เทมาเส็ก พิคเจอร์ส



เทมาเส็ก พิคเจอร์ส

พล พะยาบ
คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 24 มิถุนายน 2550


ไม่มีบริษัทสร้างหนังชื่อ “เทมาเส็ก พิคเจอร์ส” ครับ แต่เหตุที่ตั้งชื่อเช่นนี้มีที่มาที่ไปอยู่พอสมควร

ว่าแต่ “เทมาเส็ก” ซึ่งเป็นอันเดียวกับ “เทมาเส็ก โฮลดิงส์” กองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ที่มาโด่งดังในบ้านเราจากกรณีซื้อหุ้นชินคอร์ป ไปเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ได้อย่างไร

ก่อนอื่นต้องเล่าถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของสิงคโปร์ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในเอเชียตะวันออกโดยมีอัตราการเติบโตรวดเร็วและประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดด ความสำเร็จที่ว่านี้ไม่ใช่แค่ความสำเร็จในประเทศเท่านั้น แต่หนังสิงคโปร์โด่งดังขายได้ในตลาดเอเชีย ทั้งยังดีเด่นบนเวทีหนังโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามองว่าประเทศนี้เพิ่งจะมีหนังของตนเองเมื่อปี 1991 หรือ 16 ปีก่อนนี้เอง

Medium Rare ผลงานของ อาเธอร์ สมิธ ผู้กำกับฯชาวอังกฤษ เป็นหนังสิงคโปร์เรื่องแรกที่สร้างและออกฉายในประเทศ โดยก่อนหน้านี้ แม้จะมีหนังบางเรื่องถ่ายทำและใช้นักแสดงสิงคโปร์ แต่เป็นหนังที่สร้างโดยชาวต่างชาติและไม่ได้ฉายในสิงคโปร์ เช่น They Call Her Cleopatra Wong(1978) หนังลูกผสมกังฟู-สายลับ และ Saint Jack(1979) ของผู้กำกับฯ ปีเตอร์ บอกดาโนวิช

การเปิดตัวของหนังสิงคโปร์เรื่องแรกอย่าง Medium Rare ไม่สู้ดีนักเพราะขาดทุนอย่างหนักเมื่อคราวออกฉาย และต้องรอถึง 4 ปี กว่าจะมีหนังเรื่องต่อมาและได้กำไรจากการฉายในประเทศ นั่นคือเรื่อง Mee Pok Man ของผู้กำกับฯ อีริค คู ซึ่งใช้ทุนสร้างเพียง 1 แสนดอลลาร์สิงคโปร์(ราว 2.4 ล้านบาท)

ที่สำคัญ หนังทุนต่ำว่าด้วยความรักระหว่างคนขายบะหมี่กับโสเภณีเรื่องนี้ยังได้ไปฉายอวดสายตาชาวต่างชาติตามเทศกาลหนังและได้รับเสียงตอบรับในทางบวก ก่อนที่ อีริค คู จะพา 12 Storeys (1997) หนังลำดับถัดมาของเขาไปฉายยังเมืองคานส์ กระทั่งกลายเป็นหมุดหมายสำคัญให้กับวงการหนังสิงคโปร์ เพราะหลังจากนั้นหนังแดนลอดช่องได้ทยอยพาเหรดเข้าสู่เวทีนานาชาติ ทั้งในเชิงพาณิชย์และในแบบที่เรียกกันว่าหนังอาร์ต

โดยมีบริษัทสร้างหนังชื่อ “เรนทรี พิคเจอร์ส” เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ


“เรนทรี พิคเจอร์ส” หยั่งรากและออกผลครั้งแรกในปี 1999 ด้วยเรื่อง Liang Po Po: The Movie กำกับฯโดย บีเหลียนเต็ง จากบทภาพยนตร์และแสดงนำโดย แจ๊ค เนียว ดาราโทรทัศน์ที่หันมาเอาดีกับงานเบื้องหลัง ตามติดความสำเร็จด้วย The Truth About Jane and Sam (1999) ของ ดีเรค ยี่ Chicken Rice War (2000) ของ ฉีกงเฉีย One Leg Kicking (2001) ของ คู โกะ รวมทั้งหนังที่น่าจะเป็นที่รู้จักในบ้านเรามากที่สุดเรื่อง I Not Stupid (ผม...ไม่โง่-2002) ของ แจ๊ค เนียว

