Group Blog All Blog
|
หนังสือ"ทางวิเวก".... หนังสือ"ทางวิเวก".... .....เรื่องราวของชีวิตเป็นสิ่งที่เราควรจะเข้าใจ จากการมุ่งมั่นแสวงหา จึงพบว่าแท้จริงชึวิตของเราคือความเป็นธรรมชาตินั่นเอง การพิจารณาเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา จึงเห็นว่า ความเป็น "ตัวเรา"เกิดจากการทำงานของธรรมชาตินั่นเอง คือเป็นการทำงานของจิตกับกาย(ขันธ์ห้า)มีพลังงานกับมวลสารทำงานร่วมกันเกิดเป็นอารมณ์,เป็นความรู้สึกของเราอยู่,การมองชีวิตในอีกมุมมองหนึ่งจึงเห็นความเป็น "นามธรรม"ของสิ่งที่เรียกว่า"ตัวเรา" จึงเป็นความรู้ในอีกระดับหนึ่งที่เราควรจะเรียนรู้ให้เข้าใจ ไม่เช่นนั้นเราก็จะเหมือนงมงายอยู่ในความเป็นธรรมชาติเท่านั้น การที่เราไม่เข้าใจตัวเองเพราะมีการยึดมั่นเกิดอยู่ การพิจารณาในสภาวะที่ จิตสงบนิ่งมีความละเอียดอ่อนจึงเกิดการเห็นความจริงนี้ การที่มันสัมผัสขึ้นที่ความรู้สึกจึงเกิดเป็นความเข้าใจได้ ...... จึงเห็นว่าการปรุงแต่งของจิตทำให้เราไม่เข้าใจตนเอง จึงหลงวนอยู่ในความรู้สึกที่ปรุงแต่งอยู่...จึงเป็นสิ่งที่ต้องการจะนำมาเสนอ. ว่ากายของเราทำงานอย่างไร คือมันเป็นการทำงานของรูปกับจิต จึงเกิดเป็นเจตสิกต่างๆ การไม่เข้าใจทำให้เราจับประเด็นของเรื่องไม่ถูก ถ้าเข้าใจเราจะเห็นความเป็นรูปแบบทางธรรมชาติของตัวเรา เราจะไม่สงสัยว่าการเกิดเป็นความรู้สึกต่างๆของเรามันเกิดอย่างไร การเข้าใจจึงจะไม่เกิดเป็นทุกข์ เพราะแท้จริงเราหลงการปรุงแต่งของมันอยู่เท่านั้น..... ...ซึ่งผมได้อธิบายโยงให้เห็นในความเป็นศาสตร์ธรรมชาติคือความเป็นธรรมชาติในความเป็นตัวเรา ไว้ในหนังสือและอธิบายวิธีการแก้ไขในรายละเอียดที่ไม่สามารถนำมาเสนอในที่นี้ทั้งหมดได้..... ........"ทางวิเวก" . (ทางหลุดพ้นจากวังวนของความทุกข์ทั้งมวล) มีไฟล์แจกฟรี ส่งทางอีเมล์ โดยแจ้งทางอีเมลนี้
และแจกฟรี...ไฟล์ ทางวิเวก ภาค3 : "ตัวเรา"ในมุมมองของ"ธรรมชาติ" (ไฟล์อ่าน,จะเป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่ง ที่บันทึกเรื่องนี้ให้ปรากฏแก่สังคม ขยายรายละเอียดจากภาค1-2เพื่อให้เกิดความชัดเจน แต่มีไฟล์แจกฟรี ส่งทางอีเมล์) (กรุณาก๊อปส่งทางอีเมล) หนังสือลำดับต่อไป ทางวิเวกฯภาค 3 : "ตัวเรา"ในมุมมองของ "ธรรมชาติ" การปฏิบัติจบลงที่ อาการจิตแยกจากกาย จึงเกิดเป็นความว่าง (หยุดปรุงแต่ง).....ความว่างคืออาการที่จิตและกายหยุดการยึดมั่นต่อกัน (จิตหรือความรู้สึกหลุดจากการยึดมั่น) เมื่อการยึดมั่นหยุดลง การปรุงแต่งทั้งหมดก็หยุดลงมันจึงเป็นการทำงานของธรรมชาติเกิดอยู่ มันจึงจบภาระทางความรู้สึกได้ แนะนำการปฏิบัติ เพื่อการแยกจิตและกายคือการหยุดปรุงแต่งความรุ้สึก เราจึงรู้สึกว่ามันเ็ป็นเีีพียงธรรมชาติของมันอยู่เท่านั้น ซึ่งโดยสรุปคือเป็นแนวทางแก้ไขความเป็นธรรมชาติของตนเองนั่นเองไม่เกิดการแปรปรวน. อาการจิตหลุดคือจิตแยกจากกายจึงเกิดเป็นความว่างจึงเห็นการทำงานทางธรรมชาติของตนเองได้คือการเกิดเป็นความรู้สึก..........ความรู้สึกที่เกิดเป็นตัวเราและเกิดอาการต่างๆคืออาการยึดมั่นนั่นเอง การก่อตัวทางความรู้สึก มันเป็นการทำงานทางธรรมชาติของสิ่งที่มีชีวิต (เป็นความลับของสิ่งที่มีชีวิตที่เราไม่เข้าใจจึงหลงวนอยู่เพราะเราคิดแต่ว่ามันเป็น "ตัวเรา" แท้จริงมันเป็นการทำงานของธรรมชาติคือพลังงาน) ....การพิจารณากายควรพิจารณาให้เห็นการยึดมั่นในกายทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็น "ตัวเรา"เกิดขึ้น การพิจารณาแยกมันออกเราจะเห็นว่าเรามีแต่เลือด เนื้อ หนัง กระดูกฯรวมกันอยู่เท่านั้น จึงเกิดเป็นตัวเราขึ้นมา . แท้จริงคือจิตเข้าไปยึดมั่นในกาย มันเกิดการปรุงแต่งกันอยู่ การพิจารณาแยกมันอยู่เสมอเราจะเห็นอาการยึดมั่นเราจึงต้องละวางความรู้สึกที่เป็นตัวเรานั้น .....จะให้เข้าใจง่าย จับประเด็นได้ถูกก็คือละวางความรู้สึกที่เป็น "อัตตา"นั่นเอง พิจารณาอยู่เสมอเราจะเห็นว่ามันเกิดจากการยึดมั่นในกาย,ในจิต,ในความรู้สึกของตัวเองอยู่เท่านั้น. โดย: ไพรสณฑ์ IP: 125.25.241.157 วันที่: 26 ตุลาคม 2553 เวลา:4:43:47 น.
ขออนุโมทนาบุญด้วยคะกับหนังสือธรรมะ
โดย: ศิริมา พิจิตรนิเวศน์ IP: 110.168.164.47 วันที่: 15 มิถุนายน 2555 เวลา:18:21:55 น.
|
ไพรสณฑ์
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?] การปฏิบัติธรรม... คือการมีสติรู้ความจริงของชีวิต ชีวิตคือความเป็นธรรมชาตินั่นเอง การมองชีวิตในมุมกลับจึงเห็นความจริงว่ามันคือการเกิด-ดับของความเป็นธรรมชาตินั่นเองที่เป็นอยู่คือการยึดมั่น... ...การเห็นความจริงนี้จึงเป็นการเห็น"สัจจะธรรม"จึงพบคำตอบเกิดขึ้นว่าพวกเรามาทำธุระอะไรกันอยู่บนโลกใบนี้. แท้จริงมันคือการเกิด-ดับของความเป็นธรรมชาติเท่านั้น...คือความจริงที่จะต้องทำความเข้าใจ เพราะการเข้าใจว่าเป็น "ตัวเรา"มันเป็นการหลงอยู่ในการปรุงแต่งของความเป็นธรรมชาติเท่านั้น. ...การเข้าใจมันตามจริง.... จึงเห็นความเป็นเหตุผลเกิดขึ้น..."ตัวเรา"เป็นเพียงการสมมุติของธรรมชาติเท่านั้น จึง เกิดความวิเวก วังเวง เพราะมันเป็นความจริงนั่นเอง
Friends Blog
Link |
ได้ฟังและอ่านจากหลายท่าน หลายแห่งว่า ให้พิจารณากาย
ก็เป็นสิ่งที่ผมควรปฏิบัติในขั้นต่อไป
ไม่ทราบว่า การพิจารณากาย หมายถึงให้ใช้จิต พิจารณาอย่างไร ให้เพ่งมุ่งไปที่จุดนั้นหรือ เช่นเส้นผม เล็บ ลมหายใจ อะไรเหล่านี้เป็นต้น
pisitlek@hotmail.com