" การเป็นผู้ให้ ย่อมสุขใจ กว่าการเป็นผู้รับ "
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
7 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
ถ้าใครผ่านไปแถวสีลม แวะอุดหนุนไอติมแม่น้องแป้งด้วยนะคะ : )



สวัสดีค่ะ : )

เนื่องจาก นิวเห็นคุณแม่คนนึง ได้พาลูกสาว อายุ 10 ขวบ
ซึ่งอยู่ในรถเข็น มาขายไอติม (โบราณ)
ขายอยู่แถวออฟฟิศ นิวค่ะ
ลูกสาวชื่อว่าน้องแป้ง เป็นโรค Hydrocephalus หรือ ภาวะน้ำคั่งในสมอง
น้องไม่สามารถพูดได้ และตามองไม่เห็น ด้วยค่ะ
แขนและขาลีบ
นิวเห็นแล้วก็สงสารเค้าค่ะ T___T
ก็เลยขออนุญาต ถ่ายรูปและพูดคุย
และนำมาลงในเวป เผื่อมีท่านใดผ่านแถวสีลม (ด้านหลังตึก ITF ค่ะ)
จะแวะอุดหนุนไอติมนะคะ ^^


คุณมาริสา และ คุณ สายัณห์ (คุณพ่อและคุณแม่ของน้องแป้ง)
จะไปรับไอติม โบราณมาขาย
โดยจะแยกกันขายนะคะ คุณมาริสา จะขายอยู่ตรงด้านหลัง ตึก ITF
ส่วนคุณสายัณห์ จะขายอยู่ซอยเล็กๆ ตรงประกันสังคมพื้นที่ 4
(จะมีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ตรงหัวมุมค่ะ เลยธ.กสิกรไทย สาขาสีลม ค่ะ)
จะเริ่มออกจากบ้านประมาณ 7 โมง และกลับถึงบ้านประมาณ 4 ทุ่ม
จะขายอยู่ที่สีลม ถึงประมาณ 14.00 -15.00 นะคะ
หลังจากนั้นก็จะไปขายแถวตลาดนัด ทั่วไปค่ะ


นิวได้สอบถามถึงสิ่งของที่จำเป็น ที่ต้องใช้ในทุกๆ วัน
ก็คือ แพมเพิร์ส size XL (ใช้วันละ 3 แผ่น)
นมผง พีดีชัวร์ และนมกล่อง รสหวาน ค่ะ
เพราะน้องแป้งไม่สามารถทานข้าวได้เลย
จึงทานได้แต่นมค่ะ

ในเบื้องต้น นิวและพี่ที่ ออฟฟิศ ได้รวบรวมกันซื้อนม และ แพมเพิร์ส ให้จำนวนนึงค่ะ
และขออนุญาต นำมาบอกต่อเรื่องราวนะคะ
เผื่อท่านใด สนใจจะช่วยเหลือ ครอบครัวนี้ค่ะ
เบอร์โทรของคุณ มาริสา (คุณแม่ ) หรือ คุณ สายัณห์ (คุณพ่อ)
085-154-9589


และหากท่านใดมีเสื้อผ้าเด็กที่ไม่ได้ใช้แล้ว
ก็สามารถส่งไปได้นะคะ
ที่อยู่นะคะ

คุณ มาริสา ศรีหะชัย
162/118 ม.1 ซ.แสวงผล
ถ.สุวินทวงศ์ แขวง มีนบุรี เขต มีนบุรี
กรุงเทพ 10510

นิวขอขอบคุณทุกๆ คน มา ณ ที่นี้ ด้วยนะคะ




ประวัตินะคะ คุณแม่ ชื่อ คุณ มาริสา ศรีหะชัย (คุณแหม่ม) อายุ 30 ปี
และ คุณพ่อ ชื่อ คุณ สายัณห์ นิติยวัน อายุ 36 ปี
มีลูก 2 คน ค่ะ คนแรก ชื่อ ด.ช.แก๊ป นิติยวัน อายุ 13 ปี เรียนชั้น ม.1
คนที่สอง ชื่อน้องแป้ง นิติยวัน อายุ 10 ขวบค่ะ

