Autumn Diary + อะซากุสะ.. ตลาดอะเมโยโก +
อดใจไม่เขียนไม่ได้จริงๆ ถึงแม้ว่าจะปิดกรุ๊ปบล็อคนี้ไปแล้วทุกครั้งที่ได้อ่านกระทู้ห้องบลู ที่มีเพื่อนกำลังจะเดินทางเข้าไปถามข้อมูลโน่นนี่แล้วนึกถึงตัวเองตอนทำทริป อ่านเป็นบ้าเป็นหลังเลย ได้ประโยชน์มากมาย จะไม่ทิ้งรอยความทรงจำไว้เป็นแนวทางให้นักเดินทางคนต่อไปก้อคงใช่ที่ (จริงๆก้อ..เคยเขียนรีวิวห้องพักและทริปฉบับย่อไปแล้ว) ออกตัวก่อนว่ากลับสองเดือนกว่าๆแล้วอ่านจะจำสลับกันไปบ้างก้อไม่ว่ากันนะคะเราเดินทางกันด้วยสายการบิน ANA ถึงนาริตะประมาณ 7 โมงค่ะ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วก้อรับกระเป๋าแล้วก้อดิ่งไปที่สถานีรถไฟ Keisei ซึ่งอยู่ชั้นได้ดินค่ะ ไม่มีรูปละเอียดพอจะรีวิวบอกตำแหน่งได้ แต่เชื่อเถอะค่ะว่าป้ายในสนามบินเค้าบอกชัดเจนและไม่หลงแน่นอน+ แบกกระเป๋าขึ้นรถไฟแล้วเลือกที่นั่งตามสบาย แต่อย่าลืมระวังกระเป๋าจะไหลไปโดนคนอื่นด้วยนะคะ ++ วิวข้างทาง เป็นท้องทุ่งสลับกับบ้านคน คล้ายๆเรานั่งรถไฟจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพ ฯ อ่ะคะ ++ ถ้าต้องการลงหรือเปลี่ยนสถานีระหว่างทาง ก้อสะดวกค่ะเพราะเค้าว่าป้ายบอกสถานีให้ตลอดทาง ไม่ต้องห่วงค่ะ มีภาษาอังกฤษกำกับด้วย +จากสนามบินนาริตะเราใช้เวลาบนรถไฟ Keisei Main Line ประมาณ 1ชั่วโมงกับ 15 นาที ถึงปลายทางที่ Keisei Ueno โดยไม่ตรงเปลี่ยนสายเลย สะดวกมากเพราะเราวางแผนเลือกโรงแรมให้สะดวกกับการเดินทางทั้งขาไปและขากลับเพื่อยืดเวลาเที่ยวอันน้อยนิดของเราให้มากขึ้น(ไม่มากก้อน้อย)ถึงอุเอโนะแล้วเรานำกระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อนเพราะยังเช็คอินไม่ได้ ยังมีเวลาอีกสี่ห้าชั่วโมงทีเดียว ไม่ต้องรีบจับรถไฟไปอะซะกุสะกันเราซื้อตั๋วรถไฟเป็นเที่ยวๆเอาค่ะวันนี้ ซื้อจากเครื่องขายตั๋วได้เลยค่ะมีภาษาอังกฤษแค่เพียงเรารู้ว่าระยะทางที่ไปราคาเท่าไรก้อพอ ครั้งแรกก้อช้าหน่อยค่ะพอครั้งสองครั้งสามก้อแทบจะไม่ต้องอ่านตามแล้วค่ะ จากอุเอโนะไปอะซะกุสะแค่สามสถานีค่ะ ใกล้มาก (คลิกเพื่ออ่านและดูแผนที่อะซะกุสะ ที่นี่)+ ถึงแล้วเซนโซจิแคนนอน หรือวัดอะซะกุสะ ที่คนไทยรู้จักกัน เราไปถึงสายมากแล้วกว่าจะได้รูปยอดฮิตมุมงามกับโคมแดงใบโตหน้าวัดก้อยากเต็มที ++ ผ่านประตูสายฟ้ามาแล้วสองข้างถนนนามิคาเซะร้านรวงเต็มไปหมด ++ เราไม่พลาดแน่ค่ะ เสียสตางค์กินแป้งทอดชาเขียวไส้ถั่งแดงกัน เค้าทอดร้อนๆค่ะแต่ไส้หวานเกิ๊น ++ไหว้พระ เดินเล่นถ่ายรูปกันแล้วชักหิว เราเลยเดินย้อนกลับออกมาแต่คราวนี้เดินถนนข้างๆซึ่งเป็นซอยเล็กๆ เห็นเด็กๆนักเรียนมาเที่ยวออกแนวทัศนศึกษาทำนองนั้นอ่ะคะ++ เดินมาอีกหน่อยก้อเจอร้านขายของกินน่ากินทั้งนั้นเลย ++ เห็นคนญี่ปุ่นเข้าคิวซื้อเยอะเลยอ่ะแต่ตอนนั้นมันหิวของหนักๆแล้วอ่ะ ก้อบ่ายมากแล้วตั้งแต่ลงเครื่องมาก้อยังไม่ได้ทานอะไรจิงจังเลย เป็นอันว่าได้แต่ภาพถ่ายมานี่ละค่ะ ++ เดินเล่น(แต่แอบหิวๆ) ถ่ายรูปกันมาเรื่อยๆ + + เห็นเด็กๆเค้ายืนถ่ายรูปกัน ++ เงยหน้าไปเห็นป้าคนนี้แกนั่งอยู๋ ++ ฝั่งตรงข้ามก้อมี +ร้านนี้ละค่ะที่เราฝากท้องไว้ เป็นราเมงไข่แฝดของขึ้นชื่อนะคะเพิ่งมาทราบตอนกลับมาแล้ว เป็นร้านดั่งเดิมสูตรสมัยโชวะแหน่ะ ร้านมีที่นั่งรวมกันสองชั้นประมาณยี่สิบโต๊ะได้ค่ะ ตอนเราเข้าข้างล่างเต็ม รออยู่แป๊บนึงเค้าก้อเรียกเข้าไปในร้าน ได้ที่นั่งชั้นสอง ร้านเป็นตึกห้องเดียวนะคะบันไดขึ้นลงจึงแคบและชันมาก+ หน้าตาราเมงค่ะ ++ ไข่แฝดให้เห็นกันชัดๆค่ะ ++ อิ่มแล้วก้อได้เวลากลับมาเช็คอินแล้วค่ะ นั่งรถไฟสายเดิมกลับมาอุเอโนะค่ะ เดินสำรวจรอบๆก่อนเข้าโรงแรมกันเล็กน้อย ++ อ่านไม่ออกอ่ะคะแต่น่าจะแปลว่าทางด่วนไปสนามบินอยู่ใกล้แค่ 500 เมตร ++ ร้านนี้ท่าทางจะเป็นร้านเก่าแก่ เป็นร้านเดียวที่โทรมแทรกอยู่ท่ามกลางตึกใหม่ๆรอบ +หลังพักเหนื่อยกันงีบใหญ่แล้ว เราก้อออกท่องราตรีกันต่อ สังเกตได้นะคะว่าเราไม่ได้ไปตามแผนที่ตั้งไว้แป๊ะๆ เพราะเอาเข้าจริงต่างคนต่างก้อเพลินกับการถ่ายรูปอ่ะคะแผนเราก้อเลยโอนเอนไปตามลุกทัวร์ วันแรกเราเลยจบกันที่อะเมโยโก ตลาดที่อยู่หน้าสถานีรถไฟอุเอโนะ สะดวกกับพวกเรามากๆเลย เดินข้ามสะพานไปก้อถึงแล้วค่ะ+ ถ่ายจากสะพานกลับไปที่โรงแรมเรา ++ แค่ประมาณ 5 โมงเย็นเองนะคะ มืดเร็วมากๆ อากาศก้อเย็นลงกว่าตอนกลางวันมากเลย ยิ่งเวลาที่ลมพัดมานี่หนาวจนอยากจะหาคนมากอดเลยทีเดียว อิอิ ++ รถรามากมายเพราะว่าเป็นช่วงเลิกงานแล้ว ++ ร้านรวงแถวอะเมโยโกก้อเริ่มเปิดไฟกันแล้ว ตลาดอะเมโยโก อยู่หน้าสถานีรถไฟอุเอโนะ จากในภาพจะเห็นรางรถไฟ JR อยู่ด้านบนทางซ้ายมือนะคะ ตลาดก้อจะทอดยาวไปตามทางรถไฟเลยค่ะ ++ ร้านค้าในตลาดวางสลับกันทั้งของสด เสื้อผ้า รองเท้า แปลกตาดี แบบว่าเลือกซื้อเห็นสดเสร็จก้อไปซื้อรองเท้าร้านข้างได้เลย ++ ร้านเกม ร้านปาจิงโกะก้อเยอะ ที่เราชอบกันมากๆก้อคือตู้หยอดเหรียญเห็นที่ไหนเป็นไม่ได้ เหรียญมีเท่าไหร่ก้อเล่นหยอดกันหมด ก้อดูสิค่ะสีสันเจ้าตุ๊กตามันสดใสยั่วใจซะนี่จิงๆ ++ ยิ่งดึกคนก้อยิ่งเยอะ โดยเฉพาะคนทำงานเพราะวันนั้นเป็นวันศุกร์เห็นเค้าพากันมานั่งดื่มทั้งชุดสูททำงานเลยค่ะ ++ ร้านหลายๆร้านเต็มแน่นเลยค่ะ + + แบบนี้ก้อมีนะค่ะ แต่ไม่กล้าเข้าไป ++ เดินช๊อปปิ้งกันจนเมื่อย เราทานอาหารเย็นง่ายกันที่ cURRY RICE SHOP ค่ะ ++ เดินฝ่าลมหนาวกลับมาฝั่งสถานีรถไฟ หน้าสถานีรถไฟมีร้านเก๋ๆอยู่หลายร้าน ++ สตาร์บัคก้อมีนะแต่ก้อไม่ได้ใช้บริการสาขานี่เลยจิงๆ ++ ก่อนกลับโรงแรมเดินเล่นหน่อยในสถานีอุเอโนะ ตอนนั้นดึกแล้วคนเลยน้อยไม่พลุกพล่านเหมือนตอนเช้า ++ อันนี้น่าจะเป็นเครื่องรางอะไรสักอย่าง +เดินได้นิดหน่อยเท้าสองข้างก้อร้องระงม เราเลยกลับโรงแรมกันเพื่อนอนเอาแรงก่อน พรุ่งนี้ยังมีอีกหลายที่ให้ลุยกัน ++ ปล ++ นี่คือขนมทั้งหมดที่เราแอบออกไปซื้อกันที่ Lawson ก่อนนอนคืนนั้น กล่องเล็กๆด้านซ้ายมือที่เป็นรูปไก่นั่น เป็นไก่ทอดคล้ายๆไก่ป๊อบอะ แต่รถออกเผ็ดเล็กน้อย กินร้อนๆตอนเดินฝ่าลมหนาวประมาณเกือบห้าทุ่มอร่อยมากค่ะ
ว้าววว ตารางเดินเที่ยวเพียบ ได้ดูอะไรมากมายจริงๆ
เห็นแป้งทอดแล้วนึกถึงโดเรม่อนนะคะ อิอิ
การ์ตูนสุดโปรด ชอบกินแป้งทอด
ตุ๊กตาในตู้หยอดเหรียญ น่ารักสุดๆ ค่ะ