Liverpool สิ่งที่คงหลงเหลือ




Liverpool
สิ่งที่คงหลงเหลือ

พล พะยาบ
คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 12 กรกฎาคม 2552


*เห็นชื่อแล้วคงทำให้ใครหลายคนสนใจหนังเรื่องนี้ เช่นเดียวกับผู้เขียนซึ่งขวนขวายหามาดูโดยพลันทั้งที่คาดเดาได้ว่าคงไม่เกี่ยวอะไรกับฟุตบอล

อย่างไรก็ตาม อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้อยากชม Liverpool อย่างยิ่งคือชื่อของ ลีซานโดร อลองโซ ในฐานะผู้กำกับ

ลีซานโดร อลองโซ (Lisandro Alonso) คือผู้กำกับหนุ่มชาวอาร์เจนไตน์ซึ่งสร้างชื่อขึ้นมาในช่วงเวลาสอดคล้องกับกระแสคนทำหนังคลื่นลูกใหม่ของอาร์เจนตินา พร้อมกับสร้างภาษาหนังที่มีลายเซ็นเด่นชัดตั้งแต่แรก เริ่มจาก La libertad (2001) Los muertos (2004) Fantasma (2006) จนถึง Liverpool (2008) เป็นเรื่องล่าสุด

หนังของอลองโซมีเนื้อหาเรื่องราวที่ไร้ความซับซ้อนโดยสิ้นเชิง ไม่มีสัญลักษณ์มากมายต้องตีความ แต่อยู่ที่ผู้ชมจะคิดต่อไปแค่ไหนอย่างอิสระ กระนั้น สิ่งที่เรียกร้องจากผู้ชมคือความอดทนในการเฝ้าดูตัวละครผ่านการถ่ายภาพต่อเนื่องที่เว้นระยะห่างระหว่างผู้ชมกับตัวละครพอสมควร เฝ้าดูการกระทำต่างๆ ซึ่งอาจเป็นแค่กิจกรรมพื้นฐานอย่างกิน อยู่ หลับ นอน (รวมถึงขับถ่ายและเพศสัมพันธ์) ตัวละครอาจมีจุดหมายบางอย่างที่พอสรุปเป็นพล็อตเรื่องได้ แต่ก็ไม่ใช่เป้าหมายที่หนังเน้นย้ำเพื่อให้ติดตามชม

ไม่มีจุดพลิกผัน ไม่มีไคลแม็กซ์ ไม่มีการหนุนส่งอารมณ์ ไม่มีดนตรีประกอบ ความราบเรียบดังกล่าวทำให้ความยาวระหว่าง 60-80 นาที ของหนังแต่ละเรื่องถือว่าไม่มากเกินไป

ตัวละครนำและตัวประกอบทั้งหมดคือคนท้องถิ่นที่อลองโซพบเจอระหว่างสำรวจสถานที่ถ่ายทำ ฉากหลังเป็นดินแดนห่างไกลโดดเดี่ยวตั้งแต่พงไพรในคอร์เรียนเตสถึงเมืองเหน็บหนาวทางใต้สุดของโลก หนังของอลองโซจึงเสมือนบทบันทึกเรื่องราวของคนธรรมดาสามัญที่อยู่นอกเหนือการรับรู้ของคนส่วนใหญ่

ใน La libertad หนังให้ผู้ชมเผ้าดูหนึ่งวันของชายตัดไม้ที่ต้องห่างครอบครัวมาใช้ชีวิตตามลำพังในป่า ส่วน Los muertos คือช่วง 3-4 วันของชายบ้านป่าวัยกลางคนตั้งแต่ก่อนออกจากคุกจนถึงการเดินทางกลับไปหาลูกสาว

ทีเด็ดอยู่ตรงหนังเรื่องที่สาม Fantasma อลองโซจับเอาสองตัวละครนำบ้านป่าจากสองเรื่องแรกมาเดินเกร่ไปมาดูผิดที่ผิดทางในอาคารโรงภาพยนตร์เงียบร้างที่กำลังจัดฉายเรื่อง Los muertos นอกจากจะได้เห็นการกลับมาของสองตัวละครในสภาพแวดล้อมที่แปลกออกไปแล้ว ยังเหมือนเป็นการแซวตัวเองของอลองโซว่าหนังของเขาคือสิ่งแปลกแยกและห่างไกลจากความสนใจของผู้คน

มาถึง Liverpool อลองโซย้ายจากป่าไพรสู่เรือบรรทุกสินค้ากลางทะเลและเมืองที่ปกคลุมด้วยหิมะบนหมู่เกาะเทียร์รา เดล ฟวยโก ทางใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ ว่าด้วย ฟาร์เรล ชายผู้ใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตบนเรือสินค้าฉวยโอกาสช่วงสั้นๆ ที่เรือแวะจอดที่เมืองอูชัวยา กลับสู่บ้านเกิดที่จากมาเนิ่นนาน

*เรื่องราวจากนั้นคือการเฝ้าดูฟาร์เรลนับจากก้าวลงจากเรือ แวะกินข้าวในร้านอาหาร ซื้อหาหญิงสาว นอนหลับในรถบัสร้าง ก่อนติดรถบรรทุกซุงไปยังหมู่บ้านเหน็บหนาวขาวโพลนเพื่อพบแม่ผู้ป่วยไข้ที่จำใครไม่ได้อีกและลูกสาวของเขาซึ่งผิดปกติทางสมอง

