My Name is Joe เป็นเช่นไรหลังชื่อ โจ
My Name is Joe เป็นเช่นไรหลังชื่อ โจStarpics Movie Edition ฉบับที่ 535 10 สิงหาคม 2543 ผมชื่อโจ ผมไม่ใช่คนติดเหล้า... คำพูดแนะนำตนเองของโจ คาวานาห์ ถ้าคนทั่วไปได้ฟังคงคิดว่าเป็นคำพูดธรรมดาๆ ที่ไม่ได้บ่งบอกถึงความลำบากยากเย็นอะไรนัก แต่สำหรับโจ นี่เป็นคำพูดที่เขาต้องพูดในกลุ่มบำบัดคนติดเหล้า ซึ่งกว่าที่โจจะเติมคำว่า ไม่ใช่ ลงไปในประโยคนี้ เขารู้ว่ามันลำบากยากเย็นแค่ไหน บางครั้งการเลือกเติมคำจำกัดความให้แก่ชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้คำจำกัดความที่ให้เลือกจะต่างกันเพียงแค่คำคำเดียว ในเมืองกลาสโกว์ สก็อตแลนด์ โจ คาวานาห์(ปีเตอร์ มัลแลน) หนุ่มใหญ่วัยเฉียด 40 สามารถผ่านคืนวันอันเลวร้ายจากการเป็นคนติดเหล้ามาได้ด้วยความช่วยเหลือของ แชงค์(แกรี่ ลิวอิส) เพื่อนสนิทที่พาเขาเข้ากลุ่มบำบัดคนติดเหล้า ชีวิตของโจเริ่มเข้ารูปเข้ารอยด้วยการทำงานเป็นโค้ชทีมฟุตบอลเล็กๆ นอกลีกอาชีพ ซึ่งไม่มีแม้แต่ชุดแข่งขันเป็นของตนเอง แม้ว่าจะห่างไกลกับความสำเร็จ แต่ก็เป็นชีวิตที่เขาพอใจ วันเวลาแห่งชีวิตยิ่งสดใสมากขึ้น เมื่อเขาพบรักกับ ซาราห์(หลุยส์ กูดอลล์) เจ้าหน้าที่อนามัยที่มาตรวจสุขภาพลูกชายของ เลียม(เดวิด แม็คเคย์) เพื่อนสนิทรุ่นน้องร่วมทีมฟุตบอล ตอนแรกโจไม่กล้าเริ่มต้น เพราะรู้ว่าตนเองไม่อยู่ในฐานะมีใครสักคนได้ แต่ด้วยกำลังใจและแรงยุของแชงค์ โจจึงตัดสินใจเริ่มต้น จนความรักระหว่างเขาและซาราห์ดำเนินไปได้ด้วยดี แล้วจุดหักเหของชีวิตก็เกิดขึ้น เมื่อ ซาบีน(แอนน์-มารี เคนเนดี้) ภรรยาของเลียมแอบทำงานเป็นคนส่งยาเสพติดให้แก๊งมาเฟียของ แม็คโกแวน(เดวิด เฮย์แมน) และยังติดยาเสียเองจนเป็นหนี้แม็คโกแวนจำนวนมาก โจจำต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือโดยรับส่งยาให้ 2 เที่ยว แลกกับซาบีนไม่ต้องขายตัวใช้หนี้ หรือเลียมไม่ต้องถูกทำร้ายร่างกาย แต่การทำงานให้แก๊งมาเฟียเพียงชั่วคราวของโจ อาจทำให้เขาต้องสูญเสียซาราห์ไปตลอดชีวิต ในที่สุด สถานการณ์ที่โจต้องรับกรรมในเรื่องที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้ก่อ ได้บีบคั้นให้โจถึงกับระเบิดอารมณ์ และลงท้ายด้วยโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิด ดูจากเนื้อเรื่องแล้วอาจนึกถึงหนังแก๊งสเตอร์ของฮ่องกงซึ่งฮิตมากช่วงต้นทศวรรษ 90 เรื่องของคนดีผู้ถูกกระทำจากสังคมรอบข้างและโยงใยกับแก๊งมาเฟีย ซึ่งตอนจบของหนังมักไม่พ้นโศกนาฏกรรมเพื่อบีบคั้นอารมณ์ผู้ชม อย่างไรก็ตาม My Name is Joe(1998) ของผู้กำกับฯ เคน โลช ได้แสดงถึงอัตลักษณ์ของหนังจากเกาะอังกฤษ โดยนำเสนอภาพอาชญากรรมที่เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม คนธรรมดากับอาชญากรปะปนกันอย่างใกล้ชิดจนมีโอกาสเกี่ยวข้องกันได้ง่ายดาย เห็นได้จากหนังดังหลายเรื่องในยุคเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Shallow Grave(1994) และ Trainspotting(1996) ของ แดนนี่ บอยล์ หรือ Lock, Stock & Two Smoking