Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2559
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
15 พฤศจิกายน 2559
 
All Blogs
 
โมนผจญโลก









15 พฤศจิกายน 2559










“โมนผจญโลก” ที่ผมอ่านในวันนี้เป็นหนังสือที่แปลมาจากภาษาฝรั่งเศสที่มีชื่อเรื่องว่า Le Grand Meaulnes ซึ่งเขียนโดย อาแล็ง ฟูร์นิเยร์ โดยแปลเป็นภาษาไทยตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว โดยวรรณี จันทราทิพย์ (แปลไว้ในปี 2508 โดยสำนักพิมพ์สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย) หน้าปกของเล่มที่ผมอ่านนี้มีเขียนไว้ว่า เรื่องนี้เป็นวรรณกรรมคลาสสิคสมัยใหม่ นวนิยายแห่งความเงียบ เป็นวรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ “แบบถ่อมตัว”

สำหรับเรื่อง “โมนผจญโลก” นี้เป็นนวนิยายที่เขียนซึ่งก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดเพียงแค่ปีเดียว เรื่องราวในเรื่องเกิดขึ้นที่หมู่บ้านโซโลญในชนบทแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปี โดยเรื่องเกิดขึ้นในวิทยาลัยการศึกษาชั้นสูงแห่งแซงตากาท ผู้เล่าเรื่องคือเด็กชายอายุ 15 ปี นามว่า ฟรังซัวส์ เซอแรล ผู้เป็นบุตรชายของคุณครูเจ้าของวิทยาลัยแห่งนั้น ฟรังซัวส์เด็กชายผู้ใช้ชีวิตเงียบง่ายอยู่แต่ภายในวิทยาลัย เมื่อเขาได้พบกับ โอกุสแต็ง โมน เพื่อนใหม่วัย 17 ปี ผู้ที่เข้ามาเรียนในวิทยาลัยนี้แห่งแบบอยู่โรงเรียนกินนอน ชีวิตของฟรังซัวส์จึงรู้สึกมีความหมายขึ้นมาในทันที หลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่จึงได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องการผจญภัยด้วยกันเมื่อ โอกุสแต๊ง โมน หายออกจากวิทยาลัยไป 3 วัน และเมื่อเขากลับมาจึงมีเรื่องราวการผจญภัยในโลกภายนอกมาเล่าในฟรังซัวส์ได้ฟัง ซึ่งประเด็นหลักๆ ของการผจญโลกในครั้งนี้คือโมนได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งและได้ตกหลุมรักเธอคนนั้นในทันที



“ในนวนิยาย ฟรังซัวส์เล่าด้วยความซาบซึ่งและเจ็บปวดรวดร้าวถึง “การผจญภัย” ของโมน การผจญภัยที่นำโมนได้ไปเจอกับความรัก เป็นความรักที่มีต่อหญิงสาวที่ได้เห็นชั่วขณะหนึ่ง ครั้นแล้วก็ลับหายไป ออกค้นหาและค้นพบแล้วแต่ก็ต้องสูญเสียไปใหม่ ทางเดินแห่งความรักเป็นทางเดินของเด็กรุ่นหนุ่มสองคน .... นวนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องความผิดหวังในเรื่องความรักของบุคคลสองคน บุคคลที่เป็นฝ่ายดูอยู่เงียบๆ เป็นฝ่ายที่เศร้าที่สุด เป็นความล้มเหลวของการผจญภัยทั้งหมด”
(จากคำแปลคำนำ)