ส่วนที่ต่างไปจากหนังเรื่องก่อนๆ คือ หนังไม่ได้มีแค่ตัวละครนำกับตัวประกอบที่ไม่มีบทบาท แต่มีตัวละครอื่นเพิ่มเข้ามา โดยเฉพาะสมาชิกในครอบครัวที่ตัวละครนำมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ต่างจากเรื่องอื่นซึ่งผู้ชมจะรับรู้ว่าตัวละครมีสายสัมพันธ์ในครอบครัวก็เพียงผ่านการไถ่ถามกล่าวถึงของตัวละครเท่านั้น

Liverpool จึงถือว่าเป็นหนังของอลองโซที่สร้างตัวละครและเรื่องราวให้มีมิติจับต้องได้มากที่สุด...และง่ายที่สุด

ที่สำคัญ เมื่อผ่านไปค่อนเรื่องหนังปล่อยให้ตัวละครนำอย่างฟาร์เรลเดินจากไปแล้วเฝ้าดูสมาชิกครอบครัวที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังแทน จนคล้ายเป็นการเปลี่ยนตัวละครนำและเรื่องราวกลางคัน

อันที่จริง ไม่ว่ารายละเอียดของการนำเสนอจะต่างไปเพียงใด สิ่งที่เป็นความตั้งใจของอลองโซยังคงเป็นการเล่าเรื่องราวชีวิตของใครคนหนึ่งโดยปล่อยให้ตัวละครเป็นอิสระ ไม่ตัดสินชี้นำ ไม่มีบทสรุปลงตัว เช่นเดียวกับที่ปล่อยให้ผู้ชมมีอิสระที่จะปะติดปะต่อภาพของตัวละครที่เห็นในช่วงเวลาหนึ่งเพื่อเก็บไปย้อนคิดหรือคิดต่อไปว่าเรื่องราวของตัวละครทั้งในอดีตและอนาคตเป็นอย่างไร

หนังที่ให้ผู้ชมเฝ้าดูตัวละครเพียงชั่วเวลา 60-80 นาที แท้แล้วจึงอาจบรรจุเรื่องราวของตัวละครไว้ทั้งชีวิต

หรือหากค้นลึกลงไปในความเรียบเฉยของตัวละคร เข้าไปให้ถึงความเป็นมา-เป็นไปก็อาจสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกมากมายที่ซุกซ่อนอยู่

การที่ฟาร์เรลเดินจากไปไม่กลับมาอีกจึงไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวของเขาในการเฝ้าดู-รับรู้ของผู้ชมจะสิ้นสุดลงด้วย เพราะสิ่งที่คงหลงเหลือให้หนังติดตามต่อไปคือคนในครอบครัวที่ฟาร์เรลหันหลังให้ซึ่งถึงอย่างไรก็ไม่อาจตัดขาดจากการเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

การเฝ้าดูความเป็นอยู่ของแม่และลูกสาวของฟาร์เรลจึงเหมือนกับได้เฝ้าดูอีกด้านหนึ่งของชีวิตฟาร์เรล ได้เห็นว่าเขาเคยมีชีวิตเช่นไร อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบใด หรือกระทั่งอาจมีคำตอบว่าเหตุใดเขาจึงหนีไปล่องลอยอยู่กลางทะเลนับสิบปี

ชื่อ Liverpool ซึ่งชวนสงสัยแต่แรกว่ามีความหมายอย่างไรในหนังปรากฏในฉากสุดท้ายเมื่อลูกสาวของฟาร์เรลหยิบพวงกุญแจโลหะรูปตัวอักษรคำว่า Liverpool ที่พ่อให้ไว้ก่อนจากไปออกมาดู

พวงกุญแจ Liverpool อาจบอกกับเราได้ว่าฟาร์เรลเคยเดินทางไปกับเรือบรรทุกสินค้าถึงท่าเรือเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ

และการได้มาเป็นของฝากจากแดนไกลแสดงว่าถึงอย่างไรฟาร์เรลมีลูกสาวอยู่ในใจเสมอ




 

Create Date : 24 มกราคม 2553
4 comments
Last Update : 25 มกราคม 2553 12:58:17 น.
Counter : 1707 Pageviews.

 

ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ไหม แต่จะขอลิสไว้ก่อนครับ เพื่อเจอช่องทางจะได้หามาดู เพราะจากที่อ่านแล้วน่าจะโดนจริตส่วนตัวครับ

เห็นด้วยครับถ้าได้ยินแต่ชื่อเรื่องเฉยๆ ผมก็คงคิดว่าหนังเกี่ยวกับฟุตบอล =='

 

โดย: Seam - C IP: 203.144.144.165 25 มกราคม 2553 19:25:12 น.  

 


บางช่วงบางตอนก็ชวนระทึกว่าตัวเอกมาร้ายหรือเปล่า..

หนังดำเนินไปเรื่อยๆ ก็จริงแต่มันน่าสนใจชวนให้อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปอยู่ตลอดเวลา

ลีซานโดร อลองโซ เป็นหนึ่งในสิบผู้กำกับในดวงใจค่ะ

 

โดย: renton_renton 28 มกราคม 2553 23:06:29 น.  

 

ช่าย นึกว่าเกี่ยวกับทีม บอล

 

โดย: amoderndog 24 พฤษภาคม 2553 15:25:54 น.  

 

ขอบคุุณครับ
hptouchpadblackfriday

 

โดย: aomzon (aomzon ) 10 ตุลาคม 2554 19:34:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน
ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549

..............................








พญาอินทรี




ศราทร @ wordpress
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
24 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แค่เพียงรู้สึกสุขใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.