|
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
อุปสมบทหมู่ วัดชลประทานรังสฤษฏ์
พอดีกำลังหาข้อมูลว่าจะบวชที่วัดไหนดี ใจก็เล็งๆเอาไว้ว่าคง บวชที่ วัดชลประทานรังสฤษฏ์ ก้อมาเจอกระทู้ที่เขียนบรรยายไว้อย่างละเอียดเข้า โดยบังเอิญ เจ้าของกระทู้ตั้งใจเขียนมากครับ เลยยาวเฟื้อยเลย แต่ถ้าได้อ่านแล้ว ทุกๆคนคงจะอยากจะบวชวัดนี้แน่ๆเลย
เบอร์ที่วัดนะครับ เผื่อท่านใดสนใจ 02-583-8845
ด้วยอภินันทนาการจากเจ้าของบทความ betaglucan@hotmail.com และ คุณ r. ผู้ช่วยเผยแผ่ความรู้ จาก webboard.tourthai.com
รายละเอียดการอุปสมบทหมู่ที่ วัดชลประทานรังสฤษฏ์
การรับสมัคร
สมัคร...ทุกวันเสาร์ที่ 2 ของเดือน--แน่ๆเลย ต้องติดต่อที่วัดโดยตรงค่ะ เพราะอาจมีการบวชเฉพาะช่วงฤดูร้อน หรือมีการบวชทุกเดือน
ขั้นตอนสมัครและบวช
อย่างที่บอกไปถ้าใครสนใจอยากบวชนั้น สามารถไปติดต่อได้ที่วัด จะมีสำนักงานรับเรื่องอยู่ครับ ติดต่อหาพระมหารวย ท่านจะเป็นคนแจ้งกำหนดการและรับสมัคร เมื่อสมัครแล้วก็จะมีการปฐมนิเทศก่อน ขอบอกว่ามีการสอบสัมภาษณ์ต่อหน้าทุกคนที่สมัครด้วยนะครับ แบบเปิดใจเลย พูดออกไมค์ด้วยตรงบริเวณ โรงเรียนพุทธธรรมภายในวัด ให้ออกไปพูดหน้าห้องเลยทีละคน
พระอาจารย์ท่านจะให้กรอกใบสมัคร การศึกษาและประวัติ แล้วดูในใบสมัครเพื่อทำการสัมภาษณ์ทีละคน ท่านจะถามว่าติดเหล้า บุหรี่ มีรอยสัก หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนไม่กล้าโกหก ... ถ้าตอบว่าติดท่านก็จะต้องให้เลิกเดี๋ยวนี้ ถ้าวัดมาสอบขานนาคยังมีกลิ่นบุหรี่มา ก็ไม่ต้องมาพูดกัน ซึ่งถือว่าเคร่งมากๆ คุณจะได้อะไรเยอะมากจากการบวชเพียง 15 วันที่วัดนี้หลวงพ่อปัญญาท่านเคยสอนว่าคนจะบวชควรให้ได้สัก 1 พรรษา คือ 3 เดือนช่วงเข้าพรรษาจึงจะได้อะไรติดตัวไปเยอะหน่อย
ที่บอกว่าจะต้องสอบขานนาคนั้นต้องสอบนะครับต้องท่องให้ได้เป็นคำบาลี เดี๋ยวผมจะเอามาลงไว้ให้ เอสาหัง ภันเต สุจิระปะริพนิพพุตัมปิ... ผมเนี่ยจำขึ้นใจเลย คนจะไปสมัครบวชควรเตรียมตัวไปก่อน ถ้าไปเจอคำสวดเลยเขาให้เวลาท่องแค่อาทิตย์เดียว จะตื่นเต้นสอบไม่ผ่านก็ไม่ให้บวชนะครับ รอรอบเดือนหน้าสถานเดียว
