มั่วนิ่มรีวิว --"Himalaya Singh--"


คำเตือน สปอย! เนื่องจากดูรอบเดียว (ก็เกินพอ) จำชื่อตัวละครในเรื่องไม่ได้

หนังเรื่องนี้เนื้อหาก็ไม่มีอะไรมาก กล่าวถึง พระเอก (เจิ้งจงจี) ซึ่งมีความสามารถในด้านการขดตัวเป็นลูกบอลกลิ้งไปมาอย่างรวดเร็ว ได้รับคำสั่งจากพ่อแม่ให้ไปแต่งงานกับไซซีอินเดีย (แสดงโดยดาราอินเดีย) ซึ่งเป็นคู่หมั้นกัน ระหว่างทางได้เจอกับ เจ๊ใหญ่ (เชอร์รี่) ซึ่งเจ๊ใหญ่อิจฉาความงามของไซซีอินเดีย เลยสาปแช่งให้ได้สามีเลว เจ๊ใหญ่จะขอให้พระเอกแต่งงานด้วย แต่พระเอกไม่ยอมเพราะต้องการแต่งงานกับไซซีอินเดียตามคำสั่งพ่อแม่ เจ๊ใหญ่เลยสอนให้พระเอกเป็นคนชั่วเพื่อให้ไซซีอินเดียได้สามีที่เลวซึ่งพระเอกก็ตกลงที่จะเป็นคนชั่ว

ส่วนพระเอกคนที่ 2 (หลิวชิงหวิน) ตานี่ไม่มีอะไรมาก แค่ถูกโจรสามคนสะกดจิตเพื่อปล้น ทำให้เขาได้หลับฝันถึงสาวงาม (จางป๋อจือ) ต่อมาได้พบกับไซซีอินเดีย โดยคำทำนายของงูสองหัวที่บอกว่า พระเอกคนที่ 2 คือเนื้อคู่ เธอจึงบอกให้พระเอกคนที่ 2 ไปร่วมงานประลองเลือกคู่

ส่วนพระเอกคนที่ 3 (อู๋เจิ้นหวี่) มากับหลานอีกสองคนรวมถึงพระเอกคนที่ 2 แต่แยกกันกลางทาง เพราะสามคนนี่ดันไปดื่มยาลบความจำเลยความจำเสื่อม พ่อของไซซีอินเดียเข้าใจผิดคิดว่าพระเอกคนที่ 3 เป็นคู่หมั้นของไซซีอินเดีย จึงให้เข้าร่วมประลองด้วย

เนื้อเรื่องหลักก็วนอยู่แค่นี้ด้วยมุขตลกปัญญาอ่อนที่กระหน่ำใส่แบบไม่ยั้ง ไม่ให้พักหายใจ แต่เจ้ากรรม มันไม่ตลกเอาเสียเลย ดูไปถอนหายใจไป เฮ้อ...เฮ้อ... ไม่น่าเลยกรู ก่อนหน้าเราเห็นหน้าปกเรื่องนี้ เห็นมันสวยดี ยังไงก็ต้องเอามาดูให้ได้ พนักงานที่ร้านก็ทักว่า หนังเรื่องนี้ มัน..... แต่เราก็ไม่ฟัง จะดูให้ได้ และแล้วก็เช่ามา พอเปิดตอนแรกมา เอ้อ ลืมไป หนังที่เจิ้งจงจีเล่นส่วนใหญ่มันห่วยหมด ไม่ว่าจะเป็น ซุปเปอร์โมเดล, หนุ่มเซ่อสาวเฮี้ยว และล่าสุด Mcdull. The Alumni ที่ทะลึ่งไปโหลดภาษาจีนมาดู เพราะเห็นต๊ะหมิงแสดง ดูได้ไม่ทันถึงครึ่งเรื่องก็ต้องปิดเพราะมันไม่ไหวเลยจริง ๆ T-T หนังของเจิ้งจงจีที่พอไปวัดไปวาได้ก็มีแต่ ดราก้อนโหลดภาคแรกเท่านั้นแหละ ที่พอจะเป็นผู้เป็นคนกับเค้าหน่อย แล้วเรื่องนี้ล่ะ จะห่วยอย่างที่พนักงานว่าไม๊ ... แล้วก็ดูต่อไป

ดูจนจบ ร้องเฮ้ย นี่มันอะไรกันเนี่ย!!!! นอกจากเนื้อหาที่มันจะไม่ได้เรื่องแล้ว การนำเสนอยังแย่สุด ๆ มีบางช่วงที่พอจะรู้สึกดี คือ ช่วงความรักระหว่าง พระเอกกับเจ๊ใหญ่ ที่พอจะหัวเราะได้แหะ ๆ บ้าง ทางด้านหลิวชิงหวิน แสดงได้โอเวอร์มากชอบทำหน้าแหย ๆ และก็ไม่ตลกเลยสักนิด ตานี่โผล่มาทีไร วัยรุ่นเซ็ง .. ทางด้านอู๋เจิ้นหวี่ พอทน แต่ก็ไม่ได้ประทับใจอะไร เพราะบทมันไม่มีอะไรน่าประทับใจ เพราะเรื่องนี้บทส่วนใหญ่จะอยู่ที่เจิ้งจงจีกับหลิวชิงหวิน อู๋เจิ้นหวี่ไม่ค่อยได้เล่นอะไรมากนะ แต่ช่วงต้น ๆ ขำดี หลัง ๆ เริ่มเล่นมุขเดิม ๆ เลยเบื่อ และที่สำคัญ จางป๋อจือ ตอนเราดูแรก ๆ คิดว่าจะเล่นเป็นไซซีอินเดีย แต่ไป ๆ มา ๆ เธอดูเหมือนจะเป็นแค่ดารารับเชิญเพราะบทบาทไม่ค่อยจะมีเลย เธอเล่นเป็นผู้หญิงที่อยู่ในความฝันของหลิวชิงหวินซึ่งแท้จริงเธอเป็นคนอ่านคำขอพรให้พระพรหมฟังบนสวรรค์

และที่สำคัญหนังเรื่องนี้ได้เกรด F เพราะตอนจบแท้ ๆ (ตอนแรกกะจะให้ D) ตอนจบซึ่งทำได้สิ้นคิดสิ้นดี !! ตอนจบซึ่งไม่ได้เฉลยอะไรเลย มันอะไรกันนี่ ช่วงกลางเรื่อง พระเอกกับเจ๊ใหญ่ดื่มน้ำลบความจำลืมเรื่องที่เคยรู้จักกัน เคยสนุกด้วยกัน เคยรักกัน และเจ๊ใหญ่ก็เดินทางไปกับพระเอก เพื่อเชียร์พระเอกร่วมประลองเลือกคู่ ระหว่างพระเอกทั้งสามแข่งประลองเลือกคู่รอบสุดท้าย พระเอกคนแรกได้เข้าถึงรสพระธรรม และได้ไปทำหน้าที่อ่านคำขอพรบนสวรรค์ให้พระพรหมฟัง ? ถ้าพระพรหมตื่นโลกจะดับสูญ ด้านพระเอกคนที่ 2 พานางเอกอินเดียหนี ส่วนพระเอกคนที่ 3 จำความได้ พาหลานอีก 2 คน ขึ้นรถกลับฮ่องกง และตัดกลับมาที่เจ๊ใหญ่แบกเจิ้งจงจีขึ้นหลังพยายามพูดให้เจิ้งจงจีตื่นเพราะวิญญาณเค้าหลุดลอยไปอ่านคำขอพร และได้เจอคำขอพรที่เจ๊ใหญ่เขียนทำให้เค้าจำความเกี่ยวกับเจ๊ใหญ่ขึ้นมาได้ ช่วงนี้เอง เราคิดในใจ อืม หนังมันก็มีส่วนดีอยู่มั่งนะ ขณะที่เรากำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นี่เอง จู่ ๆ อ้าวเฮ้ย พระพรหมตื่น หน้าจอดับไปช่วงหนึ่ง จากนั้น พระพรหมก็หลับต่อ จากนั้น เอาแล้วไง หนังมันย้อนไปสมัยดึกดำบรรพ์ยุคหินโน่น กล่าวถึงตัวเอกทั้งหมดใส่ชุดยุคหินกัน เจ๊ใหญ่ในชุดยุคหินใช้ไม้ตีหัวเจิ้งจงจีแล้วลากกลับถ้ำ ด้านพวกอู๋เจิ้นหวี่ หลิวชิงหวิน หลานอีกสองคน นางเอกอินเดีย ใส่ชุดยุคหินหมด ทำท่าเต้นลิงกัน แล้วระหว่างนั้นก็มีเสียงพากย์พูดถึงเรื่องราวยุคหิน แล้วก็จบ พอจบเราร้อง “เฮ้ย อะไรเนี่ย!!!!! อะไรฟะ” หันไปมองแม่ อ้าว แม่เราหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ตกลงมีเราบ้าดูจนจบคนเดียวโดยไม่หลับไปซะก่อน

