Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
20 กุมภาพันธ์ 2560
 
All Blogs
 

เกือบไม่ได้เขียน







20 กุมภาพันธ์ 2560




 







หนังสือเล่มที่ผมอ่านในวันนี้เป็นหนังสือแปลของนักสัตวแพทย์ชาวสก๊อตแลนด์ที่ชื่อ เจมส์ เฮอร์เรียต เป็นรวมเรื่องสั้นในชื่อชุดว่า The Best of James Herriot ใช้ชื่อภาษาไทยว่า “เกือบไม่ได้เขียน” แปลเป็นภาษาไทยโดย ปาริฉัตร เสมอแข เล่มนี้จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในวันแนะนำหนังสือฉบับแปลในประเทศไทย วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2552

เล่มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตการทำงานของสัตวแพทย์หนุ่มที่จบออกมาจากมหาวิทยาลัยมาทำงานเป็นสัตวแพทย์ชนบท ที่เมืองแดร์โรว์บี้ ทางแถบภาคเหนือของประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเจมส์ เฮอร์เรียตเขียนเล่าบรรยายภาพชีวิตการทำงานรักษาชีวิตสัตว์ต่างๆ ตั้งแต่เริ่มงานวันแรก รวมถึงบรรยากาศและสภาพแวดล้อมของเมืองชนบทที่เงียบสงบแห่งนี้ได้อย่างงดงาม ในเรื่องมีการพูดถึงการรักษาสัตว์น้อยใหญ่มากมาย



“ ผมมองย้อนกลับไปถึงประสบการณ์ในทางปฏิบัติอย่างหนักเป็นเวลาหกเดือน ผมเคยรักษาวัว ม้า หมู หมา และแมว สัปดาห์ละเจ็ดวัน ตอนเช้า ตอนบ่าย ตอนเย็น และตลอดโมงยามขณะที่โลกกำลังหลับใหล ผมได้ทำคลอดวัวและหมู จนแขนของผมปวดร้าวหนังถลอกปอกเปิก ผมเคยถูกเตะจนล้มคว่ำ ถูกเหยียบ และถูกสิ่งสกปรกทุกชนิดพุ่งใส่ ผมเคยเห็นโรคต่างๆ ของสัตว์มามากพอใช้ แต่กระนั้นดูเหมือนจะมีเสียงเบาๆ กวนใจผมอยู่เรื่อย เสียงนั้นบอกว่า ... ผมไม่รู้อะไรเลย ผมไม่รู้อะไรเลย”

(จากหน้า 139)




หนังสือเล่มนี้สำหรับผมอ่านแล้วรู้สึกว่าผมได้อ่านเรื่องราวที่แปลกใหม่ เพราะเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน ดังนั้นเมื่อผมได้อ่านผมก็รู้สึกตื่นตัวในการรับรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอด บางท่านอาจจะบอกว่าผมพูดเกินไป เพราะเรื่องเกี่ยวกับการรักษาสัตว์และการไปหาสัตว์แพทย์นั้น สำหรับคนที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมวคงรู้เรื่องดีอยู่แล้ว แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดว่ารู้เลย เพราะว่าเรื่องราวแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆ ยังไม่ได้ก้าวหน้าเท่าทุกวันนี้ และที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงก็คือ ในยุคปัจจุบันนี้เมื่อสัตว์เลี้ยงของเราป่วย ไม่ว่าจะเป็นน้องหมา น้องแมว น้องกระต่าย หรือน้องอะไรก็ตาม เราจะพาสัตว์เลี้ยงของเราไปหาหมอที่คลีนิคสัตวแพทย์ แต่ในเรื่อง “เกือบไม่ได้เขียน” นี้ หมอเฮอร์เรียตต้องวิ่งออกไปรักษาสัตว์ตามฟาร์มปศุสัตว์หรือคอกสัตว์ต่างๆ ตลอดเรื่อง เนื่องจากในยุคสมัยนั้นยังจำเป็นต้องใช้สัตว์ในการทำการเกษตร ซึ่งแตกต่างจากบ้านเราคือที่อังกฤษชาวไร่จะใช้ม้าลากคันไถเพื่อพรวนดิน แต่ที่บ้านเราใช้ควายไถนา