จากในคำนำข้างต้นที่ผมยกมานี้ก็น่าจะพอเห็นภาพคร่าวๆ ออกแล้วว่านวนิยายเรื่องนี้มีลักษณะใด จริงๆ แล้วคำนำบอกว่าเรื่องนี้แบ่งออกเป็นสองภาคคือภาคของฟรังซัวส์ เซอแรล และโอกุสแต็ง โมน ซึ่งวิธีแบ่งนั้นใช้มุมมองในการเล่าที่เปลี่ยนไป คือมีการเปลี่ยนพ้อยออฟวิว (Pov.) สลับไปมา โดยการเล่าเรื่องหลักเป็นการเล่าแบบมุมมองบุรุษที่ 1 คือ ฟรังซัวส์เป็นคนเล่า โดยเขาเล่าเรื่องราวปูพื้นมาก่อนจนกระทั่งได้เจอกับโมนที่เป็นเพื่อนใหม่ และเล่าต่อไปเรื่อยจนกระทั่งไปถึงช่วงที่เป็นการผจญภัยของโมน ซึ่งโมนออกไปผจญภัยคนเดียวฟรังซัวส์ไม่ได้ไปด้วย ดังนั้นวิธีการเล่าในช่วงผญภัยนี้ต้องเปลี่ยนเป็นการเล่าแบบมุมมองของพระเจ้า ที่เห็นได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ถือว่านวนิยายเรื่องนี้มีลักษณะการเขียนที่น่าจะแปลกใหม่มากในสมัยนั้น โดยเรื่องนี้เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1913 (พ.ศ. 2456)

นวนิยายเรื่อง “โมนผจญโลก” นี้สำหรับผมถือว่าเป็นเรื่องที่อ่านง่าย คือสามารถอ่านได้รู้เรื่องตามคำบรรยายทั้งหมด แต่ว่าผมอ่านในตอนแรกก็งงๆ อยู่นิด เพราะว่าเรื่องราวเล่าสลับข้ามตอนไปมา ซึ่งเป็นวิธีการเล่าเรื่องแบบการหลบซ่อนประเด็น เพื่อให้ผู้อ่านนำเหตุการณ์ต่างๆ ในเรื่องไปประติดประต่อกันเองในตอนท้ายๆ ซึ่งในตอนท้ายสุดของเรื่องผมอ่านแล้วรู้สึกว่ามีพลังมาก เพราะเป็นการสรุปเฉลยเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ผมอ่านแล้วตาสว่างได้ในตอนจบของเรื่อง ถือว่านวนิยายเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจมาก น่าศึกษาสำหรับนำไปใช้ในการประพันธ์มากเลยด้วย

เรื่องราวทั้งหมดดูแล้วเหมือนว่าจะมีอะไร แค่เป็นเรื่องรักใคร่ของคนหนุ่มในช่วงเปลี่ยนผ่านวัย ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างวัยเด็กกับวัยผู้ใหญ่ แต่ผมคิดว่าเรื่องราวในช่วงชีวิตนี้น่าจะมีความหมายกับทุกคน และเชื่อว่าทุกคนน่าจะจดจำเรื่องราวในช่วงวัยนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นที่บอกว่าไม่มีอะไรแค่เป็นความรักแบบเด็กๆ นั้น จริงๆ แล้วความรักดังกล่าวนี้มีความหมายสำหรับตัวละครเป็นอย่างมาก ในเรื่องผมอ่านแล้วรู้สึกว่าฟรังซัวส์แอบหลงรักหญิงสาวของโมน ซึ่งในเรื่องไม่ได้มีบอกไว้แต่ผมอ่านแล้วรู้สึกได้ ดังนั้นนอกจากเรื่องราวของความรักแล้วยังมีเรื่องของมิตรภาพและความผูกพันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับจิตใจของคน เป็นเรื่องของความรู้สึกอันละเอียดอ่อนที่อยู่ในใจเป็นหลัก



“ สาระสำคัญของเรื่อง Le Grand Meaulnes อยู่ที่ความเข้าใจอันลึกซึ้งของผู้แต่งที่มีต่อเด็กวัยรุ่น และปัญหาที่เขาต้องเผชิญ การต่อสู้เพื่อตั้งตนและจิตใจให้เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง สามารถดำรงชีวิตอยู่ในโลกอย่างเพียบพร้อมด้วยความรอบรู้และคุณธรรมความดีงาม มิตรภาพอันอบอุ่นและซื่อสัตย์ซึ่งฟรังซัวส์หยิบยื่นให้โมนเป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง และความจริงใจ ความเก่งกล้สามารถของโมน บุคลิกลักษณะที่เหมาะในการเป็นผู้นำของเขา น่าจะเป็นความบันดาลใจสำหรับเยาวชนทั่วไป”
(จาก บันทึกของผู้แปล)




