|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ภาพและเรื่องราวปาฏิหาริย์แห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่วัดวรเชษฐ์ อยุธยา
ภาพและเรื่องราวปาฏิหาริย์แห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่วัดวรเชษฐ์ อยุธยา
ภาพปาฏิหาริย์ที่พระเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่วัดวรเชษฐ์ อยุธยา
๐ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ผู้ปฏิบัติธรรม เห็นพระองค์ทุกส่วน เป็นเหตุให้ได้รู้อย่างชัดเจนว่า พระองคฺทรงมีญาณบารมี และพลังอานุภาพ สถิตอยู่ ณ พระปรางค์ หรือมหาเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระองค์ ที่วัดวรเชษฐ์(ร้าง)นอกเกาะ ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา.....
๐ นายพรมปรีชา เคหะนารท นักปฏิบัติธรรมจากจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ไปตามวัดต่างๆ และสถานที่ต่างๆที่เกี่ยวกับ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไม่มีร่องรอย หรือปรากฏการณ์ใด ที่แสดงถึง ญาณบารมีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เขาได้ไปปฏิบัติธรรมที่ วัดวรเชษฐ์(ร้าง) โดยตั้งใจที่จะอยู่ปฏิบัติธรรม 7 วัน เพื่อแสวงหาสมเด็จพระนเรศวรมหาราชต่อ ครั้นแล้วเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2550 ตรงกับวันขึ้น 7 ค่ำเวลาหลังเที่ยงคืน ขณะที่เขานั่งภาวนาอยู่ใต้ต้นปีบ ใกล้เจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระสังฆราชแตงโม(สมเด็จพระพนรัตน์) ก็มีเสียงบอกคาถาให้บริกรรมว่า"อุสุ มิตตัง มะกะฏัง ยันติ" ครั้นเขาบริกรรมอยู่ ก็ปรากฏรังสีวูบวาบ ทำให้เขาตกใจ จึงลืมตาเพ่งดู ก็เห็นเป็นรังสีพุ่งขึ้นข้างบน แล้วลงมาข้างล่าง เห็นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ลอยพระองค์ แล้วจึงเสด็จลงประทับยืนพร้อมกับรับสั่งว่า......
"ข้าอยู่นี่ ดีแล้ว แกมาปฏิบัติธรรมอยู่นี่ ดูสิบ้านเรือนข้าเลอะเทอะ สกปรก ไม่มีใครมาทำความสะอาด ไม่อายให้แขกต่างบ้านต่างเมืองเขาบ้างหรือ? คนมากันมากมายทั้งต่างประเทศต่างแดน ครั้นเขามาเห็น จะว่าอย่างไร? ช่วยทำความสะอาดบ้านข้าให้ด้วย รีบทำนะ เดี๋ยวจะมีคนมาเป็นจำนวนมาก".....
๐ เมื่อได้รับฟังกระแสพระราชดำรัสดังนั้น คุณพรมปรีชา ก็เร่งเก็บกวาดด้วยตัวเอง บริเวณพระเจดีย์และพระปรางค์ทั้ง 4 องค์ ขณะเก็บกวาดยังไม่ทันเสร็จ ก็มีรถบัสใหญ่ 2 คันเข้ามาจอดที่ลานเจดีย์ แล้วคนในรถก็ลงมาสักการะบูชาพระเจดีย์ จุดที่ สมเด็จพระนเรศวรเสด็จออกก่อนหน้านั้น ในจำนวนนั้น มีผู้ลงจากรถแล้ว แสดงอาการร้องไห้เสียงดัง 2 ท่าน บอกจะขออยู่ ณ ที่นี้ไม่ยอมไปไหน เพราะได้พบกับพระองค์ท่านแล้ว หลังจากนั้น จึงได้ทราบชัดเจนว่า ดีใจจนร้องไห้ เพราะได้พบสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจริงๆ หลังจากนั้น ก็มีอีกหลายคณะที่ไปบวงสรวง ก็ได้พบกับพระองค์ทุกคณะ เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
๐ คุณพรมปรีชา เคหะนารท ผู้ประสบสิ่งอัศจรรย์ใจ เล่าว่า พอดีในขณะที่ภาวนา มีเสียงกระซิบว่า คาถาที่เจ้าได้นั้น ยังไม่จบ ต้องหาให้ได้ครบ เป็นคาถา ซึ่งมีอยู่ 4 บาท เมื่อคุณพรมปรีชา จดจำคาถาที่ได้มา เล่าให้พระอาจารย์ ดร.สิงห์ทน นราสโภ และคุณ ภิรมย์ ทองอร่าม ทราบ ในที่สุด พระอาจารย์ ดร.สิงห์ทน ก็เขียนคาถาให้จนจบ 4 บาท รวมเป็นหนึ่งคาถา มีใจความว่า
"อุสุ มิตตัง นะ พาลานัง อนุกัมปัง มะกะฏัง ยันติ"
ซึ่งมีความหมายว่า คนเราจะทำอะไรสำเร็จ อย่าลืมผู้มีพระคุณ วัวควายที่ช่วยให้เรามีข้าวรับประทาน อย่าทำตัวเป็นคนพาล อย่าคบคนพาล ต้องมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักเพื่อนมนุษย์ เหมือนกับรักตัวเอง ให้ว่องไวเหมือนลิง ในการกระทำทุกอย่างด้วยปัญญา".....
