ไฟรัก เพลิงริษยา

ตอนแรกว่าจะเขียนเรื่อง Umizaru ลืมไปว่าค้างรีวิวเรื่องนี้อยู่ เดี๋ยวจะเค็มซะก่อน เลยขอเขียนถึงก่อนละกัน เนื่องจากค่อนข้างรีบดังนั้นรูปจะไม่ค่อยเยอะเท่าที่ควร และเราจะเขียนเรื่องย่อ/สปอยไม่ยาว (ขี้เกียจ) ถึงแม้เรื่องนี้จะออกมานาน(มาก)แล้ว หลายคนคงจะดูกันจบไปชาติกว่าแล้ว แต่เรายังคงแบ่งเป็น 3 ย่อหน้า คือ เรื่องย่้อ/สปอย/รีวิว ตามนี้ ด้านขวามือเปลี่ยนเป็นเพลงเปิดของเรื่องนี้นะ (ช่วงนี้เปลี่ยนเร็ว)

ไฟรัก เพลิงริษยา กล่าวถึงครอบครัวใหญ่ทำธุรกิจเครื่องสำอาง โดยคนพ่อฝากฝังธุรกิจไว้กับลูกชายคนโต แต่ลูกชายคนโตไปรักกับผู้หญิงที่พ่อไม่ปลื้ม (ไปหาดูเองว่าไม่ปลื้มเพราะอะไร) ต่อมาผู้หญิงคนนั้นได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านทำให้ครอบครัวจากที่เลวร้ายอยู่แล้วทำให้เลวร้ายมากกว่าเดิม --- จบเรื่องย่อ



หลังจากลูกชายคนโตเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ แต่อาซ้อ (เซียงไห่หลาน) ไม่เชื่อเช่นนั้น เธอคิดว่าถูกโหยวเยี่ย (เฉินเฮ่า)ฆ่าตาย ดังนั้น หลังจากที่เธอย้ายเข้าไปในบ้าน เธอก็คิดแค้นมาตลอด และพยายามทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวนี้ต้องแตกเป็นเสี่ยง ๆ (นี่เป็นเนื้อเรื่องหลักของเรื่องนี้)ส่วนเนื้อเรื่องรอง ๆ อ่านจากรีวิวนะ



โดยรวมแล้วเรื่องนี้จัดว่าเป็นซีรีย์ที่ดูสนุกเรื่องนึง ให้แง่คิดมากมายในการดำเนินชีวิต และเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นในครอบครัวใหญ่ย่้อมต้องมีความขัดแย้งกันเป็นเรื่องธรรมดา

ข้อเสีย

1.ฉากเปิดเรื่องดูไม่ค่อยอลังการงานสร้างเท่าไหร่ ถ้าพูดให้น่าเกลียด คือ กระจอกไปหน่อย (ทั้งที่น่าจะทำให้ดีกว่านี้) และยังดูหน้าเบื่อเอามาก ๆ ในช่วง 30 นาทีแรก แต่พอเข้าเนื้อเรื่องหลักแล้ว เรื่องจะค่อยดูสนุกขึ้นไปเรื่อย ๆ ในช่วงแผ่น 1-3 หลังจากนั้นเรื่องจะออกค่อนข้างกลาง ๆ เรียกได้ว่าดูได้เรื่อย ๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นแต่ไม่น่าเบื่อ

2.การแสดงของพระเอก (เฉินเฮ่า)ถือว่ายังไม่ผ่านเกณฑ์ กับ ฉากเศร้า+ร้องไห้ ไม่รู้ว่าแสดงออกมาได้อย่างไร ไม่มีอารมณ์ร่วมเอาซะเลย ยกตัวอย่างเช่นฉากที่ลูกพี่ลูกน้องตาย เป็นเพราะช่วยตัวเอก แต่กลับไม่แสดงท่าทีที่เห็นว่าเศร้าเลย ปกติถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ อย่างน้อยตัวเอกจะต้อง "ขอโทษครับ มันเป็นความผิดของผมเอง" แต่นี่พูดด้วยสีหน้าเรียบ ๆ เหมือนแค่หมาคนข้างบ้านตาย "หักห้ามใจเถอะครับ คนก็ตายไปแล้ว" อันนี้้ต้องโทษคนเขียนบทด้วยที่เขียนออกมาแบบนี้ และคนแสดงร้องไห้ยังไงน้ำตาไม่ไหลสักหยด