เรนทรีมองว่าการที่หนังสิงคโปร์ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักถือเป็นข้อได้เปรียบ จึงตั้งธงไว้แต่แรกว่าบริษัทไม่ได้สร้างหนังเพียงเพื่อให้คนสิงคโปร์ดูกันเองเท่านั้น แต่สร้างหนังที่มีความเป็นสากล เพราะผู้ชมไม่ว่าจะพูดภาษาใดย่อมสามารถรับชมหนังของพวกเขา ซึ่งนั่นเท่ากับว่าตลาดและการยอมรับที่กว้างขึ้นอีกหลายเท่าตัวก็จะตามมา

นอกจากจะทำหนังสิงคโปร์โดยใช้บุคลากรในประเทศแล้ว เรนทรียังมีนโยบายสร้างหนังไร้พรมแดนโดยร่วมมือกับบริษัทต่างชาติผลิตผลงานเพื่อฉายในหลายประเทศ เช่นจับมือกับผู้ผลิตจากฮ่องกงทำหนังเรื่อง The Eye (คนเห็นผี-2002) Infernal Affairs II (ต้นฉบับ 2 คน 2 คน-2003) Turn Left Turn Right (ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา-2003) และหนังที่เพิ่งฉายในบ้านเราเรื่อง Protege (เกมคนเหนือคม-2007) รวมทั้งรีเมค Children of Heaven หนังอิหร่านขวัญใจผู้ชมทั่วโลก เป็นหนังย้อนยุคเรื่อง Homerun (2003)

สำหรับคำถามที่ทิ้งไว้ข้างต้นว่า “เทมาเส็ก” มาเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ได้อย่างไร คำตอบอยู่ที่ เรนทรี พิคเจอร์ส นี่เอง

เรนทรี พิคเจอร์ส มีชื่อเต็มว่า “มีเดียคอร์ป เรนทรี พิคเจอร์ส” แสดงถึงสถานะการเป็นบริษัทลูกของมีเดียคอร์ป บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ครอบครองและผูกขาดกิจการวิทยุและโทรทัศน์ของสิงคโปร์มาช้านาน อย่างไรก็ตาม ความยิ่งใหญ่ของมีเดียคอร์ปไม่ได้หมายความว่ายืนอยู่บนยอดสุดของเครือข่ายทางธุรกิจ เพราะหากเข้าไปยังเว็บไซต์ของเทมาเส็ก โฮลดิงส์ คลิกส่วนที่แสดงว่ากองทุนลงทุนในกิจการอะไรบ้าง จะพบชื่อมีเดียคอร์ปซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่าเทมาเส็กถือหุ้น 100 เปอร์เซนต์เต็ม (ใกล้ๆ กันนั้นมีชินคอร์ปที่ระบุตัวเลข 42 เปอร์เซนต์-ข้อมูลวันที่ 31 มีนาคม 2550)

*เมื่อไล่เรียงตามลำดับ...หากจะบอกว่าเทมาเส็กเป็นเจ้าของเรนทรี พิคเจอร์ส บริษัทสร้างหนังซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนวงการหนังสิงค์โปร์ก็คงไม่ผิดนัก

ว่าไปแล้ว นโยบายของเรนทรีกับหลักการบริหารกองทุนอย่างเทมาเส็กไม่ได้แตกต่างกันเลย เทมาเส็ก (และกองทุนอื่นๆ) เกิดขึ้นเพราะสิงคโปร์มีประชากรและทรัพยากรจำกัด รัฐบาลจึงต้องหาวิธีสร้างความมั่งคั่งด้วยการตั้งกองทุนเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศ หนังของเรนทรีซึ่งมุ่งป้อนตลาดต่างประเทศตั้งแต่ต้น ทั้งยังร่วมมือกับบริษัทสร้างหนังต่างชาติเพื่อเพิ่มช่องทางในการลงทุน กระทั่งเป็นที่มาของความสำเร็จในระดับนานาชาติอย่างรวดเร็วก็ก้าวเดินอยู่บนหลักการเดียวกัน

นอกจากนี้ ในเมื่อเทมาเส็กเป็นหนึ่งในกองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ โดยกระทรวงการคลังถือหุ้น 100 เปอร์เซนต์ เหตุแห่งความสำเร็จของเรนทรี พิคเจอร์ส และวงการหนังสิงคโปร์จึงไม่ใช่เรื่องประหลาดพิสดารหรือความบังเอิญชั่วครั้งชั่วคราว

แต่เพราะวงการหนังสิงคโปร์มีรัฐหนุนหลังเต็มสูบ

ถึงตรงนี้คงพอเห็นภาพว่าเหตุใดอุตสาหกรรมหนังอายุเพียงน้อยนิดอย่างสิงคโปร์ถึงแซงหน้าหนังไทยที่มีอายุยืนยาวร่วม 80 ปี…คนทำหนังสิงคโปร์มีรัฐหนุนหลัง ส่วนคนทำหนังไทยหลังพิงกำแพงแบบตัวใครตัวมัน หลับตาสาวหมัดเผื่อจะถูกเป้า แถมบางทีลืมตาขึ้นมากลับเห็นรัฐยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเสียอีก

นึกเรื่องนี้ทีไรก็ได้แต่ปลง...



Create Date : 04 สิงหาคม 2550
Last Update : 4 สิงหาคม 2550 20:44:27 น. 10 comments
Counter : 1145 Pageviews.

 
อืม...ได้ข้อมูลทางภาพยนต์เยอะเชียว...


โดย: อนันตลัย วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:22:18:48 น.  

 
ผมเพิ่งไปสิงคโปร์มาครับ
โรงหนังเขาดูดีทีเดียวเชียว มีฉายแบบ 24 ชั่วโมงด้วย
นอกจากโรงหนังตลาด ที่เขาเปิดรับหนังมากกว่าของเราแล้ว (Hostel II เข้าฉายในเรต R21 ซึ่งถือว่าแรงที่สุด ในขณะที่บ้านเราแค่แผ่นแท้ยังไม่ต้องหาญกล้าคิด) โรงหนังอาร์ตของเขาก็มีฐานหนุนที่ดี เขาสามารถนำหนังดีดีหาดูยากๆ มาฉายได้มากกว่าของบ้านเรา

สาเหตุคงเพราะว่าบริษัทและรัฐของเขาสนับสนุนมากๆ จริงๆ นั่นเอง...
เพราะโรงหนังที่ฉายหนังอาร์ตอย่าง The Picturehouse นั้น หนังอาร์ตที่เข้ามาฉายส่วนใหญ่จะจัดจำหน่ายโดย Cathay Films (ชื่อประมาณนี้ล่ะครับ) ซึ่งผมเดาเอาเองว่าคงเป็นเจ้าของเดียวกับโรงหนัง Cathay บนถนนออชาร์ด ที่เป็นโรงหนังอันดับหนึ่งของสิงคโปร์

นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าการเซนเซอร์ของเขาบางทีจะแรงจนเวอร์ไปก็ตาม (เพราะสังคมเขาก็อนุรักษ์นิยมพอควร) แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นแค่กรณีหนังเกี่ยวกับรักร่วมเพศเท่านั้น เพราะหนังรุนแรงอื่นๆก็ได้เข้าฉาย แม้ว่าเรตจะควบคุมถึงอายุ 21 ปีก็ตาม - (แต่ก็มีกรณีแบนหนังบ้าง ก็แล้วแต่เคสว่ากันไป)

ส่วน I Not Stupid ภาคแรกนี้เป็นหนังที่ควรเอาไปให้ตลกคาเฟ่เมืองไทยดูเป็นที่สุด เพื่อให้เขารู้จักเสียทีว่า หนังตลกที่ฮาทุกเม็ดแต่ว่าแฝงสาระเต็มเปี่ยมเขาทำกันแบบไหน


โดย: nanoguy วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:2:26:29 น.  