Barrels(1998) ของ กาย ริทชี่ หนังอาชญากรรมจากฝั่งอังกฤษเหล่านี้ต่างจากภาพอาชญากรรมในหนังอเมริกัน ซึ่งคนธรรมดาถ้าหากไม่คิดข้องแวะหรือไม่บังเอิญและโชคร้ายแบบสุดสุดคงยากที่จะตกอยู่ในชะตากรรมดังกล่าว นอกจากร่องรอยของอัตลักษณ์ของหนังจากฝั่งอังกฤษแล้ว เรื่องราวในหนังยังย้ำชัดถึงสภาพผู้คนในสังคมที่ไม่เปิดโอกาสให้ดำเนินชีวิตไปตามความต้องการมากนัก เหมือนมีพันธนาการทางสังคมคอยบีบรัดวิถีชีวิตจนดิ้นไม่หลุด ที่สำคัญ พันธนาการที่ก่อร่างจากกลไกของรัฐมีส่วนผลักดันให้เข้าไปข้องเกี่ยวกับพันธนาการทางอาชญากรรมโดยมิอาจเลี่ยงพ้น บุคคลใดก็ตามที่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ จึงเหมือนกับคนที่ไร้ทางเลือก เมื่อพึ่งหนทางที่ถูกต้องไม่ได้ ก็จำต้องพึ่งทางที่ผิด จนถลำลึกยากจะถอยหลังกลับ ดังเช่นชะตากรรมของตัวละครใน My Name is Joe เริ่มจากโจซึ่งรอดพ้นการเป็นคนติดเหล้า เขารับเงินสวัสดิการรัฐโดยถูกเจ้าหน้าที่คอยเพ่งเล็งไม่ให้หารายได้พิเศษ ฐานะของโจจึงหยุดนิ่ง ไม่มีทางที่จะได้ดีไปกว่านี้ และเหมือนเขาจะยอมรับสภาพถึงกับรำพึงว่า โจ คาวานาห์ คือทั้งหมดที่ฉันมี หมายความว่านอกเหนือจากตนเองแล้ว เขาไม่อาจแต่งเติมสิ่งใดๆ ให้กับชีวิตได้อีก และเมื่อโจต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือเลียม ทางเดียวที่เขาสามารถทำได้ก็คือการเอาตัวเข้าแลก ยอมเข้าไปคลุกคลีกับอาชญากรรม เพราะโจรู้ว่าเลียมไม่มีทางเลือกเช่นกัน ทั้งไม่สามารถแจ้งตำรวจเนื่องจากซาบีนพัวพันอยู่กับแก๊งและติดยาเสียเอง ไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารเพื่อใช้หนี้ และยังไม่สามารถย้ายหนีไปเมืองอื่นได้ เพราะต้องพึ่งเงินเลี้ยงดูจากรัฐ เห็นได้ว่า ทั้งโจและเลียมตกอยู่ในพันธนาการทางสังคมที่กั้นหน้ากั้นหลังชีวิตไว้ เดินหน้าก็ไม่ได้ เมื่อตัดสินใจถอยหลังกลับถูกยึดตรึงจนยากถอนตัว คล้ายว่าการยุติชีวิตเป็นทางเดียวที่จะรอดพ้นจากพันธนาการ นอกจากพันธนาการทางสังคมแล้ว ในอีกระดับหนึ่งตัวละครใน My Name is Joe ยังมีพันธนาการทางร่างกายและจิตใจ เช่นการติดเหล้าของโจ ซึ่งส่งผลเลวร้ายจนต้องตัดสินใจรับการบำบัดเลิกเหล้า และเมื่อโจพบรักกับซาราห์ ความรักครั้งนี้ก็เปรียบเหมือนการบำบัดร่างกายและจิตใจของเขาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แต่อีกด้านหนึ่ง ความรักของโจก็พร้อมจะเป็นพันธนาการที่สร้างความปวดร้าวให้เขาเช่นกัน เมื่อซาราห์ประกาศตัดสัมพันธ์เพราะไม่พอใจที่โจทำงานให้แก๊งมาเฟีย และนั่นทำให้โจตัดสินใจกลับไปดื่มเหล้าจนขาดสติอีกครั้ง แม้แต่ รัก ซึ่งควรช่วยสร้างสิ่งดีๆ ให้แก่ชีวิต ก็อาจกลับกลายเป็นพันธนาการผูกมัดเราไว้ได้ เป็นพันธนาการที่เราพึงใจ และทำให้เจ็บได้เมื่อถูกบังคับให้เป็นอิสระ จนต้องรีบหาที่ยึดเหนี่ยวอื่นแทน อีกตัวละครที่มีพันธนาการทางร่างกายและจิตใจคือ ซาบีน ภรรยาของเลียมซึ่งติดยา ซาบีนกลายเป็นชนวนแห่งเหตุการณ์วิกฤตเพราะ ติดแน่น กับยาเสพติดจนต้อง ติดหนี้ แม็คโกแวน