ตอนสอบสัมภาษณ์คุณยายบอกผมว่ากลัวพระท่านถามผมเรื่องเหล้าบุหรี่มาก คุณยายเลยระลึกถึงหลวงพ่อปัญญาว่าอยากให้หลานบวชอย่าให้ถามอะไรผมมากเลย ซึ่งก็มหัศจรรย์มากครับ พระอาจารย์ถามผมแค่ว่าอยากบวชกี่วัน ผมตอบไป 15 วันก็ให้ผมผ่านเลย แล้วบอกว่าจะบวช15วันก็ต้องทำให้ได้ ผมดีใจมากผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ ซึ่งถ้าเทียบกับคนอื่นๆแล้วถามเยอะมาก คุณยายผมยิ้มและบอกกับผมว่ายายขอท่านให้ต้องให้ผมทำตัวดีๆแล้วเลิกเสียทีกับอบายมุขเหล่านั้น ซึ่งผมก็ต้องเลิกล่ะครับ เพราะเป็นพระนี่ห้ามเด็ดขายโดยเฉพาะวัดนี้
รอบที่ผมไปสัมภาษณ์นั้นมีชายชาวมุสลิมมาขอบวชด้วย ผมเลื่อมใสเขามากเลย ขนาดเป็นมุสลิมยังเตรียมตัวมาดีกว่าเรา ฝึกนั่งสมาธิมาก่อนและหัดสวดคำบาลีมาก่อนแล้ว ซึ่งให้เหตุผลในการมาบวชของเขาว่า...เอาลองนั่งสมาธิตามหลักของศาสนาพุทธแล้วสงบร่มเย็นอยากมาขอบวช พระอาจารย์ยินดีที่จะให้เขาเข้ารับการบวชโดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น ... แต่วันที่สอบขานนาคเขากลับไม่มา อาจจะมาบวชคราวหลังหรือเปล่าผมไม่แน่ใจ
สิ่งที่ต้องกังวลคือเรื่องการขานนาคและหัดงดมื้อเย็นได้แล้วก่อนบวชสัก 10 วันให้ดีก็ถือศีล 5 ศีล 8 เสียก่อนบวชไปเลยครับ หลังจากสอบสัมภาษณ์อีก1 สัปดาห์ถัดมาผมก็มาสอบขานนาคพระอาจารย์ให้โอกาสผมสอบถึง5 ครั้ง เพราะผมตื่นเต้นมาก ผู้ปกครองนาคทั้งหลายมายืนเชียร์กันจนแน่นไปหมด รุ่นต่อๆไปก้อย่าไปมุงกันมากเลยครับ ประหม่ากันทุกคน เริ่มสอบขานนาคตอนบ่ายโมง ถ้า 5 โมงเย็นยังขานไม่ได้นี่ต้องมาสอบใหม่เดือนหน้าเลยครับเข้มงวดมากๆ ควรจะเตรียมตัวมาให้ดีมีเวลาให้แค่ 1 สัปดาห์ในการท่องจำ
เพราะฉะนั้นใครอยากบวชวัดนี้เตรียมตัวเสียเนิ่นๆครับ
เข้าโบสถ์เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ...
พอผมสอบการขานนาคผ่านเรียบร้อยแล้ว ในอาทิตย์ถัดไปอีกก็ถึงขั้นตอนของการบวชแล้วล่ะ ที่ต้องเตรียมคือพวกของใช้ส่วนตัว เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถนำไปเองได้มี2อย่างคือพัดลมและโคมไฟ เสื้อขาว และเข็มขัดสำหรับตอนเป็นนาค... พระอาจารย์นัดพวกเราทั้ง 48 คนวันคริคสมาสอีฟ 24 ธค.50 เวลา เที่ยงตรง เพื่อรับผ้าไตร และบาตร และถัดไปในช่วงบ่ายก็จะทำการโกนหัวกัน ผมล่ะตื่นเต้นมากๆ เช่นเดียวกับเพื่อนๆที่มาบวชด้วยกัน จากการสังเกตสอบถามในเบื่องต้น ทุกคนที่มาบวชอยากมีชีวิตใหม่ด้วยกันทั้งนั้น เราหัวอกเดียวกัน เลยรักใคร่และสนิทสนมกันอย่างดี บางคนป่วยอยากมาบวชเพื่อแก้กรรมเก่า นี่แหละครับที่พึ่งทางใจที่สุดท้าย พวกเราทุกคนจึงพยายามทำมันให้ดีที่สุด
เวลาประมาณบ่ายโมงนิดๆก็ได้เวลาโกนผม ก็ได้เห็นที่พักที่เราอยู่เป็นห้องมีลักษณะเหมือน อพาร์ตเม้นชั้นเดียวให้อยู่ห้องละคน ก็ต้องเข้าไปปัดกวาดกันก่อน แล้วออกมาให้พระโกนผมให้ ค่อนข้างชลมุนครับ เอาสบู่ก้อนนี่ หละครับถูหัวถูผม เกศาที่เรารักถนอม ทำสี บำรุงจัดทรงนั้นทรงนี้ ต่อไปมันจะไม่มีค่าอีก ที่เราเห็นว่าเป็นสิ่งสวยงาม แต่พอมันหลุดออกจากหัวก็ไม่มีใครอยากจะเข้าใกล้ผมเหล่านั้น เป็นข้อคิดที่น่าแปลกใจนะครับ พระอาจารย์บอกว่ามีสามเณรสำเร็จเป็นพระอรหันต์ หลังจากปลงผมเร็จหลายรูปในสมัยพุทธกาล บรรลุธรรม ณ ตอนที่ปลงผม ขนลุกไหมครับเพียงแค่เพ่งไปที่ผม แล้วเกิดอารมณ์ที่ทุกอย่างเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สำหรับผมแค่ปลงผมคงยังไม่บรรลุธรรมขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแต่ทำให้รู้ว่า หัวที่บำรุงหนักหนานั้นโกนแล้วมันน่าเกลียดแค่ไหน สิวที่เราไม่เคยเห็นเป็นเยอะกว่าบนหน้าอีกครับ...
หลังจากโกนผมก็มารวมตัวประชุมกัน สั่งสอบอบรมกันเสียหลายเรื่อง ใช้ระยะเวลายาวนานทีเดียว และไล่บรรดาญาติโยมทั้งหลายให้กลับบ้าน ไม่ให้อยู่ด้วยเลย ใครอยู่นาคคนนั้นจะต้องโดนอบรมเป็นพิเศษ ให้เก็บโทรศัพท์มือถือ และเงินทุกบาททุกสตางค์ออกไป ไม่ให้มีหลงเหลือไว้ เพราะวันรุ่งขึ้นจะต้องเป็นพระแล้ว ....
วันรุ่งขึ้นทุกคนล้วนตื่นเต้นวันนี้เป็นวันบวชแล้ว พระอาจารย์นัดทุกคนให้ตื่นตี 5 แล้สมาเจอกันที่สนาม ใส้ผ้านุ่งสีขาว เสื้อสีขาวที่เตรียมมา ใส่เข็มขัด ห้ามใส่การเกงในแล้วครับ เพื่อจะเข้าพิธีบวชเป็นเณรก่อน และเข้าโบสถ์บวชเป็นพระ พ่อแม่ผู้ปกครองมารอลูกอยู่แล้วตั้งแต่เช้ามืด พวกเรากินข้าวที่วัดจัดให้ แล้วเข้าแถวเดินเป็นแถวไปที่ลานหินโค้ง มีผู้คนแน่นขนัดท่ามกลางความมืด
พระอาจารย์ท่านสั่งว่าเมื่อไปเจอพ่อแม่แล้วให้พ่อถือบาตร ให้แม่ถือผ้าไตรแล้วกราบลงที่เท้าของท่าน มันช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจของหลายๆคน น้ำตาแห่งความปีติยินดี ที่ลูกของพวกเขาต่อไปนี้จะเป็นคนใหม่แล้ว ส่วนตัวผมเองแม่อยู่เมืองนอก พ่อก็ไม่มางานบวชเนื่องจากอยู่ต่างจังหวัด มีแต่ยายและญาติฝ่ายแม่เท่านั้น ผมให้ยายถือผ้าไตรคงสมใจคุณยายมาก และให้ตาถือบาตร... และก็เข้าสู่พิธีบวชในเวลาไม่นานหลังจากนั้น ....
เข้าโบสถ์....
