Bloggang.com : แอบชอบ คห. ข้างล่าง : Joss Stone--Introducing Joss Stone

Joss Stone--Introducing Joss Stone

ผมได้ซีดีแผ่นนี้มานานแล้วล่ะ แต่ไม่มีเวลาเขียนถึงสักที ถึงอย่างไรก็ตาม อยากจะบอกว่าตั้งแต่วันแรกที่ได้มา ผมฟังเพลงของ จอส สโตนทุกวัน

จากผลงานที่ผ่านมาของเธอ สองชุดก่อน ผมชอบเพลง 'Fell In Love With A Boy' ที่สุด ที่ชอบเพราะรู้สึกอัศจรรย์กับการนำเพลงของ The White Stripe 'Fell In Love With A Girl' มาทำให้หลายเป้นเพลงโซลได้อย่างสวยงาม และน่าฟัง

อัลบั้มนี้ Introducing Joss Stone ยังคงความเป็นโซลเช่นเดิม แต่ที่แตกต่างจากสองอัลบั้ม เห็นจะเป็นความน่าฟัง ติดหู ป๊อปมากขึ้น และเมโลดี้ที่พลิ้วไหว ทำการบ้านมาอย่างดี

จอส เลือกเปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรก 'Tell Me 'Bout It' เพลงเร็ว จังหวะสนุกสนาน ที่เปลี่ยนภาพของเธอได้อย่างทันตา ผมได้ดูมิวสิกวิดีโอ ก็รู้สึกอึ้งไปหลายวินาที ด้วยเพราะเธอเซ็กซี่ขึ้น สนุกสนานมากขึ้น และ Kinky เล็กๆ

เพียงแค่ขึ้นต้นเพลงก็บอกเป็นนัยๆ แล้ว

'I Need A Little Loving At Least Two Times A Day'

ความสนุกสนานของเพลงนี้ขึ้นต้นมาด้วยจังหวะจังหวะกลองและเสียงกีตาร์เบส แกร่วๆ เสียงประสานแบบโซลกรุ๊ป ที่ร้องล้อคำไปมา ทำให้เพลงสนุกมากขึ้น และเพิ่มมิติของเพลงได้อย่างชัดเจน

ผมได้อ่านสัมภาษณ์ของเธอในนิตยสาร Q เธอตอบคำถามอย่างดุเดือดถึงที่มาของเนื้อเเพลงในอัลบั้มนี้ว่า เป็นเพราะผู้ชายล้วนๆ ที่เข้ามาเพื่อหวังจะ 'ฟัน' อย่างเดียว

แต่พอพลิกดูเนื้อเพลงกลับไม่เห็นอารมณ์โหดร้ายดังกล่าว หรือการด่ากราดผู้ชาย หรือเหน็บแนม หรือกลายเป็นหญิงมั่น อย่าง Sugarbabes Destiny's Child

กลับกลายเป็นเพลงหวานๆ อย่าง ' Tell Me What We're Gonna Do Now' เพลงโซลหวานละมุนที่สุดในอัลบั้ม ทำนองเหมือนเพลง 'No Woman No Cry' เด๊ะ แต่แอบหวานกว่า พลิ้วไหวกว่า ที่สำคัญทุกครั้งที่ได้ฟัง รู้สึกเหมือนกำลังตกหลุมรักทุกที ผมชอบประโยคต้นเพลงที่ร้องว่า

'You Don't Have To Make Your Mind Up I Just Wanna Take My Time With You'

เพียงแค่ครั้งแรกที่ได้ยินเพลงนี้ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นทันที ผมจัดการเซฟเข้าลิสต์เพลงในมือถือทันที และฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน ทุกครั้งที่เสียงอินโทรดังขึ้นมา การได้หลับตาและฟังเพลงโซลที่สวยหวาน ทำให้มีความสุขขึ้นเยอะเลย

'Music' เพลงที่เป็นแรงบันดาลใจของจอส ในอัลบั้มนี้ โซล/ฮิพฮอพที่ได้ ลอรีล ฮิลล์มาแร๊พให้ ผมชอบ ลอรีล ฮิลล์มาก อัลบั้ม The Miseducation of Lauryn Hill คืออัลบั้มโซล ฮิพฮอพที่เปิดโลกการฟังเพลงของผม และเสียงของเธอก็ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน เหมือนในเพลงนี้ ทีท่อนแร๊พ ทั้งเสียงและเมโลดี้ขโมยซีนไปเต็มๆ แต่ถึงอย่างไรก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือแทร็กเด็ดของอัลบั้ม

'Proper Nice' ผมหลงรักเพลงนี้เพียงท่อนแรกที่ดังขึ้นมาว่า
'Catch Me Catch Me I'm Falling I'm Falling In Love With You' งานโซลที่จังหวะ เมโลดี้และน้ำเสียงพลิ้วไหว ที่สุดในอัลบั้ม โดยเฉพาะเสียงประสานที่ชวนเคลิ้มเป็นที่สุด รับรองว่าถ้าใครได้ฟัง คงต้องฮึมฮัมตามท่อนฮุกทุกครั้งไป

