กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
12 กรกฏาคม 2555

เรื่องราวของกล่องอาถรรพ์ The Dibbuk Box

เรื่องราวของกล่องอาถรรพ์ The Dibbuk Box
เขียนและแปลโดยคุณ AguileraAnimato [horrorclub]



The Dibbuk Box คือกล่องที่มีรูปร่างเหมือนกล่องเก็บไวน์ (เราอาจเรียกว่าตู้ขนาดเล็กก็ได้) ซึ่งว่ากันว่ามีปีศาจร้ายสิงอยู่
และเรื่องราวเกี่ยวกับกล่องนี้
ที่ไปโดนใจให้ทีมผู้สร้างหนังนำเรื่องของมันมาดัดแปลง
เป็นภาพยนตร์เรื่อง The Possession เดอะ พอสเซสชั่น
ดังนั้น เราจึงควรไปรู้จักมันว่าเรื่องราวของมันเป็นมาอย่างไร

จุดที่น่าสนใจอย่างมากของ Dibbuk Box คือ มันเป็นของอาถรรพ์ไม่กี่อย่างบนโลกนี้
ที่เป็นของในยุคสมัยใหม่ นั้นคือมีอายุไม่ถึง 100 ปี และยังวนเวียน
อยู่ในสังคมโลกสมัยใหม่ ถึงขั้นที่ว่ามันกลายเป็นกระแสประมูลอยู่ในอินเทอร์เน็ตมาแล้วพักนึงเลยทีเดียว

ที่มาที่ไปของ The Dibbuk Box

เนื้อหาบางส่วนมาจากหนังสือเรื่อง The Dibbuk Box ซึ่งผู้เขียนคือ Jason Haxton เป็น คิวเรเตอร์พิพิธภัณฑ์
และมีสถานะเป็นเจ้าของกล่องอาถรรพ์นี้ในปัจจุบัน เขาเล่าเรื่องราวความเป็นมาของกล่องนี้
โดยเริ่มเล่าเท้าความไปยังเจ้าของคนก่อนหน้าที่ชื่อ Kevin Mannis ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่ได้ของนี้มาจากการซื้อของมือสอง
โดยเขาได้ตัดตอนมาจากหน้าประมูลสินค้าที่เควินได้เขียนกำกับเอาไว้

เควินเล่าให้ฟังว่า เรื่องนี้เกิดในช่วงกันยายนปี 2001 ที่พอร์ทแลนด์ รัฐออริกอน เขาทำงานเป็นเซลล์ขายที่ดิน
และก็ได้รู้จักกับผู้หญิงคนนึงที่เอาของมาวางขาย
เธอก็เล่าให้ฟังว่าของทั้งหมดเป็นของคุณย่าที่ชื่อ Havala ที่พึ่งเสียไป หลังจากมีอายุร่วม 103 ปี
คุณย่าของเธอเป็นชาวยิว เกิดและเติบโตที่โปแลนด์ แต่แล้ว
ในช่วงปี 1938 ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อโปแลนด์เข้าสู่ช่วงเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่ 2
เธอและครอบครัวถูกส่งตัวไปค่ายกักกันนาซี สมาชิกทุกคนยกเว้นเธอ
ถูกฆ่าในระหว่างนั้น มีเพียงเธอและเพื่อนสาวไม่กี่คนที่หลบหนีมาได้ และอพยพไปอยู่สเปนจนกระทั่งสงครามสิ้นสุดลง
โดยในระหว่างหลบหนีจนมาพำนักในสเปน
คุณย่าของเธอมีของติดตัวเพียงสามชิ้น ที่ต้องเอาพกติดตัวไปตลอด นั้นคือ กล่องเย็บปักถักร้อย หีบใส่ของ
และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณย่าเธอหวงแหนมากๆก็คือ .. กล่องเก็บไวน์ชิ้นนี้