ก็เป็นเรื่องที่ชัดเจน เมื่ออ่านจากหนังสือ"เสียงสะท้อนจากสื่อ" ของวัดวรเชษฐ์ มีใจความดังนี้.....
๐เรื่องของวัดป่าแก้ว และวัดวรเชษฐ์ ที่แท้จริง ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานแห่งสมเด็จพระพนรัตน์(สมเด็จพระสังฆราชแตงโม) และ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้กอบกู้เอกราช ช่วยให้คนไทยมีแผ่นดินอยู่อาศัย มีพระรัตนตรัยเป็นที่เคารพนับถือ ถูกทอดทิ้งเป็นวัดร้างที่ทรุดโทรม ให้เป็นไปตามเจตนาของผู้ที่คิดร้ายต่อทั้ง 2 พระองค์
๐ เปลี่ยนชื่อวัดเจ้าชาย คือ อนุสรณ์พระเอกาทศรถ เป็น วัดกระชาย เปลี่ยนวัดเจ้าเชษฐ์ ซึ่งพระเอกาทศรถสร้างเป็นอนุสรณ์แด่พี่ชายผู้ประเสริฐ เป็น วัดประเชต เปลี่ยน วัดพระมหาเถรคันฉ่อง ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่ทั้ง 2 พระองค์ นับถือเทิดทูนบูชา เป็นวัดลอดช่อง
๐ เป็นการทำลายวัดสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยให้สูญสิ้นไปจากแผ่นดินไทย ไม่ให้ใครได้รับรู้ความสำคัญของวัดทั้งสาม ทั้งนี้ คงเป็นผลมาจากยุคหลังจาก สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นยุค เสวยบุญเก่า ที่ได้สร้างมาโดย พระนเรศวรมหาราช พระเอกาทศรถ สมเด็จพระพนรัตน์ และพระมหาเถรคันฉ่อง วัดทั้งสาม จึงเป็นที่สถิตของเทพ พรหม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พวกใจบาปหยาบช้า จึงมีความหวาดกลัวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเทพ พรหม จะมาลงโทษ จึงร่วมกันทำลายเสียเลย
๐ ความจริง สิ่งที่ทำลายได้ มันเป็นวัตถุเท่านั้น พลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพลังเทพ พรหม ไม่สามารถทำลายได้ มันเป็นพลังสถิตที่คงอยู่ตามสภาวะของมันเอง เมื่อมีเหตุปัจจัยถึงพร้อม มันก็จะแสดงออกมา ดังเช่นพลังสถิตทั้ง 3 วัด เป็นตัวอย่าง ซึ่งเป็นรูปพีรามิด เมื่อแห่งหนึ่งถูกเปิดเผย ที่อื่นๆก็จะถูกเปิดเผยตามกันมา
๐ ศูนย์พลังที่ชัดเจนที่สุด ก็คือ บริเวณพระอุโบสถ จนกระทั่งถึงเจดีย์ โดยเฉพาะตรงจุดที่มีหินศักดิ์สิทธิ์อยู่ เรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะเกิดก็ต่อเมื่อมีศรัทธาเท่านั้น เป็นเสมือนการเปิดเครื่องรับกระแสพลัง
๐ ผู้ที่เป็นต้นเหตุเปิดเผย มีทั้งฝรั่ง และคนไทย เริ่มจากมีผู้เอาพระเครื่องวัดกระชาย ไปให้พระอาจารย์สิงห์ทน อาจารย์จึงให้ฝรั่งจับดู เพื่ออยากรู้ประวัติความเป็นมา ก็มีเสียงสะท้อนมาว่า พระนี้ข้าฯเป็นผู้สร้าง ข้าฯคือใคร? ข้าฯ คือ ผู้สร้างวัดนี้(ขณะนั้น อยู่ที่หอสวดมนต์นเรศวร) ใครคือผู้สร้างวัดนี้ ? ไม่รู้จักพระเอกาทศรถ หรือ? บางท่านอาจมีความสงสัยว่า พระเอกาทศรถ ยังไม่ไปผุดไปเกิดหรือ? ตามความเป็นจริง พระองค์ได้ไปเกิดทันทีที่สวรรคต ไม่ว่าจะไปเกิดในภพภูมิไหนก็ตาม จะมีกายเนื้อและกายทิพย์ ที่มาแสดงตามที่ปรากฏเป็นกายทิพย์ เรื่องนี้ฝรั่งเขามีเครื่องมือพิสูจน์ได้แล้ว เขาจึงเชื่อกัน