ในวัยเด็กผมมีเพื่อนมากน้อยขนาดไหน? ในวัยเด็กผมมีเพื่อนสนิทสักอีกคน? ในวัยเด็กผมเคยชื่นชมเพื่อนคนไหนบ้างไหม? คำถามพวกนี้เกิดขึ้นในใจของผมทันทีที่ผมอ่านเรื่อง “โมนผจญโลก” จบลง อาจจะไม่ถึงกับโหยหาอดีตอย่างแรง แต่ก็ทำให้ผมนึกถึงภาพในอดีตบางอย่าง เหมือนมีประกายไฟแว็บเล็กๆ ขึ้นในสมองของผม ทำให้ผมต้องหุกคิดถึงอะไรบางอย่างที่เป็นเรื่องมิตรภาพของผู้ชาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้หญิงไม่อาจจะเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง แต่ถ้าผู้หญิงท่านใดอยากจะทราบถึงเรื่องราวของมิตรภาพของพวกผู้ชาย ,  สัญญาใจระหว่างพวกผู้ชาย ,  ความลับอันเก็บซ่อนที่พวกผู้ชายไม่เคยเปิดเผย ฯลฯ  ท่านก็น่าจะหาเรื่องนี้มาลองอ่านดูนะครับ เรื่องนี้ไม่หนักเกินไป เดินเรื่องแบบเบาๆ เงียบๆ แต่ตอนจบมีพลังอันยิ่งใหญ่กระแทกใจคนอ่านโดยเฉพาะท่านที่นักอ่านผู้ชายเช่นเดียวกับผม เพราะความจริงที่นำเสนอนั้นเป็นเรื่องของจิตใจมนุษย์ล้วนๆ สมแล้วกับการที่เป็นหนังสือคลาสสิคตลอดกาลเล่มหนึ่งเลย

สำหรับ “โมนผจญโลก” เล่มที่ยู่ในมือของผมนี้ เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 ตุลาคม 2558 จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ทับหนังสือ โดยคุณสุเมธ สุวิทยะเสถียร เป็นฉบับปกแข็ง ความหนา 292 หน้า ราคาปก 350 บาท ท่านใดสนใจก็ลองไปหามาอ่านกันดูนะครับ





ช่วงนี้ผมพยายามจะอ่านหนังสือให้เยอะขึ้น โดยเพยายามลดเวลาเข้าเน็ตให้น้อยลง เข้าเฟสเล่นไลน์ให้น้อยลงหน่อย เพื่อเอาเวลามาอ่านหนังสือให้มากขึ้นครับ ดังนั้นถ้าช่วงนี้ผมหายไปยังไม่ได้ตามกลับไปคอมเม้นท์ให้เพื่อนๆ ก็แสดงว่าผมกำลังอ่านหนังสืออยู่ครับ ถ้าผมอ่านหนังสือจบแล้วผมตามกลับไปเยี่ยมชมบล็อกของท่านแน่ครับ


ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือนะครับ





Create Date : 15 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2559 10:55:31 น. 18 comments
Counter : 2025 Pageviews.

 
มาเจิมให้เลยค่ะ ฐานเปลี่ยนฟอนท์ให้ใหญ่ขึ้นเพื่อพี่ภาโดยเฉพาะ
ความจริงตัวเท่านี้เหมาะกับทุกคนนะคะ แม้ว่าเราจะสามารถปรับ
ได้เองก็ตาม จะได้ไม่ต้องห่วงปรับเองค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ข้ามขอบฟ้า Music Blog ดู Blog
ไอเอิร์ธ Cartoon Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Funniest Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog

ฝากกำลังใจไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวกลับมาอ่านค่ะ
เห็นที่เฟซก็เลยวิ่งมาก่อน กำลังเตรียมอาหาร
กลางวันเพื่อสองคนตายาย



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2559 เวลา:11:31:54 น.  