เริ่มต้นต้องบวชเป็นสามเณรก่อน แล้วจึงเข้าโบสถ์บวชเป็นพระ พระอาจารย์แบ่งพวกเราเป็นกลุ่มละ 3 คน เพื่อทำการบวชพร้อมกัน ทุกคนประหม่ากับบทพิธีการมาก เนื่องด้วยเป็นภาษาบาลีที่ไม่คุ้นหูเลย
เมื่อบวชเป็นเณรเสร็จแล้วพระพี่เลี้ยงก็จะทำการแต่งตัวให้ ครั้งแรกที่ได้ห่มผ้าเหลือง มันสวยงามและรู้สึกอบอุ่นมากครับ ชุดรัดกุม อุ่น และสบายใจ ก่อนที่เราจะเดินเข้าโบถส์และบวชเป็นพระ
โบสถ์ของวัดชลประทานท่านช่างไม่ยึดติดจริงๆ ไม่มีการตกแต่งให้วิจิตรอลังการณ์อย่างที่ใด เป็นแค่ปูนเปลือย ที่ก่อสร้างอย่างปรานีต ผมขนลุกซุ่เมื่อเดินเข้าไป สมพัดไหวเข้ามาอย่างสงบ มันเป็นสถานที่ศักสิทธิ์จริงๆ เราเข้ามาในโบสถ์กันเรียบร้อยแล้ว ท่านเจ้าอาวาสที่ท่านมาดำรงค์ตำแหน่งแทนหลวงพ่อปัญญา เป็นพระอุปปัชฌาให้ ซึ่งถ้าหลวงพ่อปัญญายังอยู่ ก็เป็นท่านที่เป็นผู้บวชให้ แม้ว่าท่านจะอายุ 90 กว่าแล้วก็ตาม ท่านเจ้าอาวาสท่านใหม่ท่านเคร่งขรึมมาก จนผมกลัวจะสวดบทขานนาคไม่ได้ เรียกว่าปวดหัวตุ๊บเลย
พอถึงคิวผมกับเพื่อนนาคอีก 2 คน เดินเข้าไปหาพระอุปัชฌา เราตัวเกร็งกันทั้ง 3 คน เรียกว่าตัวสั่นเลย คนที่บวชไปแล้วก็นั่งมองอยู่ใกล้ๆกดดันมากๆ เนื่องด้วยเป็นพิธีที่สงบและศักสิทธิ์มาก ไม่ให้ญาติโยมเข้ามาใกล้บริเวณโบสถ์เลย ท่านพูดด้วยความเมตตากับพวกผมสามคนว่า "ลูกใจเย็นๆ ค่อยๆท่อง" ได้ยินเสียงเมตตาดังนั้น และท่านก็ขึ้นต้นให้ ทำให้เราประคองท่องกันไปได้จนจบ ตอนที่ท่านมอบชื่อให้ว่าแต่ละคนชื่ออะไร ก็ต้องมีการตอบขานรับเป็นภาษาบาลี ในใจผมคิดถึงแม่ตลอดเวลา ว่าแค่นี้ทำไมจะท่องไม่ได้ ต้องได้สิ แม่ผมยังฝ่าฝันไปอยู่เมืองนอก เพื่อส่งให้ลูกมีชีวิตดีๆ ทั้งๆที่แม่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็ยังดิ้นรนเพื่อลูกตัวเองทั้งที่ไม่มีความรู้อะไร แค่นี้ทำไมต้องกลัว...น้ำตาผมไหลออกมาด้วยด้วยความปิตี ผมเห็นหลายๆท่านมองผมอยู่ด้วยความแปลกใจ มันเป็นน้ำตาที่ไกลออกมาแบบไม่ได้เสแสร้ง ใจมันไปเองเลยครับ บอกออกมาเองว่าบุญทั้งหมดที่ลูกได้ทำในชาตินี้ ของยกให้แม่คนเดียว แม่ที่ดิ้นรนเพื่อเรา ชุบเลี้ยงเรามา ...
ปากผมสวดภาษาบาลีนำเพื่อนทั้งสองคนข้างๆให้เขาคอยประสานไปได้อย่างราบรื่นน้ำตาผมไหลไม่หยุดเลยจริงๆ นึกถึงแล้วขนลุกจริงๆครับ วินาทีนั้นมันมีความสุขมากมันเหมือนได้ทำอะไรเพื่อแม่แล้วจริงๆ เรียกว่าไม่ต้องกังวลหรอกว่านรกสวรรค์มีจริงไหม แม่ผมได้ขึ้นสวรรค์แน่นอน เพราะผมรักและหวังดีกับแม่ขนาดนี้ แม่ต้องมีความสุข ...
