1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
เล่ห์
4 เมษายน 2559
หนังสือชื่อเรื่องสั้น ๆ แต่มีความหมายลึกซึ้งแบบนี้เป็นนวนิยายของศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ เจ้าของนามปากกา โบตั๋น นักเขียนที่ครองใจนักอ่านมานานกว่า 30 ปี ท่านมีผลงานต่อเนื่องมาโดยตลอดอย่างน้อยปีละ 1 เล่ม โดยนวนิยายเรื่อง เล่ห์ เล่มนี้เขียนขึ้นเมื่อ พ.ศ.2547 เรื่องราวจะสนุกสนานอย่างไร ลองอ่านรีวิวนี้ดูนะครับ เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องมีการติดต่อสื่อสารหรือเกี่ยวข้องกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งวิธีการที่เราจะคบหากับคนอื่นนั้นมีมากมายหลากหลายวิธี มนุษย์จึงมีการใช้เล่ห์กลหรืออุบายต่าง ๆ ก็เพื่อลวงหลอกให้ได้มาซึ่งต่าง ๆ สิ่งที่ตัวเองต้องการ ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่ามนุษย์ทุกคนต่างก็มีเล่ห์อยู่ในใจกันทุกคน เพียงแต่ว่าจะนำเล่ห์กลเหล่านั้นออกมาใช้หรือไม่ ถ้านำเล่ห์กลออกมาใช้แล้วใช้ในทางดีหรือทางร้าย ใช้เล่ห์กลเพื่อทำให้ตัวเองสมปรารถนาหรือว่าใช้เล่ห์กลเพื่อทำร้ายคนอื่น เพราะว่าชีวิตของทุกคนต่างก็มีฝันเป็นของตัวเอง ซึ่งการจะไปถึงฝั่งฝันนั้นในบางครั้งอาจจะต้องใช้เล่ห์กลเป็นเครื่องนำทางก็เป็นได้ สำหรับนวนิยายเรื่อง เล่ห์ นี้ จริง ๆ แล้วอาจจะระบุได้ว่าเป็นนวนิยายแนวพาฝันทั่วไป ที่เป็นเรื่องความรักของคนหนุ่มสาว แต่นักเขียน (โบตั๋น) ได้เขียนเรื่องนี้ด้วยการแฝงเอาเรื่องราวการทำธุรกิจมาใส่ไว้ด้วย โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจของบริษัทใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แน่นอนว่าจะต้องมีเรื่องของเล่ห์กลในเชิงธุรกิจอยู่ด้วย ในนวนิยายเรื่อง เล่ห์ นี้ อาจะสรุปได้ว่าเรื่องนี้เป็นนวนิยายที่มีนางเอก 2 คน เพราะว่าตัวพระเอก(อริน)เป็นชายหนุ่มลูกเจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ใหญ่ ตัวพระเอกไปเรียนต่างประเทศแล้วได้แฟนเป็นนางเอกคนแรก(แก้วก๊อ)ที่เป็นลูกสาวของเจ้าของโรงงานเซรามิคในภาคเหนือ แต่ว่าตัวพระเอกได้ถูกวางไว้ให้คู่กับนางเอกอีกคน(เรืองระวี)ที่เป็นลูกสาวของธุรกจิสื่อสิ่งพิมพ์คู่แข่ง ด้วยความเหมาะสมทางธุรกิจทั้งสองตระกูลควรจะควบรวมกิจการกัน โดยให้ทายาทผู้สืบทอดกิจการทั้งสองแต่งงานกัน นางเอกคนแรกจึงต้องอกหักกลับไปอยู่กับแม่ที่เชียงใหม่ ปล่อยให้พระเอกแต่งงานไปกับนางเอกอีกคนที่เหมาะสมกว่า ในกรณีนี้อาจสรุปได้ว่า ธุรกิจสำคัญกว่าหัวใจ (หน้า 277) หัวใจไว้ที่เดิมแหละค่ะ ใช้สมองแทน อย่าใช้หัวใจในการดำเนินชีวิต คนสมัยใหม่ นักธุรกิจเขาก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นไม่ใช่หรือ เราอย่ามาพูดเรื่องหนักหัวอกเลยค่ะ (หน้า 429) ผมคิดว่า ผุ้เขียน (โบตั๋น) รู้จริงทุกเรื่องในนวนิยายเล่มนี้ รู้ทั้งเรื่องธุรกิจ , เรื่องเล่ห์เหลี่ยมทางการค้า , เรื่องครอบครัว , เรื่องชีวิตคู่ , เรื่องเชียงใหม่ ฯลฯ ธุรกิจในเรื่องเป็นธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์เพราะตัวผู้เขียนเองก็ทำสำนักพิมพ์อยู่ด้วย ส่วนเรื่องเล่ห์กลในการทำธุรกิจนั้น ผู้เขียนได้นำรายละเอียดเกี่ยวกับการทุจริตที่เรียกว่าการไซฟ่อนเงินเอามาใส่ไว้ด้วย การไซฟ่อนเงินคือการโยกย้ายเงินด้วยการลงบัญชีที่ไม่ถูกต้องกับความเป็นจริง เพื่อนำรายได้ของบริษัทไปให้คนอื่นหรือนำไปใช้ในธุรกิจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประเด็นที่เรียกกันว่าการแต่งตัวเข้าตลาด คือการจัดทำบัญชีให้มีตัวเลขผลกำไรที่งดงาม เพื่อที่จะได้เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ ในส่วนนี้เป็นเรื่องราวที่น่าคิดและติดตามสำหรับท่านที่สนใจในเรื่องการซื้อขายหุ้นควรจะรู้เอาไว้ จะได้ไม่โดนหลอกให้ซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานไม่ดี และเป็นข้อควรระวังสำหรับการลงทุนในตลาดหลักพรัพย์ด้วย ... เมื่อได้รายชื่อผู้ถือหุ้นมาอรินถึงกับมึน ผู้ถือหุ้นรายใหม่ ๆ ที่ซื้อหุ้นไปเป็นจำนวนมากเป็นบริษัทโฮลดิ้งชื่อแปลก ๆ แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรเล่าว่าบริษัทพวกนี้เป็นของใคร แล้วที่สมบัติกับสงวนศรีขายหุ้นให้สหคอร์ปอเรชั่นไปนั้นเขามองหาแล้วไม่เห็นมีชื่อเลย ไม่ว่าชื่อบริษัทหรือชื่อบุคคล .... หรือใช้ชื่อคนอื่นถือหุ้นแทนแบบพวกเศรษฐีนิยมทำกัน คือใช้นอมินี รายชื่อที่เขารู้ ๆ เห็น ๆ ก็คือชื่อพ่อแม่ ญาติสนิท ตัวเขากับพี่สาว มีชื่อถนอนนวลเป็นเจ้าของหุ้นอยู่ไม่น้อยนัก คุณยาย คุณตา น้านี มีกันคนละนิดละหน่อย แต่ขนาดไม่มากถ้าขายก็เป็นแสนทั้งสิ้น ของถนอนนวลมูลค่าเป็นล้าน ถนอนวงศ์ไม่มีเลย พนักงานตำแหน่งสำคัญ ๆ ในบริษัทมีกันคนละหลายแสน คงจะซื้อในราคาพาร์ตั้งแต่แรกเข้าตลาดหลักทรัพย์ หลายคนขายหุ้นไปแล้ว กำเงินสดไว้ใช้ หลายคนยังคงรักษาไว้และรับเงินปันผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละปี (หน้า 205) ผมอ่านนวนิยายเรื่อง เล่ห์ นี้แล้วได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่าง อย่างน้อยที่สุดก็ได้รู้ว่ามนุษย์เราเวลาที่ร้ายแล้วจะเป็นอย่างไร เล่ห์กลมีมากมายทั้งเล่ห์กลที่มาจากความแค้น เล่ห์กลมาจากความโลภ แม้กระทั่งเล่ห์กลที่มาจากความรัก ซึ่งเล่ห์กลเหล่านี้ถ้าใช้ในทางไม่ดีคนที่โดนก็คงต้องเจ็บปวดไปตาม ๆ กัน เล่ห์กลของการทำธุกิจอาจจะทำให้คนทีโดนถึงขั้นล้มละลายได้ เพราะในการค้าก็คือสงครามดี ๆ นั้นเอง ตัวผมอาจจะไม่ค่อยได้อ่านนวนิยายแนวรักหรือแนวโรแมนติคพาฝันสักเท่าไหร่ เพราะว่าไม่ใช่ทางของผม แต่ผมยอมรับว่านวนิยายเรื่อง เล่ห์ นี้มีอะไรมากกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ ถ้าเป็นนวนิยายเกียวกับสืบสวนสอบสวนพล็อตเรื่องก็จะหาว่าในท้ายสุดแล้วใครเป็นคนร้ายหรือฆาตกร แต่สำหรับนวนิยายเรื่องเล่ห์นี้มีประเด็นแฝงเรื่องราวทางธุรกจิเอาไว้เยอะ ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีพล็อตเรื่องที่ทำให้ผู้อ่านต้องติดตามว่าในท้ายที่สุดธุรกิจเหล่านี้มีอะไรซ่อนเร้นอยู่ ถือว่าเป็นนวนิยายอีกหนึ่งเรื่องที่ผมอ่านได้สนุกมาก ใครที่กำลังเล่นหุ้นอยู่แล้วอยากอ่านเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ก็น่าจะลองอ่านนวนิยายเรื่อง เล่ห์ ของโบตั๋นเล่มนี้ดู ซึ่งเรื่องนี้เคยตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสารขวัญเรือน พ.ศ. 2547 สำหรับเล่มที่อยู่ในมือผมนี้เป็นฉบับพิมพ์รวมเล่มครั้งแรก พ.ศ.2548 โดยสำนักพิมพ์สุวีริยาสาสน์ (สำนักพิมพ์ของโบตั๋น) ด้วยความหนาแบบนวนิยายอ่านสนุกจำนวน 586 หน้า ราคาปก 300 บาท ท่านใดสนใจน่าจะไปหาซื้อได้ในงานสัปดาห์หนังสือฯ ที่บูทชมรมเด็ก ของโบตั๋นครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือนะครับ
Create Date : 04 เมษายน 2559
16 comments
Last Update : 4 เมษายน 2559 0:04:23 น.
Counter : 1636 Pageviews.
โดย: หอมกร 5 เมษายน 2559 12:32:41 น.
โดย: zungzaa 7 เมษายน 2559 14:54:41 น.
โดย: ป้าเก๋า (ชมพร ) 7 เมษายน 2559 23:11:45 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [? ]
อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า อาคุงกล่อง เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ ปัจจุบัน อาคุงกล่อง เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม อาคุงกล่อง จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย "ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ" ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ) akungklong@gmail.com