เควินฟังเรื่องจบก็ไม่ได้คิดอะไร เขาตัดสินใจซื้อของบางอย่างในนั้น
ซึ่งแน่นอนว่าเค้าซวยมากๆที่เลือกกล่องเก็บไวน์นั้นไปด้วย โดยหญิงสาวคนขายก็บอกว่า
คุณย่าเรียกกล่องนี้ว่า Dibbuk Box มันเป็นกล่องที่คุณย่าเก็บไว้ในห้องเย็บผ้า
และวางไว้บนที่สูงเพื่อป้องกันไม่ให้คนหยิบลงมา คุณย่ายังกำชับเธอเสมอว่า
กล่องนี้ไม่เคยถูกเปิดมาก่อน และบอกเธอว่าห้ามเปิดกล่องนี้เด็ดขาด
เธอเลยถามคุณย่าว่าในกล่องนี้มีอะไร คุณย่าตอบว่า Dybbuk และ Keselim ซึ่งเธอ
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคืออะไร (Dybbuk หมายถึงปีศาจ ส่วน Keselim เป็นภาษาตุรกีหมายถึงพระ)
และคุณย่ายังเคยพูดสั่งเสียว่าหากเจ้าตัวตายลง ขอ
ให้ฟังกล่องนี้ลงไปในหลุมฝังศพพร้อมกับร่างของเธอด้วย แต่เพราะธรรมเนียมชาวยิวไม่นิยมทำแบบนั้น
คำขอของคุณย่าเลยถูกปฏิเสธ เป็นผลให้เจ้ากล่องนี้ยังอยู่ในปัจจุบัน

เควินได้ฟังแบบนั้นเลยคิดว่าคุณยายคงหวงกล่องนี้มากๆเลยตัดสินใจที่จะคืน ให้หญิงสาวไป
แต่เธอก็ปฏิเสธ โดยอ้างว่าเค้าซื้อของไปแล้ว และต่อให้เควินจะ
บอกว่าไม่ต้องการเงินคืน
เธอก็โวยวายไม่รับของคืนอยู่ดี ในตอนนี้เควินสังเกตได้ว่าเธอดูหงุดหงิดและฉุนเฉียวขึ้น สุดท้ายเควินจึงนำกล่องนี้กลับไปกับเขา
โดยหวังว่าจะเอากล่องนี้ไปให้แม่เป็นของขวัญวันเกิด และเรื่องชวนขนลุกก็เริ่มต้นขึ้นจากนั้น

เควินเปิดร้านขายเฟอร์นิเจอร์เล็กๆไว้ เขานำกล่องไวน์ไปเก็บไว้ที่ชั้นใต้ดินของร้าน ซึ่งเป็นส่วนของออฟฟิศ
จากนั้นจึงออกไปทำธุระข้างนอก โดยปล่อยให้
พนักงานเฝ้าร้านไว้เพียงลำพัง ไม่ถึงชั่วโมง พนักงานก็โทรศัพท์มาหาเขาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนกสุดขีด
เธอเล่าว่ามีคนบุกรุกเข้ามาในร้านอยู่ที่ชั้นใต้ดิน
เธอไม่เห็นว่าเป็นใคร แต่ได้ยินเพียงเสียงสบถสาปแช่ง และเสียงกระจกแตก เธอพยายามจะหนี
แต่ประตูทางออกฉุกเฉิน และประตูเหล็กของร้านกลับถูกล็อค
เมื่อเควินได้ฟังเขาจึงรีบโทรหาตำรวจ แต่จู่ๆแบตเตอรี่มือถือก็ดับ เขาจึงตัดสินใจวิ่งกลับไปที่ร้าน
และพบว่าพนักงานสาวตัวสั่นเทาด้วยความกลัวอยู่ที่มุมห้อง
เควินทำใจกล้าเดินลงไปชั้นใต้ดิน และเขาก็ได้กลิ่นเหมือนฉี่แมวอบอวลอยู่ข้างในนั้น
ทั้งๆที่ในร้านไม่มีแมวเลย เควินพยายามจะเปิดไฟ แต่มันกลับเสีย
หลอดฟลูออเรสเซนต์ 10 หลอด ร่วงลงมาแตกกระจายบนพื้น
แน่นอนว่าเขาไม่พบผู้บุกรุกเลย ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ที่จะมีคนหลบหนีออกไป เพราะบันได
ก็มีทางเดียว ครั้นเควินจะไปถามพนักงานของเขาก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
เพราะตั้งแต่วันนั้นเธอก็ลาออกจากงาน และปฏิเสธที่จะพูดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นอีก

