" การเป็นผู้ให้ ย่อมสุขใจ กว่าการเป็นผู้รับ "
Group Blog
 
 
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
3 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
แชร์ประสบการณ์ สาวๆควรอ่าน ต่อม bartholin's gland อักเสบ จนต้องผ่าตัด

ได้อ่านเจอจากห้องสวนลุมนะคะ ซึ่งเป็นประโยชน์มากทีเดียวค่ะ
ขอขอบคุณ คุณ บาคาร่าคุง ที่ได้โพสเรื่องราวนี้ไว้ด้วยนะคะ ^^

//topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2010/12/L10057840/L10057840.html

เนื้อความนะคะ
ต้องกระทู้ครั้งแรกที่ห้องสวนลุมค่ะ ปกติสิงอยู่ห้องโต๊ะแป้ง
อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้สาวๆได้รู้ เพราะว่าโรคนี้เห็นที่ห้องสวนลุม สงสัยว่าเหมือนจะเป็น แต่ว่าไม่แน่ใจกัน เลยอยากจะให้รักษาและระวังกันตั้งแต่เนิ่นๆ

จขกท ปัจจุบันอายุ 27 ปี ตอนที่เป็น อายุ 25ปี พอดีเลย

เริ่มเรื่องเลยนะคะ คือเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ขณะที่เราขับรถอยู่ก็เริ่มมีอาการปวดน้องจิมิ๊มาก แบบว่าปวดมาก ทีแรกเรานึกเองว่าเป็นเพราะว่าเรานั่งขับรถนาน (เพราะว่าวันนั้นขับรถนานทั้งวันจิงๆ ต้องไปทำธุระให้แม่หลายที่) อาการจะปวดเป็นระยะๆ แล้วก็คิดไปเองอีกว่า ประจำเดือนกำลังจะมามั้ง?

พอกลับถึงบ้านอาการนั้นก็น้อยลง พอตอนเย็นตอนอาบน้ำ เราก็ทำความสะอาดน้องจิมิ๊ปกติ เอามือล้างปกติ ลูบไปเหมือนมีก้อนนูนๆบริเวณใกล้ช่องคลอดด้านขวา เป็นก้อนเหมือนบวมขึ้นมา เราก็ตกใจ คิดว่าต้องเป็นซีสต์แน่เลย เลยไปบอกแม่เปิดให้แม่ดูเลย (แอบอาย แต่กลัวมากกว่า) ตอนนั้นประมาณ 4 ทุ่มได้ แม่บอกว่าไม่น่าจะใช่ซีสต์ เพราะว่าถ้าเป็นซีสต์ มันไม่น่าจะเจ็บ

แล้วตอนนั้นเราเจ็บมาก มากกว่าตอนที่อยู่ในรถอีก เลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน เข้าห้องฉุกเฉิน คุณหมอประจำเวรก็มาตรวจ (ผู้หญิง) ก็ตรวจขึ้นขาหยั่ง หมอบอกว่าน่าจะเป็นซีสต์ แต่ว่าจะให้หมอเฉพาะโรคมาตรวจอีกทีตอนเช้าวันรุ่งขึ้น เลยให้ยาแก้อักเสบมาทาน แล้วก็กลับบ้าน..... ไอ้เราก็ปวดจะตาย ตอนกลับบ้านนี่ต้องนั่งตะแคงซ้ายมาตลอด ยิ่งเวลาแม่ขับรถผ่านหลังเต่า จะตายเอา

แม่บอกว่าน่าจะมีหนองข้างในแน่ๆเลย พอกลับบ้านเท่านั้นแหละ เปิดประตูรถกำลังจะลง อาการเหมือน ประจำเดือน + ฉี่ราดเลย อาการแบบ "ฉ่า" เราเลยวิ่งไปเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่าหนองแตกค่ะ สีแบบเลือดๆ ช้ำเลือด ช้ำหนองมาก (บรรยายเห็นภาพไปป่าวเนี่ย) พอหนองได้ drain ออก ความเจ็บ ความปวดหายไปเลยจิงๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นปกติมาก

แต่คุณแม่ยังไม่วางใจ วันรุ่งขึ้นไปโรงพยาบาลอีกที่นึง (ไม่แน่ใจว่าเอ่ยชื่อได้มั้ย) ไปแผนกสูตินารีเลย

เล่าอาการให้คุณหมอฟัง แล้วก็เข้าห้องตรวจ ขึ้นขาหยั่ง (อะเกน) แต่ตอนนั้นไม่มีอาการบวม หรือว่ามีก้อนนูนเหมือนเมื่อวานแล้ว

สรุปอาการ คุณหมอบอกว่า ต่อม bartholin ด้านขวาอักเสบ หรือง่ายๆเรียกว่า ต่อมที่ผลิตน้ำหล่อลื่นอักเสบนั่นเอง คุณหมอบอกว่า ผู้หญิงเราจะมี ต่อม bartholin ทั้งซ้ายและขวา เอาไว้ผลิตน้ำหล่อลื่น แล้วของเราด้านขวามันอุดตันเลยอักเสบ (ไม่ได้เป็นซีสต์แต่อย่างใด) และทำให้เป็นหนอง แต่ว่าเมื่อหนองได้ไหลออกแล้ว ก็จะไม่มีปัญหา.... คุณหมอบอกว่าเหมือนเวลาเราเป็นสิว แล้วสิวสุก หนองออก สิวนั้นก็จะแห้งไป

คุณหมอยังบอกอีกว่า
1. หลีกเลี่ยงใส่กางเกงในรัดๆ
2. นั่งเป็นเวลานานๆ
3. ช่วงที่มีประจำเดือนควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ
4. รักษาความสะอาดน้องจิมิ๊อยู่เสมอ

แล้วเราก็ถามคุณหมอว่าอาการแบบนี้จะกลับมามั้ย เพราะว่าเราต้องไปเรียนต่อโท ที่ปักกิ่ง ในอีกสองเดือนกลัวว่าถ้าเป็นแล้วจะลำบาก พูดจากับคนจีนจะไม่รู้เรื่องเอา คุณหมอบอกว่าจะมีโอกาสกลับมาอีกเลยต้องทำ 4 ข้อข้างต้นอย่างเคร่งครัด.. แล้วคุณหมอให้เบอร์ติดต่อคุณหมอโดยตรงเลย เผื่อมีอะไรตอนอยู่ปักกิ่งจะโทรถามได้เลย

จากนั้นเราก็ไม่มีปัญหานี้อีก.....จนกระทั้งบินไปเรียนที่ปักกิ่ง

และแล้ว.........

พอสองเดือนผ่านไปเราก็ไปเรียนต่อที่ปักกิ่ง ความรู้ภาษาจีนตอนนั้นเป็น 0 (ดิบมาก ไปปักกิ่งแบบไม่รู้อะไรเลย กะว่าไปเรียนที่นั่นเอา)
ไปไหนต้องมีเพื่อนไปด้วยตลอด ไม่งั้นอดตาย เพราะคนจีนพูดแต่ภาษาตัวเอง ไม่เอาภาษาอื่นเลย

ช่วงระยะเวลา 2-3 เดือนที่กำลังเรียนภาษาอยู่ ดูเหมือนว่าจะไม่มีอาการเดิมกลับมาอีก พอเข้าช่วงเดือนที่ 4 หลังหมดประจำเดือน อาการกลับมาอีกละ เหมือนเดิมเด๊ะ แต่ทีนี้รู้หลัก ทุกครั้งที่มันปวดบวมขึ้นมา ก็เข้าไปในห้องน้ำ ไปนั่งยองๆ (ตรงที่อาบน้ำ) เอามือจับๆกดๆ แล้วหนองก็ออกมาก .... มันอาจจะเป็นภาพที่น่าสยดสยอง แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันไม่ได้เจ็บมากขนาดนั้น ความเจ็บเทียบเท่า เหมือนเราบีบสิว

พอเรา drain หนองออก ก็กินยาแก้อักเสบ แล้วมันก็ดีขึ้น

ตอนนั้นเราคิดว่านี่เป็นวีธีรักษา (คิดเอาเอง) โทรหาคุณหมอ คุณหมอบอกว่าถ้าหนองไหลออกแล้วก็ไม่น่าเป็นห่วง ทำให้เรายิ่งสบายใจเข้าไปใหญ่

หลังจากนั้น ทุกเดือน หลังประจำเดือนหมด ประมาน 2-3 วัน อาการแบบนี้ก็กลับมากอีก
เราก็กดให้หนอง drain ออกเองอีก ทำแบบนี้อยู่ 3 ครั้ง (ครั้งละเดือนเลย โหดจิงๆ)

จนกระทั้งเป็นครั้งที่ 4 หนองมันไม่ออกมาง่ายเหมือนครั้งก่อนๆ ยิ่งกดเท่าไหร่ยิ่งเจ็บ เจ็บมาก เจ็บจนไข้ขึ้น เหมือนว่ามันระบม...งานเข้า!!

โทรหาแม่...แม่เป็นห่วงมาก บอกว่ากลับบ้านมั้ยลูก? เราเลยบอกแม่ว่ากว่าจะกลับหนองคงแตกบนเครื่องแน่ๆเลย

เราเลยโทรหา เล่าชือ (อาจารย์ที่สอนภาษาเรา) เค้าพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง.. อาจารย์บอกว่าให้ไปโรงพยาบาลเฉพาะทางของที่ปักกิ่งเลย (ประมาณว่า รพ นี้ ตรวจแต่ช่วงล่าง) แม่ก็โอเค บอกว่าให้ไปเลย ขอให้หาย ได้หมด

เราก็นั่งแท๊กซี่ไปกับเพื่อนอีกสองคน (เป็นแฟนกัน)....แล้วเดี๋ยวอาจารย์จะตามไป แล้วแท็กซี่ขับได้เหียกมากกกกกกก...
เบรคแล้วเบรคอีก อยากจะด่าแต่พูดไม่เป็น... แล้ว รพ ไกลมาก ไม่ถึงซะที เราก็ปวดจะแย่ (ได้ความรู้สึกเหมือนจะคลอดลูกจิงๆ)

พอถึง รพ รพใหญ่มาก แลดู มีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อม น่าไว้วางใจได้อยู่ ก็ลงทะเบียนตามระเบียบ ก็ให้เพื่อน ญ ลงทะเบียน เพราะว่ารู้จีนมากสุด ส่วนเพื่อน ช ก็พาเรานั่งรถเข็นไปที่ห้องตรวจ อยู่ชั้นสอง ก่อนจะถึงห้องรอตรวจต้องผ่านเคาเตอร์ หน้าลิฟท์ หน้าเคาเตอร์มีเส้นแดง ตีเส้นยาวตรงพื้น เพื่อนเข็นรถผ่านเส้นแดง ยามตรงเคาเตอร์เป่านกหวีด ปิ๊ดดดด... ห้ามผู้ชายผ่านเส้นนี้ ฮ่าๆๆๆ ตอนนั้นก็ขำนะ แต่ว่าความปวดมันมากกว่า... แล้วทุลักทุเลมาก เราต้องเอามือหมุนล้อ เข็นตัวเองไปห้องตรวจ

พอพยาบาลเรียกเข้าห้องตรวจ ถามเราเป็นภาษาจีน ช๊งเช๊งใหญ่ ถามหาใบไรซักอย่าง ไอ้เราก็ฟังไม่ออก พอดี เพื่อน ญ มาพอดี เค้าถามหาใบเสร็จ... คือรพ จีนทุกที่ต้องจ่ายเงินก่อนถึงตรวจได้ เราก็งง ว่ายังไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร จะรู้ได้ไงว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ เค้าบอกว่ามีค่าตรวจเบื้องต้นก่อน.. ก็ให้เพื่อนลงไปจ่ายเงิน เอาใบเสร็จมา เข้าห้องตรวจได้

ก็ขึ้นขาหยั่งอีกครั้ง (ครั้งที่ 3 ในชีวิต) ทีนี้การตรวจไม่เหมือนครั้งก่อน เอาครีมปากเป็ดมาง้างด้วย เจ็บมากกกกกกกกกกก ถึงมากที่สุด เพราะว่าเราระบมมาก่อนแล้ว แล้วก้เอาเหมือนหลอดแก้วยาวๆ เหมือนหลอดทดลองยัดเข้าไปอีก เราก้อร้องลั่นเลย มันเจ็บจิงๆ จากนั้นเอากล้องส่องเข้าไป ภาพขึ้นจอมอนิเตอร์ ภาพสีอีกต่างหาก เราก็ไม่ได้มองเลย เพราะว่าเจ็บมาก อยากให้รีบตรวจให้จบๆ จากนั้นเค้าก็ปริ้นภาพออกมา ให้เรารอคุยกะหมอ เค้าก้อเข็นเราออกมา รอหมอเรียก ตอนนี้ อาจารย์มาแล้ว เลยได้เข้าไปคุยกะหมอด้วยกันเพื่ออธิบายเราเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจารย์เราก็ไม่ได้เก่งอังกฤษมากมายอะไร เรารู้คล่าวๆว่าต้องผ่าตัด...ตายละสิ ไม่เคยผ่าตัดเลยในชีวิต แล้วมาอยู่ต่างแดนอีก เป็นอะไรที่แย่มาก ตอนนั้นคิดถึงแม่มาก.. เซงมากที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ มีแต่เพื่อน กับอาจารย์

ด้วยความที่เรากลัวเรื่องผ่าตัดมาก เพราะว่ามันเป็นอะไรที่ใหญ่สำหรับเรา เราเลยให้หมอที่นี่โทรคุยกับหมอที่ไทย เผื่อจะได้อธิบายให้เราฟังชัดเจนกว่านี้ว่าผ่าตัดอะไรยังไง.... ดันพูดกันไม่รู้เรื่องอีก หมอที่ไทยบอกเราว่า เค้าไม่พูดอังกฤษเลย ศัพท์ทางการแพทย์ที่ควรรู้กันเป็นอังกฤษ หมอที่จีนก็ยังเรียนกันเป็นภาษาจีน... เลยทำให้เรากังวลไปใหญ่

เราเลยคุยกันแบบมีอาจารย์เป็นล่าม
หมอที่จีนเลยพูดประมานว่าไม่ต้องกังวล นี่เป็นผ่าตัดเล็ก เดี๋ยวฉีดยาชาได้.. เราเลยบอกว่าโหหหห... ไม่ไหวมั้งคะ ฉีดยาชา เราตายก่อนแน่ ฉีดน้องจิมิ๊เราทั้งๆที่เจ็บๆ ระบมๆอย่างนี้ ไม่ดีแน่

เราเลยบอกเค้าว่าขายาสลบด่วนนนนนนน...

จากนั้นคุณหมออธิบายด้วยภาพว่า เค้าจะผ่าเอาหนองออกก่อน เพราะว่าจากที่ดูจากกล้อง ลูกมันใหญ่มาก ที่เรารู้สึกว่ามันนูนๆ นั่นมันแค่ด้านข้าง แต่จิงๆ มันเท่าลูก "เทนนิส" พระเจ้า....ใหญ่อะไรได้ขนาดนั้น

เนื่องจากเราบีบเองหลายครั้ง แต่ว่าไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวเลยว่า หัวฝีมันยังอยู่ ยิ่งบีบมันจะยิ่งสร้างผนังขึ้นมา ทำให้ครั้งต่อไปมันบีบเองไม่ออกแล้ว เพราะว่าผนังมันหนาขึ้นเรื่อยๆ

หมอบอกว่าพอกรีดเอาหนองออกแล้วจะเอายาจีนใส่เข้าไปแล้วเย็บปิด 24 ชม. แล้วเปิดเอายาออก แล้วก็เย็บแผล ... สรุปคือต้องผ่าตัด 2 ครั้ง

แอบกังวล แต่ไม่มีทางเลือก บอกหมอแล้วว่าขอยาสลบ หมอก็โอเค หมอบอกว่าแพงนะ แพงกว่ายาชา เราบอก เต็มที่เลย กลัวเจ็บจิงๆ...

ตอนผ่าก็ไม่รู้เรื่องเลยค่ะ เพราะว่าใช้ยาสลบ ไม่รู้ว่ายาสลบรึป่าว เพราะว่าเค้าฉีดเข้าทางสายน้ำเกลือ แล้วเราก็หลับไปเลย นับ 1 ยังไม่ถึง 5 เลย
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นพยาบาลก็ปลุก เราก็เข้าห้องพัก เพราะว่าพรุ่งนี้ต้องมาผ่าเอายาที่ใส่ไว้ออก

การผ่าตัดทั้งสองครั้งก็ผ่านไปด้วยดี พักอีกหนึ่งวันก็กลับบ้านได้ แต่ว่าต้องมาล้างแผลทุกวัน ติดต่อกันอาทิตย์นึง


เราก็มากับเพื่อนเราทุกวันมาล้างแผล ต้องมาขึ้นขาหยั่งทุกวัน
วิธีล้างแผลของที่นี่แปลกมาก

วันแรกของการล้างแผล ได้ใบนัดมา รอเรียก พอเข้าไป ตกใจมาก เพราะว่ามีผู้หญิงจีนขึ้นขาหยั่งเป็นกลุ่มๆเลย เป็นวงกลมเลย มีพยาบาลอยู่ตรงกลาง ทุกคนขึ้นขาหยั่งหมด เหมือนมาทำทริ้นเม้นหน้ากันเลย ฮ่าๆๆๆ...

บางคนต้องพ้นควันเข้าน้องจิมิ๊ ไม่รู้เหมือนกันว่ามาทำอะไรกันเยอะแยะขนาดนี้
ส่วนเราให้เพื่อนบอกพยาบาลว่าขอห้องเดี่ยว มารวมกลุ่มแบบนี้น่ากลัวอ่ะ อายด้วย

เราเลยได้ห้องเดี่ยว เราก็ขึ้นขาหยั่ง พยาบาลก็ล้างแผล จากนั้นเอาไฟ (หลอดเทียน) มาจ่อที่น้องจิมิ๊เรา เหมือนปิ๊งให้แห้ง ประมาน 15 นาที ทำอย่างนี้ ทุกวัน เป็นเวลา อาทิตย์นึง ส่วนไหมจะละลายไปเอง

