The journey of a thousand miles begins with one step

<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
11 มีนาคม 2551
 

ว่ากันด้วยเรื่องของกาแฟ สำหรับสุนทรียรสที่สัมผัสได้บ่ายๆ อย่างนี้

จำได้ว่าสมัยเป็นนักศึกษาปริญญาโท ที่นั่งอ่านหนังสือและจิบกาแฟยามบ่ายที่แสนจะโปรดปรานและต้องไปเยี่ยมเยือนเกือบทุกวันคือร้านดันกิ้นโดนัทบนถนนห้วยแก้ว ที่ปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่บริเวณด้านล่างของโรงแรมเชียงใหม่ภูคำมาหลายปีแล้ว ตอนนั้นกระแสร้านกาแฟยังไม่ระบาดหนักขนาดนี้ การจะหากาแฟอร่อยๆ กินไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยิ่งเป็นกาแฟสดแล้วบนถนนนิมมานด์เองยังไม่มีเลยสักร้าน



กาแฟสตาร์บัคแก้วโตโปะวิปครีมเต็มๆจนล้นกับโอรีโอชีสเค้ก

กาแฟสดที่อร่อยที่สุดในสมัยนั้น (เกินสิบปีละกัน ) เอาว่ายอดเยี่ยมที่สุดและพอกัดฟันดื่มได้ ที่ต้องบอกว่ากัดฟัน เพราะว่าดื่มวันละสามแก้วอย่างน้อย คือกาแฟของร้านดันกิ้นน่ะแหละ เป็นกาแฟสดสไตล์ americano เวลาเข้าไปในร้านถ้าตรงกับเวลาที่เค้ากำลังต้มหม้อใหม่ กลิ่นกาแฟจะหอมหวลอบอวนจนแค่สูดกลิ่นก็มีความสุขแล้ว

หลังจากที่ดื่มกาแฟสดของดันกิ้นประมาณสองปี ก้อต้องพยายามตัดใจและลดปริมาณกาแฟที่ดื่มต่อวันลง เพราะว่าติดกาแฟอย่างแรง มือเริ่มสั่น ใจสั่นวันไหนไม่ได้ดื่มจะปวดหัวเหมือนโดนทุบเลย ในที่สุดเมื่อได้ไปอยู่เมืองนอก ก้อเลิกกาแฟได้จริงๆ (เพราะว่าไม่มีปัญญาซื้อกิน) และหันมาติดชาแบบผู้ดีอังกฤษแทน ก้อชามันถูกกว่ากาแฟตั้งเยอะนิ แล้วก้อติดนิสัยอีกอย่างคือต้องเป็นชาใส่นมด้วยนะ จะว่าไปแล้วปริมาณคาเฟอีนไม่ต่างกันหรอก ในชามีปริมาณคาเฟอีนมากกว่ากาแฟด้วยซ้ำ



Latte delight โปะวิปครีมโรยถั่วป่นหอมๆ ของร้าน Latte delight ในมช.

พอกลับมาเมืองไทยเรายังคงติดชาแบบอังกฤษอยู่ แต่ว่าการเสาะหาชาที่เข้มข้นเหมือนที่เคยกินช่างยากแท้ ชาดำหรือ black tea เองเพิ่งมีวางขายแพร่หลายได้ไม่กี่ปี หลังจากที่มีแต่ดันกิ้นและแบล็คแคนยอนมานาน แล้วกระแสร้านกาแฟฟีเวอร์ก็เริ่มระบาดมาถึงเชียงใหม่ เริ่มจากแบรนด์ดังอย่างสตาร์บัคมาเปิดสาขาแรกตรงถนนช้างคลาน กาแฟวาวีเจ้าถิ่น กาแฟดอยช้าง 94C ฯลฯ และล่าสุดน้องใหม่ Segafredo ตอนนี้แค่บนถนนนิมมานด์อย่างเดียวก็นับไม่ถูกแล้ว เยอะจริงๆ แล้วอย่างนี้มันจะอดใจไม่กลับไปดื่มกาแฟอีกครั้งไหมเนี่ย

เป็นที่ทราบกันดีว่ากาแฟมันมีอยู่หลายยี่ห้อ ยี่ห้อในที่นี้คือแบรนด์ของ coffee house เมล็ดกาแฟที่ทุกร้านนำมาใช้มันคือเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้าเหมือนกัน สิ่งที่ทำให้กาแฟของแต่ละคอฟฟี่เฮ้าส์แตกต่างกันนั้นคือเทคนิคในการคั่วและการชงกาแฟ กาแฟที่มีขายตามร้านกาแฟในปัจจุบันจะมีพื้นฐานจาก espresso ซึ่งเป็นเทคนิคในการชงกาแฟโดยใช้ไอน้ำร้อนอัดแรงดันผ่านเมล็ดกาแฟด้วยระยะเวลาสั้นที่สุด จนได้ของเหลวสีน้ำตาลเข้มที่มีฟองโฟมสีน้ำตาลแดงออกมา มีความเข้มข้นกว่ากาแฟชงด้วยเครื่องแบบกรองสิบถึงสิบห้าเท่า ถ้าเติมน้ำลงไป เรียกว่า caffe lungo ถ้าเติมนมร้อนเฉยๆ เรียกว่า caffe macchiato ถ้าผสมนมร้อนกับฟองนมเล็กน้อยเรียกว่า caffe latte ส่วน cappuccino เอากาแฟเอสเพรสโซผสมนมร้อนและฟองนมที่เนียนละเอียด และหากมีส่วนผสมของชอคโกแลต เรียกว่า mazzo หรือ moccha นั่นเอง สวนพวกแฟนซีเมนูทั้งหลายเช่น non-fat, low-fat, frappe, soy milk etc มันเป็นสิ่งที่ทำให้ร้านดูไฮโซขึ้น แต่หาได้ดึงดูดใจสำหรับคนที่เคยกินแต่กาแฟชงน้ำร้อนอย่างเรา



Capuccino แก้วน้อยๆ แต่รสชาติกลมกล่อมนุ่มลิ้นของร้านชาโคล


ในเมื่อตัวเมืองเชียงใหม่มีร้านกาแฟผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด นับเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ไปชิมและหาร้านกาแฟที่รสชาติถูกปาก ราคาถูกใจ ไว้สำหรับสนองกิเลสยามบ่าย เพื่ออารมณ์สุนทรีย์ในการดื่มด่ำรสชาติอันกลมกล่อม กลิ่นอันนุ่มนวลหอมหวาน และที่สำคัญจะดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟแท้มันต้องดื่มกาแฟร้อนสิ แต่ก้อไม่ extreme ขนาดซัด espresso double shot หรือ cafe americano (กาแฟกับน้ำร้อน) หรอกนะ เดี๋ยวอาการ cafeine overload จะมาเยือนอีก ที่สำคัญเอสเพรสโซ่มันเข้มข้นและน้อยนิดจนไม่สะใจ ดังนั้นจุดหมายของเราคือกาแฟใส่นมร้อน เพื่อที่จะได้ดื่มด่ำกับรสชาติได้นานขึ้น ค่อยๆ ละเลียดฟองนมนุ่มๆ ผสมผสานกับรสขมและกลิ่นอันหอมหวานของกาแฟ



มอคค่าแก้วโตจากร้าน JJ bakery

และแน่นอนว่าไม่เน้นพวกร้านกาแฟยอดนิยม ที่เดินเข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนไปขอเค้ากิน บางทีไปร้านครั้งแรกเราไม่รู้จะสั่งยังไง จนพนักงานขายมองด้วยหางตาหยิ่งๆ ถือตัวซะเหลือเกิน ที่จอดรถหาโคตรยาก (ค่าจอดรถ 40 บาท เพื่อกินกาแฟแก้วละร้อย คุ้มไหมเนี่ย) เพราะฉะนั้น กาแฟที่จะรีวิวต่อไปนี้ เป็นกาแฟร้อนแบบต่างๆ ส่วนมากเป็นร้านที่ไม่มีสาขา ที่ดื่มแล้วรู้สึกประทับใจ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปสำหรับกาแฟหนึ่งแก้ว และมีคาเฟอีนไม่มากเกิน ดังนั้นส่วนมากจะเป็นกาแฟสไตล์มอคค่าจ้า

