1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
บ้านเกิด
26 ตุลาคม 2559
นวนิยายเรื่อง บ้านเกิด ที่ผมอ่านในวันนี้เป็นผลงานของ สีฟ้า ซึ่งก็คือหม่อมหลวงศรีฟ้า (ลดาวัลย์) มหาวรรณ ที่แต่งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 แต่ว่าเนื้อหาในเรื่องราวยังมีความทันสมัยอยู่จนถึงปัจจุบัน สำหรับนักอ่านที่ชื่นชอบผลงานของนักเขียนท่านนี้ก็คงทราบดีว่าเมื่อเห็นชื่อ สีฟ้า แสดงว่านวนิยายเรื่องนี้เป็นนวนิยายรักแนวสะท้อนสังคมอย่างแน่ เมื่อผมอ่านนวนิยายเล่มนี้จบลงแล้วผมยอบรับว่านวนิยายเรื่อง บ้านเกิด นี้เป็นหนังสือที่ดีเล่มหนึ่งเลย ส่วนสาเหตุที่ผมคิดว่านวนิยายเรื่อง บ้านเกิด นี้ดี ก็เพราะว่าเมื่อผมกำลังอ่านนวนิยายเรื่องนี้ผมรู้ทันทีเลยว่านวนิยายกำลังสอนผมอยู่ ซึ่งเป็นการสอนในหลาย ๆ ด้าน สอนทั้งในแง่ของสังคม นวนิยายเรื่องนี้พยายามสร้างสรรค์สังคมที่ดีให้เกิดขึ้นในเมืองไทย , สอนในแง่ของการให้ความรู้ ในเรื่องนี้ก็มีเกร็ดความรู้หลายๆ อย่างแทรกอยู่ในเนื้อหาโดยตลอด , สอนในเรื่องการประพันธ์ ในนวนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีตัวละครเอกหลายตัว วิธีการเขียนดำเนินเรื่องเพื่อให้ความสำคัญแก่ตัวละครเอกทั้งหลายตัวนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เรียนด้านการประพันธ์ โดยรวมแล้วถือนวนิยายเรื่องนี้เป็นครูให้แก่ตัวผมได้เป็นอย่างดี พล็อตเรื่องหลักนั้นพูดถึงการกลับสู่บ้านเกิดและการให้อะไรแก่บ้านเกิด ท่านอาจจะเคยได้ยินปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ที่บอกว่าเป็นปัญหา สมองไหล ที่ในช่วงเวลาหนึ่งคนไทยที่มีโอกาสไปศึกษาต่อต่างประเทศแล้วก็ไม่ยอมกลับเมืองไทย อยู่ทำงานจนกลายเป็นพลเมืองของประเทศนั้น ๆ ไป ผมคิดว่าบางส่วนในเรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อพูดถึงปัญหาในประเด็นนี้ด้วย และอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจในเรื่องก็คือ การใช้ความรู้ทางการเกษตรที่ได้เรียนมาเพื่อทำให้กลายเป็นปราชญ์ทางเกษตร ที่เป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น ถึงแม้ว่าในเรื่องอาจจะไม่ได้ลงลึกเกี่ยวกับเรื่องนี้นัก แต่ก็สิ่งเป็นที่โยงเข้าได้กับหลักทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงที่กำลังเป็นที่สนใจอยู่ในเวลานี้ได้อย่างลงตัวพอดี ทั้งแม้ว่าในเรื่องจะไม่มีอ้างถึงหลักทฤษฎีนี้ก็ตาม เนื้อหาในเรื่องกล่าวถึงพี่น้องสี่คนที่กลับมาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย พี่ชาย 2 คนและน้องสาว 2 คนเป็นลูกของนักการฑูตที่ไปใช้ชีวิตเติบโตในประเทศทางตะวันตกตั้งแต่เล็กจนโต น้องสาวคนเล็กเกิดที่ต่างประเทศจึงมีความลักษณะความเป็นชาวตะวันตกอย่างเต็มเปี่ยม แต่พวกพี่ทั้งสามยังมีสำนึกในความเป็นไทยอยู่ เมื่อผู้เป็นแม่ตายพ่อของพวกเขาจึงนำพี่น้องทั้งสี่คนนี้กลับมาอยู่เมืองไทย โดยใช้อาศัยอยู่กับคุณป้าผู้เป็นพี่สาวของแม่ที่กรุงเทพฯ ในขณะที่พี่ชายคนโตสุด(พระเอก) เป็นคนที่คิดกลับมาใช้ชีวิตทำการเกษตรอยู่ที่เมืองไทยตั้งใจที่จะไปตั้งรกรากอยู่ที่บัวชุม(ต่างจังหวัด) ซึ่งเป็นหมู่บ้านหนึ่งที่ห่างไกลความเจริญและห่างจากกรุงเทพฯ มาก เรื่องราวของสี่ชีวิตจึงดำเนินไปพร้อมๆ กัน ท่ามกลางการต่อสู้กับปัญหาต่างๆ ในชีวิต ทั้งปัญหาจากภายนอกที่มาจากบุคคลรอบข้าง และปัญหาที่อยู่ในจิตใจของตัวละครแต่ละคน ก่อให้เกิดเรื่องราวที่เข้มข้นตามสไตล์การเขียนของสีฟ้าที่อ่านสนุกและน่าติดตามอย่างใจจอใจจ่อ ในเรื่องมีการเปรียบเทียบเกี่ยวกับสถานที่และการดำเนินชีวิตของคน โดยหลักๆ ภาพใหญ่เป็นการเปรียบเทียบระหว่างต่างประเทศกับประเทศไทย ที่มีความแตกต่างกันทางด้านขนบธรรมเนียมและวิธีปฏิบัติในการใช้ชีวิต ส่วนการเปรียบเทียบในภาพเล็กนั้นเปรียบเทียบระหว่างกรุงเทพฯกับต่างจังหวัด(บัวชุม) ซึ่งมีความเจริญแตกต่างกันการใช้ชีวิตของคนจึงต่างกันไปด้วย เมื่อมองทั้งภาพใหญ่และภาพเล็กจะเห็นปัญหาที่เหมือนกันคือ คนส่วนใหญ่มีความคิดที่จะทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดคือเมืองไทยและต่างจังหวัด ละทิ้งเพื่อไปหาชีวิตที่ดีกว่าซึ่งก็คือต่างประเทศและกรุงเทพฯ ประเด็นนี้ชี้ให้เห็นว่าเมื่อคนทั้งหลายย้ายถิ่นฐานไป บ้านเกิดนั้นก็ถูกทอดทิ้งขาดการเหลียวแล ขาดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องที่ควรจะเป็นการร่วมมือกันของคนท้องถิ่นเอง ดังนั้นเมื่อได้อ่านนวนิยายเรื่องนี้แล้วทำให้เราได้เห็นภาพปัญหาและเห็นแนวทางแก้ไขที่นวนิยายนำเสนอได้ คนเราเกิดมาต้องมีหน้าที่ พี่ธา(พระเอก)เป็นคนไทยก็ต้องมีหน้าที่รักบ้านเกิดเมืองนอน มีหน้าที่ต่อเมืองไทย ทำงานให้เมืองไทย เราไปเอาความรู้ของเขามาทำประโยชน์ให้บ้านเรา ไม่ใช่ไปแล้วก็กลายเป็นพลเมืองของเขาไป ความรักเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ แต่ห้ามการแต่งงานได้ (หน้า 173) ผมอ่านนวนิยายเรื่อง บ้านเกิด นี้แล้วก็ได้แง่คิดหลากหลายประการ โดยสิ่งที่ได้หลักๆ ก็คือแนวคิดที่ว่า คนเราควรจะรักบ้านเกิดของตนเอง ไม่ใช้ทิ้งถิ่นฐานและย้านหนีบ้านเกิดกันไปหมด อีกทั้งคนที่ได้รับโอกาสในการไปศึกษาหาความรู้จากต่างถิ่นนั้น ควรอย่างยิ่งที่จะต้องนำความรู้ที่ได้กลับไปพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตน เราควรรักและหวงแหนพื้นแผ่นดินที่เป็นบ้านเกิดของเรา แผ่นดินที่พ่อแม่และบรรพบุรุษทำกินกันมาช้านาน เราควรพัฒนาบ้านเกิดของเราให้เจริญก้าวหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่ด้วย ผลงานของ สีฟ้า เรื่อง บ้านเกิด นี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่นวนิยายที่สนุกสนานตามแบบที่วัยรุ่นสมัยใหม่นี้สนใจก็ตาม แต่ผมคิดว่าเป็นนวนิยายชั้นครูที่ทำให้ผู้อ่านเห็นสภาพบ้านเมืองเมื่อสัก 40 ปีที่แล้วได้เป็นอย่างดี ถึงแม้เนื้อหาและสไตล์การเขียนจะเป็นแบบเก่าไม่หวือหวาเหมือนในยุคปัจจุบันนี้แต่ผมก็เชื่อว่าเนื้อหาหลักในเรื่องนี้ยังไม่ตกยุคตกสมัย ยังมีเรื่องความรักของตัวละคร เรื่องการแข่งขันกันด้านความรัก และเรื่องหักเหลี่ยมช่วงชิงความรักด้วย ฯลฯ เพียงขอให้ท่านไม่มีอคติและตั้งใจอ่าน ผมก็เชื่อว่าท่านจะอ่านได้สนุกไปการดำเนินเรื่องและคอยลุ้นช่วยตัวละครเอกทั้งสี่คนไปด้วย ไม่น่าผิดหวังแน่ถ้าท่านได้อ่านเรื่องนี้ สำหรับนวนิยายเรื่อง บ้านเกิด เล่มที่อยู่ในมือของผมนี้เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 กันยายน 2553 โดยสำนักพิมพ์เพื่อนดี ในเครือบริษัทอักษรโสภณ จำกัด ด้วยความหนาไม่มากแบบอ่านได้สบาย 328 หน้า ราคาปก 230 บาท ลองไปหาอ่านกันดูนะครับ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือนะครับ
Create Date : 26 ตุลาคม 2559
22 comments
Last Update : 26 ตุลาคม 2559 0:08:57 น.
Counter : 9447 Pageviews.
โดย: หอมกร 26 ตุลาคม 2559 8:21:40 น.
โดย: kae+aoe 26 ตุลาคม 2559 8:25:48 น.
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 26 ตุลาคม 2559 9:35:24 น.
โดย: เนินน้ำ 26 ตุลาคม 2559 11:59:19 น.
โดย: ชีริว 27 ตุลาคม 2559 21:02:53 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 27 ตุลาคม 2559 22:18:31 น.
โดย: kae+aoe 28 ตุลาคม 2559 17:12:31 น.
โดย: เนินน้ำ 29 ตุลาคม 2559 17:05:05 น.
โดย: ออโอ 31 ตุลาคม 2559 0:35:00 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [? ]
อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า อาคุงกล่อง เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ ปัจจุบัน อาคุงกล่อง เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม อาคุงกล่อง จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย "ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ" ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ) akungklong@gmail.com
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog