ssgarden
Location :
ลพบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สอบ เครียด นอน ตื่นมา เครียดกว่าเดิมอีก ฮ่า
Group Blog
 
 
มกราคม 2556
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
11 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ssgarden's blog to your web]
Links
 

 
Swift, sweet or slut?

ตอนแรกคิดว่าจะเขียนเรื่องนี้ในสเตตัสเฟซบุ๊ค แต่คิดไปคิดมาเขียนลงบล็อกดีกว่า ออกตัวก่อนเลยว่าเป็นแฟนเทย์เลอร์ สวิฟท์ค่ะ ดังนั้นเราย่อมลำเอียงบ้างแหละนะ แต่เราจะไม่พาดพิงดาราสาวคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง จะมีประเด็นแค่ว่าผู้หญิงภาพลักษณ์ดีที่เดทกับผู้ชายเยอะๆ สมควรจะชื่นชมเธอว่าเธออ่อนหวานดี หรือจะด่าทอว่าเธอร่านดี

ในอเมริกาเทย์เลอร์เริ่มดังตั้งแต่ประมาณปี 2007 มีออกทัวร์กับวง Jonas Brother ผู้ชายที่เธอเริ่มเดทด้วยคนแรก(ตั้งแต่เธอดังและเป็นข่าว)คือ Joe Jonas เป็นหนุ่มน้อยรุ่นเดียวกันในขณะนั้น ก็หวานกันหยดอยู่พักนึง แต่ช่วงปลายปี 2008 (ก่อน Fearless วางนิดหน่อย) ก็มีข่าวออกมาว่าสองคนนี้เลิกกันแล้ว โดยได้รับคำยืนยันจากปากของเธอเองในรายการของ Ellen Degeneres ว่าเธอถูกบอกเลิกทางโทรศัพท์ในเวลาไม่กี่วินาที เมื่อ Fearless ถูกปล่อยออกมา เธอก็ฮอทไปทั่วโลกจากเอ็มวี Love Story แน่นอนว่ามีเพลงขอโจอยู่ในนั้นค่ะ ชื่อเพลง Forever & Always จิกกัดผู้ชายตามประสาสาวคันทรีอกหักรักคุดอ่ะนะ และมีการคาดเดากันหลังจากอัลบั้ม Speak Now ถูกปล่อยออกมาว่าเพลง Better Than Revenge เทย์เลอร์เธอแต่งให้แฟนใหม่ของหนุ่มโจ เทย์เลอร์แทบจะไม่เคยออกมายอมรับหรือปฏิเสธเกี่ยวกับข่าวลือพวกนี้เลย นี่เป็นจุดนึงที่เธอวางตัวได้ดี แต่ถ้าเรื่องนี้จริง เราก็ยังคงไม่สามารถปักใจเชื่อได้ลงนะว่าสาวคนนั้นแย่งโจไปจริงๆ เรื่องของความรักมันก็แค่คนที่ไม่ใช่ก็ต้องเลิกรากันไป เท่านั้นเอง

ต่อมาประมาณปลายปี 2009 เธอเดทกับ Taylor Lautner คนนี้เด็กกว่าเธอ 2-3 ปีค่ะ ตอนนี้เริ่มเป็นที่สังเกตถึงการที่เธอมักจะคว้าหนุ่มฮอตในช่วงเวลานั้นมาควง! ตอนนั้นเลาท์เนอร์กำลังดังระเบิดโลกจากบทหมาป่าหนุ่ม อืม จริงๆช่วงนี้ชีวิตมิสสวิฟท์รุ่งสุดๆ เธอยังคงใช้เพลงใน Fearless กวาดเงินและกล่องไปทั่วโลก และยังวุ่นสุดๆด้วย เมื่อโดนคานเย่เมาแล้วถ่อยใส่ตอนที่กำลังสปีชรับรางวัล MTV  แต่งานนั้นวินกันทุกคนนะ Taylor-Beyonce-Kanye ทุกคน win หมด เทย์เลอร์ยังคงเป็น American's Sweetheart ที่โดนคนถ่อยรังแก อ่อนหวาน น่าสงสาร (ได้วัตถุดิบมาแต่งเพลงด้วย-"-) แม่บีเธอก็กลายเป็นแม่พระ รุ่นพี่ใจดี เห็นใจคนอื่น คานเย่ก็ได้รับการสรรเสริญจากคนถ่อยด้วยกัน ว่าลูกพี่ถ่อยได้ใจจริงๆ พอตอนหลังคานเย่ออกมาขอโทษก็กลายเป็น ลูกพี่แมนจริงๆ ผิดแล้วยอมรับ ว้าย เริ่มนอกเรื่องละ อ่ะ เทย์เลอร์พูดถึงความสัมพันธ์กับพ่อหมาป่าหนุ่มออกทีวีด้วยจ๊ะ รายการ Saturday Night Live (SNL) เธอแต่งเพลงขึ้นมาใหม่ชื่อว่า Monologue song (la la la) เธอพูดถึงทั้งโจ เลาท์เนอร์ คานเย่ ในเพลงนี้ และแน่นอนค่ะ ไม่นานนักรักของเธอก็หมดอายุลงในเดือนธันวาปี 2009