'Bad Habit' โซล ฟังกี้จังหวะสนุกสนาน ด้วยจังหวะกลอง เสียงเบส และที่โดดเด่นมากคือเสียงประสานที่ทำให้เพลงนี้น่ารักขึ้นอีกกองใหญ่ๆ

'Girl, They won't Beleive It' แทร็กแรกของอัลบั้ม ที่เบิกทางด้วยความสดใส จังหวะกลองสนุกๆ และเสียงกีตาร์ไฟฟ้า สร้างอารมณ์สนุกสนานได้ดี๊ดีครับ

'Head Tuner' เสียงเบสแบบโซล ฟังกี้ที่คล้ายคลึงกลับการเดินเบสในแบบ Swedish Pop ทำให้เพลงนี้สนุก และมีอารมณ์คึกคัก

'Put Your Hands On Me' จังหวะกลองที่เด่นเกินใคร และมีการแสครชต์แผ่นเพิ่มเข้ามา ทำให้พลงนี้คึกคักกว่าเพลงไหนๆ แต่แอบมีรายละเอียดเยอะแยะกว่านั้น ทั้งเสียงแตร เสียงประสาน และท่อนฮุกที่ร้องว่า 'Put Your Hands On Me Baby'

'Baby Baby Baby' เพลงนี้ขึ้นชื่อว่ารักที่สุดในอัลบั้ม ด้วยจังหวะแบบมีเดียม เดินด้วยเสียงกลองเป็นหลัก และเสียงเบสคลอเบาๆ แต่การร้องควบคู่ไปกับเสียงประสานและท่อนฮุกน่ารักๆ ทำให้เพลงนี้ฟังดูสดใส เหมือนอารมณ์แบบป๊อปปี้เลิฟ

ผมไม่พูดถึงเสียงร้องของจอสเลย เพราะไม่มีความจำเป็น เธอกินขาดอยู่แล้วกับน้ำเสียงที่ฟังครั้งแรกก็จินตนการไม่ได้ว่าจะเป็นผู้หญิงผิวขาว ตัวเล็กน่ารัก (เหมือนกับที่เราฟังเพลงของ Amy Winhouse) ผมชอบอารมณ์ของเธอในการร้องเพลง ลูกเอื้อน การร้องคลอ และเสียงประสานแบบโซลเกิร์ลกรุ๊ปที่ใช้ในอัลบั้มนี้ทุกแทร็กก็ว่าได้

ทุกแทร็กคืองานโซลคุณภาพที่ฟังได้ไม่มีเบื่อ ด้วยจังหวะเพลงส่วนมากที่เป็นแบบมีเดียม คึกคักแบบโซล ฟังกี้เล็กๆ เสียงร้องที่มีเสน่ห์ ที่สำคัญติดหูทุกแทร็กเลยก็ว่าได้

ผมว่าถ้าหากใครได้ฟังเพลง 'Tell Me What We're Gonna Do Now' คงรับรู้ได้ว่า เพียงแค่แทร็กนี้แทร็กเดียวก็คุ้มเกินพอที่จะมีอัลบั้มนี้ไว้ในครอบครอง

ป.ล. หาฟังแทร็ก 'Tell Me What We're Gonna Do Now' ได้จากเว็บไซต์ส่วนตัวของจอส //www.jossstone.com ครับ หากคุณมีซีดีแล้วอย่าลืมฟัง Hidden Track สุดท้าย ที่ร้องสั้นๆ เป็น Outro เก๋ดี

Create Date : 20 เมษายน 2550

Last Update : 20 เมษายน 2550 18:50:06 น.

4 comments

Counter : 880 Pageviews.

เพลง ที่คุณบอก อยู่ในอัลบั้มนี้ล่ะ ครับ

แต่ว่า คอซ ได้ทำมาสองเวอร์ชั่นครับผม

โดย: " คุณชายช่างฝัน "

วันที่: 23 เมษายน 2550 เวลา:5:22:10 น.

ชอบชื่อล็อกอินจัง

คิดได้ไงอะ

โดย: Reaper's raspberry

วันที่: 23 เมษายน 2550 เวลา:19:02:31 น.

ยังไม่ได้ฟังอัลบั้มนี้เลยครับ...แต่ฟัง 'Tell Me 'Bout It' แล้ว

แต่ผมชอบ Amy Winehouse มากกว่าแฮะ

กำลังว่าจะเขียนอยู่พอดีเลย

โดย: UnEdiTED

วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:33:36 น.

แฮะๆ ผมทิ้งคอมแม้นท์ไว้ใน unbearable...นะครับ ความจริงผมก็เขียนถึงเธอไปแล้วแหละ แต่ไม่ได้เจาะลึกลงไปในตัวอัลบั้มน่ะครับ แค่พูดกว้างๆถึงตัวเธอแค่นั้นเอง

โดย: UnEdiTED

วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:25:50 น.