แต่สิ่งที่ทำให้หนังสือเล่มนี้น่าสนใจอาจจะไม่ใช่เพียงแค่เรื่องสัตว์ทั้งหมด จริงๆ แล้วสัตว์ทุกตัวที่นำมาให้สัตวแพทย์รักษานั้นต้องมีเจ้าของ เจ้าของที่เป็นคนแต่ละคนนี้แหล่ะคือตัวละครที่ทำให้เรื่องนี้มีชีวิต ทั้งชีวิตสัตว์ที่ผสมไปกับชีวิตคน ซึ่งผมอ่านแล้วจะได้ทราบถึงวัฒนธรรมการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากบ้านเรา อาหารการกินที่แตกต่างกัน การเลี้ยงสัตว์ที่มีรูปแบบแตกต่างจากบ้านเรา ฯลฯ และต้องบอกด้วยว่าฝีมือการเขียน สำนวนโวหารของเจมส์ เฮอร์เรียต นั้นไม่ธรรมดาเลย ผมอ่านแล้วรู้สึกอินไปกับเรื่องด้วยตลอด ผมขอยกตัวอย่างเล่าให้ฟังคร่าวๆ ตอนหนึ่ง ที่เขียนถึงชาวไร่คนหนึ่งที่รักม้ามาก เมื่อม้าของเขาไม่สบายเขาแทบจะไม่อันกินอันนอนตามม้าเขาไปด้วย สาเหตุก็คือว่าชาวไร่คนนี้แต่ก่อนเป็นคนจนธรรมดาที่สามารถสร้างตัวขึ้นมาให้มั่งมีได้ ด้วยความอุตสาห์และมีมานะในการทำการเกษตรโดยใช้ม้าตัวนั้นช่วยพรวนดินและหว่านไถตลอด เปรียบเสมือนว่าเขาได้ขี่ม้าตัวนั้นเพื่อขับเคลื่อนชีวิตให้เจริญก้าวหน้าขึ้นมาได้ เขาจึงรู้สึกรักและผูกพันกับม้าของเขามาก ผมอ่านถึงตอนนี้ก็รู้สึกได้ถึงอะไรดีๆ ในความเป็นมนุษย์ของเรา ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมาก

ผมเชื่อว่าคนที่เรียนทางด้านสัตวแพทย์ในบ้านเราคงได้เคยอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วแน่ เพราะถ้าได้อ่านแล้วคงได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์ชั้นดีในการเป็นสัตวแพทย์ หนังสือเล่มนี้ถือว่าทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มีอาชีพเป็นสัตวแพทย์เลย แต่ผมก็เชื่อว่าคนที่ไม่ได้เป็นสัตวแพทย์ก็น่าจะอ่านเล่มนี้ได้อย่างนุกสนานเหมือนกับที่ผมอ่านแล้วประทับใจ จนต้องมาเขียนรีวิวเชิญชวนให้เพื่อนๆ ลองหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านกัน สำหรับหนังสือ “เกือบไม่ได้เขียน” เล่มที่อยู่ในมือผมนี้ เป็นฉบับพิมพ์ครั้งแรก มีนาคม 2552 จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ผีเสื้ออังกฤษ เป็นฉบับปกอ่อนจำนวน 344 หน้า ราคาปก 249 บาท

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือ และขอให้ทุกท่านมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคภัยใดใดทั้งสิ้น ขอให้มีความสุขมากๆ ครับ






@@@@@@@@@@

คุยกันท้ายบล็อก

ช่วงนี้ผมอาจจะห่างเหินจากการอัพบล็อกไปหน่อย สาเหตุก็เพราะว่าช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาในการอัพบล็อกสักเท่าไหร่ เนื่องจากในตอนนี้ผมต้องทำหน้าที่พาคนป่วยไปหาหมอตลอด เรียกได้ว่าช่วงนี้ผมต้องไปที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นประจำเกือบทุกวัน พี่สาวผม(ลูกพี่ลูกน้อง)ป่วยตั้งแต่วันสิ้นปีที่ผ่านมา เขาล้มจนลุกไม่ได้ ต้องไปผ่าตัดกระดูกสันหลังที่ศริริราช ซึ่งผมก็ต้องคอยไปเฝ้าใช้ระยะเวลาเกือบเดือน จนมารู้ในตอนหลังว่าเป็นมะเร็งในไขกระดูก เป็นโรคที่ไม่ค่อยมีใครเป็นกันเท่าไหร่นัก ตอนนี้อยู่ในระหว่างการรักษาเพิ่งให้คีโม่เข็มแรกเอง ผมต้องคอยพาพี่สาวไปฉีดยาทุกสัปดาห์ ส่วนคุณแม่ของผมเจอเนื้องอกในช่องท้องตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว รอคิวผ่าตัดมานานมากจนได้วันผ่าตัดในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งคาดว่าผมคงต้องไปที่โรงพยาบาลศิริราชและอยู่โยงเฝ้าอีกหลายวันแน่ๆ ช่วงนี้ผมอาจจะห่างหายกันไปสักระยะนะครับ