ส่วนคนที่ทำให้เธอหวั่นไหวจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก John Mayer ที่ทำงานร่วมกันในเพลง Half of My Heart มีข่าวลือออกมาว่าจอห์นกับเทย์อยู่ในห้องที่โรงแรมด้วยกันจนถึงเช้า เมื่อเพื่อนของจอห์นถามถึง จอห์นก็ยิ้มๆตอบแบ่งรับแบ่งสู้ประมาณว่าก็น่าจะรู้นะว่าเกิดอะไรขึ้นประมาณนั้น แต่ก็มีแค่นั้นค่ะพี่น้อง ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหน แต่งานนี้เทย์เจ็บหนักแต่งเพลง Dear John ตัดพ้อค่ะ เพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม Speak Now(2010) และแน่นอนว่ามีเพลงของเลาท์เนอร์แน่นอน เดาไม่ยากค่ะ ชื่อเพลง Back to December เมื่อเวลาผ่านไปเทย์แลดูจะเสียดายหมาป่าหนุ่มไม่น้อยนะคะ แต่แน่นอนว่าสายน้ำไม่ไหลย้อนกลับค่ะ เทย์เธอก็ยังคงเดินหน้าหาผู้ชายที่ใช่ต่อไป

ปลายปี 2010 หลังจากวางสปีคนาวได้ไม่นานเธอเดทกับ Jake Gyllenhaal ขอพูดถึงเจคหน่อยนะคะ เจคคบ Reese Witherspoon มาเป็นปีๆ ประมาณ 2007-2009 ย้ายไปอยู่บ้านเดียวกันแล้ว หลังจากเจคกับรีสเลิกกัน เจคก็ไม่มีข่าวว่าคบใครใหม่เลย จนกระทั่งรีสเริ่มเดทกับ Jim Toth เมื่อต้นปี 2010 เจคถึงเพิ่งจะมีข่าวว่าเริ่มออกเดทกับสาวใหม่ในช่วงปลายปีเดียวกันนั่นเอง ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน ถึงจะดูเรียบลื่นในความสัมพันธ์แค่ไหน รักของมิสสวิฟก็ไม่ได้ยาวนานเกิน 3-4 เดือน เธอเลิกกับเจคเด็ดขาดในต้นปี 2011

อาจจะด้วยทัวร์ที่ยาวนานของเทย์เลอร์ ทำให้เธอห่างหายข่าวคราวเรื่องแฟนหนุ่มไปนาน(อาจมีข่าวหลุดมาบ้างว่าไปโยนโบว์ลิง กินข้าว กับคนนู่นคนนี้ แต่ไม่มีอะไรในกอไผ่) คราวนี้กลางปี 2012 เธอเดทกับหนุ่มรุ่นน้องทายาทตระกูล Kennedy! หนุ่มน้อยคนนี้อายุรุ่นราวคราวเดียวกับบีเบอร์เลยค่ะ 555 สำหรับ Conor Kennedy คนนี้เราไม่มีข้อมูลอะไรมากค่ะ ถึงจะมีรูปออกมาถี่ว่าควงกันไปนั่นนี่บ่อย อาจเป็นเพราะช่วงนั้นหนูเทย์เธอว่างด้วยแหละ แต่สุดท้ายแล้วก็เลิกรากันไป กับคนนี้คบกันสั้นมากจริงๆ