น้องแป้ง ป่วยตั้งแต่อายุ 2 เดือน ค่ะ มีอาการชัก
หมอบอกว่าเป็นไข้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ได้พาไปรักษาที่ รพ.นพรัตน์ อาการดีขึ้น
และกลับมาบ้าน
หลังจากนั้น น้องแป้งอายุได้ 5 เดือน
ศีรษะเริ่มโตขึ้น คุณแม่จึงพามาหาหมอที่
อนามัย มีนบุรี ทางอนามัยจึงส่งต่อไปที่รพ.เด็ก
คุณหมอบอกว่า ต้องเจาะเอาน้ำออก
เนื่องจากคุณ มาริสา มาจาก จ.สุรินทร์ จึงยังไม่บัตรทอง
ค่ารักษาพยาบาล ต้องออกเองหมดค่ะ
คุณหมอ ที่รพ.เด็ก ได้แนะนำว่า ให้ไปรักษาที่รพ.นพรัตน์
คุณ มาริสา จึงพาน้องแป้งไปที่รพ.นพรัตน์
ได้พบกับคุณหมอ ด้านสมอง
ชื่อคุณ หมอดนัย คุณหมอตกใจ
เพราะตอนที่น้องมานั้น ศีรษะใหญ่มาก
จึงนัดผ่าตัดในเช้าวันรุ่งขึ้น คุณ มาริสา ก็กังวลในเรื่องค่าใช้จ่าย
คุณหมอก็แจ้งว่า ไม่ต้องกังวล
ซึ่งคุณหมอได้ช่วยออกค่าใช้จ่ายให้บางส่วนด้วยค่ะ


ในการผ่าตัดครั้งแรก ศีรษะของน้องก็เริ่มเล็กลง
ตาก็เริ่มมองเห็น เพราะก่อนหน้านี้ ศีรษะของน้องแป้ง ใหญ่มาก
จึงทำให้มาปิดตาทั้งสองข้าง หลังจากนั้น
คุณมาริสา ก็พาน้องเป้งไปหาคุณหมอตามที่นัดทุกเดือน
เพราะน้องแป้งมีโรคประจำตัว คือ โรคชัก
คุณหมอบอกว่า อาจจะต้องกินยาตลอดชีวิต
หลังจากนั้น เมื่อน้องแป้งมีอายุ 5 ขวบ น้องแป้งเริ่มป่วย และ มีไข้ขึ้นสูง


ภาพนี้เป็นภาพไอติมโบราณ ที่คุณ มาริสา ขายนะคะ



คุณ มาริสา จึงพาน้องแป้งไปรพ.นพรัตน์ คุณหมอได้ให้ยามากิน
แต่ อาการน้องไม่ดีขึ้น ไข้ก็ยังไม่ลด มีอาการงอแง ไม่กินนม
คุณแม่บอกอาการคุณหมอ ว่า น้องมีอาการท้องอืด
เจ็บท้อง เวลาแตะที่ท้อง น้องจะร้อง
ในตอนแรก คุณ หมอ ตกใจ
คิดว่าไส่ติ่งแตกหรือเปล่า คุณ มาริสา บอกว่าไม่น่าเป็นไปได้
เพราะ น้องแป้งไม่เคยกินข้าวเลย เพราะกินข้าวทีไร
ท้องของน้องแป้งจะบวมเป่ง และร้อง ทรมานมาก


คุณหมอประจำจึงได้เข้ามาตรวจ ได้บอกคุณ มาริสา ว่า
อาจจะมีปัญาที่สายยาง เพราะ ในศีรษะของน้อง
มีสายยางอยู่ คุณหมอก็เลยกดที่ปุ่มกดน้ำและคิดว่าอาจจะตัน
แต่เช็คแล้ว ก็ไม่ตัน จึงนำเลือดไปตรวจ
พบว่า ติดเชื้อ คือมีหนองอยู่ในศีรษะ
สาเหตุที่เกิดอาจจะเป็นที่สายยาง
เพราะน้องมีหนองอยู่ในศีรษะ จึงทำให้เชื้อโรคลุกลามไปทั่ว
เลยทำให้ติดเชื้อ คุณหมอเลยนำเอาท่อที่ใส่ครั้งแรกออก
น้องแป้งเริ่มผ่าตัดอีกครั้ง โดยคุณหมออีกท่านนึง
หลังการผ่าตัดเสร็จ คุณหมอไม่ได้ใส่สายยางไว้
เพื่อให้สมองจะระบายน้ำเองได้
แต่พอออกจากห้องผ่าตัดได้ไม่นาน
ศีรษะน้องก็เริ่มโตขึ้น
คุณมาริสา บอกพยาบาลและได้แจ้งคุณหมอที่
ทำการผ่าตัด
และเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้ง ครั้งนี้ ได้ผ่าตัดด้านหน้า ของศีรษะ
และต่อท่อเอาน้ำที่ออกมาจากศีรษะ มาชั่งน้ำหนัก
สรุปว่าในครั้งนี้ผ่าตัด 2 ครั้ง คือ ครั้งแรก
เจาะหนองและเอาสายยางออกจากศีรษะ
ครั้งที่สอง ผ่าตัดเอาน้ำออกจากศีรษะ เพื่อชั่งดูว่า
แต่ละนาที น้ำจะออกเยอะไหม
หลังจากผ่าตัดเสร็จ ในขณะที่น้องแป้งพักรักษา
คุณ มาริสา สังเกต ว่า น้องแป้ง หายใจอ่อนล้าลง
จึงเรียกพยาบาลและเข้าห้อง ICU อีกครั้ง




หลังจากผ่าตัด ครั้งที่ 2 อาการของน้องแป้งแย่ลง
คือ ไม่ตอบสนอง และ ไม่รับรู้ ต่างกับตอนที่ไปผ่าตัดครั้งแรก
ศีรษะน้องแป้งบวมมาก
(มีการชั่งน้ำหนักน้ำตลอดเวลา)
น้องอยู่ ห้อง ICU ประมาณ 2 อาทิตย์
หลังจากนั้นย้ายมาอยู่ห้องผู้ป่วยรวม
ซึ่งน้องต้องให้อาหารที่สายยาง
(คุณหมอได้ผ่าตัดเปลี่ยนข้างที่ใส่สายยาง จากด้านขวา เป็นด้านซ้าย)


เวลาที่คุณ มาริสา มาขายไอติม ก็จะเข็นรถน้องแป้งมาไว้ข้าง
ตู้โทรศัพท์ ซึ่งไม่ไกลจากที่ขายค่ะ




ทุกวันนี้ น้องแป้งยังต้องใส่ท่อ เพื่อระบายน้ำออกจากสมองนะคะ
นิวเองอาจจะช่วยอะไรได้ไม่มากนัก T____T
ก็ขอภาวนาให้น้องแป้งกลับมาเป็นเด็กน่ารัก สดใส เหมือนเดิม
ขอให้ปาฎิหารย์มีจริง นะคะ



ขอขอบคุณ แผนที่ จากคุณ สายลมสีคราม ด้วยนะคะ


Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2553 16:14:10 น. 3 comments
Counter : 1965 Pageviews.

 
whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!


โดย: da IP: 203.144.144.164 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:54:14 น.  

 
whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!


โดย: กฟ IP: 203.144.144.165 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:54:47 น.  

 
ขอบคุณจขงบ.ที่แบ่งปันเรื่องนี้นะคะ
เป็นกำลังใจให้น้องแป้งและครอบครัว
ไม่รู้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการเมืองด้วยรึเปล่า


ขอเอาไปส่งต่อนะคะ


โดย: ชะเอมหวาน วันที่: 5 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:49:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อลิซ ในดินแดนไม่มหัศจรรย์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




การเป็นผู้ให้ ย่อมสุขใจกว่าการเป็นผู้รับ : )
Friends' blogs
[Add อลิซ ในดินแดนไม่มหัศจรรย์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.