๐ ครั้นแล้ว ท่านก็รับสั่งต่อว่า คนไทยอกตัญญูต่อข้าฯและพี่ชาย ดูซิ วัดของข้าฯ และพี่ชาย ถูกทอดทิ้งเป็นวัดร้าง ที่ดินของวัด ก็ถูกนำไปขายหมด คนไทยอกตัญญูต่อข้าฯ และพี่ชาย อย่างนี้ มีอะไรก็ขอให้ข้าฯและพี่ชายช่วย สมควรจะช่วยหรือไม่? ดูต่อไปซิ อะไรจะเกิดขึ้นกับเมืองไทย?
๐ อาจมีความสงสัยกันว่า พระสิงห์ทน อวดอุตริมนุสสธรรม ท่านได้อธิบายว่า ท่านมิได้พูดเอง ฝรั่งกับเพื่อนของเขาพูดเหมือนกัน พวกเขาล้วนแต่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่า มีอภิญญาจริง สิ่งที่จะสืบทอดญาณ และเก็บสั่งสมพลังงาน คือ อัฐิ ดังที่เราเคารพบูชาพระบรมอัฐิของพระพุทธเจ้า หรือที่เรียกว่า พระบรมสารีริกธาตุ อรหันตธาตุ พระธาตุของพระเกจิฯ แต่แล้วที่บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกลับถูกลืม!!!
๐ เมื่อรับรู้กระแสรับสั่งเช่นนี้ ต่างก็ขวนขวายช่วยกันกระจายข่าวนี้ออกไป จึงเป็นเหตุให้เกิดการบวงสรวงขึ้นที่วัดวรเชษฐ์นอกเกาะ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2549 หลังจากนั้น ก็เหมือนการเปิดวัดใหม่ ได้มีผู้คน ทั้งชาวไทย และต่างประเทศ ได้พากัน มาเยี่ยมชม มาสักการะบูชา เทิดทูนบุญคุณของผู้มีพระคุณต่อประเทศชาติ และพระศาสนา ตามที่ปรากฏตามภาพของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2550 จากเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการด้วย
๐ พระอาจารย์สิงห์ทน ยกตัวอย่างให้ฟังว่า มีสตรีผู้หนึ่ง อยู่ที่เชียงใหม่ ได้ไปศึกษาต่อที่เท็กซัส สหรัฐอเมริกา แล้วได้แต่งงานกับฝรั่ง พอดีพ่อเสียชีวิต จึงได้ชวนสามีฝรั่งมาเผาศพพ่อที่เมืองไทย เสร็จจากการเผาศพ ก็พากันไปเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา พอไปถึงจุดหนึ่ง สามีฝรั่งร้องไห้ พร้อมกับไม่ยอมไปจากที่นั่น เขาบอกให้ภรรยาทราบว่า เขาตายตรงนั้น และร่างของเขา ก็อยู่ที่นั่น ภรรยาจึงจ้างคนมาขุด ก็เจอร่างของสามี เมื่อจัดการทำบุญตามธรรมเนียมไทย จึงเดินทางออกจากที่นั่นได้ การที่ระลึกชาติได้อย่างนี้ เรียกว่า ชาติอนุสสรณญาณ จะเกิดเมื่อเหตุปัจจัยถึงพร้อม ซึ่งผิดกับ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ซึ่งได้จากการบำเพ็ญเพียรภาวนาตามระบบ ฝรั่งยังเล่ารายละเอียดว่า ชาติก่อนเขาเป็นคนไทย อยู่ที่อยุธยา ตอนนั้นฝรั่งได้รับเกียรติ ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี จึงคิดอยากจะเป็นฝรั่ง พอดีนักเลงสองพวกตะลุมบอนกัน เขาอยู่ท่ามกลาง จึงถูกฆ่าตาย แล้วร่างของเขาก็ถูกฝังไว้ตรงนั้น !!!.....
