● ตึกราชินี @ Chonburi
ตอนแรก ทีมงานของเราตั้งใจว่าจะพาไปเที่ยวสถานที่อื่นกันบ้าง เพราะขณะนี้ทางทีมงานของเรากำลังมุ่งหน้าหลบหนีเข้าเมืองสู่ประเทศเพื่อนบ้านที่รักกันมากที่สุดในตอนนี้ ไฟสัญญาณรัดเข็มขัดติดขึ้นพร้อมกับ กัปตันคาร์ลอสแจ้งเสียงตามสายว่าจะกางล้ออีกประมาณ 10 นาที จะพาทุกท่านสู่ทุ่งหญ้านานานาชาติ..กรุณาปิดเครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์ของท่านทุกชนิด
ทันไดนั้นเอง!..ทางทีมงานของเราจึงได้เห็น SMS พร้อมกับ เสียงตอบรับเรียกร้องเข้ามาทาง SMS 1900 191 123 มากมายเหลือเกิน "ว่า" "ทำไม..." "ที่เที่ยวเมืองชลบุรียังมีอีกเยอะมากมายนะ แล้วทำไม!..ไม่พาไปเที่ยวต่อล่ะ" "ไปวันไหนดี วันเสาร์ดีไหม...คนเยอะไหม" "หมึกย่าง ขายกันตรงไหน ต้องจุ่มน้ำจิ้มกี่ทีถึงอร่อย" "ครก ที่นั้นทนหรือเปล่าใช้ถึง 10 วันไหม" "ซื้อ ครกใหญ่ ๆ ตรงไหน แล้วเขาจะแถมสากด้วยไหม" "งานกองข้าวล่ะ ไปมาหรือเปล่า" "วันไหล ไปมาหรือเปล่า"
หลายคำถามมากมายจากร้อยเสียงทางบ้าน ทางทีมงานของเราจึงได้ตัดสินใจสั่งกัปตันคาร์ลอสหุบล้อกลับมาเปิดห้องแถลงข่าว สรุปประเด็นหลักๆ หลายเรื่องให้ทราบ แต่ทางบรรดาสปอนเซอร์และเหล่าบรรดาแม่ยกทางรายการไม่ยอม เรียกร้องอยากให้พาเที่ยวชลบุรีกันต่อ ทางทีมงานของเราเลยตั้งใจนำท่านเดินทางกลับมาสู่ชลบุรี FC เมืองน่าอยู่กันอีกสักครั้ง! ^_^ คริ..คิร
เอาล่ะ! หลังจากที่อิ่มหน่ำสำราญกับการเดินชมตลาดอ่างศิลา 133 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นของคู่กันกับตลาดอ่างศิลา 133 ปีค่ะ นั่นก็คือ ตึกราชินี หรือที่เขาเรียกกันง่ายๆว่าตึกแดง ใครมาอ่างศิลาถ้าไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึง คริ..คริ
ี
ตึกมหาราชและตึกราชินี เป็นตึกเก่าแก่ที่มีมาแต่เดิม เรียกว่า " อาไครยสถาน " ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2440 ในการเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสด็จประทับอยู่ในยุโรป สมเด็จพระนางเจ้าศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ขณะนั้ ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์พระราชทานให้ซ่อมแซมตึกทั้งสองหลัง เพื่อเป็นที่อาศัยของผู้มีบรรดาศักดิ์ พ่อค้าวานิช ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่เจ็บป่วยออกไปพักรักษาตัวตามชายทะเล หาอากาศบริสุทธิ์ แล้วเสร็จในเวลาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับคืนพระนคร ทรงอนุโมทนาแล้ว พระราชทานนามตึกทั้งสองหลัง ให้เรียกตึกหลังใหญ่ว่า ตึกมหาราชและตึกหลังเล็กว่า ตึกราชินี ตึกมหาราช ตึกราชินี เป็นอาคารทรงปั้นหยา สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ลักษณะอาคารมีรูปแบบผสมแบบตะวันตก ตัวอาคารสูง - ชั้น ผนังก่ออิฐฉาบปูน พื้นชั้นล่างเป็นคอนกรีต ชั้นบนเป็นไม้สัก มีมุขยืนด้านหน้า หลังคาทรงปั้นหยามุงด้วยกระเบื้องลอนแบบเก่า ชายคามีรางน้ำโดยรอบ ขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดเนโบราณ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 113 ตอนพิเศษ 50 ง. ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2539 พื้นที่โบราณสถานประมาณ 19 ไร่ 3 งาน 93 ตารางวา
ประวัติ ความเป็นมาของตึกราชีนี จะมีป้ายอยู่ที่หน้าตึก เป็นประวัติย่อๆ ของตึกราชินีแห่งนี้ ซึ่งตึกแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ตากอากาศแห่งแรกของประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 4 ต่อมาก็ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ในระหว่างที่สำเร็จราชการแทนรัชกาลที่ 5 ในตอนที่เสด็จประพาสยุโรป ลักษณะของตึกหลังนี้สร้างด้วยปูน เป็นตึก 2 ชั้น และทาสีแดง อยู่ติดริมทะเล สวยงามมาก
บรรยากาศภายในตึก ก็เป็นแบบโบราณ ขลังนิดๆ ลมพัดผ่านเย็นสบาย ชั้นบนมีอยู่ด้วยกัน 2 ห้อง แต่ละห้องก็จะมีภาพถ่ายขาวดำโบราณติดไว้ที่ผนังห้อง ริมระเบียงติดกับทะเล อากาศสดชื่นเป็นธรรมชาติจริงๆ ในวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะมีชาวบ้านในย่านนั้นเดินทางมาพักผ่อนกันที่นี่ค่ะ เพราะทางจังหวัดชลบุรีได้จัดให้ตึกราชินีเป็น พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราช จังหวัดชลบุรี ด้วย
วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ใครที่ชอบบรรยากาศโบราณก็ลองแวะเข้าไปชม ตึกราชินี กันดู ได้สัมผัสบรรยากาศเก่าๆ ริมทะเลไปพร้อมๆกับอากาศเย็นสบาย ในช่วงวันพักผ่อนก็คงจะดีไม่น้อยทีเดียว
แผนที่เดินทางดูตรงนี้เลย
Create Date : 26 เมษายน 2554 |
|
12 comments |
Last Update : 26 เมษายน 2554 9:12:20 น. |
Counter : 3699 Pageviews. |
|
|
|
กริ๊ดๆๆๆ
สรุปว่าก็ยังหลงอยู่ที่ชลบุรีอีกเหรอ เนี่ย 555
วันเดียวซอยออกหลายบล้อกเลยนะ
(เหมือนใครหว่า) 555
ตึกราชินิ ไม่เคยไปเลย
แต่เห็นสภาพแล้วเก่ามาก ไม่กล้าเดิน กลัวหัก เพราะคงรับน้ำหนัก 48 โลของรินมะได้แน่นอน เพราะอ้วนๆ 555+
ใครกัน!! ถามเรื่อง สาก เรื่องครก เรืื่องปลาหมึกย่าง เรื่องน้ำจิ้ม
จิ๊บๆ
ครกซื้อแถมไหม ต้องอ้อนขอของแถมเอง
น้ำจิ้ม จิ้มกี่ทีจะอร่อย ต้องจิ้่มลงในปาก หร่อยเหาะเลย
งานกองเข้า วันไหล ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็น Google