 
เห็นด้วยกับพี่ภา พรุ่งนี้มาส่งคะแนนบล็อกนี้นะ



โดย: หอมกร วันที่: 15 พฤศจิกายน 2559 เวลา:12:26:13 น.  

 
อาคุงกล่อง Book Blog

สวัสดีค่ะ แวะมาดูคุณกล่องแนะนำหนังสือค่ะ ส่งกำลังใจให่ค่ะ


โดย: kae+aoe วันที่: 15 พฤศจิกายน 2559 เวลา:12:56:49 น.  

 
โหวต book blog ครับ

พี่อาคุงอ่านวรรณกรรมคลาสสิกด้วย
ผมอ่านแล้วไม่ค่อยรู้เรื่องครับ
ยอมแพ้เลยสำหรับแนวนิยาย

ชิมิ ผมก็ทันนะครับพี่ 555

แต่เด็กยุคนี้เล่น Siri กันหมดแล้ว
ผมเองก็ยังเล่นไม่เป็นครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2559 เวลา:13:43:49 น.  

 
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สงสัยกำลังอ่านหนังสือ หรือกำลังหลับ 555

ไม่เป็นไร...ว่างจากงานก็อ่านหนังสือ ส่วนผมเหรอ งีบซะหน่อย
ก็สบายแล้ว..


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2559 เวลา:15:19:58 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่อาคุงกล่อง



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤศจิกายน 2559 เวลา:6:27:35 น.  

 

อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog




โดย: หอมกร วันที่: 16 พฤศจิกายน 2559 เวลา:8:19:50 น.  

 
สวัสดีค่ะ

โหวตให้ Book Blog ค่ะ

มีพิมพ์ผิดนะคะ หุกคิด อยู่ตรงไหนจำไม่ได้ล่ะ เพราะก๊อปปี้ข้อความไม่ได้ แต่ตอนอ่านเข้าใจว่าน่าจะฉุกคิด

จากรีวิว แนวนี้ไม่ใช่แนวที่เราอ่านเลยค่ะ

แต่รีวิวก็สนุกดีนะคะ ถามถึงเพื่อนวัยเด็กรึคะ ควานหาความทรงจำแป๊ป แล้วก็พบว่าแทบไม่มีอะไรเลย มัธยมยังพอนึกออกแต่มันก็ไม่ค่อยมีอะไรในความทรงจำ ถ้าประถมนี่พอเลือนๆ ถ้าอนุบาลนี่จอดำกันเลยทีเดียว

ปล.หายไปอ่านหนังสือหรือคะ ขยันจังส่วนเราปล่อยให้หนังสืออ่านมานานหลายปีแล้ว


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 16 พฤศจิกายน 2559 เวลา:11:37:54 น.  

 
สวัสดีค่ะอาคุงกล่อง

ไว้ค่อยเจอกันนะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไอเอิร์ธ Cartoon Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Art Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
Tui Laksi Sports Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
พันคม Literature Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2559 เวลา:12:49:29 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับพี่

ผมรีบมองหาภาพที่พี่ว่าก่อนเลยครับ 555
เจอแล้ว
โห...พี่อาคุงตั้งใจดูมากจริงๆครับ
เห็นรายละเอียดตรงนั้นด้วย

ภาพนี้ของจริงใหญ่มากครับ
เกือบ 4-5 เมตรเลย

มีบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายในประวัติศาสตร์ไทยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤศจิกายน 2559 เวลา:22:27:39 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่อาคุงกล่อง



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 พฤศจิกายน 2559 เวลา:6:51:03 น.  