โดยผมหวังว่าเมื่อเหตุการณ์ต่างๆ กลับมาเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ผมคงได้มาอัพบล็อกต่อเนื่องและไปเยี่ยมเยียนบล็อกเพื่อนๆ ได้อย่างสม่ำเสมอเช่นเคยครับ

ขอขอบคุณทุกท่านมากๆ ครับ




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2560
24 comments
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2560 10:57:51 น.
Counter : 1887 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณเรียวรุ้ง, คุณThe Kop Civil, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณClose To Heaven, คุณหอมกร, คุณRinsa Yoyolive, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณtuk-tuk@korat, คุณInsignia_Museum, คุณhaiku, คุณ**mp5**, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณอุ้มสี

 

นึกถึงความรักความผูกพันระหว่างคนกับม้าแล้วก็รู้สึกดีนะคะ

ถึงขนาดกินไม่ได้นอนไม่หลับยามม้าป่วย ม้าคงเหมือนเพื่อนเหมือนคนในครอบครัวเลยทีเดียว

โหวต Book Blog ค่ะ

*****************************

ขอให้คุณแม่และพี่สาวสุขภาพแข็งแรงในเร็ววันนะคะ

อาการเจ็บไข้ได้ป่วยนี่เป็นกันทุกเพศทุกวัย ยิ่งมะเร็งด้วยแล้ว กำลังใจสำคัญที่สุดเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

 

โดย: เรียวรุ้ง 20 กุมภาพันธ์ 2560 11:55:27 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณกล่อง..

ขอให้คุณแม่และพี่สาว หายไวไวนะคะ

แล้วจะแวะไปเยี่ยมคุณแม่ หลังผ่าตัดแล้วนะคะ

เขียนหนังสือเกี่ยวกับโรงพยาบาลได้หลายเล่มเชียวล่ะ..อิอิ

 

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) 20 กุมภาพันธ์ 2560 12:15:46 น.  

 

เรื่องสั้นชอบอ่านเหมือนกันครับ
สู้สู้ครับ

 

โดย: The Kop Civil 20 กุมภาพันธ์ 2560 12:38:52 น.  

 

สวัสดีครับพี่อาคุงกล่อง

ส่งกำลังใจให้คุณแม่และพี่สาวของพี่ด้วยนะครับ
ขอให้ท่านมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 20 กุมภาพันธ์ 2560 14:21:02 น.  

 

เอาใจช่วย คุณพี่ กับคุณแม่ รวมทั้งคุณกล่องด้วย...

พวกเราหลายคน ก็ยังต้องวนเวียนไป ร.พ.เหมือนกัน ไม่เป็น
ไร สู้ๆ ต่อครับ


อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

บล๊อกผมก็ เอาใจหนุ่ม ๆ เช่นคุณกล่อง ผมถ่ายภาพสาว ๆ
ไว้เยอะ บางคนใส่ทูพีชด้วยน้า...555

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 20 กุมภาพันธ์ 2560 15:47:19 น.  

 

แวะมาทักทายครับ
ขอให้พี่สาว และ คุณแม่ สุขภาพแข็งแรง อาการดีขึ้นเรื่อยๆครับ

 

โดย: สองแผ่นดิน 20 กุมภาพันธ์ 2560 22:43:02 น.  

 

อาจเป็นเพราะเราเป็นคนในวงนอกด้วยมั้ง เลยทำหใ้เราได้เปิดหูเปิดตาในมุมมองอีกมุมมองที่เราไม่รู้มาก่อน ยิ่งเป็นในยุคที่การคมนาคม และการสื่อสารต่างๆ ยังไม่สะดวกเหมือนตอนนี้ด้วย ถือว่าได้อารมณ์อีกแบบครับ

ขอให้คุณแม่และพี่สาวกลับมาสุขภาพแข็งแรงในเร็ววันนะครับ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 20 กุมภาพันธ์ 2560 23:38:01 น.  

 

สวัสดีครับพี่อาคุง

โหวต book blog ครับพี่

หนังสือของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ
เป็นหนังสือคัดสรรที่มีเนือ้หาที่ดีจริงๆครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 21 กุมภาพันธ์ 2560 6:27:43 น.  

 


อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog

มาส่งกำลังใจให้พี่กล่องและครอบครัวค่ะ
ขอให้คุณแม่อาการดีขึ้นไว ๆ นะคะ

 

โดย: Close To Heaven 21 กุมภาพันธ์ 2560 6:48:10 น.  