ส่วนต่างๆของร่างกายเท่านั้น ที่สามารถบรรจุญาณ และพลังสถิตไว้ได้ ดังเช่น เกสาธาตุ ทันตธาตุ เป็นต้น เพราะฉะนั้น ญาณและพลังของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จะสถิตอยู่ ณ ชิ้นส่วนพระวรกายเท่านั้น!!!!
ขณะนี้ ผู้ที่ระลึกชาติได้แบบนี้ ต่างก็หลั่งไหลกันมาที่วัดวรเชษฐ์นอกเกาะ วันเสาร์-อาทิตย์แทบจะไม่มีที่จอดรถ........
ชัย กรุงศรี
Chai_Krungsri@yahoo.com
//www.buddhapoem.com
Create Date : 14 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 14 กรกฎาคม 2550 17:22:40 น. |
|
14 comments
|
Counter : 2792 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ศศิกัณห์ วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:51:37 น. |
|
|
|
โดย: boomskr2/9 IP: 203.113.61.68 วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:19:46:08 น. |
|
|
|
โดย: Mr.ใหม่_01 วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:20:54:28 น. |
|
|
|
โดย: ทิปปี้ IP: 124.121.109.19 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:19:07:13 น. |
|
|
|
โดย: ป้อม IP: 58.136.52.38 วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:9:07:12 น. |
|
|
|
โดย: ให้อ่านเรื่องวัดวรเชษฐ์(นอกเกาะ) IP: 58.136.52.38 วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:9:09:13 น. |
|
|
|
โดย: พี่ป้อม IP: 58.136.52.38 วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:9:16:27 น. |
|
|
|
โดย: หนูน้อยเเห่งดวงจันทร์ IP: 124.157.212.106 วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:16:33:03 น. |
|
|
|
โดย: ลูกแหง่ IP: 125.25.104.159 วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:8:46:59 น. |
|
|
|
โดย: นาย กุญชร ธิวรรณลักษณ์ IP: 125.239.125.119 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:58:14 น. |
|
|
|
โดย: ศิษย์อาทมาฏนเรศวร IP: 119.46.55.74 วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:11:50:51 น. |
|
|
|
โดย: เด็กวัด 2509 IP: 113.53.48.161 วันที่: 16 กันยายน 2552 เวลา:18:22:08 น. |
|
|
|
โดย: แป้ง IP: 124.121.198.214 วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:16:00:42 น. |
|
|
|
โดย: เกศสิรี วัฒนศิริพงศ์ IP: 183.89.231.75 วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:09:32 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
อภิมหาอมตะนิพพาน เหนือวิมานพรหมสวรรค์ ณ ชั้นไหน ? บรมสุขแห่งนิพพานเบิกบานใจ ไม่เหมือนใครไหนเลยที่เคยมี....
บัวบาน บางเขน Buaban_Bangkhen@hotmail.com
|
|
|
|
|
|
|
|
|