ผมพัดสงบเย็น ใจผมตอนนั้นนิ่งมาก บอกตัวเองตลอดว่าเราเป็นพระแล้ว และชีวิตเรากำลังจะเปลี่ยนไป ...
คำขอบรรพชาอุปสมบทและอื่นๆมากมาย
(วัดชลประทานให้จำตามนี้เลยครับเดี๋ยวพิธีการว่าจะต้องตอบรับขานนาคอะไรยังไงพระท่านจะติวให้อีกที) ต่อไปนี้ต้องจำให้ได้เองทั้งหมด (วัดชลประทานเป็นมหานิกายนะครับ แต่ขานนาคแบบธรรมยุต เดี๋ยวจะบอกอีกทีว่าต่างกันอย่างไร)
คำขอบรรพชาอุปสมบท เอสาหัง ภันเต, สุจิระปะรินิพพุตัมปิ, ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ ละเภยยาหัง ภันเต ตัสสะ ภะคะวะโต, ธัมมะวินะเย ปัพพัชชัง, (ละเภยยัง อุปะสัมปะทัง)
ทุติยัมปาหัง ภันเต, สุจิระปะรินิพพุตัมปิ, ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ ละเภยยาหัง ภันเต ตัสสะ ภะคะวะโต, ธัมมะวินะเย ปัพพัชชัง, (ละเภยยัง อุปะสัมปะทัง)
ตะติยัมปาหัง ภันเต, สุจิระปะรินิพพุตัมปิ, ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ ละเภยยาหัง ภันเต ตัสสะ ภะคะวะโต, ธัมมะวินะเย ปัพพัชชัง, (ละเภยยัง อุปะสัมปะทัง)
อะหัง ภันเต , ปัพพัชชัง ยาจามิ, อิมานิ กาสายานิ วัตถานิ คะเหตวา, ปัพพาเชถะ มัง ภันเต, อะนุกัมปัง อุปาทายะ ทุติยัมปิ อะหัง ภันเต , ปัพพัชชัง ยาจามิ, อิมานิ กาสายานิ วัตถานิ คะเหตวา, ปัพพาเชถะ มัง ภันเต, อะนุกัมปัง อุปาทายะ ตะติยัมปิ อะหัง ภันเต , ปัพพัชชัง ยาจามิ, อิมานิ กาสายานิ วัตถานิ คะเหตวา, ปัพพาเชถะ มัง ภันเต, อะนุกัมปัง อุปาทายะ
(เกศา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ ตะโจ ทันตา นะขา โลมา เกศา)
คำขอศีล อะหัง ภันเต สะระณะสีลัง ยาจามิ, ทุติยัมปิ อะหัง ภันเต สะระณะสีลัง ยาจามิ, ตะติยัมปิ อะหัง ภันเต สะระณะสีลัง ยาจามิ 1. ปาณาติปาตา เวระมะณี 2. อะทินนาทานา เวระมะณี 3. อะพรัหมะจะริยา เวระมะณี 4. มุสาวาทา เวระมะณี 5.สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี 6.วิกาละโภชะนา เวระมะณี 7.นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนา เวระมะณี 8.มาลาคันธะวิเลปะนะ ธาระณะ มัณฑะณะ วิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี 9.อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี 10.ชาตะรูปะระชะตะปฏิคคะหะนา เวระมะณี
อิมานิ ทะสะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ (ว่า 3 ครั้ง)
คำขอนิสัย อะหัง ภันเต นิสสะยัง ยาจามิ, ทุติยัมปิ อะหัง ภันเต นิสสะยัง ยาจามิ, ตะติยัมปิ อะหัง ภันเต นิสสะยัง ยาจามิ อุปัชฌาโย เม ภันเต โหหิ(ว่า 3 ครั้ง) อัชชะตัคเคทานิ เถโร มันหัง ภาโร, อะหัมปิ เถรัสสะ ภาโร (ว่า 3 ครั้ง)
คำขออุปสมบท สังฆัมภันเต อุปะสัมปะทัง ยาจามิ, อุลลุมปะตุ มัง ภันเต, สังโฆ อะนุกัมปัง อุปาทายะ ทุติยัมปิ ภันเต, สังฆัง อุปะสัมปะทัง ยาจามิ, อุลลุมปะตุ มัง ภันเต, สังโฆ อะนุกัมปัง อุปาทายะ ตะติยัมปิ ภันเต, อุปะสัมปะทัง ยาจามิ, อุลลุมปะตุ มัง ภันเต, สังโฆ อะนุกัมปัง อุปาทายะ
