aLwaYs moodY
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




.
.
.
.
The best things in life are often unseen
that's why we always close our eyes when
we kiss, pray and dream.
.
.
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
25 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add aLwaYs moodY's blog to your web]
Links
 

 

A pieces of my Autumn's memories in Tokyo




.......


รูปถ่ายจากทริปโตเกียวเรามีเยอะมาก

จะเอาอัฟหมดคงไม่ไหวขอเลือกเอาภาพที่ประทับใจ

และบอกเล่าเรื่องราวระหว่างเดินทางของพวกเรามาใส่บล็อคละกัน





" Love at First Light "


ภาพถ่ายจากเครื่องบินก่อนถึงสนามบินนาริตะ

หลังจากนั้นเครื่องก้อค่อยๆลดระดับลง หูเริ่มอื้อและเพิ่มความหนักหน่วง

ขึ้นเรื่อยๆ นักบินวัยรุ่นมากลดระดับลงยังกะอยู่ในลิฟท์ เจ็บหูและทรมานที่สุด ^"^




"Love at First Touch"


วันนั้นเครื่องเราแตะพื้นประมาณเจ็ดโมงกว่าๆ

รู้สึกได้ถึงอากาศที่เย็นเข้ามาจากข้างนอกตอนที่แอร์เค้าเปิดประตู

ทุกคนเริ่มขยับตัวส่วนเราคว้าเสื้อกันหนาวมากันก่อนเลย เย็นค่ะเย็น

ความรู้สึกแปลกๆกลัวๆกล้าๆ แต่ตอนนั้นบอกตัวเองว่าให้กล้ามากกว่ากลัว

เลยจิตตกเล็กๆตอนจะเข้าผ่านด่านฯ แต่ก้อผ่านไปได้ด้วยดี




" Love at Begin "


เราออกจากสนามบินนาริตะประมาณเก้าโมง

หลังจากผลัดกันเฝ้ากระเป๋าเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน

ก้อผ่านออกมาแล้วตรงไปที่สถานีรถไฟเพื่อเข้าโตเกียวกันเรย

และเพื่อความประหยัดเราใช้ Keisei แบบ Limited Exp

ตอนซื้อตั๋วคุณเจ้าหน้าที่บอกเราว่าให้ไปขบวนตอน 9.17 นาที

แต่ด้วยความโชคดีเราลงไปที่ชานชลาทันรถคันก่อนหน้า ไม่รอช้าก้อ

ลากกระเป๋ามองหาเบาะว่างกันเลย เราอยู่ที่ตู้สุดท้ายมีที่นั่งโชคดีจัง

ตลอดทางก้อนอกจากทิวทัศน์ข้างทางแล้ว การนั่งมองการปฏิบัติงานของคุณพนักงาน

ขับรถก้อทำให้เพลินไปอีกแบบ ^__^




" Love at First Red "


จุดหมายข้อใหญ่ของการมาโตเกียวครั้งนี้ของเรา

คือการได้เห็นใบไม้สีแดงสีเหลืองให้สมกับ Autumn ตลอดทางรถไฟ

วิ่งเราก้อลุ้นกับสีสรรของต้นไม้ใบหญ้า ทำใจไว้ก่อนไปแล้วเพราะ

ปีนี้ใบไม้เปลี่ยนสีช้ากว่าทุกปีก้อเหอะแต่ก้อยังแอบมีความหวัง




วิวสวยๆข้างทางที่เรานั่งรถไฟผ่าน " Love at first sight "



........




หลังจากฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมแล้วเราก้อออกเที่ยวกันเลย

จากที่พักเรานั่งรถไฟสายกินซ่าไปสุดสาย เพื่อไปไหว้ขอพรให้การเดินทาง

เราราบรื่น ซึ่งถือว่าได้ผลค่ะเพราะตลอดสี่วันที่เราอยู่โตเกียวไม่เจอฝนเลย

อะซากุซะเป็น a mustของนักท่องเที่ยวดังนั้นวัดจึงไม่เคยร้างผู้คน ตอนโผล่ขึ้น

มาจากรถไฟเมโทรเจอกรุ๊ปคนไทยเลยถามทางจากเค้า ไม่รู้เพื่อนๆเป็น

เหมือนกันหรือป่าวเวลาเราเจอคนไทย พูดภาษาเดียวกับเรานั้นมันรู้สึกอบอุ่นใจดีจัง



Love after Sun Set


อากาศหนาวทำให้มืดเร็ว พระอาทิตย์ตกประมาณ 4.30 ทุกวัน




" Love at every Cups "


อากาศหนาวๆได้กาแฟจากร้านในดวงใจเติมไออุ่นแล้วก้อถึงไหนถึงกัน




"Love their simply Life"


ไม่เห็นมีใครบอกว่าที่ที่ดูใบไม้แดงๆในสวนข้างพระราชวังอมพีเรียล

ก้อสวยไม่แพ้ที่อื่นๆ เราเดินไปถ่ายรูปกันไปตลอดทาง ใช้เวลาเกือบสามชั่วโมง

ยังเดินไม่ถึงสะพานแว่นตาซึ่งเป็นไฮไลท์ อากาศหนาววันนั้นไม่หนาวมาก

แดดอุ่นๆเลยเห็นผู้คนโตเกียวออกมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะในวันหยุด

คนในรูปนี่ Chill ดีจัง ถ้ามีเวลาอยู่โตเกียวนานๆอยากจะลองทำแบบเค้าบ้างจัง




" Love at Sign "


ป้ายนี้ติดอยู่ที่สถานที่ที่กำลังมีการก่อสร้าง

ทำให้รู้สึกถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมของคนญี่ปุ่น

จนรู้สึกอิจฉาในคุณภาพชีวิตของชาวโตเกียวที่เค้าได้รับจริงๆ





จากทริปสั้นๆนี้เราสังเกตเห็นพ่อแม่คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆ

นี่อายุยังน้อยๆกันอยู่เรย เอ หรือว่าเค้าหน้าเด็กๆกันนะ วันที่

เราไปโอไดบะนั่นก้อเห็นแม่ๆยังสาวและสวยด้วยนะ จูง อุ้ม เข็นรถ

พาลูกๆมาเที่ยวเต็มไปหมดเรย แต่ละคนก้อแต่งตัวเฉิดฉายสวยซะ

รองเท้าส้นสูงส้นเข็ม สามารถมากๆ





เด็กน้อยคนนี้ดูมีความสุขมากเลยกับรถเมล์ของเมย์

ถ้าใครเป็นแฟนของจิบลิสตูดิโอคงไม่มีใครไม่รู้จักที่นี่เค้ามีขาย

ทุก Charactor เลยหละแต่ส่วนมาก made in China นะ





ที่โอไดบะเราตั้งใจจะไปถ่ายรูปกะวีนัสที่มีสะพานสายรุ้ง

เป็นฉากหลัง แต่เพราะหลงไหลกับความสวยของ Venusfort

ออกมาอีกทีมืดตื้อแล้วอ่ะ ข้ามฝั่งกับมีที่ Deck เจอผู้คนมากมาย

มารอดูคอนเสริ์ตกันอ่ะเห็นเค้ามีจัดรายการสดๆ OdaibaTV





" Love at the way it is "


มุมหนึ่งในวัด Meiji Shrine - Harajuku

ไม่มีความวุ่นวายบีดเสียดให้เห็นเหมือน Takeshita St.




"Love at the way she dress up"


วันอาทิตย์มีบ่าวสาวมาทำพิธีแต่งงานที่วัด

กันหลายคู่ คนที่มาร่วมงานนิยมให้เด็กชายหญิงแต่งชุดประจำชาติ

นักท่องเที่ยวต่างขอเข้าไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกัน พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นก้อใจดี

หยุดยืนรอให้เราถ่ายภาพน้องๆอย่างเต็มใจ ใจดีจัง




" Love at yellow & glow "


Ginko's Street วันนั้นยังไม่เป็น full bloomก้อตาม

แต่เราก้อรู้สึกประทับใจในความสวยความและบรรยากาศรอบๆตัวเราอย่าง

มาก นับว่าเราได้พบในสิ่งที่เราตามหาจากทริปนี้แล้วหละ




" Love the way they ride "


วันอาทิตย์นั้นถนนโดยรอบที่เชื่อมจาก Gikko's street

ปิดให้เป็นถนนคนเดิน และมีส่วนนึงจัดเป็นเหมือนสนาม

ให้เด็กเล็กๆไปหัดขี่จักรยานกันด้วยหละ






" Love........."






" Love until last dishes "




เราฝากท้องสำหรับมือสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องบินที่ชั้น 5

Observation Deck นั่งชิลๆกับอากาศเย็นๆก่อนฝนตกวันนั้น

บะหมีญี่ปุ่นวันนั้นอร่อยที่สุด


- จนกว่าจะเดินทางครั้งใหม่ -





 

Create Date : 25 ธันวาคม 2553
0 comments
Last Update : 26 ธันวาคม 2553 11:57:36 น.
Counter : 1195 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.