Slumdog Millionaire
กำกับฯ : แดนนี่ บอยล์
imdb

หนังบอลลีวู้ดที่เล่นกับสไตล์การเล่าเรื่องหวือหวามีมานานแล้ว แต่เมื่อต้นตำรับอย่าง แดนนี่ บอยล์ ทำเองจึงได้รสชาติใหม่ภายใต้หน้าตาที่แปลกต่างออกไป

หนังมีความ “ชวนฝัน” อยู่สูง (จึงไม่ใช่ Trainspotting ภาคภารตะแน่ๆ) แต่ก็ไม่ถึงกับล่องลอยจนจับต้องไม่ได้เพราะมีประเด็นทางสังคมให้หยิบฉวยอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางชีวิตของเด็กหนุ่มจากสลัมคู่ขนานกับความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดของมุมไบ เงินที่ควบคุมผู้คนซึ่งต้องแลกกับอะไรบางอย่างเพื่อให้ได้มา...แม้กระทั่งชีวิต

ฉาก “ทัชมาฮาล” เหมือนถูกจัดวางอย่างจงใจเพื่อดึงผู้ชมคนนอกให้เข้าใกล้อินเดีย น่าคิดตรงที่เด็กน้อยพี่น้องแฝงตัวเป็นไกด์โดยเล่าประวัติอนุสรณ์สถานอันน่าภาคภูมิใจของชาวมุสลิมอินเดียแบบมั่วๆ ให้ฝรั่งฟัง สุดท้ายเขาก็เติบโตและกลมกลืนกับเมืองใหญ่แบบหลุดพ้นจากรากของตนเอง

เรียกว่า “งานบันเทิงชั้นดี” ดูจะเหมาะกว่า “หนังยอดเยี่ยม”

(อ่านบทวิจารณ์ตรงเมนูด้านขวา)



     

Il y a longtemps que je t'aime (I've Loved You So Long)
กำกับฯ : ฟิลิปป์ โกลเดล (Philippe Claudel)
imdb

หลังจากติดคุกนาน 15 ปี ข้อหาฆ่าลูกชายตนเอง จูเลียต (คริสติน สก็อตต์ โธมัส) ต้องมาอาศัยอยู่กับน้องสาว ท่ามกลางกำแพงมากมายที่ยังกักขังเธออยู่

เพียงแค่ภาพแรกเปิดเรื่อง คริสติน สก็อตต์ โธมัส ก็จับผู้ชมไว้แน่นด้วยสีหน้าแววตาของเธอ ช่วงเวลาที่เหลือตลอดทั้งเรื่องเธอแทบไม่ได้โชว์ซีนอารมณ์ทะลักทลายมากไปกว่าสีหน้าแววตาเรียบนิ่งซึ่งอัดแน่นด้วยความทุกข์ แต่ถึงอย่างนั้น การแสดงของเธอกลับเต็มไปด้วยพลังความรู้สึก

แน่นอนว่าคริสตินคือส่วนที่ดีที่สุดของหนัง แต่ตัวหนังเองก็อยู่ในระดับที่เกื้อหนุนการแสดงของคริสตินด้วย หนังพูดถึงปมในใจของแต่ละคนซึ่งมักไม่พ้นเรื่องครอบครัว การหยิบยื่นความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน รวมทั้งการสร้างและทำลายความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวเดียวกัน

จุดที่ติดใจคือ หนังใช้วิธีสร้างเหตุการณ์ให้บังเอิญเกิดขึ้นเพื่อนำไปสู่พัฒนาการของตัวละครและเรื่องราว โดยมีอย่างน้อย 2 เหตุการณ์ที่ดูจงใจเกินไป แถมเป็น 2 เหตุการณ์ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องเสียด้วย

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมและฉากจบอันยอดเยี่ยมพอจะช่วยลบร่องรอยไปได้



     

Encounters at the End of the World
กำกับฯ : แวร์เนอร์ แฮร์โซก (Werner Herzog)
imdb

แวร์เนอร์ แฮร์โซก กล่าวไว้ตอนต้นว่า เขาไม่ได้ดั้นด้นไปแอนตาร์กติกาเพื่อทำสารคดี “นกเพนกวิน”

อารมณ์ขันบวกกับคำพูดประชดประชันแบบแฮร์โซกปรากฏเป็นระยะในหนังสารคดีว่าด้วยแอนตาร์กติกาเรื่องนี้ อย่างที่บอกว่านี่ไม่ใช่สารคดีชีวิตสัตว์โลก ทั้งยังไม่ใช่สารคดีโลกร้อน แต่เป็นหนังสารคดีสไตล์แฮร์โซกที่มุ่งสำรวจมนุษย์และธรรมชาติอย่างที่เขาเคยทำมาตลอด

ลานน้ำแข็งขาวโพลนกว้างไกลสุดตา ใต้ท้องน้ำอุณหภูมิติดลบที่มากมายด้วยภาพมหัศจรรย์ เสียงร้องประหลาดของแมวน้ำก้องดังราวกับมาจากนอกโลก หรือปากปล่องภูเขาไฟที่พร้อมจะปะทุตลอดเวลา เหล่านี้คือความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติซึ่งแฮร์โซกเปรียบเทียบกับวิหารศักดิ์สิทธิ์ ขณะเดียวกัน ผู้คนมากมายที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตก็คล้ายกับนักแสวงหาที่ยึดเอาวิหารแห่งนี้เป็นที่พักพิง

เป็นหนังสารคดีที่ดูผ่อนคลาย แต่ก็ชวนให้เต้นเร่าในความรู้สึกไปพร้อมกัน

Create Date : 13 มกราคม 2552
Last Update : 25 มกราคม 2552 15:59:26 น.		10 comments
Counter : 807 Pageviews.
Share Tweet