 
จริงๆแล้วคำว่า ผจญโลก ก็ไม่ใช่เรื่องไกล
หรือจะหยิบแรงจูงใจ ที่ยิ่งใหญ่ มาตั้งโจทย์นะคะ
อาจเป็นสิ่งที่ชักชวนให้เราหันเห ลองเดินออกไปจากทางเดิม
ไม่ว่าจะไกล หรือเพียงชั่วขณะ การพบโลกใหม่ หรือประสบการณ์ ที่
ผิดต่างไปจากโลกใบเดิม ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ

-- เดี๋ยวแวะไปดูบล็อกเก่า แมวบ๊อบ เล่ม 2 อ่ะค้าบบ
-- ส่วนแมวบ้านโน้น น้องกิฟท์ เอ๊ยย ปลาโอ มันกินจุ มาก !
เลยคิดเล่นๆว่าเจ้าของเก่า เขาเอาแอบมาปล่อยหน้าบ้าน
ก็เพราะสาเหตุนี้รึปล่าวนะ ???
ฟ้าเลยลองแต่งเรื่อง สมมุติ ต่อซะเลย 555

+


โดย: กาบริเอล วันที่: 17 พฤศจิกายน 2559 เวลา:9:27:18 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
mambymam Music Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ปลาแห้งนอกกรอบ Travel Blog ดู Blog
Tui Laksi Sports Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
ขุนเพชรขุนราม Technology Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

พบแล้ว สูญเสียนี่เศร้ามากเลยค่ะพี่กล่อง


โดย: Close To Heaven วันที่: 17 พฤศจิกายน 2559 เวลา:9:29:47 น.  

 
ขอบคุณค่ะ

ว่าแต่ดาวพระศุกร์เรื่องเดียวหรือคะ

แซวเล่นค่ะ


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 17 พฤศจิกายน 2559 เวลา:11:07:22 น.  

 
ที่ รร. ไม่ได้ห้ามเด้กๆ ขายของค่ะ รร. เอกชน เคยให้ซีเอาของไปขายแต่ซีบอกว่า คุณครูสอนว่าให้แบ่งปันเพื่อนไม่ให้ขาย 5555 เลยไม่เคยได้ขายค่ะ มีครั้งนี้ที่เป้นกรณีพิเศษโบว์ดำ

ที่ รร. ผู้ปกครองขายของกันเยอะค่ะ อาหารนี่ขายดีสุด เย็นๆ ไม่ต้องทำอาหาร ซื้อที่เพื่อนๆผู้ปกครองได้เลย


โดย: kae+aoe วันที่: 17 พฤศจิกายน 2559 เวลา:11:14:37 น.  

 
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วต้องมานั่งถามตัวเอง จะว่าไปไม่เคยคิดย้อนกลับไปสมัยเด็กในแง่มุมนี้เลยเหมือนกันครับ

ป.ล. ผมก็กำลังพยายามหาเวลาอ่านหนังสือให้มากขึ้นเหมือนกัน คงต้องลดเวลาเล่นบล็อกให้น้อยลง จะได้มีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้น

อาคุงกล่อง Book Blog
+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2559 เวลา:23:06:20 น.  

 
เพิ่งจะได้กลับมาอ่าน คุณกล่องก็กลับมาใช้ฟอนต์เดิม
เสียแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ แค่ไม่พิมพ์จนตกหน้า
ก็ซูม 175 อ่านสบายแล้ว

นิยายที่เป็น flashback มากๆ แถมซ่อน climax ไว้ให้
คนอ่านรวบรวมเอาเอง ก็งงได้ง่ายมาก ต้องมีสมาธิใน
การอ่าน ซึ่งจะให้ดีก็ต้องอ่านรวดเดียวจบนะคะ

เดี๋ยวไปต่อหน้าหลักค่ะ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2559 เวลา:10:51:53 น.  

 
เคยไปเปิดๆดู แต่ยังไม่กล้าหยิบกล้าจ่าย กลัวเอามาดองครับ


โดย: leehua (สมาชิกหมายเลข 755059 ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2559 เวลา:13:52:29 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.