 

อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


หนังสไตล์ twilight ไง ทิดกล่องไม่ชอบเหรอ สนุกออก
ว่าแต่หนังสือแนวทิดกล่องก็อ่านหนักไปเหมือนกันนะ 555

 

โดย: หอมกร 21 กุมภาพันธ์ 2560 8:45:04 น.  

 

เรื่องการทำงานของสัตว์แพทย์ มีเรื่องเล่าเยอะมากมายค่ะ
อย่างเช่นคนนอกอย่างเราไม่ค่อยได้รู้มากนัก

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
อุ้มสี Review Food Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Diarist ดู Blog
The Kop Civil Movie Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog



ขอให้ญาติอาคุงกล่องแข็งแรง อาการดีขึ้นนะคะ
เอาใจช่วยค่า

 

โดย: Rinsa Yoyolive 21 กุมภาพันธ์ 2560 10:18:35 น.  

 

เพิ่งรู้ว่า สมัยก่อนอังกฤษใช้ม้าลากคันไถเพื่อพรวนดินเหรอคะนี่

ขอให้พี่สาว และคุณแม่ กลับมาแข็งแรงเป็นปกติในเร็ววันค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 21 กุมภาพันธ์ 2560 20:39:54 น.  

 

อ่านสรุปเรื่องที่คุณกล่องแนะนำแล้ว เชื่อว่าผู้อ่านจะได้มุมมองของอาชีพสัตวแพทย์ที่ไม่ทราบมาก่อน และผู้อ่านน่าจะได้แนวคิดดีๆที่ซ่อนอยู่ในหนังสือเล่มนี้
และขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ของคุณกล่องและพี่สาว ขอให้มีอาการดีขึ้นและหายจากอาการป่วยครับ

 

โดย: Insignia_Museum 24 กุมภาพันธ์ 2560 21:05:18 น.  

 

โหวต book blog นะคะ

เกดเป็นคนไม่สนใจชีวิตสัตว์เท่าไหร่ ไม่เคยคิดว่าจะอยากอ่านเรื่องของสัตวแพทย์ แต่คุณอาคุงกล่องรีวิวได้น่าหามาอ่านค่ะ

ปล ขอให้พี่สาวหายป่วยไวๆนะคะ

 

โดย: Raizin Heart 25 กุมภาพันธ์ 2560 19:53:30 น.  

 

มาส่งกพลังใจค่ะ
ขอให้พี่สาวและคุณแม่หายไวๆนะคะ


โหวดค่ะ

 

โดย: newyorknurse 27 กุมภาพันธ์ 2560 8:20:18 น.  

 

แวะมาเยี่ยม สวัสดีครับ

 

โดย: **mp5** 28 กุมภาพันธ์ 2560 22:24:42 น.  

 

พรุ่งนี้พบกันค่าาาพี่กล่อง

 

โดย: Close To Heaven 4 มีนาคม 2560 14:32:00 น.  

 

สวัสดีค่าพี่กล่อง ยินดีที่ได้เจอนะคะ

อ่านรีวิวหนังสือเล่มนี้แล้วอยากอ่านเลยค่ะ ส่วนตัวแล้วชอบหนังสือของสนพ.ผีเสื้อหลายเล่มเหมือนกันค่ะ

 

โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน 7 มีนาคม 2560 8:20:13 น.  

 

สวัสดีค่าาาพี่กล่อง
วันนี้บุ๊งมาชวนไปชิมแกงคั่วกันบ้าง อิอิ

 

โดย: Close To Heaven 9 มีนาคม 2560 12:19:01 น.  

 

สวัสดีค่ะน้ากล่อง

 

โดย: เจ้าการะเกด 14 มีนาคม 2560 10:37:24 น.  

 

สวัสดีค่ะอาคุงกล่อง

แวะมาแอบๆมองๆ ว่าจะลงเรื่อง Meeting หรือเปล่า..?

รอดูภาพสวยๆนะคะ

 

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) 14 มีนาคม 2560 19:17:11 น.  

 

มาโหวตให้น้องกล่องจ๊ะ

 

โดย: อุ้มสี 15 มีนาคม 2560 7:34:17 น.  

 

มาทักทายอาคุงกล่องค่า


 

โดย: Rinsa Yoyolive 17 มีนาคม 2560 13:18:07 น.  

 

สัตวแพทย์ท่านนี้เขียนเรื่องอ่านสนุกมากค่ะ
เราอ่านเรื่องอื่นๆ ของเขามาแล้ว
รู้สึกว่า หมอไม่ได้รักษาสัตว์เท่านั้น แต่หมอรักษาใจคนด้วย

 

โดย: นัทธ์ 29 มีนาคม 2560 7:24:12 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.