ปราสาทต่อไป ปราสาทบายน ที่เป็นหนึ่งสัญลักษณ์ของกัมพูชา ปราสาทหินรูปหน้าคน ที่มีรอยยิ้มขนาดใหญ่ ใหญ่ทั้งรอยยิ้มและ หน้าคน พี่ร่วมทริปให้ข้อสังเกตว่า รอยยิ้มและหน้าคน ไม่เหมือนกันเลย เราได้มาสังเกตทีหลังว่าจริงๆแฮะ ไม่เหมือนกันเลย และเหมือนกับมีคนมองเราจาทุกทิศทุกทาง คำพูดพี่แท็กซี่ ไกด์ของเรา
สุดท้าย ฟินเนเร่ สัญลักษณ์ที่ดังทั่วโลก มรดกโลก อังกอร์ วัด หรือนครวัด ไกด์คนเดิมบอกว่า ปราสาทบายน ทางเข้าเล็กปราสาทใหญ่ แต่ที่นี่ ทางเข้าใหญ่ปราสาทเล็ก ฮี่ๆๆๆ จริงด้วย ทางเข้ายาวมาก ชั้นแรก เหมือนจะเป็นปราสาทปลายตัดที่ยังสร้างไม่เสร็จหรืออาจเสร็จแล้วแต่ส่วนยอด พังทลายไป บดบังปราสาทชั้นในที่เป็นภาพจำของกัมพูชาเอาไว้ ว่าแล้วเราก็เดินฝ่าเปลวแดดของเดือนธันวาคม เข้าไปจนถึง ขอบสระบัว ที่สะท้อนยอดปราสาทปลายแหลม เพื่อนร่วมทริปอีก ท่านบอกว่า คนสมัยนู้นต้องรู้แน่ๆว่า พวกเราจะมาถ่ายภาพสะท้อนในน้ำแบบนี้ เค้าเลยตั้งใจสร้างให้อยู่ข้างหลังสระบัว เลยแกล้งเถียงไปว่า คนสมัยก่อนเค้าสร้างถึงข้างๆคลอง ข้างแม่น้ำกันทั้งนั้นแหละ แต่ในใจแอบโอนเอียงว่า อาจจะจริง ปราสาทนครวัดนี้ยิ่งใหญ่ น่าทึ่งจริงๆ
แอบคิด(อีกแล้ว) ว่าถ้านครวัดยังเป็นส่วนหนึ่งขงอาณาจักรไทย(เมื่อก่อนอาณาจักรเสียมราฐ อยู่ใต้การปกครองของสยาม) ปราสาทนี้จะเป็นยังไงกันนะ จะเหลืออยู่ท้าทายยุคสมัยให้คนรุ่นเราตื่นตาตื่นในแบบนี้ มีคนมาเที่ยวเยอะเป็นล้านๆคนต่อปีแบบนี้ เก็บค่าเข้าชม ได้แพงๆแบบนี้ สร้างรายได้ให้ โลคอลพีเพิ่ล มากมายมหาศาลแบบนี้ หรือว่า.... ฮ่าๆๆๆ ไม่อยากคิด
จบการเดินทางเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมกัมพูชา ด้วยความอิ่มตาและร้อนหน้าเพราะแดดแรงมาก แป่ว
เรากลับมา พักผ่อน อาบน้ำ อุ่นสบาย และทานอาหารค่ำกันที่โรงแรมด้วยความปลื้มปลิ่ม ปล. ถูกกว่าตอนกลางวัน ราคาเฉลี่ย 3 USD ต่อจาน เบียร์อังกอร์ 1 USD ต่อกระป๋อง และเบียร์ Cambodia 2 USD ต่อกระป๋อง (ไม่ทราบว่าแพงกว่ากันตรงหนาย) ประมาณสามทุ่มเราใช้บริการตุ๊กตุ๊กฟรีจากโรงแรมไปที่ PUB STREET SIAMRIAP ผู้คนเยะกว่าเมื่อคืนมาก dance กันกระจาย ไม่อยากจะเชื่อว่าคนจะแห่แหนมาเที่ยวเมืองนี้กันมากมายขนาดนี้ ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย กัมพูชาจริงๆเหรออออออ ข้าพเจ้านึกว่าสงกรานต์เชียงใหม่(ไม่เคยไปนะดูในทีวี) แต่ภาพรวมร้านรวงตกแต่งสวยงามสะอาดตา ไม่มีคนกินเหล้าเมามาย ไม่มีคนสูบบุหรี่พ่นควันเหม็น และ ได้ความรู้อีกอย่างว่าคนกัมพูชาไม่นิยมดื่มเหล้าเพราะว่ามันเมา ว่ะ (พี่แท็กซี่ ช่างคิด ชื่อต้อง คนที่พาเรากลับปอยเปตเฉลยให้ฟัง) เป็นคืนเค้าท์ดาวที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนดูอบอุ่นและเป็นมิตรดี ปล. เบียร์คัมบูเดีย ที่ PUB STREET สามป๋อง แถมเสื้อยืด สี่ป๋องแถมหมวก เพื่อนร่วมทริสุดเดิ้น ซื้อเสื้อและหมวก คนที่เหลือได้ดื่มเบียร์ฟรีกันไป เปรม.... นั่งตุ๊กตุ๊กกลับโรงแรม 3 USD เราต่อทันที หนึ่งร้อยบาท ได้ไม๊ ตุ๊กตุ๊ก งง ฮ่าๆๆๆ (ตกลงจะต่อหรือจะแถม)
วันที่สอง ค่าใช้จ่ายต่อ 1 คน
อาหารเช้า รร.ฟรี
ค่าตั๋ว ONE DAY TRIP 20 USD
ค่าอาหารเที่ยง 7 USD
ค่าน้ำอ้อยหวานเจี๊ยบ 20 THB (เพื่อนร่วมทริปกินน้ำมะพร้าว และคอมเมนท์ว่าจืด สู้มะพร้าวน้ำหอมไม่ได้)
ค่าน้ำเปล่า นครวัด 20 THB
ทำบุญ 20 THB
อาหารเย็นที่โรงแรม 6 USD
ทิปคนขับแท็กซี่ หรือไกด์ หรือพี่ดารา 40 THB
ค่าต่อรถตุ๊กตุ๊ก จาก PUB STREET กลับที่พัก 1 USD
ค่าที่พักวันที่สอง Angkor Boutique Hotel รวมอาหารเช้า 415 THB
รวมวันที่สอง 535 THB+34 USD หรือ 1,572 THB ( 1 USD เท่ากับ 30.50 THB)
วันที่สาม 1 มกราคม 2556
ทานอาหารเช้าและเดินทางกลับกันตอนเก้าโมงเช้า พี่แท็กซี่คนใหม่ชื่อต้องมารับตรงเวลาแปะ
ขับรถเลนขวามาเรื่อยๆได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
1. เค้าพูดไทยได้เพราะเคยมาอยู่ปัตตานี สงขลา หลายปี เค้าเคยมีแฟนคนไทยแต่พ่อฝ่ายหญิง เป็นตำรวจกีดกัด เหตุเพราะเค้าเป็นเขมร...
2. ถนนจากปอยเปตถึงวงเวียนก่อนถึงเสียมเรียบไม่ไกล สร้างโดยคนไทย แต่สร้างไม่ถึงเสียมเรียบเพราะเกิดปัญหาชายแดนกันซะก่อน ไม่รู้แอบชมรึเปล่า ว่าถนนที่คนไทยสร้างยังดีอยู่ แต่เส้นต่อจากนั้นเริ่มพัง เค้าบอกว่า ไม่ใช่คนไทยทำ
3. เค้าว่าผู้ใหญ่ทะเลาะกัน คนเล็กๆแย่หมด
4. เค้าเป็นเจ้าของรถคัมลี่ คันที่มาส่งเรา ซื้อมือสองด้วยเงินสดในราคา 4,000 USD ที่กัมพูชา คนนิยมซื้อรถคันใหญ่เพื่อใช้ส่วนตัว ร่วมกับเป็นเครื่องมือทำมาหากิน เพื่อนโอ๋บอกว่ารวยเนอะ ตอนหลังเลยโดนย้อนว่าพี่รวยเหมือนผมเลย เพราะขับรถมาจอดที่อรัญ.
5. ข้าวหลามข้างทางไม่อร่อย ราคา 30,000 Real
6. ฝรั่งชอบคนดำเพราะคนดำไม่เคยมีใครมาจีบ น่าจะรักจริงใจกว่าคนขาวนับว่าวิเคราะห์ได้ลึกซึ้ง
7. สองข้างทางชาวนากัมพูชายังคงทำงานแม้เป็นวันที่ 1 มกรา และเมื่อวานเด็กกัมพูชายังไปโรงเรียน แม้จะเป็นวันที่ 31 ธันวา ทำให้วัยรุ่นไทย อย่างข้าพเจ้าสะดุดใจและไม่กล้าเกเร ในวันทำงาน วันที่ 2 มกรา
8. วัวที่กัมพูชา ไม่กลัวรถยนต์ และควายอ้วนกว่า บ้านนอกบ้านข้าพเจ้า
9. เวลาคนไทยไปเที่ยวเขมร ไม่โดนตำรวจเรียกตรวจ แต่คนเขมรอยู่เมืองไทยโดนตรวจตลอด พี่แท็กซี่บอก
10. ตำรวจกัมพูชา มีบางอย่างคล้ายตำรวจไทย .... บางอย่างที่คล้ายกันมากๆเห็นมากับตาเลย ไม่น่าเชื่อ
ปล. คนขับแท็กซี่คุยเก่ง ได้แลกเปลี่ยนทัศนคติ ดูมีความคิดอ่าน ชอบเลยทิป ไป 15,000 Real
กลับมา กรุงเทพ ทิปให้คนขับแท็กซี่บ้านเรา สิบห้าบาท โอ้ย ชีวิตจริง
ประมาณเที่ยงเรามาถึงด่าน แถวยาวมากกก ฝรั่ง เกาหลี จีน ยืนกันเป็นเกือบๆร้อยคนได้มั้ง เพื่อนแสนเริ่ด ใช้ทางด่วน มูลค่าเส้นทาง 100 THB (เอิ๊กคนไทยรึเปล่า) เพื่อย่นระยะเวลาจะได้มีเวลาไปเดินเยี่ยมชม คาสิโนไดมอนท์ ที่ด่านปอยเปต เข้าไปด้อมๆมองๆกันสักพัก ก็แปลกๆดีไม่เคยเห็น แต่ท่าทางคงไม่รุ่งในเส้นทางนี้เลยไม่ได้ลอง ข้ามด่านมองหาข้าวกลางวันบรรยากาศบ้านเกิดไทยแลนด์สไตล์ ที่ตลาดโรงเกลือกินกันดีกว่า เป็นการจบทริป ที่สนุกสนาน ประทับใจจริงๆ ออกุนเจริญ คัมบูเดีย
วันที่สาม 1 มกราคม 2556
ค่าแท็กซี่ขากลับปอยเปต 9 USD
ข้าวหลาม 3,000 real (30 THB)
ทิปคนขับแท็กซี่ 15,000 real (150 THB)
ช่องทางพิเศษย่นเวลา 100 THB
ข้าวเที่ยงที่อรัญ 50 THB
รถตู้ อรัญ กรุงเทพ 230 THB
น้ำเปล่าที่อรัญ 1,500 real(15THB)
รวมวันที่สาม 280 THB+9 USD+19,500 Real หรือ 750 THB ( 1 USD เท่ากับ 30.50 THB, 1THB เท่ากับ 104 Real )
รวมสามวัน 4,778 THB
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่วิเคราะห์เอง
ทริปนครวัดนครธม แลกตังไป คนละ 100 USD ก้อพอ ถ้ากัน สี่ห้าคนนะ
เงิน REAL ไม่ต้องแลกเดี๋ยวแม่ค้าก็ทอนมาให้เอง แต่ถ้าอยากแลก แลกที่ POIPET TERMINAL ได้ 1 THB = 104 Real แต่ที่สียมเรียบแลกคืน เงิน Real เป็นเงินไทย 135 Real เป็นหนึ่งบาท มูลค่าเงินลดลงอย่างน่าใจหาย
แดดร้อนมาก พกหมวก แว่นตาดำ ร่ม ครีมกันแดดไปด้วย
น้ำประปารสชาติแปล่งๆ ไม่มีใครกินพริกน้ำปลา ไม่กล้าขอด้วยไม่รู้จะพูดว่ายังไง
ทุกสิ่งอย่างให้ต่อราคาครึ่งต่อครึ่ง แล้วเค้าจะกระซิบกันองว่า คนไทย ฮ่าๆๆๆ
ภาษาอังกฤษ คนกัมพูชาแข็งแรงกว่าชั้น ไม่อยากจะเชื่อ
และสุดท้ายกัมพูชาไม่ได้มีแต่โรงเกลือ และแรงงานต่างด้าวนะ ตัวเธอว์
สุดท้ายถ้าไม่เขียนวันนี้มันก็จะผ่านไปเหมือนทุกทริปที่ผ่านมา เอิ๊ก
สุดท้ายของสุดท้าย การอ่านจงเจริญ ออกุนเจริญ พี่น้องชาวไทย