Gomorra เมืองมาเฟีย
Gomorra เมืองมาเฟียพล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 4 และ 11 มกราคม 2552 (1) Gomorra (2008) เป็นหนังอิตาลีซึ่งโดดเด่นทั้งด้วยตัวหนังเองและการเป็นข่าวฮือฮานอกเหนือตัวหนัง เริ่มจากได้เข้าชิงปาล์มทองในเทศกาลหนังเมืองคานส์ ก่อนจะคว้ารางวัลใหญ่อันดับสองมาครอง ทั้งยังเข้าชิงและคว้ารางวัลจากอีกหลายเทศกาล รวมทั้งเป็นตัวแทนอิตาลีชิงออสการ์หนังภาษาต่างประเทศ และเข้ารอบสุดท้ายสาขาเดียวกันบนเวทีลูกโลกทองคำ 2009 สำหรับข่าวฮือฮาเป็นผลต่อเนื่องจากการที่ โรแบร์โต ซาวีอาโน ผู้เขียนหนังสือ Gomorra ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปี 2006 ถูกข่มขู่และหมายหัวจากมาเฟียตระกูลกาซาเลซีซึ่งเป็นใหญ่ในองค์กรอาชญากรรม กามอร์รา (Camorra) เพราะไม่พอใจที่ซาวีอาโนเขียนหนังสือเปิดโปงความชั่วร้าย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาซาวีอาโนต้องหลบซ่อนตัวภายใต้ความคุ้มครองของตำรวจโดยคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยอิตาลี แต่เมื่อหนังเรื่อง Gomorra ออกฉายและเป็นที่สนใจจากคนทั่วโลก เหมือนไปกระตุ้นความเคียดแค้นให้แก่มาเฟียกามอร์ราจนออกมาประกาศจะเด็ดหัวซาวีอาโนให้ได้ภายในวันคริสต์มาส กระทั่งนักเขียนเหยื่อมาเฟียวัย 29 ปี ต้องขอลี้ภัยออกนอกประเทศ ข่าวน่าสนใจจากกรณีนี้คือ เดือนตุลาคมปี 2008 บิ๊กเนมรางวัลโนเบลจากสาขาต่างๆ 6 คน ได้แก่ ออร์ฮัน ปามุก, ดาริโอ โฟ, ริตา เลวี มอนตัลชีนี, เดสมอนด์ ตูตู, กึนเธอร์ กราสส์ และมิคาอิล กอร์บาชอฟ ร่วมกันแสดงจุดยืนผ่านบทความหนุนหลังซาวีอาโน รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลอิตาลีปกป้องชีวิตและช่วยซาวีอาโนให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้ง กามอร์รา เป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่ฝังรากลึกอย่างยาวนานในอิตาลี มีหลักแหล่งครอบคลุมแคว้นคัมปาเนียและเมืองเนเปิลส์จนแทบจะเรียกว่า มาเฟียครองเมือง หากินผิดกฎหมายสารพัดรูปแบบทั้งค้ายาเสพติด อาวุธเถื่อน รีดไถ ต้มตุ๋น เรียกค่าคุ้มครอง อันเป็นที่มาของเหตุฆาตกรรมจำนวนมาก นอกจากนี้ กามอร์รายังควบคุมธุรกิจมากมายไว้ในมือ ทั้งอุตสาหกรรม การค้า และงานรับเหมาอย่างการกำจัดขยะที่กลายเป็นข่าวใหญ่ช่วงต้นปี 2008 เนื่องจากชาวเนเปิลส์ไม่พอใจที่ขยะล้นเมืองจนออกมาชุมนุมประท้วงรุนแรงถึงขั้นจลาจล ซึ่งสาเหตุหนึ่งของปัญหาก็เพราะการผูกขาดการกำจัดขยะอย่างไร้ประสิทธิภาพของพวกกามอร์รานั่นเอง ความเน่าเฟะเรื่องขยะนี้ได้ถูกตีแผ่ในหนัง Gomorra ด้วย ยังมีข่าวเกี่ยวกับกามอร์ราที่อาจจะเคยผ่านหูผ่านตาอีกมากมาย เช่น ความพยายามกวาดล้างกามอร์ราของตำรวจอิตาลีทั้งออกหมายจับและส่งตำรวจพิเศษนับพันเข้าไปในพื้นที่ การสังหารโหดผู้อพยพชาวแอฟริกัน 6 ศพ ใกล้เมืองเนเปิลส์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือของกามอร์รา หรือแม้แต่ในวงการกีฬายังเคยมีข่าวเปิดโปงว่ากามอร์ราเดินเกมฮุบสโมสรฟุตบอลลาซิโอผ่านนอมินีแต่ถูกจับได้เสียก่อน หรือข่าวทางการอิตาลีระบุว่าแฟนบอลของสโมสรนาโปลีที่ก่อเหตุวุ่นวายเมื่อปีที่แล้วมีส่วนเชื่อมโยงกับมาเฟียแก๊งนี้ ในสื่อภาพยนตร์ หนังชุดทางโทรทัศน์เรื่อง The Sopranos เกี่ยวกับมาเฟียอิตาลีในสหรัฐอเมริกามีตัวละครที่เป็นสมาชิกกามอร์รา หนังเรื่อง Certi bambini (Stolen Childhood, 2004) เคยฉายในเทศกาลบางกอกฟิล์ม 2005 มีเนื้อหากล่าวถึงเด็กกำพร้าคนหนึ่งที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดท่ามกลางแก๊งมาเฟียในเนเปิลส์ ขณะที่จูเซปเป ตอร์นาโตเร ทำหนังเรื่องแรก Il Camorrista (The Professor, 1986) โดยอิงจากเรื่องจริงเกี่ยวกับความพยายามก่อตั้งกามอร์ราสายพันธุ์ใหม่ยุค 70-80 สำหรับ Gomorra ของผู้กำกับฯ มัตเตโอ การ์โรเน ต้องถือว่าเป็นหนังว่าด้วยกามอร์ราที่โด่งดังและประสบความสำเร็จที่สุดไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ การฉายภาพความเป็นไปในดงมาเฟียจากหลากหลายกรณีและถ่ายทำในสถานที่จริงคือเมืองเนเปิลส์ แคว้นคัมปาเนีย ช่วยเพิ่มความโดดเด่นในด้านความลึกและความสมจริงมากยิ่งขึ้นหนังเล่า 5 เรื่องราวสลับกันไปมา เรื่องแรกเล่าถึง ดอน ชิโร ชายวัยกลางคนผู้ทำหน้าที่แจกจ่ายเงินให้แก่ครอบครัวของสมาชิกกามอร์ราที่ติดคุกตามรายชื่อที่ถูกกำหนดไว้ เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับกิจการของแก๊ง ไม่พาตัวเองเข้าไปใกล้ความรุนแรง นอกจากทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด แต่เมื่อเกิดเหตุทรยศขึ้น ชิโรจึงตกอยู่กลางสมรภูมิอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาคารซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของชิโรเป็นสถานที่ทำงานของเด็ก 13 ขวบ อย่างโตโตเช่นกัน โตโตมีหน้าที่ส่งของชำจากร้านของแม่ให้ลูกค้าตามห้องต่างๆ วันหนึ่งเขาเก็บปืนของกลางได้แล้วเอาไปคืนทำให้ได้รับโอกาสพิสูจน์ตนเองว่าเข้าร่วมแก๊งได้หรือไม่ จากนั้นโตโตก็ไม่สามารถหันหลังกลับได้อีก เด็กหนุ่มคู่หู มาร์โก กับ ชิโร เป็นพวกหมูไม่กลัวน้ำร้อนด้วยการปล้นพวกค้ายา ขโมยปืนเถื่อน และคิดตั้งตนเป็นมาเฟียเสียเอง แต่ในโลกที่กามอร์ราปกครอง ทั้งสองจะมีสถานะอย่างไร สำหรับคนหนุ่มมีการศึกษาอย่าง โรแบร์โต ได้งานเป็นผู้ช่วย ฟรานโก เจ้าของกิจการกำจัดขยะพิษที่มีเอี่ยวกับกามอร์รา นานวันโรแบร์โตยิ่งเห็นด้านเลวร้ายของธุรกิจนี้ที่ไม่ใส่ใจทั้งชีวิตคนและสิ่งแวดล้อม เรื่องสุดท้ายเกี่ยวกับ ปาสกวาล ช่างตัดเสื้อผ้าฝีมือดีทำหน้าที่ควบคุมการผลิตในโรงงาน ได้รับข้อเสนอพิเศษด้วยเงินก้อนโตให้ไปสอนตัดเย็บแก่ลูกจ้างโรงงานผลิตเสื้อผ้าชาวจีน การรับทำงานให้กับคู่แข่งทางธุรกิจโดยตรงทั้งยังเป็นพวกต่างถิ่นทำให้ปาสกวาลตกอยู่ในอันตราย ห้าเรื่องราวดังกล่าวมีบางเรื่องเกาะเกี่ยวกันหลวมๆ ขณะที่บางเรื่องเป็นเอกเทศ กระนั้น ทุกเรื่องราวมีจุดร่วมเดียวกันคือ เป็นเรื่องของตัวละครที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งกามอร์ราทั้งโดยตั้งใจและสถานการณ์พาไป ราวกับว่าในเมืองมาเฟียแห่งนี้ถึงอย่างไรก็ยากจะหนีพ้น(2) ขณะที่ขนบของหนังมาเฟียทั่วไปถ้าไม่นำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของตัวละครซึ่งมีบทบาทสำคัญในแก๊งมาเฟีย (The Godfather) ก็มักว่าด้วยตัวละครบริสุทธิ์ซึ่งต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับมาเฟียอย่างไม่เต็มใจ โดยผู้ชมต้องคอยเอาใจช่วย (The Firm) หรืออีกลักษณะหนึ่งคือเล่าเรื่องจากฝั่งผู้รักษากฎหมายเป็นหลัก (The Untouchables) แต่สำหรับหนังตีแผ่เมืองมาเฟีย Gomorra นั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิงเพราะไม่ใช่การเล่าประวัติชีวิตมาเฟียตัวเอ้ ไม่มีตัวละครเอกที่ผู้ชมต้องติดตามเอาใจช่วย และไม่มีตัวละครตำรวจแม้แต่คนเดียว แต่หนังเลือกถ่ายทอดเรื่องราวแยกย่อยของตัวละครจำนวนมากที่เข้าไปข้องแวะกับมาเฟีย โดยติดตามความเป็นไปของพวกเขาแบบการเฝ้ามองมากกว่าจะเข้าถึงความคิดจิตใจและเข้าใจการกระทำ จุดประสงค์หนึ่งคือเพื่อนำเสนอเรื่องราวอย่างจริงจังและสมจริงที่สุด อีกหนึ่งคือเพื่อให้เรื่องราวแยกย่อยทั้ง 5 เรื่องราว เหมือนเป็นกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นและผ่านไปอย่างง่ายดายไม่ต่างจากอีกหลายกรณี ณ ดินแดนที่ปกครองด้วยมาเฟียกามอร์ราอย่างฝังรากลึกเป็นเวลายาวนาน สำหรับการนำเสนอเรื่องราวอย่างจริงจังและสมจริง นอกจากหนังจะไม่มีตัวละครเอกที่ส่งความเป็นดราม่า อีกทั้งแต่ละเรื่องราวไม่มีเส้นเรื่องเพื่อลากจูงความสนใจอย่างชัดเจนแล้ว หนังยังถ่ายทำโดยถือกล้องด้วยมือเป็นส่วนใหญ่ ผ่านการลำดับจัดวางอย่างไม่พิถีพิถันนัก และไม่มีดนตรีประกอบ (มีแต่เพลงที่เป็นส่วนหนึ่งของฉากนั้นๆ) เพื่อให้หนังดูปรุงแต่งน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมจะคล้ายไร้การปรุงแต่ง แต่หนังกลับมีองค์ประกอบภาพและใช้ภาพเล่าเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม เช่น การเชื่อมร้อยเปรียบเทียบการจำหน่ายยาเสพติดของพวกแก๊งและการส่งของชำของโตโตแก่ลูกค้าภายในตึกเดียวกัน หรือการส่งยาอีกครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับการส่งตัวคู่บ่าว-สาวโดยหนังใช้วิธีแพนกล้องเพียงเล็กน้อย ราวกับว่าสิ่งชั่วร้ายอย่างยาเสพติดและมาเฟียกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนในละแวกนี้ ยังมีภาพนำสายตาที่มีระยะความลึกโดยใช้ลักษณะภายในอาคาร เช่น ทางเดิน ที่จอดรถ ให้เห็นว่าตัวละครถูกล้อมกรอบและไร้ทางออกตลอดทั้งเรื่อง หรือภาพระยะไกลมุมกว้างมองเห็นอาคารที่พักเป็นเสมือนป้อมปราการของแก๊งมาเฟีย เต็มไปด้วยการสอดส่องตรวจตราแน่นหนา เห็นได้ว่าวิธีการนำเสนอของ Gomorra ที่กล่าวมาต่างมุ่งเน้นแก่นสารจากพื้นฐานข้อเท็จจริงว่าด้วยเมืองมาเฟียซึ่งแผ่อิทธิพลต่อชีวิตผู้คน พร้อมกับหนุนเสริมเนื้อหาเรื่องราวแยกย่อยทั้ง 5 เรื่องราว ซึ่งล้วนแต่มีตัวละครเกี่ยวโยงกับแก๊งกามอร์รา ไม่ว่าถลำลึกอย่างตั้งใจหรือพลั้งพลาดพัวพันโดยไม่รู้ตัว การเปิดเรื่องและปิดท้ายด้วยเหตุการณ์คล้ายกัน นั่นคือการฆ่าระยะประชิดโดยที่เหยื่อไม่ทันตั้งตัว ซึ่งทั้งผู้ฆ่าและผู้ถูกฆ่าต่างเป็นบุคคลผู้ฝักใฝ่มาเฟียด้วยกันเอง จึงมองได้ว่าเรื่องราวที่เหลือระหว่างนั้นถูกควบคุมห้อมล้อมด้วยโลกมืดที่ปกครองโดยองค์กรอาชญากรรมและตกอยู่ท่ามกลางความเป็นความตายตลอดเวลาแม้เรื่องราวทั้งห้าจะเป็นเพียงแค่กรณีตัวอย่างจากเหตุการณ์จริงนับไม่ถ้วน แต่ถือได้ว่าเป็นกรณีตัวอย่างซึ่งค่อนข้างครอบคลุมเงื่อนไขปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยของตัวละครที่มีทั้งเด็ก 13 ขวบ อย่างโตโต วัยรุ่นอย่างมาร์โกและชิโร คนหนุ่มอย่างโรแบร์โต ขณะที่ปาสกวาลและดอน ชิโร เป็นตัวอย่างของวัยกลางคนและผู้สูงวัย เพื่อแสดงให้เห็นว่ากามอร์รามีอิทธิพลต่อทุกชีวิตและทั้งชีวิต ส่วนลักษณะของการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมาเฟีย ทั้ง 5 เรื่องราวถือเป็นตัวอย่างที่ต่างกรณีกันไป โตโตเติบโตโดยรู้จักคุ้นเคยกับมาเฟียคนกันเองที่อยู่ละแวกที่พักอาศัยเดียวกัน เฝ้ามองกิจกรรมผิดกฎหมายราวกับเป็นเรื่องปกติ (เขาส่งของชำให้ลูกค้าไม่ต่างจากพวกแก๊งส่งยาเสพติด) และเหมือนว่าเส้นทางชีวิตของเด็กๆ ถูกขีดไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งมาเฟียตั้งแต่เริ่มต้นโดยไต่เต้าจากหน้าที่ดูต้นทางเป็นลำดับแรก สำคัญคือเมื่อเริ่มต้นแล้วไม่มีทางหันหลังกลับ และคงเติบใหญ่ในสายงานไปเรื่อยๆ...ถ้าไม่ตายเสียก่อน ดอน ชิโร คือตัวอย่างของคนที่ทำงานให้แก๊งมาเฟียมาทั้งชีวิต เขามีหน้าที่แจกจ่ายเงินให้แก่ครอบครัวสมาชิกแก๊งที่ติดคุก แม้จะวางตัวให้ห่างจากความเสี่ยงนานาประการ แต่ถึงอย่างไรอันตรายก็มาถึงตัวได้ทุกเมื่อ และเขาทำได้เพียงหาทางเอาชีวิตรอด แย่ตรงที่เป็นการเอาชีวิตรอดในฐานะคนส่งเงินให้แก๊งมาเฟียต่อไป ไม่ใช่การเอาชีวิตรอดอย่างเป็นอิสระแต่อย่างใด สำหรับมาร์โกและชิโรไม่ใช่เด็กที่ถูกสภาพแวดล้อมกำหนดวิถีชีวิตอย่างโตโต แต่ด้วยความคึกคะนองของวัยรุ่นบวกกับจิตใจฝักใฝ่ทำให้ทั้งสองกระโจนลงไปเกี่ยวข้องกับมาเฟียอย่างคนที่อยากเล่นกับไฟ ความแตกต่างที่เห็นชัดเจนเกิดขึ้นกับโรแบร์โต แม้เขาจะเข้ามาทำงานกับฟรานโกซึ่งเป็นเจ้าของกิจการกำจัดขยะพิษที่มีเอี่ยวกับกามอร์รา แต่พื้นฐานของเขาต่างจากโตโตและดอน ชิโร โรแบร์โตมีการศึกษาและรู้สึกต่อต้านความเลวร้ายที่เขาค่อยๆ รู้จักมากขึ้น ดังนั้น เมื่อปมขัดแย้งในใจถึงจุดแตกหัก โรแบร์โตจึงเข้มแข็งพอที่จะถอนตัวออกจากวงจรอันเลวร้าย รายสุดท้ายคือปาสกวาลถือว่าแตกต่างจากคนอื่นมากที่สุด เพราะเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมาเฟียโดยตรง แต่บังเอิญนายจ้างเจ้าของโรงงานผลิตเสื้อผ้าเป็นลูกหนี้ของพวกกามอร์รา เมื่อปาสกวาลแอบรับจ็อบสอนตัดเย็บให้กับโรงงานของชาวจีนซึ่งเป็นคู่แข่งจึงเหมือนเป็นการกวักมือเรียกการลงโทษจากมาเฟียโดยไม่รู้ตัว ถึงไม่ใช่พวกแกว่งเท้าหาเสี้ยน แต่โชคร้ายก็อาจมาเยือนได้ทุกขณะในเมืองมาเฟียแห่งนี้ แม้จะนำเสนอกรณีตัวอย่างของความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในเมืองที่ถูกควบคุมโดยกามอร์รา แต่หนังกลับไม่มีบทสรุปใดๆ นอกจากบทลงท้ายที่อาจยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของแต่ละเรื่องราว หรือกล่าวได้ว่าท่าทีของหนังมุ่งเปิดเผย-ตีแผ่ให้ผู้ชมได้รับรู้ความเลวร้ายของกามอร์ราในหลากหลายแง่มุม โดยมีอาวุธเด็ดคือระดับความเข้มข้นจริงจังและความสมจริงมากกว่าจะเสนอทางออกอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยท่าทีและอาวุธเด็ดดังกล่าวคาดว่าหนังทำได้ตามที่เจ้าของงานเขียนต้นฉบับอย่างซาวีอาโนต้องการ แต่ก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะปลื้มกับความสำเร็จบนความโชคร้ายหรือเปล่า
Create Date : 05 มิถุนายน 2552
13 comments
Last Update : 5 มิถุนายน 2552 18:14:58 น.
Counter : 3054 Pageviews.
โดย: Ghoeby 5 มิถุนายน 2552 20:30:18 น.
โดย: อุ้มสี 5 มิถุนายน 2552 22:11:38 น.
โดย: เอกเช้า IP: 124.122.80.98 6 มิถุนายน 2552 23:59:53 น.
โดย: ืnanoguy IP: 125.24.120.150 7 มิถุนายน 2552 3:42:01 น.
โดย: คนขับช้า 7 มิถุนายน 2552 17:53:20 น.
โดย: Seam - C IP: 58.9.198.95 8 มิถุนายน 2552 15:40:29 น.
โดย: beerled IP: 203.150.245.181 12 มิถุนายน 2552 17:04:55 น.
โดย: ม่วน IP: 125.24.213.18 14 มิถุนายน 2552 18:56:42 น.
โดย: wind IP: 115.67.117.163 15 มิถุนายน 2552 21:31:26 น.
โดย: คมลาดกระบัง IP: 125.27.42.254 10 พฤศจิกายน 2553 21:44:25 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30