3.ตัวละครเยอะเกินไป บางตัวทำให้เรื่องราวเข้าสู่แนวน้ำเน่าเดิม ๆ ของซีรีย์ทีวีบีจึงน่าจะตัดออกไปแล้วลดจำนวนตอนจาก 30 ตอน เป็นแค่ 20 ตอนพอ น่าจะลงตัวมากกว่านี้ สำหรับตัวละครที่เราว่าน่าจะตัดออกไปคือ ครอบครัวของเมิ่งเจียฮุ่ย และเมิ่งเจียฮุ่ย และไปเทให้กับบทน้องสาวคนเล็กแทน เพราะบทของเมิ่งเจียฮุ่ยเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก เหมือนดูละครน้ำเน่า ที่เขียนบทมาเพื่อสร้างความกดดันทางความรักกับพระเอกในช่วงท้าย ทั้งที่ช่วงแรกก็ออกแนวน้ำเน่าทีวีบี เข้าใจผิดว่าชอบกันแต่ความจริงไม่ชอบกัน แต่ตอนท้ายดันเขียนให้มารักกันซะได้ (เลิกเหอะบทแบบนี้ ดูจนเบื่อแล้ว)มีผู้หญิงมารักกับพระเอกแค่คนเดียวก็พอ มันไม่ทำให้หนังสนุกน้อยลงหรอก

4.ตอนจบน่าผิดหวัง เหมือนดูหักเหลี่ยมอำมหิตภาคสอง ทำออกมารวบรัดและชุ่ยมาก ตอนที่เฉลยความจริงทั้งหมด น่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ จู่ ๆ ให้ลูกอาซ้อร้องแล้ว อาซ้อมอบตัว มันง่ายไปหน่อย อาซ้อยังไม่สำนึกผิดเลยกับสิ่งที่ทำลงไป และยังเข้าใจผิดอยู่ ทางด้านครอบครัวฝั่งพระเอกก็ไม่รู้สึกผิดเลยที่เคยทำไม่ดีกับอาซ้อ ถ้าให้เราเขียนเนื้อเรื่องตรงนี้ใหม่ จู่ ๆ ให้เมียอารองบุกเข้ามาจะฆ่าอาซ้อแล้วพระเอกเข้าไปขวางไว้ หรือไม่ก็ ลูกอาซ้อจะพลัดตกลงมา พระเอกเข้าไปช่วยทำให้ตัวเองต้องบาดเจ็บและอธิบายเรื่องราวทั้งหมด รวมทั้งคนในบ้านพากันขอโทษอาซ้อ มันจะดีกว่านี้มาก แต่นี่.....แถมการเขียนบทให้เซียงไห่หลานฆ่าตัวตาย (ไม่เนียนด้วย สแตนอินเห็น ๆ) ออกจะมักง่ายไปหน่อย คนดูอาจสะใจแต่บอกตรง ๆ เราไม่อยากให้ตัวละครนี้ตายเลยเพราะถึงตายไปตัวละครอื่นที่ถูกเธอฆ่าก็ไม่ฟื้นขึ้นมา ถ้าให้เราแต่งช่วงนี้ ครอบครัวไม่แจ้งความ อาซ้อรู้สึกผิดพยายามฆ่าตัวตายแต่คนในบ้านช่วยเอาไว้ได้ จากนั้นอาซ้อออกจากบ้านไปบวช ทำบุญให้กับคนที่เธอฆ่าไป แล้วฝากลูกไว้กับพวกพระเอก ยังดูดีกว่านี้เลย

ส่วนที่ชอบ

1.การแสดงของหลีจือ ยอดเยี่ยมมาก ๆ และการจับคู่ให้เธอกับตัวละครประกอบ ถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ในหนังทีวีบี ถึงจะดูไม่เหมาะสมกัน แต่ด้วยการแสดงที่เข้ากันได้ดีทำให้เป็นไปได้ด้วยดี

2.เสียงพากย์เซียงไห่หลัน ที่จริงในเรื่องนี้เซียงไห่หลันเธอยังแสดงไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ถ้าเทียบกับเรื่องสลับอำมหิตเจ้าจอมสองหน้า เธอแสดงได้ดีกว่านี้เยอะ เรื่องนี้รู้สึกฝีมือตกไปหน่อย แสดงออกมาแข็ง ๆ แต่โชคดีได้นักพากย์คุณภาพอย่างคุณกรณิการ์ ทำให้ลบการแสดงแข็ง ๆ ลงไปบ้าง และช่วงเฉลยความจริงพากย์ออกมาได้อารมณ์มาก ผิดกับเฉินเฮ่าที่แสดงได้แย่อยู่แล้วดันไปเจอนักพากย์พากย์ไม่ดียิ่งแย่เข้าไปใหญ่ (ที่จริงเราชอบนักพากย์คนนี้ตอนพากย์เสียงไอ้หนุ่มรถไฟทางไอทีวีนะ แต่เรื่องนี้พากย์ออกมาได้ไร้อารมณ์สิ้นดี)

3.สะท้อนสังคม ให้แง่คิด มีสาระ ดูแล้วประทับใจ ฯลฯ



หลังจากดูจนจบให้ B- หากไม่มีข้อเสีย 4 ข้อที่กล่าวมา ได้ A แบบสบาย ๆ เลย

Create Date : 24 ตุลาคม 2550 Last Update : 24 ตุลาคม 2550 23:14:21 น. Counter : 1585 Pageviews.		3 comments
Share Tweet