อย่างที่ได้เล่าไปว่าเควินวางแผนจะนำกล่องไม้โบราณนี้ไปให้แม่เป็นของขวัญวันเกิด
เขาจึงตัดสินใจที่จะเปิดกล่องเพื่อทำความสะอาดมันเล็กน้อย ทันทีที่เขาเปิดกล่อง
กลไกในกล่องก็ทำงาน ประตูเล็กๆข้างในกล่องอีกชั้น และลิ้นชักเล็กๆๆค่อยเด้งออกตาม
ซึ่งเควินคิดว่ามันเป็นกลไกที่ออกแบบมาได้ปราณีตมากๆ และภายใน
กล่องนั้น เขาพบเหรียญเพนนีของอเมริกาสีเหลืองอ่อนปี 1928 และของปี 1925, กระจุกผมบลอนด์ที่ถูกมัดด้วยด้าย
และกระจุกผมสีน้ำตาลดำอีกหนึ่งกระจุก
ที่ถูกมัดไว้ด้วยด้ายเช่นกัน, แท่นหินแกรนิตที่สลักตัวอักษรและเคลือบทองคำว่า SHALOM
(เป็นภาษาฮิบบรู แปลว่า ความสงบสุข), ดอกกุหลาบแห้งๆหนึ่งดอก,
จอกไวน์สีทองขนาดเล็ก และเชิงเทียนเหล็กสีดำที่มีฐานเป็นลายสลักของหนวดปลาหมึก



เควินนัดเจอกับแม่ที่ร้านของเค้าในวันที่ 31 ตุลาคม เธอดูชอบตู้เก็บไวน์โบราณชิ้นนี้มากๆ หลังจากปล่อยให้แม่สำรวจตู้ไป
เควินก็ออกไปคุยโทรศัพท์ แต่ไม่ถึง 5 นาที พนักงานคนใหม่ของร้านก็วิ่งออกมาหาเขาด้วยความตกใจ
บอกเขาว่าแม่มีอาการผิด ปกติ เควินเดินไปดูแม่ของเขา เธอยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ข้างๆกับตู้เก็บไวน์ สีหน้าของเธอแน่นิ่งปราศจากความรู้สึก
ทว่ามีน้ำตาเอ่อไหลอาบแก้ม เควินพยายามพูดคุยกับแม่ แต่เธอไม่สามารถพูดได้ และร่างกายของเธอก็ขยับไม่ได้
หมอวินิจฉัยว่าร่างกายเธอบางส่วนเป็นอัมพฤกษ์ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังมีปฏิกริยาตอบสนองได้
เควินจึงสื่อสารกับแม่ผ่านกระดานตัวสะกด โดยให้แม่ชี้นิ้วไปที่ตัวอักษร เค้าถามแม่ว่าเมื่อวันนั้นแม่ทำอะไร
และเธอก็สะกดคำว่า N-O-G-I-F-T เควินเข้าใจว่าแม่คงทวงของขวัญจากเค้า จึงบอกไปว่าเค้าได้ให้ของขวัญกับแม่แล้ว
แต่แม่ก็อารมณ์เสียแล้วสะกดคำว่า H-A-T-E-G-I-F-T ชายหนุ่มหัวเราะแล้วบอกว่า
ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไร แล้วเขาจะซื้อของขวัญชิ้นใหม่ให้ ถ้าแม่สัญญาว่าจะหายป่วยเร็วๆ
แน่นอนว่าเควินไม่ได้ตระหนักเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เกี่ยวข้องกับกล่องไม้โบราณที่มีอายุเกือบ 80 ปีชิ้นนี้

หลังจากนั้นเควินก็ยกกล่องนี้ไปให้น้องสาว แต่เธอก็ส่งคืนหลังจากได้ไปเพียงหนึ่งสัปดาห์
เธอบอกว่าประตูของตู้มันปิดไม่เข้า ทุกครั้งที่ปิดลง มันจะเปิด
ออกเองเสมอๆ เควินจึงยกกล่องนี้ไปให้น้องชาย และภายในสามวันน้องเขาก็ส่งมันคืน
โดยน้องชายอ้างว่ากล่องนี้ส่งกลิ่นประหลาดเหมือนดอกมะลิ ส่วน
ภรรยาของเขาบอกว่ามันกลิ่นเหมือนฉี่แมว จนสุดท้ายเขาก็ขายมันให้คู่สามีภรรยาวัยกลางคนคู่หนึ่ง
ดูเหมือนว่าเขาจัดการนำกล่องไม้ชิ้นนี้ออกไปจากชีวิต
ได้แล้ว แต่ไม่เลย สามวันหลังจากนั้นเขาพบกล่องไม้ชิ้นนี้วางอยู่ที่หน้าร้าน พร้อมกระดาษที่เขียนข้อความสั้นๆว่า
" สิ่งนี้มีความมืดอันชั่วร้าย "
เมื่อเป็นเช่นนั้นเควินจึงจำใจเอากล่องไม้กลับบ้านและเรื่องสยองก็เริ่มหนักขึ้น