 
มาเฮลโหลก่อนนะพี่...
แล้วจะกลับมาติดตามแบบสมบูรณ์ต่อไป
พยายามจะขุดตัวเองให้กลับมาสู่บล็อคแกงค์อยู่จ้า


...นี่ไม่น่าจะใช่ข้ออ้างนะ ก้ากกก

ขอบคุณสำหรับเบิร์ทเดย์เจ้าค่ะ


โดย: tistoo วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:1:20:33 น.  

 
อยากดู Protege อ่ะ


โดย: renton_renton วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:9:57:01 น.  

 
เป็นประเทศที่เพื่อนผมได้ดู แสงศตวรรษ


โดย: merveillesxx วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:23:23:21 น.  

 
อื้ม


โดย: เจ้าชายไร้เงา วันที่: 10 สิงหาคม 2550 เวลา:11:43:14 น.  

 
ยามดึกคืนหนึ่งแบบว่านอนไม่หลับเลยเปิดทีวีดูกะว่าจะได้ง่วง
เปิดช่องฟิล์มเอเซียมาเจอเรื่อง Homerun ด้วยความบังเอิญ
ปรากฎว่าแทนที่จะง่วงกลายเป็นนอนน้ำตาไหลพรากๆๆๆ
ตื่นเช้ามารีบเปิดทรูแม็กกาซีนดู ถึงได้รู้ว่าเป็นหนังของสิงคโปร์
ประหลาดใจเล็กน้อย แต่ประทับใจมากมาย
ทุกวันนี้ยังพยามจะหาเวลาดูซ้ำให้ได้อยู่เลย

ปล.ได้ความรู้ใหม่ว่าเป็นหนังรีเมคจาก Children of Heaven ของอิหร่าน
อืมมมมมมมม ชักอยากดูเรื่องนี้ด้วยแล้วล่ะ


โดย: G IP: 203.113.76.72 วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:22:13:49 น.  

 
เจ้าของบ้านหายไปไหนอ่ะ


โดย: renton_renton วันที่: 15 สิงหาคม 2550 เวลา:17:16:26 น.  

 
ผมเพิ่งมีโอกาสได้ชมหนังอาร์ตเรื่อง HomeRun ของ Raintree singapore ราคา 39 บาทที่ BigC ทุกสาขาขณะนี้ ตอนนี้ออกตามล่าหาเรื่อง I not stupid ซึ่งมีนักแสดงจากเรื่อง Homerun มาร่วมแสดงนำนั้น ผมยังหาไม่ได้เลยครับ ใครมีหนังเรื่องนี้ หรือรู้แหล่งขายหนังเรื่องนี้ ช่วยบอกผมด้วยครับ ผมอยากดูมากครับ

โดย: Nu IP: 210.246.145.77 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:9:58:00 น.


^
^
ผมเอาคอมเมนต์ของคุณออกนะครับ จะได้ไม่ต้องโชว์เบอร์โทร.

I not stupid เป็นของค่ายอีวีเอสครับ ผมว่าหาได้ตามห้างทั่วไปนะครับ
ที่ร้านบูมเมอแรงก็มีครับ ดีวีดีแค่ 59 บาท
ตามลิงค์นี้ไปครับ คลิก


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:15:20:56 น.  

 
ขอแนะนำหนังอาร์ตสุดๆของสิงคโปร์เรื่อง Be with me นะครับ ผมดูแล้ว และยังอยากดูอีก เรื่องนี้บทพูดน้อยมาก หากแต่ถ้าดูแลเข้าใจ คุณจะรักแฟนคุณมากกว่าเดิมแน่นอน มีขายที่bigC นะครับ หนังซอง 39 บาท ช้าหมด


โดย: Nu IP: 210.246.145.77 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:11:20:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน
ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549

..............................








พญาอินทรี




ศราทร @ wordpress
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แค่เพียงรู้สึกสุขใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.