รวมค่าเสียหาย ทั้งผ่า ทั้งห้องพักประมาณ 6 หมื่นบาทไทย แพงเอาเรื่อง

ทุกวันนี้อาการแบบนั้นไม่มีแล้วค่ะ

แต่ยังไงต้องรักษาความสะอาดอยู่เสมอ
ระวังพวกที่ใส่ผ้าอนามัยแบบแผ่นเล็กๆ ถ้าไม่มีตกขาว ก็ไม่ต้องไปใส่มันค่ะ ให้น้องได้หายใจ... แต่ก่อนเราใส่ทุกวันเลย แบบไม่ชอบให้เป้ากางเกงในเลอะ ประมาณนี้ แต่มันไม่ควรใส่ทุกวันนะคะ อย่าใส่กางเกงในรัดเกิน ใส่ให้พอดีกับไซส์ตัวเอง ตอนกลางคืนไม่ควรใส่กางเกงในค่ะ.... แล้วพวกผลิตภัณฑ์ ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นทั้งหลายไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวันค่ะ...ตอนนี้เราใช้เฉพาะตอนที่เรามีประจำเดือน เพราะต้องการทำความสะอาดมากเป็นพิเศษ


และข้อสำคัญ ไม่ควรใช้แป้งทาบริเวณน้องจิมิ๊นะคะ มันไม่จำเป็นเลย มันทำให้เกิดกลิ่น แล้วอาจจะทำให้ต่ออุดตันได้ค่ะ


ด้วยความเคารพ

จากคุณ : บาคาร่าคุง
เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 53 17:18:05




Create Date : 03 มกราคม 2554
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2554 1:17:39 น. 16 comments
Counter : 16854 Pageviews.

 
เข้าใจแล้วคะวันนี้ไปหาหมอมา หมอเพิ่งผ่าตัดเล็กไปครั้งแรกที่หมอบอก ต่อมบาร์โธลินอักเสบ งง มากๆ ไม่เคยได้ยิน จริงๆแล้วเป็นก้อนมาประมาณ 2 ปีแต่นานๆครั้งถึงจะปวดก็เลยยังไม่ได้ไปหาหมอ อีกอย่างอายหมอด้วย ไม่ว่างด้วยวันนี้ว่างก็เลยได้ไปหาหมอ กลัวด้วยคะ นึกไปสารพัดว่าเป็นอะไรรุนแรงหรือเปล่า ใครที่เป็นอยู่ให้ไปหาหมอซะนะคะประกันสังคมใช้ได้ ถ้าไม่มีก็ประมาณ 3000บาท แต่ฉีดยาชานะคะ


โดย: นู๋nee IP: 1.47.216.56 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:45:52 น.  

 
เราเปนหนักมากกว่าอีกคะ จากแรกเริ่มเปนข้างขวาจากที่บวมนิดเดียวจนหนักขึ้นถึงกับนั่งและเดินไม่ได้ผ่ากรีดเอาหนองออก1ครั้ง จากนั้นก้อมาเยอรมันเปนอีกหมอให้ครีมมาทาและประคบน้าแข็งอาการดีขึ้นจนหนองเริ่มไหลออกแต่ผ่านไป2เดือนเปนอีกคราวนี้วางยาผ่าตัด ก้อหายไป6เดือนมาเปนอีกแต่เปนอีกข้างก้อวางยาสลบอีกคราวนี้หมอกรีดและวางท่อให้หนองระบายไม่รู้ผลจะเปนอย่างไร


โดย: กิ๊ก IP: 109.84.0.19 วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:3:44:11 น.  

 
ขอร่วมแชร์ประสบการณ์เรื่องนี้ด้วยคนค่ะ เราเพิ่งผ่าตัดต่อมบาโธลินทั้ง 2 ข้างไปเมื่อวานค่ะ ตอนนี้ยังนอนที่ รพ. อยู่เลย เป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก และก็ไม่อยากจะเป็นอีกเลย ในกรณีของเรานั้นคุณหมอบอกว่าต่อมนี้อุดตันทั้งสองข้างเลย แต่ไม่มีอาการอักเสบ( ไม่มีหนอง ) ตอนแรกเป็นข้างเดียว เป็นมา 3 ปี และต้องกรีดระบายเมือกมา 4 ครั้ง เจ็บมากๆเพราะทุกๆครั้งคุณหมอต้องใช้เข็มฉีดยาชาที่ด้านในแคมใหญ่ แล้วก็ใช้มีดผ่าตัดกรีดระบายเมือกออกมา หลังจากการกรีดครั้งสุดท้ายมา 3 เดือน ก็รู้สึกว่าจะเริ่มป่องๆขึ้นมาอีก คราวนี้คุณหมอบอกว่าถ้าจะให้หายขาดต้องตัดต่อมนี้ทิ้งไปเลย เราก็ตัดสินใจที่จะผ่าออกทั้งสองข้าง เพราะไม่อยากจะเจ็บปวดทรมานเพราะต่อมนี้อีกแล้ว เมื่อวานหลังจากที่ฟื้นจากยาสลบก็ปวดมากจนต้องให้มอร์ฟีนแก้ปวด วันนี้ดีขึ้นมากเลยได้ทานแค่ยาแก้ปวดเท่านั้น สาวๆที่ยังไม่เป็นคงต้องใหัความสนใจเจ้าต่อมนี้ และสังเกตตัวเองบ้างนะคะ ถ้าผิดปกติต้องรีบพบคุณหมอโดยด่วยค่ะ ขอให้สาวๆทุกคนสุขภาพแข็งแรง อย่าได้พบกับความเจ็บปวดแบบนี้เลยค่ะ


โดย: Nga IP: 180.180.39.242 วันที่: 22 ตุลาคม 2554 เวลา:18:56:41 น.  

 
เป็นเหมือนกัน เคยผ่าตัดครั้งนึงก็หายไปประมาณ3-4ปีเลยค่ะ แต่ัมันก็ยังกลับมาเป็นอีกทั้งทีรักษาความสะอาดมาก เพศสัมพันธ์ก็ไม่เคยมี ตอนนี้ก็กำลังเป็นอีกแล้วค่ะทรมานมาก หมอก็นัดผ่าตัดอีกประมาณว่าเมื่อวานไปเจาะหนองออกก็หายปวดและยุบลงนิดหน่อย คุณหมอบอกว่าถ้ามันโตอีกคราวนี้ต้องมาผ่าตัดเลาะออกอีก ตอนนี้กำลังดูอาการเพราะกินยาแก้อักเสบอยู่ แต่เพื่อนๆไม่ต้องกลัวหรอกนะค๊ะคุณหมอบอกว่าผู้หญิงทุกคนมีโอกาสที่จะเป็นทั้งนั้นเราก็รักษาความสะอาดเต็มที่กันทุกๆคนแล้วกันนะค๊ะ


โดย: แพน IP: 223.206.16.128 วันที่: 8 มิถุนายน 2555 เวลา:23:19:57 น.  

 
ขอเล่าประสบการณ์คร่าวๆ ก่อนนะคะ เป็นมาทั้งหมดจนถึงวันนี้ก็ 5 ครั้งแล้ว
....เป็นครั้งแรกตอนปี 2543....
เป็นครั้งที่สองปี 2544....
เป็นครั้งที่สามปี 2545....
เป็นครั้งที่สี่ปี 2554....
และครั้งล่าสุดปี 2555....
ประสบการณ์ในการเป็นแต่ละครั้งก็แตกต่างกันไปค่ะ และจะเข้ามาเล่าประสบการณ์ที่สุดแสนจะทรมานนี้ให้ฟังอย่างละเอียดหลังจากที่หายจากรอบนี้นะคะ .....ปล. วันนี้ไปหาหมอแต่หมอไม่เปิดคลินิก___เฮ้ยยยยยยทรมานจริงๆเลย รอวันจันทร์ค่อยไปหาหมออีกที ขอให้เจอหมอด้วยน๊า......สาธุ๊ สาธู๊วววววววววว


โดย: เข้ามาอ่าน IP: 1.2.153.174 วันที่: 22 กรกฎาคม 2555 เวลา:1:52:11 น.  

 
2วันก่อนไปผ่าตัดมาครั้งแรกในชีวิต ปวดมากค่ะ
เราเริ่มมีอาการเมื่อ 2อาทิตย์์ก่อน เพราะเริ่มแรกมันเป็นกลม นู้นๆที่ช่องคลอด รู้สึกว่าร่างกายต้องผิดปกติ ก้อเลยหาข้อมูลที่ //www.Google.com
เขียนตามอาการที่เป็นจนพบว่าตัวเองเป็นต่อมบาโธลิน ที่นี่ก้อทานยาปฏิชีวนะ ทานแช่น้ำอุ่นก้อยังไม่ดีขึ้น
จนปวดหน่วง บวมขึ้น จนสังเกตุว่าน่าจะเป็นหนองเพราะ จับๆแตะๆ มันข็งๆค่ะ ปวดร่วมด้วย แฟนเห็นว่าไม่ดีขึ้นเลยไปหาหมอ หมอเลยให้ผ่าวันนั้นเลย ทรมานมาก คุณผู้หญิงทั้งหลายควรจะดูแลตัวเองนะค่ะ ถ้าใครได้เป็นคึงผ่า ทรมานทีเดียว เหมือนกับดิฉัน
ดิฉันผ่าตัดแล้วคุณหมอให้ด่างทับทิมมามาผสมน้ำแช่ เพื่อที่แผลจะได้หายไว


โดย: แพรวพราว IP: 49.230.180.235 วันที่: 26 กรกฎาคม 2557 เวลา:14:51:58 น.  

 
เคยเป็นเหมือนกันค่ะ เป็นมาแล้ว 4 ครั้ง ตอนนี้ก็กำลังเป็นอยู่รอบที่ 5 ละ เซงจริงๆ
ขอเล่าประสบการณ์นะคะ ครั้งแรกไม่มีความรู้เลยเรื่องต่อมนี้ อยู่ดีดีปวดจิมิแคมข้างขวา จับลูบดูด้านในแคมเป็นแข็งเป็นไตๆ ยังไม่ได้สนใจคิดว่าเป็นเพราะนั่งกดทับนานๆเลยปวด ปรากฎว่าอีกวันต่อมาเริ่มบวมขึ้น และบวมขึ้นเรื่อยๆ จนหลายวันประมาน 3-4 วันได้แคมข้างขวาบวมฉึ่ง ลูกหรือสัมผัสเสียดสีกับกางเกงไม่ได้เลย เสียวและรู้สึกเจ็บมาก เริ่มกังวล จนกระทั่งมันปวดตึบๆตลอดเวลา นั่งไม่ได้ต้องนั่งตะแคงทำงาน เดินก็ปวดเพราะมันบวมถูกัน ทนไม่ไหวเลยไปหาหมอที่คลีนิกทิพาการแพทย์แถวตลาดห้วยขวางก่อน เพราะอายไม่กล้าไป รพ. ถึงคลีนิกพบคุณหมอผู้หญิงมีอายุแก่หน่อย หมอตรวจดูปุ๊บบอกว่าต้องกรีดเอาหนองออกเพราะเป็นหนองแล้ว บวมอักเสบเยอะด้วย ว่าแล้วก็โดนกรีดสดไป เจ็บจี๊ดเกินบรรยาย พอหมอบีบหนองออกให้จนหมดแล้วรู้สึกโล่งเลยค่ะเบาสบายเหมือนไม่ได้เป็นไรเลย อาการปวดตึบๆที่ทนมันมา 2-3 วันหายเป็นปลิดทิ้ง ได้ยาไปกิน 3-4 วันหายดีเลยค่ะ หลังจากนั้นก็กลัวจะเป็นอีกขนาดว่าไม่ยอมมีเซ็ก์ไปนานหลายเดือนเลย กลัวมากนึกว่าเกี่ยวกัน ผ่านไปไม่นานไม่ถึงปี เป็นอีกละ อีหรอบเดิมเลยรีบไปหาหมอก่อน รอบสองนี้รอดกินยาแล้วยุบไปเองไม่ทันเป็นหนอง ส่วนรอบที่ 3 ก็ห่างจากครั้งที่ 2 ไปนานเหมือนกันเกือบปี มันมาอีกแล้วทีนี้ยากินแล้วเอาไม่อยู่ มาหาหมออีกโดนเจาะดูดหนองออก กินยาแล้วก็หาย ยังดีไม่โดนกรีด กลัวสุดๆ เราว่าเจาะยังดีกว่าโดนกรีดนะ ยังพอทนเจ็บได้ เจ็บแป็บเดียวตอนลงเข็ม ก็ผ่านพ้นไป นึกว่าจะหายขาดละเพราะระวังตัวมากขึ้น ไม่วายบวมครั้งที่ 4 ก็มา เหมือนรอบที่ 3 เลย โดนเจาะไปตามระเบียบ พอครั้งนี้รอบที่ 5 ห่างจากรอบที่ 4 มา 2 ปีกว่าได้ มาอีกแล้วหลังตกขาวบวมเป็นไตมาเลย 2 วันเท่านั้นเป็นหนองแล้ว เร็วมาก ก็มาหาหมอที่คลีนิกขอให้หมอเจาะตามเดิม โดนเจาะไป 2 ที ฉีดยาฆ่าเชื้อไป 3 เข็มก้นระบมกันไป ก็ยุบหายไปเยอะเลย ขอภาวนาว่าอย่าได้เป็นอีกเลย สยองกับเข็มในพื้นที่อันบอบบางแล้ว ยังไงก็ยังดีใจที่ไม่ได้โดนกรีดเพราะคงทรมานกว่านี้อีก เป็นกำลังใจให้คนที่เป็นอยู่สู้ๆนะคะ อย่าได้กลัวหมอ พอเริ่มมีอาการรีบปรึกษาแพทย์เลยค่ะ มันอายแาจต้องเจ็บตัวหนักค่ะ


โดย: วาวา IP: 27.55.148.78 วันที่: 3 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:42:12 น.  

 
เคยเป็นเหมือนกันค่ะ เป็นมาแล้ว 4 ครั้ง ตอนนี้ก็กำลังเป็นอยู่รอบที่ 5 ละ เซงจริงๆ
ขอเล่าประสบการณ์นะคะ ครั้งแรกไม่มีความรู้เลยเรื่องต่อมนี้ อยู่ดีดีปวดจิมิแคมข้างขวา จับลูบดูด้านในแคมเป็นแข็งเป็นไตๆ ยังไม่ได้สนใจคิดว่าเป็นเพราะนั่งกดทับนานๆเลยปวด ปรากฎว่าอีกวันต่อมาเริ่มบวมขึ้น และบวมขึ้นเรื่อยๆ จนหลายวันประมาน 3-4 วันได้แคมข้างขวาบวมฉึ่ง ลูกหรือสัมผัสเสียดสีกับกางเกงไม่ได้เลย เสียวและรู้สึกเจ็บมาก เริ่มกังวล จนกระทั่งมันปวดตึบๆตลอดเวลา นั่งไม่ได้ต้องนั่งตะแคงทำงาน เดินก็ปวดเพราะมันบวมถูกัน ทนไม่ไหวเลยไปหาหมอที่คลีนิกทิพาการแพทย์แถวตลาดห้วยขวางก่อน เพราะอายไม่กล้าไป รพ. ถึงคลีนิกพบคุณหมอผู้หญิงมีอายุแก่หน่อย หมอตรวจดูปุ๊บบอกว่าต้องกรีดเอาหนองออกเพราะเป็นหนองแล้ว บวมอักเสบเยอะด้วย ว่าแล้วก็โดนกรีดสดไป เจ็บจี๊ดเกินบรรยาย พอหมอบีบหนองออกให้จนหมดแล้วรู้สึกโล่งเลยค่ะเบาสบายเหมือนไม่ได้เป็นไรเลย อาการปวดตึบๆที่ทนมันมา 2-3 วันหายเป็นปลิดทิ้ง ได้ยาไปกิน 3-4 วันหายดีเลยค่ะ หลังจากนั้นก็กลัวจะเป็นอีกขนาดว่าไม่ยอมมีเซ็ก์ไปนานหลายเดือนเลย กลัวมากนึกว่าเกี่ยวกัน ผ่านไปไม่นานไม่ถึงปี เป็นอีกละ อีหรอบเดิมเลยรีบไปหาหมอก่อน รอบสองนี้รอดกินยาแล้วยุบไปเองไม่ทันเป็นหนอง ส่วนรอบที่ 3 ก็ห่างจากครั้งที่ 2 ไปนานเหมือนกันเกือบปี มันมาอีกแล้วทีนี้ยากินแล้วเอาไม่อยู่ มาหาหมออีกโดนเจาะดูดหนองออก กินยาแล้วก็หาย ยังดีไม่โดนกรีด กลัวสุดๆ เราว่าเจาะยังดีกว่าโดนกรีดนะ ยังพอทนเจ็บได้ เจ็บแป็บเดียวตอนลงเข็ม ก็ผ่านพ้นไป นึกว่าจะหายขาดละเพราะระวังตัวมากขึ้น ไม่วายบวมครั้งที่ 4 ก็มา เหมือนรอบที่ 3 เลย โดนเจาะไปตามระเบียบ พอครั้งนี้รอบที่ 5 ห่างจากรอบที่ 4 มา 2 ปีกว่าได้ มาอีกแล้วหลังตกขาวบวมเป็นไตมาเลย 2 วันเท่านั้นเป็นหนองแล้ว เร็วมาก ก็มาหาหมอที่คลีนิกขอให้หมอเจาะตามเดิม โดนเจาะไป 2 ที ฉีดยาฆ่าเชื้อไป 3 เข็มก้นระบมกันไป ก็ยุบหายไปเยอะเลย ขอภาวนาว่าอย่าได้เป็นอีกเลย สยองกับเข็มในพื้นที่อันบอบบางแล้ว ยังไงก็ยังดีใจที่ไม่ได้โดนกรีดเพราะคงทรมานกว่านี้อีก เป็นกำลังใจให้คนที่เป็นอยู่สู้ๆนะคะ อย่าได้กลัวหมอ พอเริ่มมีอาการรีบปรึกษาแพทย์เลยค่ะ มันอายแาจต้องเจ็บตัวหนักค่ะ


โดย: วาวา IP: 27.55.148.78 วันที่: 3 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:42:56 น.  

 
วันนี้เพิ่งผ่ามาค่ะ
เจ็บมาก
ผ่าเสร็จยังไม่หยุดร้องเลย
ขอเรายังไม่เป็นหนองค่ะ หมอบอกเป็นน้ำใส
ขออย่าให้เป็นเลยค่ะ
มันเจ็บมากจริงๆ


โดย: เจ็บจริง IP: 124.120.44.208 วันที่: 6 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:07:08 น.  

 
เราก็เป็นเหมือนกันค่ะพึ่งไปกรีดมาวันนี้เองยาชาหมดฤทธิ์ก้เริ่มปวดได้ใจเลยละค่ะ ตัวเองเริ่มเป็นวันอาทิตย์ตอนเย็นหลังจากถ่ายท้องมา3ครั้งๆที่3รุ้สึกปวดถ่วงปวดตุ๊บๆก้แปลกใจเราเป็นอะไรก้เลยจัดการคลำบริเวณที่ปวดดูค่ะด้านซ้ายของแคมใหญ่ค่อนมาทางใกล้ทวาร โอ้แม่เจ้ามันเป็นก้อนใหญ่มากค่ะจากที่ไม่เคยมีก้อนแบบนี้ตรงบริเวณนี้เลยเราก้ทำความสะอาด รักษาความสะอาดเป็นอย่างดีตลอด ไอ้เราก้นึกว่าเป็นริดสีดวงที่อักเสบด้านใน ซึ่งมันปวดมากมาย บ่ายอีกวันก้ไปหาหมอๆบอกเป็นบาโธลีนอุดตันเราก้คิดว่าเป็นไปไม่ได้ จนได้กินยาอาการปวดลดลง วันที่5หมอนัดตรวจเรารุ้สึกก้อนมันเล็กลงแต่ก้ประมาณ4-5cm หมอใช้เข็มเจาะและดูดหนองออกมาแต่ปรากฎว่าไม่ใช่หนองค่ะ กลับเป็นเลือดหนืดๆเลือดเสียเก่าๆที่ค้างนานแล้ว หมอก้ถามไปกระแทกอะไรมาหรือเเปล่า เราก้จำไม่ได้ หมอก้เลยต้องกรีดๆด้านในช่องคลอดค่ะ แม่เจ้าปรากฎว่ามีเลือดทั้งนั้นที่ไหลออกมาไม่มีหนองไรเลยค่ะ และยังมีแข็งๆยุ่ด้านในคล้ายฝีที่ยังไม่สุกแต่กดไปกดมากลับเปนก้อนเลือดแข็งๆที่ค้างยู่ด้านใน มันไม่ยอมออกค่ะ ผุบๆโผล่ๆ2มือกดไม่ออกต้องใช้4มือช่วยกันกดลงน้ำหนักแบบสุดแรงเกิดกันเลยค่ะก้ออกมาเป็นก้อนแข็งๆพี่พยาบาลบอกว่าอีกไม่นานคงจะเป็นหินก้พูดเล่นกันไปอ่าค่ะแต่ก้ออกไม่หมดนะคะเลยต้องออกแรงกันอีกรอบ เย็บไป4เข็มและก้ไม่ได้เย็บหมดนะคะปล่อยให้มีช่องว่างไว้สำหรับเดรนของที่คั่งค้างออก ไหมละลาย เราคิดว่าไม่มีใครคล้ายกับกรณีเราก้เลยเอามาแชร์ ให้เพื่อนๆฟังกัน แต่ประเด็นสำคัญมันยู่ตรงนี้ค่ะ อีกประมาณ1เดือนแฟนที่ไม่เจอกันนานมากจะมาเมืองไทย เราเองก็เตรียมตัวที่จะเจอเขาแต่กลับมาเกิดเรื่องนี้ซะก่อนเลยไม่รุ้จะหายทันมั้ย ซึ่งเราต้องเตรียมตัวไว้ก่อนเผื่อมันอาจถึงขั้นที่ต้องเกินเลย อิอิ เราจะได้ระวัง ก้อยากถามคนที่มีประสบการณ์ค่ะ ว่า ถ้าไหมมันจะหลุดต้องใช้เวลานานแค่ไหนคะ และนานแค่ไหนถึงจะมีSexได้. อยากรู้มากเลยค่ะใครที่เคยผ่าไปหลายๆครั้งแล้วช่วยตอบให้หน่อยนะคะอยากรุ้มากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ


โดย: Jun IP: 27.55.138.14 วันที่: 15 สิงหาคม 2558 เวลา:1:22:37 น.  

 
เราก็เปน ทรมาณสุดๆ เราปล่อยมันแตกเอง หลายเดือนนะกว่ามันจะออกมา


โดย: aa IP: 115.31.161.226 วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:8:52:42 น.  

 

แคมเราเป็นไตแข็งๆ และมีอาการอักเสบเหมือนจะเป็นฝีหรือหนองนี่แหละ

เราใส่แผ่นอนามัยแบบชิ้นเล็กทุกวัน และชอบกินของทอดประจำ

พอเกิดอาการแบบนี้ เราเลยหักดิบ เลิกใส่แผ่นอนามัยและกางเกงชั้นในไปในวันที่เกิดอาการระบมมากๆไปเลย (ไม่ใส่เลยทั้งกลางวันกลางคืน ใส่กระโปรงหรือกางเกงแบบการเกงชาวเขาที่เป้ายานๆผ้าบางๆแต่ไม่เห็นเนื้อใน)

และรักษาตัวเองด้วยการทำดีท๊อกผสมน้ำมะนาวทุกวัน และกินอาหารฤทธิ์เย็นแบบหมอเขียว เรากินลูกเดือยต้มแทนข้าว และผักฤทธิ์เย็นสดๆ ที่เราพอหาได้แถวบ้านเมืองที่เราอยู่ (เราไม่ได้อยู่เมืองไทยสมุนไพรฤทธิ์เย็นมีไม่มาก) น้ำสปิแนชปั่นตอนเช้า ผักสลัดแก้ว พวกแตงกินสดๆเลย ผลไม้ก็กินมะม่วงดิบ งดเนื้อ ทุกชนิด ไข่ นม ก็ไม่กิน กินน้ำเต้าหู้ กินถั่วเขียวต้มน้ำตาล และก็กินเต้าหู้นิ่มต้ม

หลังทำดีท้อกเราทำความสะอาดช่วงล่างด้วยเดอมาพอนด์แบบเจือจาง ผสมน้ำในกะละมังเล็กๆแล้วตักล้าง และตามด้วยน้ำเปล่า สุดท้ายก้อผสมน้ำอุ่นน้อยๆลงกะละมังเล็กแล้วลงไปนั่งแช่ (ขายันยองๆอยู่นอกกะละมังนะ อย่าทิ้งทั้งตัว กะละมังเราแตกไปใบนึงละ) ประมาณ 1 นาที จะรู้สึกสบายตัวมากเลย

พักผ่อนอยู่บ้านรักษาตัว สามวันอาการหายไปเลย ที่เป็นไตๆ ก็ไม่เหลืออีกเลยกลายเป็นเนื้อนิ่มๆแทน

ในสามวันนี้เราทำดีท๊อกทุกวัน ดื่มน้ำผักปั่นตอนเช้า และกินแต่อาหารฤทธิ์เย็นทั้งวัน วันนึงกินนิดเดียวเอง กินลูกเดือยมันอยู่ท้อง

เราเคยอ่านเจอแต่หาลิงค์บทความนั้นไม่เจอแล้ว หมอเขียวบอกว่าอาการด้านจนดำและเป็นเนื้อแข็ง อาการเป็นฝี เกิดจากภาวะร้อนเกิน ต้องปรับสมดุลย์ร่างกายถอนพิษร้อนออกก่อนโดยการกินอาหารฤทธิ์เย็นและเอาพิษออกด้วยการดีท๊อกด้วยสมุนไพรฤทธิ์เย็น พออาการดีขึ้นค่อยกลับมากินอาหารฤทธิ์เย็นและร้อนผสมกันให้สมดุลย์ต่อไป

เราเคยอ่านเจอคนที่เป็นแบบนี้แล้วไปผ่า เค้าก็ต้องไปผ่าซ้ำอีกเรื่อยๆ เราไม่อยากไปแบบนั้น เลยลองทำแบบหมอเขียวดู เพราะไปอ่านเจอผู้หญิงคนนึงเล่าให้ฟังว่าเป็นฝีที่ก้นและกินอาหารฤทธิ์เย็นแบบหมอเขียวแล้วหาย เราเลยลองทำบ้าง ผลเป็นที่น่าพอใจค่ะ

ใครสนใจอาหารฤทธิ์เย็นหรือการปรับสมดุลย์ร่างกายเพิ่มเติม ลองกูเกิ้ลหา หมอเขียว (ใจเพชร กล้าจน ) มีหลายเรื่องที่น่าสนใจค่ะ


โดย: เม IP: 192.95.30.51 วันที่: 6 สิงหาคม 2559 เวลา:22:37:50 น.  

 
รบกวนถามคนที่เป็น ไม่ทราบว่ามีใครเป็นแล้วไม่กลับมาเป็นอีกมั้ยคะ รักษายังงัย เพราะตอนนี้เป็นอยู่ ไม่อยากเป็นอีกเลย


โดย: มูมู้ 09 IP: 27.55.38.149 วันที่: 6 ธันวาคม 2559 เวลา:18:19:03 น.  

 
เราเข้ามาอ่านเพราะกำลังเป็นอยู่ค่ะ ตอนนี้เป็นก้อนนูนเล็กๆ เท่า เม็ดองุ่น ที่แคมข้างขวา แต่ไม่เจ็บเลยค่ะ เป็นได้หนึ่งอาทิตย์เพิ่งไปหาหมอ จะหาวิธีทำให้มันยุบ แต่หมอแนะนำให้ผ่าเลยค่ะ เราเพิ่งเป็นครั้งแรก และเป็นแค่ถุงน้ำ ทำงัยดีคะ ถ้าผ่าออกไปเลย ต้องพักฟื้นประมาณกี่วันคะ


โดย: Unbelievable IP: 58.8.154.9 วันที่: 19 มิถุนายน 2560 เวลา:17:53:55 น.  

 
เดียวนิ้เราก็เป็นเจ็บมากเลย ใส่ยาไรก็ไม่ดีขื้นเลยต้องทำไงดีค่ะ ปวดมาก...เลย


โดย: หน่า IP: 188.165.201.164 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:15:54:40 น.  

 
ประสบการณ์จริงตรงๆจากคนเป็นแล้วพึงออกจากการผ่าสดๆ การผ่าไม่เจ็บเท่าล้างแผลเลย ของเราเขาฉีดบล็อกหลังให้เลยชาไปครึ่งตัวช่วงล้างแต่ต้อนผ่าคือเขามีผ้าปิดไม่ให้เห็นหน้าหมอแต่ด้านบนที่เป็นเหล็กมันทำให้มองเห็นทุกการกระทำของหมอเลยค่ะ เราก็นอนดูเพราะมันไม่เจ็บแต่มันหนาวมากกว่าสั่นคนหนาว ผ่าเสร็จก็มานอนพักฝืนตัว 1 ชม. มานอนที่ห้องพักอีก 1 ชม. ถึงจะกินไรได้ ต้องอดอาหารก่อนเข้าผ่าตัดอีก (ที่หมอให้บล็อกหลังเพราะเราท้อง7เดือนอยู่) พอผ่านไปเช้าของวันต่อมาเขาก็จะล้างแผล บอกตรงนี้เลยว่าเขาให้กินแค่ยาพาลาและต้อนเขาล้างแผลเขาเอาแฮกกอฮอล้าง เขาก็จะเอาผ้าไรสักอย่างที่ยัดไว้ต้อนผ่าออกมาแล้วเอาอันใหม่ยัดเข้าแถนจะต้อนเอาออกเอาเข้าเจ็บแสบมากจนร้องไห้ทุกครั้ง นี้ล้้างมา 2 ครั้งแล้ว พน.ก็ต้องล้างอีก และรอดูว่าหมอจะให้กลับบ้านใหมทางเราอยากกลับมากทเพราะทางที่บ้านอยากให้กลับแล้วสัตว์เลี้ยงก็ร้องไม่ยอมกินอาหารกัน เราก็สงสารด้วยเพราะแฟนก็ต้องค่อนดูแลสัตว์เลี้ยงพวกนั้นแทนเราแถมร้องไม่ยอมกินซึมกันไป


โดย: ของกิน IP: 1.47.210.173 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:21:36:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อลิซ ในดินแดนไม่มหัศจรรย์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




การเป็นผู้ให้ ย่อมสุขใจกว่าการเป็นผู้รับ : )
Friends' blogs
[Add อลิซ ในดินแดนไม่มหัศจรรย์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.