และเดือนต่อมา(ตุลาคม 2012)หลังจากเลิกกับคอร์เนอร์ หนูเทย์เธอก็กลับสู่โหมดคว้าหนุ่มสุดฮอทในโมเมนท์นั้นมาควง คราวนี้เธอคว้าหนุ่มสุดฮอท Harry Styles จาก One Direction มาควงค่ะพี่น้องงงงงงง คนนี้อายุเท่าคอร์เนอร์ หลังๆมาเทย์นิยมหนุ่มน้อยเนอะ แต่แน่นอนว่าลองคบไปแล้วมันไม่ใช่อ่ะค่ะเจ้ หนูเทย์เลยจบความสัมพันธ์ครั้งนี้ลงเมื่อกลางเดือนมกรา 2013 เร็วๆนี้มีสกู๊ปช่องE! ระบุว่าสาเหตุของการเลิกรามาจากแฮรี่นอกใจเทย์เลอร์สองครั้ง เราจำได้ลางๆว่าตอนวันดีดังใหม่ๆมีข่าวว่าแฮรี่กิ๊กผู้หญิงเยอะ เป็นเพลย์บอยอะไรแบบนั้น แฮรี่ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ประมาณว่าตัวเองยังเป็นเด็กผู้ชายนะ(ก็ต้องกิ๊กหญิงเป็นธรรมดา) เราเลยค่อนข้างเชื่อข่าวนี้ค่ะ

จากที่ทบทวนดูจะเห็นว่าสองปีล่าสุดคือ 2011-2012 เทย์เดทกับผู้ชายแค่สองคน! เราไม่นับแบบที่ไปเที่ยวด้วยกันกับกลุ่มเพื่อน หรือโปรโมทงานด้วยกันอะไรแบบนั้นนะ คนที่นับผู้ชายกลุ่มนั้นว่าเป็นแฟนเทย์เลอร์เนี่ย บอกได้เลยว่าประสาทมาก คนเราจะมีเพื่อนผู้ชาย หรือทำงานกับผู้ชายบ้างจะผิดตรงไหน จะต้องกลายเป็นว่าคบกับคนนั้นหรอ มันไม่ใช่นะ อยากให้มีสติในการรับข่าวสารกันนิดนึงค่ะ

คำตอบสำหรับหัวที่จั่วไว้ ตัวเราคิดว่าเทย์เลอร์ สวิฟก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนนึงที่อยากมีรักแท้ เธอไม่ได้โชคดีเหมือนหลายๆคนที่เจอคนที่ใช่ในเดทแรก หรือผู้ชายที่คบจริงจังคนแรก ดังนั้นเธอเลยออกจากความสัมพันธ์ที่เธอเห็นว่ามันไม่ใช่และก้าวต่อไป มันก็แค่นั้นเอง

Note1: เราไม่เคยเห็นด้วยกับการที่เทย์ด่าผู้หญิงคนใหม่ของแฟนเก่า แล้วเราก็จะไม่พูดถึงกิริยาของเธอเวลาที่เธอพลาดรางวัลด้วย เห็นมั๊ยว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาจริงๆ ยังมีอิจฉา ริษยา หึงหวง

Note2: สังเกตได้อย่างชัดเจนว่า Hater ของเทย์เลอร์เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลหลังจากเดทกับแฮรี่ คบคนผิดจริงๆน้องเทย์เอ๋ย

Note3: content นี้เราเริ่มเขียนตั้งแต่เทย์ยังไม่เลิกแฮรี่ ช่วงที่มีกระแสด่าเทย์แรงๆนั่นแหละ แต่ไม่กล้าพับลิช ฮ่าๆๆๆ ไดเรคชั่นเนอร์อย่ารุมป้านะลูก ป้าแก่แล้ว ไม่สู้คนเน้อ



Create Date : 11 มกราคม 2556
Last Update : 18 มีนาคม 2556 10:22:06 น. 0 comments
Counter : 2491 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.