หนังมันก็แย่พออยู่แล้ว ตอนจบยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ อยากรู้คนเขียนบทใช้สมองส่วนไหนคิด เราดูจบด้วยความงุนงง คิดในใจ “อะไรของมันวะ” ตั้งแต่ต้นจนจบหนังเรื่องนี้ไม่ได้ให้อะไรแก่คนดูเลย ตลกก็ไม่ตลก จะซึ้งก็ไม่ซึ้ง พอเริ่มจะซึ้ง ตอนจบมันดันฆ่าตัวตายซะนี่ คราวหน้าคราวหลังเชื่อพนักงานก็ดีหรอก โปสเตอร์สวยดาราดี ไม่ได้หมายความว่าหนังจะสนุกเสมอไป

ที่สำคัญหนังเรื่องนี้ถ่ายทำที่อินเดีย บางช่วงทำเหมือนหนังอินเดีย แต่กลับไม่มีฉากร้องเพลงข้ามภูเขามาใช้เป็นมุข มีแต่มุขปัญญาอ่อนอะไรก็ไม่รู้ที่ฝืดสิ้นดี ทีมพากย์พันธมิตรก็ไม่ได้ช่วยให้หนังเรื่องนี้ดูตลกขึ้น เพราะก็พากย์ได้ฝืดพอ ๆ กับหนัง

หนังมันไม่ได้เรื่องขนาดนี้ เอา F ไปเถอะ สมควรแล้ว ทำให้เราเสียค่าเช่าตั้ง 30 ตอนแรกเกือบจะซื้อเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ดีนะที่ไม่ซื้อ ไม่งั้นร้องไห้เสียดายตังค์แย่เลย T-T



Create Date : 17 เมษายน 2549
Last Update : 19 เมษายน 2549 21:59:57 น.
Counter : 1181 Pageviews.

5 comments
  
หนังไม่ดีเหรอคะ

แต่ยังอยากดู francis
โดย: baby_15 วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:19:34:25 น.
  
หนังเรื่องนี้ไม่ได้เรื่องเลยอะค่ะ
ด่าเสร็จแล้วค่ะ ลองอ่านดู
โดย: alisa (alisalovetatming ) วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:22:09:06 น.
  
ท่าทางสนุกและฮามากๆนะครับ ยำมั่วดี ได้ F เลยเหรอครับ 555
โดย: ตงเหลงฉ่า วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:19:21:04 น.
  
ยางไม่ได้ดูเล้ยเรื่องนี้ พี่สาดูเป็นไทยหรือจีนง่ะ
โดย: kwang IP: 124.121.58.78 วันที่: 28 เมษายน 2549 เวลา:11:01:13 น.
  
พากย์ไทยค่ะ พันธมิตรพากย์
โดย: alisa (alisalovetatming ) วันที่: 30 เมษายน 2549 เวลา:18:06:39 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

alisalovetatming
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เมษายน 2549

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
 
 
All Blog