อะหัง ภันเต ................. นามะ อุปัชฌาโย เม ภันเต, อายัสมา ธีระปัญโญ นามะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- นี่แหละครับใครจะบวชก็ต้องจำพวกนี้ให้ได้ทั้งหมด ไม่ต้องแคร์เรื่องสำเนียงบาลีเลยครับ อ่านเป็นไทยไปทีละตัว ใครอยากไปบวชบ้าง จำเสียตั้งแต่ตอนนี้จะไม่เครียดครับ ผมดีใจมากที่มีคนอ่าน เรื่องราวยังไม่จบครับ ผมจะเขียนต่อถึงการปฏิบัติของวัดนี้ และเกร็ดความรู้ที่เป็นประโยชน์ โปรดติดตามอ่านนะครับอยากให้ทุกคนได้แชร์เรื่องราวกับผมจริงๆ
สิ่งของที่จำเป็นที่ต้องนำไปตอนเป็นพระ
ที่วัดชลประทาน เมื่อสอบผ่านทุกกระบวนการแล้วของที่จำเป็นที่ต้องนำไปตอนเป็นพระ -มุ้งสำหรับกันยุง -ขันน้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ -ยาสระผม (ตอนโกนผมใหม่ๆหัวผู้ชายส่วนใหญ่จะเป็นสิว และจะคันเพราะแพ้มีดโกนครับ เอาแชมพูยาติดไปด้วยจะดีครับ จะได้ไม่ทรมานมาก) -ผ้าขนหนู(สีอะไรก็ได้ ไว้เช็ดตัวแต่ห้ามนุ่งออกจากห้องน้ำนะครับ เช็ดตัวผืนนึง เช็ดหน้าผืนนึง) -พัดลม (ถ้าเป็นไปได้ซื้อใหม่ตัวละ 3-4 ร้อย พอสึกแล้วบริจาควัดไปเลยครับ เขาจะเอาไปให้เด็กน้อยผู้ขาดแคลน เด็กๆชอบพัดลมครับ) -นาฬิกาปลุก---สำคัญมากครับ ขอแบบที่ปลุกตรงเวลานะครับ -เสื้อขาวแขนยาว(เชิ๊ต) + เข็มขัดอะไรก็ได้ครับเข็มขัดทำงานก็ได้ สำหรับตอนเป็นนาค ผ้านุ่งขาววัดมีให้ครับ - จาน + ช้อนส้อม (ใช้แล้วบริจาคให้วัดไปเลยเช่นกันครับไม่ต้องเอากลับที่วัดขาดแคลน)
บทส่งท้าย
สามารถติดต่อวัดวันเสาร์อาทิตย์ได้ครับ เพราะเขาก็จะนัดวันเสาร์อาทิตย์เช่นกันเพื่อความสะดวกของโยมทั้งหลาย ลองไปเดินเล่นดูก่อนก็ได้ครับว่าสถานที่ความเป็นอยู่ร่มรื่นขนาดไหน ไปซื้อหนังสือดีๆที่ศูนย์หนังสือมีสองร้านนะครับ ร้านข้างๆที่สมัครบวช กับร้านข้างท้ายๆวัดซึ่งร้านนี้เปิดเฉพาะเสาร์อาทิตย์ จะมีหนังสือและซีดีดีๆ ราคาถูกมากๆ หนังสือของหลวงพ่อปัญญา ท่านพระพุทธทาสซึ่งขายกันแบบไม่เอากำไร ซีดีธรรมะแผ่นละ 10 บาทเองครับเป็น mp3 ก็ให้ไปแผ่นละ 20 ล่ะครับ ลองไปทำบุญตักบาตรดูก่อน
ประสบการณ์ที่วัดซลประทานทำให้ผมคลั่งวัดไปเลยครับ เดี๋ยวนี้ใน ipod ใส่แต่ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น มันส์ดีครับ แนะนำให้ลองซื้อซีดีของหลวงพ่อปัญญาที่ท่านเทศน์มาฟังครับ คุณจะไม่รู้สึกเบื่อ พร้อมจะอมยิ้นตลอดเวลากับอารมณ์ขันของท่าน แม้ผมเพิ่งมารู้จักท่านเมื่อท่านเสียไปแล้ว แค่ฟังเสียงผมก็ซึ้งว่าท่านเป็นคนที่มีเมตตาจิตขนาดไหน และไม่ยึดติดอะไรทั้งนั้น ตอนผมเป็นพระก็ฉันข้าวไปฟังท่านเทศน์ไป (วัดเปิดซีดีให้ฟัง) ผมฟังเสียงท่านทีไรแล้วอารมณ์ทั้งดี
ผมอยากให้คุณได้มาบวชวัดนี้ครับ วัดที่เป็นแก่นของพุทธศาสนาโดยแท้ เคร่งในหลักธรรมคำสอน แต่ละเลยในไสยศาสตร์ ไม่ยึดติดอะไรทั้งทิ้ง เป็นพุทโธโลยีโดยแท้ ศาสตร์ของพระธรรมที่ตั้งอยู่บนวิทยาศาสตร์ แล้วคุณจะเข้าใจหลักธรรมคำสอนของศาสนาง่ายขึ้น สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจครับ ผมยินดีให้คำปรึกษาเมลมาได้ที่ betaglucan@hotmail.comครับ
