เมื่อรู้ว่า Gran Torino ผลงานล่าสุดเป็นเรื่องเกี่ยวกับชายชราผู้มีอคติต่อครอบครัวชาวม้งที่เป็นเพื่อนบ้าน และผู้รับบทเป็นชายชราคืออีสต์วู้ดเอง ความคิดก็ทำงานโดยอัตโนมัติว่าชายชราคนนี้ต้องเคยเป็นทหาร และการเป็นทหารผ่านศึกจะมีผลสำคัญต่อเนื้อหาเรื่องราว
ได้ชมจึงพบว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ...
เรื่องราวใน Gran Torino เกิดขึ้นในมิชิแกน ย่านที่พักอาศัยที่มีผู้อพยพต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนมาก เริ่มต้นในโบสถ์ขณะที่ วอลต์ โควาลสกี้ (อีสต์วู้ด) ร่วมพิธีศพของภรรยา เขาจ้องมองการแต่งกายและพฤติกรรมของหลานๆ วัยรุ่นด้วยสายตารังเกียจ ฟังบาทหลวงหนุ่มน้อยกล่าวถึงชีวิตและความตายอย่างเคลือบแคลงเย้ยเยาะ ไม่ไกลกันนั้นลูกชาย 2 คน ของวอลต์กำลังนินทาพ่อเรื่องความหัวแข็งและหัวโบราณ
Gran Torino เป็นผลงานลำดับที่สองของอีสต์วู้ดในปี 2008 หลังจากมีเรื่อง Changeling ออกฉายก่อนหน้าไม่กี่สัปดาห์ ในฐานะผู้กำกับฯ-นักแสดงอาวุโส(ปัจจุบันอายุ 78 ปี) ประสบการณ์และฝีมือที่หมักบ่มมายาวนานทำให้ผลงานช่วงหลังๆ ของอีสต์วู้ดเป็นที่ยอมรับในแง่คุณภาพ และรักษาระดับมาตรฐานไว้ได้โดยเฉพาะนับแต่เรื่อง Unforgiven (1992) เป็นต้นมา
หนังอย่าง Gran Torino คืองานในขบวนเดียวกับ Unforgiven และ Million Dollar Baby (2004) ที่อีสต์วู้ดประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะผู้กำกับฯ หรือจะย้อนไปถึงหนังตะวันตกอย่าง Pale Rider (1985) และหนังชุดจ่าแฮร์รี่ปืนโหดก็ได้ กล่าวคือ เป็นเรื่องของวีรบุรุษในซอกหลืบของสังคมผู้มีมโนธรรมสูงส่ง อีโก้จัด ไม่แคร์สังคม หยิ่งทะนงและแข็งกร้าว ทว่ามีปมฝังใจบางอย่าง
ขณะเดียวกัน ถ้าจะมองว่านักแสดงผู้เริ่มต้นอาชีพจากบททหารและเคาบอยแดนเถื่อนซึ่งมุ่งมั่นในการนำเสนอโลกของ ลูกผู้ชาย หลากหลายรูปแบบมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร นักโทษ นายพราน นักไต่เขา นักมวย ฯลฯ หนังอย่าง Gran Torino ย่อมเดินตาม ขนบแบบอีสต์วู้ด อยู่เช่นเดิม
โลกของ ลูกผู้ชาย ของอีสต์วู้ดที่สะท้อนผ่านคาแร็กเตอร์ของตัวละครยังเชื่อมโยงกับเนื้อหาเรื่องชาติอยู่บ่อยครั้ง เช่นการเป็นบอดี้การ์ดผู้คุ้มครองประธานาธิบดีใน In the Line of Fire (1993-วูล์ฟกัง ปีเตอร์เซน กำกับฯ) เป็นอดีตนักบินที่กลายมาเป็นนักบินอวกาศของนาซ่า(ตัวแทนรัฐบาลสหรัฐ) ใน Space Cowboys (2000) ยังไม่นับการเป็นทหารในหลายเรื่องซึ่งชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว และเพราะเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะคาดเดาได้ว่าตัวละครใน Gran Torino ซึ่งต้องยุ่งเกี่ยวกับคนต่างชาติพันธุ์เป็นทหารผ่านศึก (เช่นเดียวกับตัวอีสต์วู้ดเองที่เคยร่วมสงครามเกาหลี)
การเดินตามขนบอันคุ้นเคยแบบอีสต์วู้ดทำให้ Gran Torino ไม่ใช่หนังที่เหนือความคาดหมายใดๆ ยังไม่นับเรื่องราวซึ่งแค่เริ่มต้นก็เห็นปลายทางว่าจะเป็นไปอย่างไร ถึงกระนั้น จุดที่ทำให้หนังยังน่าสนใจอยู่ได้คือศักยภาพของอีสต์วู้ด ทั้งการแสดงเป็นตาแก่หัวรั้นที่ดูแล้วน่าขันในหลายๆ ฉาก เพลงประกอบซึ่งอีสต์วู้ดร่วมแต่งและร่วมร้องในฉากสุดท้าย และงานกำกับฯที่เรียกร้องให้สังเกตคิดตาม แม้ไม่ถึงขั้นลึกซึ้งซับซ้อนนักก็ตาม
เสียดาย น่าจะเข้าโรงน่ะ