ก่อนหน้านั้นเควินไม่ได้นำกล่องไม้ชิ้นนี้กลับบ้าน เพราะวางไว้ที่ร้านตลอด เนื่องจากวางแผนจะให้แม่
แต่เมื่อแม่ไม่รับ เขาจึงส่งให้คนอื่นอีก แต่ทุกคนก็พร้อมใจกันนำมาคืน นี้เป็นครั้งแรกที่เขานำมันกลับบ้านมาด้วย
ไม่นานเควินก็เริ่มฝันร้าย ซ้ำๆ ในความฝัน เขาเดินอยู่กับใครคนหนึ่งที่เขาคุ้นเคย แต่
เมื่อเขาจ้องไปที่ตาของใครคนนั้น ก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
เหมือนกับว่าเขาจ้องมองไปยังดวงตาของปีศาจร้ายซึ่งก็จ้องเขากลับมาเช่นกัน
และทันใดนั้นบุคคลนั้นก็เปลี่ยนร่างเป็นปีศาจที่น่าเกลียดน่ากลัวลักษณะคล้ายหญิงแก่ที่อัปลักษณ์
ที่พยายามจะรีดเค้นเอาน้ำมันสีดำออกมาจากตัวเขา
และเมื่อเขาสะดุ้งตื่นขึ้น เควินก็พบกับรอยแผล รอยตำหนิเกิดขึ้นตามตัว
บริเวณที่ปีศาจร้ายพยายามจะทำร้าย แต่ถึงอย่างนั้นเควินก็ยังไม่เอะใจอยู่ดีว่าฝันร้ายนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เขานำกล่องไม้กลับมาที่บ้าน

เวลาผ่านไปเกือบเดือน น้องสาว น้องชายและภรรยา ก็แวะมาเยี่ยมเควินและนอนค้างคืนที่นั้น
รุ่งเช้าน้องสาวเล่าว่าเมื่อคืนเธอฝันร้าย ซึ่งเป็นฝันแบบเดียว
กับที่เธอเคยฝันมาก่อน เมื่อเธอเล่ารายละเอียดให้ฟัง
น้องชายและภรรยาก็หน้าถอดสี เพราะพวกเขาก็ฝันเช่นเดียวกัน และเมื่อทั้งหมดคุยกันก็สรุปได้ว่าฝันร้าย เกิดขึ้นทุกครั้งที่เขานำกล่องไม้นี้เข้าบ้าน

หลังจากนั้น เควินก็เจอเหตุการณ์ประหลาดหนักขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนบ้านอ้างว่าพวกเขาพบเห็นเงาดำๆเคลื่อนไหวอยู่ภายในบ้าน
เควินตัดสินใจเอากล่องไม้ไปวางไว้นอกบ้าน บริเวณโรงเก็บของ และในคืนนั้นเขาก็ต้องตื่นขึ้นในกลางดึกเมื่ออุปกรณ์เตือนไฟไหม้ดังขึ้น
เขาลุกขึ้นไปดูแล้วก็ต้องผงะเมื่อได้กลิ่นฉี่แมวลอยฟุ้งเต็มบ้าน (ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ได้เลี้ยงแมว)
เควินตัดสินใจเดินออกไปนอกบ้านแล้วหยิบกล่องไม้กลับเข้ามาจากนั้นจึงเริ่มต้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต
เควินหลับไปสักพัก และตื่นอีกครั้งในตอนตีสี่ ทีนี้เขาได้กลิ่นเหมือนดอกมะลิลอยอบอวลในบ้าน
ตามด้วยเสียงลมหายใจที่รดต้นคอ และทันใดนั้นเขาก็เห็นเงาดำๆ วิ่งจากจุดที่เขานั่งอยู่ไปยังทางเดินของบ้าน

เท่านั้นแหละที่เควินตัดสินใจจะทำลายกล่องนี้เสีย แต่เขาก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า หากทำลายมันลง
วิญญาณร้ายจะหายไปจริงเหรอ การทำลายกล่องทิ้งอาจจะนำไปสู่เรื่องเลวร้ายมากขึ้น มันคือวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องหรือไม่
ว่าแล้วเควินก็เลยตัดสินใจไม่ทำลาย แต่ทำการขายต่อกล่องไม้นี้ผ่านทางเว็บไซต์อีเบย์เอง จากการที่เขารู้มาว่ามีคนกลุ่มนึงในเว็บที่ชอบหาของแปลกๆมาสะสม ซึ่งก็ปรากฎว่ามีผู้ซื้อไป

( มีการไปสืบเรื่องราวของหญิงชรา Havala คนที่เป็นเจ้าของกล่องเพิ่ม อ้างว่ามาจาก บทความหรือหนังสือชื่อ " Mystery of possessed box at caves "
โดย Cheddar Valley Gazette วันที่ 10 มิถุนายน 2010 อีกที เนื้อหาเล่าว่าคุณย่า Havala ได้ทำการเรียกปีศาจ Dybbuk มายังโลกมนุษย์
เพื่อช่วยเหลือเธอและเพื่อนๆให้รอดพ้นจากการถูกสังหารในช่วงการฆ่าล้างเผ่า พันธุ์ชาวยิว
และเมื่อสาวๆทั้งหมดรอดพ้นจากการตามล่า พวกเธอก็ตัดสินใจผนึกปีศาจร้ายตนนี้ไว้ในกล่องนี้)


แล้วกล่อง นี้ไปถึงใครบ้าง

มีคนนึงที่ซื้อไปชื่อ Iosif Neitzke เขาก็บอกว่าตั้งได้กล่องนี้มา จู่ๆผมก็เริ่มร่วงทุกวันๆ และบ้านก็เกือบจะไฟไหม้
รวมไปถึงข้าวของต่างๆในบ้านสลับตำแหน่ง และแน่นอนว่าเขาฝันร้ายถึงหญิงแก่อัปลักษณ์เฉกเช่นคนอื่นๆที่เคยเจอ

ตอนนี้เจ้ากล่องนี้อยู่ที่คนเขียนหนังสือเล่มนี้ชื่อ Jason Haxton เป็นคิวเรเตอร์ของพิพิธภัณฑ์
และก็เป็นคนที่สนใจเรื่องลี้ลับ ซึ่งเค้าก็ประมูลได้มันมาครอบครองเป็นคนล่าสุด

ซึ่งเว็บไซต์ //paranormal.lovetoknow.com ก็ได้ไปสัมภาษณ์เขา

เจสันเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่ได้กล่องนี้มา เขาก็เริ่มฝันร้าย สุขภาพร่างกายทรุดโทรม การมองเห็นแย่ลง
หายใจไม่ออก เป็นตุ่มตามตัว แล้วก็มักจะเห็นเงาดำๆ ลอยอยู่ในบ้าน

นายเจสันก็บอกว่านับเป็นเวลา 7 ปีแล้วที่กล่องนี้อยู่ในการครอบครองของเขาตัวเขาเองก็เจอเรื่องแปลกๆมากมายจนชิน
แต่ก็เพราะว่าเขาสนใจเรื่องพวกนี้เลยอยู่กับมันได้ โดยไม่พยายามทำลายขวัญตัวเองด้วยการด่วนสรุปว่าทุกอย่างเป็นเพราะกล่อง
เหตุที่เจสันคิดแบบนั้นเพราะเขาสนใจศึกษาในในวิทยาศาสตร์ (ตัวเขาเองมีความเชี่ยวชาญทางการแพทย์) และในขณะเดียวกันก็ยังศึกษาวัฒนธรรม
ของกลุ่มแคบบาราห์ (ลัทธิที่ศึกษาคำสอนของชาวฮิบรูโบราณ) Wicca (กลุ่มผู้ศึกษาเวทย์มนต์ใช้ชีวิตกับธรรมชาติ)
เลยทำให้เขามีหลักการและเหตุผลในการรับมือและวิเคราะห์กับเรื่องเหนือธรรมชาติ

เจสันยังให้มุมมองที่แตกต่างกับสิ่งของที่ใครๆก็หวาดผวาชิ้นนี้ว่า เขาเชื่อว่าด้วยตัววัตถุเอง กล่องนี้อาจจะไม่ได้เป็นของมงคล
หรืออัปมงคลแต่อย่างใด มันอาจเป็นเพราะมนุษย์นี้แหละ โดยเฉพาะคนที่สร้างต้องการจะปลุกเร้าความกลัวของคนให้เกิดขึ้น
และยิ่งเรากลัวเท่าไร ก็เหมือนไปสร้างพลังมืดให้กับวัตถุ ฉะนั้นเราจึงควรหยุดที่ตัวเอง ปล่อยให้มันเป็นเพียงวัตถุนึงไปก็เท่านั้น
มันก็จะไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีก

เจสันยังกล่าวต่อไปว่า เขาอยู่กับกล่องนี้มานาน จนนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะขาดมันไปได้อย่างไร ทุกวันนี้เขายังเก็บมันไว้ในลังเก็บของ
ในความรู้สึกของเขามันก็ไม่ได้มีพิษภัยกับเขาและครอบครัว เค้ายังกำชับกับภรรยาว่าหากเขาตายไปช่วยฝังกล่องนี้ไปพร้อมร่างเขาด้วย




Credit : //hogwartsthai.com/forum/lofiversion/index.php?t20471.html




ในโลกทันสมัยไฮเทค คงไม่มีใครคาดคิดว่าวัตถุมนต์ดำ หรือของอาถรรพ์จะส่งผ่านมือกันได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้วคลิ๊ก
แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว!! เมื่อเรื่องราวของกล่องไม้ขังวิญญาณ " ดิ๊บบัค บ็อกซ์ " กลายเป็นประเด็นเลื่องลือในโลกไซเบอร์
เกี่ยวกับตำนานความหลอน เพราะมันเป็นกล่องอาถรรพ์ที่กักขังดวงวิญญาณชั่วร้ายเอาไว้ ทว่าถูกนำเอามาขายในอินเทอร์เน็ตปะปนกับสิ่งของทั่วไป
และแล้วความสยองก็ได้รับการส่งทอดในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

The Possession เดอะ โพสเซสชั่น คือผลงานการสร้างของ แซม ไรมี่ เจ้าของสตูดิโอ Ghost House Pictures ที่สร้างหนังสยองขวัญ
ที่ประสบความสำเร็จแล้วมากมาย เช่น Drag Me to Hell และ The Grudge ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจของการเอาตำนานกล่องไม้โบราณของชาวยิวมาเล่าว่า

" ผมได้อ่านบทความที่ชื่อ A jinx in a box ที่ตีพิมพ์ไว้ใน แอล เอ ไทมส์ เมื่อหลายปีก่อน ผมรู้สึกว่ามันมีความน่าสนใจ
ที่ของโบราณจะถูกขายผ่าน
ทางโลกออนไลน์ และทำให้ผู้ครอบครองทุกคนต้องพบกับเรื่องราวน่าขนลุก
ผมจึงต้องการสร้างเรื่องสยองขวัญที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่ง และความ
พยายามทุกวิถีทางที่จะกำจัดมัน "

หนังสยองขวัญที่ได้รับการกล่าวขานว่า น่ากลัวที่สุดในปีนี้ พร้อมเรื่องสยองมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำ







Create Date : 12 กรกฎาคม 2555
Last Update : 29 สิงหาคม 2555 10:02:05 น. 21 comments
Counter : 10819 Pageviews.  

 
กลัวค่ะ ....


โดย: แป๋งจ๊ะ (pongpangja ) วันที่: 12 กรกฎาคม 2555 เวลา:14:48:44 น.  

 
ขอบคุณนะคะสำรับบทความนี้
หาหลายเว็บมากจนเจอเว็บนี้


โดย: 123 IP: 110.169.253.45 วันที่: 8 สิงหาคม 2555 เวลา:22:22:30 น.  

 
เรื่องสนุกมาก น่ากลัวมากเลยค่ะ ไปดูแน่นอน มีใครอยากดูกับหนูมั้ยนะ :))


โดย: มาย อิอิ IP: 223.205.14.235 วันที่: 23 สิงหาคม 2555 เวลา:1:16:59 น.  

 
^^^^^เพื่อนหนูสนใจอยากได้กล่องไวท์แบบนี้


โดย: เพื่อน อิอิ IP: 49.49.179.16 วันที่: 23 สิงหาคม 2555 เวลา:1:20:02 น.  

 
ขอบคุนที่เอาเรื่องมาให้ได้อ่านค่ะ


โดย: pat IP: 125.25.15.254 วันที่: 28 สิงหาคม 2555 เวลา:1:37:50 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ เขียนได้อ่านง่ายและน่าสนใจมาก
ตอนนี้รู้สึกหวาดระแวง ..กลัว


โดย: Rung IP: 171.99.3.173 วันที่: 30 สิงหาคม 2555 เวลา:0:06:14 น.  

 
เป็นไม่กล้วผี ชอบฟังเรื่องผีตอนดึกๆ แต่วันนี้อ่านเรื่องนี้นอกชานบ้านตอนเที่ยงคืน รู้สึกกลัวจัง แถมมีแมววิ่งไปมาบนหลังคา โห หยองอ่ะ


โดย: Pla IP: 101.108.253.26 วันที่: 30 สิงหาคม 2555 เวลา:23:52:35 น.  

 
ไม่หลอน อ่านสนุกค่ะ


โดย: noke IP: 27.55.15.181 วันที่: 1 กันยายน 2555 เวลา:22:29:12 น.  

 

ชอบมาก อ่านสนุกดี
แต่เอาลิง5ตัวนี้ออกได้มั้ยคะ^^

ป.ล.คนชลเหมือนกัน


โดย: อึ่งอ่างนั่งข้างโอ่ง IP: 115.67.4.145 วันที่: 20 ตุลาคม 2555 เวลา:12:31:53 น.  

 
ขอบคุณค่ะ
น่ากลัวมากมายชอบเรื่องเกียวกับพระเจ้ามากเลย


โดย: หนูแนน IP: 49.49.17.27 วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:19:29:15 น.  

 
ไม่คิดว่า ยังมีอยู่จริง


โดย: num chocobo IP: 171.4.28.35 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:1:25:16 น.  

 
ขอบคุณมาก ครับ


โดย: บอล IP: 110.168.187.127 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:0:51:48 น.  

 
-__- น่ากลัวมากๆ


โดย: Alicer IP: 171.99.150.21 วันที่: 16 มีนาคม 2556 เวลา:19:38:29 น.  

 
ขอบคุณนะคะสำหรับบทความดีๆ
น่ากลัวมากค่ะ แต่จะขอบคุณมากกว่านี้ถ้าเอาลิงห้าตัวนี้ออกไป 5555


โดย: ิbeaming IP: 1.2.142.94 วันที่: 18 มีนาคม 2556 เวลา:19:29:33 น.  

 
ไม่น่าเชื่อจิงๆ


โดย: ส้ม IP: 223.204.99.209 วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:12:44:02 น.  

 
เอาตัวลิงออกจากจอเหอะ น่ารำคาญ


โดย: มาเม้นเพราะอ่านยาก IP: 49.230.68.230 วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:9:01:08 น.  

 
เมื่อกี้ดูหนังเรื่องนี้แล้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำพอเงิยหน้าขึ้นไป
เจอผมใครไม่รึ้ตกใจเลย


โดย: โต้ง IP: 115.67.37.242 วันที่: 22 กันยายน 2556 เวลา:21:20:10 น.  

 
ขอขอบคุณมากครับ สำหรับเนื้อเรื่องที่เเปลเเล้ว เข้าใจง่ายดี


โดย: golfparpastron IP: 14.207.11.77 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2556 เวลา:2:34:38 น.  

 
ผมว่าเป็นความจริงนะผมลองไปดูดรื่องผีที่สร้างมาจริงมีเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยครับเขาบอกว่าท้าอยากลองให้หาไนอินเทอเน็ตเพื่อประมูลเอาครับอยากรู่ประมูลไงครับตอบด้วย


โดย: เเม็กครับ IP: 110.77.229.24 วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:16:09:31 น.  

 
ผมขอบอกเลยนะว่าเป็นเรื่องจริงตอนนี้กำลังหาประมูลอยู่ครับ


โดย: เเม็กครับ IP: 110.77.229.24 วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:16:10:56 น.  

 
เรื่องนี้บอกด้วยว่าประมูลอย่างไรครับผมอยากชื้อเขาบอกว่าปรธมูลได้จะประม(ูลครับ


โดย: เเม็กคครับ IP: 110.77.229.24 วันที่: 22 มีนาคม 2558 เวลา:16:14:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Cyril Takayama
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add Cyril Takayama's blog to your web]