---จบ---
PS. Actually, I would like to use all of my poor English skill to translate the priesthood article to English so that some foreigners who interested in Buddhism but lacking of English information, reach some information about the good place for priesthood. However, this too long and I have not enough time to done this.
Whatsoever, if you or your friend would like to have this in English, I'm Welcome!
Create Date : 01 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 24 ตุลาคม 2552 9:04:37 น. |
|
20 comments
|
Counter : 2435 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: Ake (ArKooMa ) วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:18:44:10 น. |
|
โดย: โอ๊ต IP: 118.174.43.148 วันที่: 16 ตุลาคม 2552 เวลา:21:52:35 น. |
|
โดย: Mr.Kito (Mr.Kito ) วันที่: 17 ตุลาคม 2552 เวลา:13:15:15 น. |
|
โดย: Mr.Kito วันที่: 17 ตุลาคม 2552 เวลา:13:19:19 น. |
|
โดย: ArKooMa (ArKooMa ) วันที่: 24 ตุลาคม 2552 เวลา:9:06:17 น. |
|
โดย: gaaggaag IP: 119.42.72.180 วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:16:48:43 น. |
|
โดย: ิิbboon IP: 115.67.45.72 วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:12:28:45 น. |
|
โดย: นนท์ IP: 124.121.218.158 วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:57:18 น. |
|
โดย: ผมนนท์ครับ IP: 124.121.218.158 วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:08:09 น. |
|
โดย: แบงค์ IP: 124.121.126.118 วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:22:47 น. |
|
โดย: ArKooMa (ArKooMa ) วันที่: 5 สิงหาคม 2553 เวลา:11:10:56 น. |
|
โดย: Iด็กoEากUวช(Uิ๊ก IP: 124.122.195.11 วันที่: 20 สิงหาคม 2553 เวลา:17:12:08 น. |
|
โดย: Casino Mix Online IP: 61.19.66.138 วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:14:24:44 น. |
|
โดย: ความจริง IP: 125.27.53.129 วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:16:28 น. |
|
โดย: นที IP: 124.122.202.208 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:13:41:13 น. |
|
โดย: นที IP: 124.122.202.208 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:13:46:07 น. |
|
โดย: เธเธต IP: 180.183.110.157 วันที่: 31 มกราคม 2555 เวลา:16:32:20 น. |
|
โดย: ที IP: 180.183.110.157 วันที่: 31 มกราคม 2555 เวลา:16:34:30 น. |
|
โดย: ยม IP: 125.24.147.43 วันที่: 29 เมษายน 2559 เวลา:11:49:13 น. |
|
| |
|
ArKooMa |
|
|
|
|
ผมก็เคยบวชที่วัดนี้เหมือนกันเมื่อหลายปีมาแล้ว
3 เดือนนั้น...เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิตเลย