนึ่งก็ต้องพบกับความทุกขทรมานและความตายเหมือนเขาเช่นเดียวกัน
พวกเราล้วนตกอยู่ภายใต้ชะตากรรมเดียวกันด้วยกันทั้งนั้น แล้วจะมามัวโกรธกันอยู่ทำไมกัน
(ดูบทสวดมนต์แผ่เมตตา)
ข้อ ๒๘๘ ข้อ ๑๗๐)
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๘ ใช้วิธีกราบพระเพื่อระงับความโกรธ
การกราบพระทำให้จิตใจเกิดความอ่อนน้อม หมดความมานะถือตัว สภาพจิตใจเช่นนี้
ความโกรธเกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้นหากท่านใช้วิธีระงับโกรธหลายวิธีแล้วยังไม่ได้ผล
ขอแนะนำให้ใช้วิธีกราบพระ ท่านว่าได้ผลชงัดนัก วิธีง่าย ๆ เมื่อใดที่โกรธ
ให้ก้มลงกราบพระทันที และในขณะที่ท่านกราบพระ ให้นึกถึงใบหน้าของ
คนที่ท่านโกรธ ท่านจะพบด้วยตนเองว่าตราบใดที่ท่านยัง
กราบพระอยู่ ความโกรธจะไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้เลย
( จากเทคนิควิธีกำราบความโกรธส่วนตัวของหลวงพ่อบุดดา ถาวโร )