และพลอยฉุดลากโจให้เข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนเลียม ปัญหาที่เกิดกับครอบครัวของเขาจนทำให้โจต้องเดือดร้อน ก่อความรู้สึกเลวร้ายแก่เลียมมาก เขาคร่ำครวญว่าถ้าไม่มีพวกเรา อะไรๆ คงดีกว่านี้ ก่อนตัดสินใจยุติชีวิตเพื่อให้หลุดพ้นจากทุกๆ พันธนาการที่ร้อยรัดเขาอยู่ และวิธีการฆ่าตัวตายของเลียมได้ฟ้องให้เห็นว่าสังคมได้พันธนาการชีวิตเขาไว้เพียงใด ผู้กำกับฯ เคน โลช ใส่เสน่ห์ของหนังอังกฤษภายในกรอบของหนังดราม่า-โรแมนติค ไม่ว่าจะเป็นสภาพบรรยากาศทั้งในเมืองและชนบท หรือท่วงทำนองของชีวิตผู้คน ซึ่งแม้ว่าจะมีเรื่องทุกข์ร้อนอยู่ในใจ แต่ก็ยังมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในบางเวลา ทำให้หนังที่มีเนื้อหาชวนเครียดไม่อัดแน่นจนเกินพอดี เช่นเรื่องชุดแข่งขันฟุตบอล ตอนแรกชุดแข่งขันประจำทีมฟุตบอลของโจเป็นชุดทีมชาติเยอรมันตะวันตกในสภาพสุดโทรมแถมสกปรก แต่ใครคนหนึ่งในทีมยังภูมิใจที่ได้เป็น ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ กัปตันทีมชาติเยอรมัน ถึงเวลาแข่งปรากฏว่าทีมตรงข้ามกลับใส่ชุดมาตรงกัน ทีมของโจจึงต้องถอดเสื้อเพื่อไม่ให้เหมือนกันตามกฎทีมเยือน การแข่งขันนัดต่อมา ลูกทีมของโจร่วมมือกันขโมยเสื้อทีมชาติบราซิลใหม่เอี่ยมมาใส่ และใครคนนั้นก็ภูมิใจว่าตนเองได้เป็นเปเล่ นับว่าเป็นมุขตลกซึ่งทำให้คนดูโดยเฉพาะที่เป็นแฟนฟุตบอลอดยิ้มไม่ได้ แม้เรื่องราวในหนังจะหดหู่เคร่งเครียด เป็นรอยยิ้มทำนองเดียวกับตัวละครที่ซ่อนความขมขื่นไว้ในใจ ในส่วนของการแสดง นักแสดงทุกคนซึ่งรับบทนำสมควรได้รับคำชมเชยทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปีเตอร์ มัลแลน ที่ตีบทโจ คาวานาห์ ได้แตกละเอียด ยิ่งในฉากสำคัญที่โจเล่าเรื่องราวในอดีตให้ซาราห์ฟัง และฉากเมาเหล้าไร้สติในตอนท้ายเรื่อง ความยอดเยี่ยมของมัลแลนทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมที่เมืองคานส์ปี 1998 บางคนอาจคุ้นหน้านายมัลแลนคนนี้อยู่บ้าง เพราะเขาเคยรับบทสมทบในหนังดังหลายเรื่อง เช่น Shallow Grave, Trainspotting รวมทั้ง Braveheart(1995) ของ เมล กิบสัน และเคยสร้างความเกรียวกราวหลายเวทีรางวัลด้วย Orphans หนังที่เขากำกับและร่วมเขียนบทในปี 1997 ก่อนจะได้ชมหนังเรื่องนี้ ผู้เขียนไม่ค่อยชอบชื่อหนัง My Name is Joe เท่าใดนัก เพราะรู้สึกว่าง่ายเกินไป และไม่สื่อความหมายใดๆ ให้ชัดเจน แต่เมื่อได้ชมแล้วจึงเข้าใจ และคิดว่า My Name is Joe เป็นชื่อที่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง หลังประโยคง่ายๆ ว่า ผมชื่อโจ.... ดูจะเป็นเรื่องยากที่จะเติมอะไรลงไปให้ชัดเจน ติดเหล้า-ไม่ติดเหล้า ช่วยเหลือเพื่อน-ทำร้ายเพื่อน จริงใจ-โกหก ทั้งหมดอาจเกิดขึ้นได้ภายใต้เงื่อนไขหรือพันธนาการชีวิตมากมายใช่หรือไม่ว่า การให้คำจำกัดความแก่ชีวิต ที่สุดแล้วช่างเป็นเรื่องยากเย็น
Create Date : 04 กันยายน 2549
Last Update : 22 กันยายน 2549 22:52:25 น.
4 comments
Counter : 1437 Pageviews.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30