เริ่มจากร้านที่ไปดื่มกาแฟทีไรก้อประทับใจได้ทุกที คือร้าน Berkerista เพราะนอกจากรสชาติของกาแฟจะหอมกลุ่นละมุนลิ้นแล้ว การตกแต่งบนฟองนมหรือที่เรียกว่า coffee art, coffee design, latte art (จะเรียกอะไรก็ตามใจ ) ยังสวยงาม ดูแล้วเจริญหูเจริญตา ด้วยฝีมือของ Barista ระดับอดีตแชมป์ประเทศไทย barista คือบาเทนเดอร์ที่ทำหน้าที่ชงและเสริฟกาแฟในสไตล์เอสเพรสโซล่ะ มาดูผลงานการสร้างสรรค์กัน มีหลายแก้วหน่อยเพราะชอบๆ



เริ่มจากแก้วแรก latte ร้อน แต่งหน้าแบบเรียบง่ายไม่หรูหรา แต่ดูเก๋ไก๋ รสชาตินุ่มนวลเนื่องจากมีปริมาณนมเยอะ ฟองนมด้านบนเนียนละเอียด



แก้วที่สองเคยแปะไว้ทีแล้วในบล็อกของร้าน berkerista เป็นมอคค่าแก้วย่อมๆ ผสมผสานกับผงโกโก้อันหอมหวาน กับรสชาติขมๆ ของกาแฟ แต่งหน้าเก๋ไก๋ลายใบไม้ ราดด้วยน้ำเชื่อมคาราเมลด้านบนเป็นตารางเล็กๆ แก้วนี้หวานนิดๆ โดยไม่ต้องเติมน้ำตาล



ล่าสุดที่เพิ่งลิ้มชิมรสมา cappuccino แสนจะกลมกล่อม ที่เรียกเสียงอืมมมมม ออกจากปากได้ทันทีที่กาแฟสัมผัสลิ้น กลิ่นอันหอมขึ้นจมูก ฟองนมเนียนละเอียด แต่งหน้าด้วยน้ำเชื่อมคาราเมลเป็นดอกไม้น้อยๆ แสนจะน่ารัก โรยด้วยซินามอนผงพอได้กลิ่นจางๆ

ส่วนเรื่องราคานั้น ราคากาแฟของ berkerista ไม่ถึงร้อยสักแก้ว ดีๆ อร่อยๆ คุ้ม อิอิ แต่ว่าแก้วมีไซส์เดียว ไม่ค่อยจะสะใจเท่าไร มันก้อดีอย่างนะ ดื่มน้อยหน่อยคาเฟอีนในเลือดจะได้ไม่สูงเกินไป

ร้านกาแฟส่วนมากจะโด่งดังควบคู่ไปกับ bakery ที่ขายคู่กันด้วย แต่ร้านเบเกอรี่ดังๆบางร้าน เพียงแต่เอาเมล็ดกาแฟดังๆ มาชงขายที่ร้านพอเป็นพิธี ร้านที่กาแฟและเบเกอรี่อร่อยๆ เท่าที่กินมามีสองร้านที่รู้สึกประทับใจคือร้าน Fern Forest กับร้าน Chacoa ซึ่งทั้งสองร้านค่อนข้างพิถีพิถันกับการคัดเลือกเมล็ดกาแฟที่นำมาชง
จริงๆแล้วรีวิวไปทั้งสองร้าน คราวนี้จะกล่าวถึงเฉพาะกาแฟเท่านั้น



Caffe Latte ของร้าน Fern Forest


กาแฟจากร้านแรกคือ Fern Forest กาแฟที่ขายในร้านนี้ชงจากเมล็ดกาแฟที่ปลูกในพื้นที่ดอยสะเก็ด น่าจะเป็นไร่กาแฟของทางร้าน เพราะฉะนั้นเค้าคั่วและบดด้วยสูตรเฉพาะ กาแฟเลยมีกลิ่นหอมมากๆ แต่เพื่อนบางคนบอกว่าขมมากๆ ก้อมันเข้มข้นนิ สำหรับเรารสชาติของกาแฟเข้มข้น แต่การทำฟองนมฝีมือยังต้องปรับปรุงอีกหน่อย



Cafe Moccha แบบร้อนๆ ของร้าน Fern Forest


แต่ที่ดื่มแล้วประทับใจคงต้องเป็นแก้วนี้ Moccha ร้อนของทางร้าน ปริมาณสะใจ รสชาติของกาแฟที่ผสมเข้ากับผงโกโก้และชอคโกแลตซอส และวิปครีมเย็นๆที่โปะมาบนหน้ากาแฟ เวลาดื่มกาแฟอย่างนี้ต้องไม่คน แต่ยกดื่มเลย เพื่อให้น้ำกาแฟร้อนๆ ไหลผ่านวิปครีม จะได้รสชาติแบบร้อนเย็นผสามกันอย่างดี ชอบมากๆ แต่เมนท์นิดนึง ไปบางวันกาแฟมอคค่าก้อไม่ใส่วิปครีม บางวันก้อใส่ เหมือนจะยังไม่นิ่งแฮะ



Cafe Moccha แต่งหน้าเป็นกลีบดอกไม้จุดๆ จากร้าน Chacoa


ส่วนร้านชาโคล ถ้าจำไม่ผิด (อ่านจากที่ร้านนะแหละ) เมล็ดกาแฟของร้านนี้มาจากแหล่งปลูกบริเวณดอยสะเก็ดเช่นกัน รสชาติกาแฟเข้มข้นได้ใจจริงๆ เลย เวลาดื่มกับ brunch เช้าวันอาทิตย์น่ะ ทำให้วันหยุดของเรากระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที เพียงจิบแรกที่สัมผัสลิ้น สามารถเรียกเสียงอืมมมมม ได้ละกัน เพียงแต่แก้วมันเล็กไปนิดไม่ค่อยสะใจเท่าไรเลย แต่ก้อสมกับราคาครึ่งร้อยของเค้านะ



Cafe Moccha แบบ extra วิปครีมของ Chacoa


ถ้าอยากดื่มกาแฟแบบใส่วิปครีมก็สามารถขอเพิ่มได้ (คิดเงินเพิ่มด้วย) เปลี่ยนแก้วให้ใหญ่ขึ้นอีกนิด สมกับราคา กาแฟร้อนที่ใส่วิปครีมค่อนข้างจะหายาก ส่วนมากกาแฟสไตล์ espresso จะมีนมร้อนกับฟองนมในปริมาณมากอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยใส่วิปครีมเท่าไร แต่วันไหนอยากกินกาแฟใส่วิปครีมแบบไม่ต้องเพิ่มตังค์และไม่ต้องถ่อสังขารไปสตาร์บัค กาแฟของร้าน Late Delight ด้านหน้าตึกสำนักบริการคอมพ์ของมช. พอแก้ขัดได้



Moccha hezelnut caramel ของร้าน Late Delight


กาแฟที่ขึ้นชื่อของร้านคือ Late Delight ที่โปะมาด้วยวิปครีมก้อนโตโรยถั่วบดหวานๆ ด้านบน หรือจะเป็น moccha hezelnut caramel ก็ได้รสชาติของวิปครีมแสนอร่อย แต่รสชาติของกาแฟยังไม่ประทับใจ มันไม่เข้มเท่าไร พอแก้ขัดได้เวลาไม่ต้องการออกไปไหนไกลๆ



Coffee design ลายดอกไม้บน Cafe Moccha ของ Mo's Coffee


ใกล้ๆ มช.ยังมีร้านกาแฟสุดฮิปอีกแห่งหนึ่งคือร้าน Mo's Coffee อยู่ภายในบริเวณ MoCMoL ผับหน้ามหาลัย เป็นอีกร้านที่ตกแต่งได้เก๋ไก๋ กาแฟเข้มข้นอร่อยใช้ได้ แต่ราคาพอๆ กับวาวีเลย ที่ดื่มแล้วประทับใจคือ กาแฟมอคค่า กาแฟผสมผงโกโก้ผสมผสานกันได้รสชาติกลมกล่อม ชอคโกแลตไม่กลบรสชาติของกาแฟ แต่แต่งหน้าด้วยชอคโกแลตซอส หวานมากๆ ที่สำคัญเวลากินกาแฟสวยๆ พวกนี้เราจะไม่คน และซอสมันนอนก้น ยิ่งกินกาแฟแก้วนี้ยิ่งหวานขึ้นเรื่อยๆ



Coffee art บนหน้า Cafe Moccha ของร้านกาแฟดอยช้าง


ไหนๆ ก็มาแถวๆ มหาลัยแล้ว แวะอีกสักที่ละกัน นั่นคือร้านกาแฟดอยช้าง ติดกับรั้วสมาคมศิษย์เก่ามช. ตรงสามแยกไฟแดง เกือบจะไม่ได้กินล่ะ เพราะที่จอดรถน้อยนิดเหลือเกิน(ด้านหน้า ส่วนด้านหลังไม่อยากขับรถอ้อม) เลยเก็บภาพกาแฟสวยๆ มาฝากกันอีกสักแก้วนึง รสชาติยังสะกิดนิดนึงตรงที่กลิ่นและรสของโกโก้มันมากกว่ากาแฟไปหน่อย และหวานอย่างกะกินชอคโกแลตร้อน สงสัยคราวหน้าต้องแวะไปกินใหม่ เป็นนัดล้างตาซะหน่อย แต่เขียนลายด้วยชอคโกแลตซอสเสียสวยงาม ให้คะแนนความสวยละกัน



Mazzo Mazzo ของร้านกาแฟ Segafredo แต่งฟองนมรูปหัวใจ


ปิดท้ายด้วยกาแฟแก้วนี้ละกัน เป็นกาแฟแบรนด์เนมล่าสุดที่เข้ามาเปิดในเชียงใหม่ และมีโอกาสได้ลิ้มรส เป็นกาแฟที่เหมาะสำหรับคนรักกาแฟจริงๆ รสชาติเข้มข้นสะใจ แม้ว่าจะสั่ง mazzo mazzo ซึ่งเป็นกาแฟแบบมอคค่าผสมโกโก้ แต่รสชาติของโกโก้ไม่ข่มกาแฟ และไม่หวาน ค่อยเป็นกาแฟหน่อย ฟองนมเนียนละเอียด รสชาติกลมกล่อมหอมหวานของโกโก้ และมีกลิ่นของซินนามอนจางๆ เพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้น แก้วโตใช้ได้เลย สำหรับกาแฟแก้วละร้อย



ตอนนี้พยายามห้ามใจไม่ให้ดื่มเกินวันละสองแก้ว และอ่านฉลากก่อนดื่ม (เอ้ยไม่ใช่เครื่องดื่มชูกำลัง ) กลัวจะกลับไปติดกาแฟอีก หรือว่าจะช้าไปแล้ว ตอนนี้ต้องติดกาแฟอีกแล้วแหงๆ เลย >


Create Date : 11 มีนาคม 2551
Last Update : 14 มีนาคม 2551 12:36:58 น. 12 comments
Counter : 4396 Pageviews.  
 
 
 
 
กาแฟน่าทานมากครับ
 
 

โดย: เสือน้อย IP: 117.47.28.39 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:22:34:53 น.  

 
 
 
ขอบคุณที่แวะมาชมค่า เชิญดื่มกาแฟตามใจชอบเลย
 
 

โดย: AjN_O วันที่: 14 มีนาคม 2551 เวลา:12:39:36 น.  

 
 
 
อยากดื่มให้น้อยลงเหมือนกันค่ะ - -..พอเข้ามาดู อ๊ากๆๆ ทำให้อยากซะตอนนี้อีก คิๆ
 
 

โดย: saykan@_@ วันที่: 14 มีนาคม 2551 เวลา:23:37:16 น.  

 
 
 
Segafredo มายันว่า ของเค้าดีเจรงงงง
แต่สาขายังน้อยอยู่อ่าาาา
 
 

โดย: vodca วันที่: 16 มีนาคม 2551 เวลา:9:35:44 น.  

 
 
 
จั่วหัวเรื่องกาแฟ สมัยเรียนโท โอ้โหนึกว่าสูงวัยแล้ว พอแลไปทางขวา โอ้โหยังใส อยู่เลยนะครับ ชอบทานกาแฟ เหมือนกันครับ ตอนนี้ทานหลักก็ Amazon ตามปั๊ม ปตท กับ true coffee
 
 

โดย: ok3 IP: 58.97.0.240 วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:37:17 น.  

 
 
 
กิ๊ดดดดดดด ตามมาดมกลิ่นกาแฟค่า จะบอกว่าเราก้อชอบกิน ชอบเที่ยวมากๆ เช่นกัน ไปเชียงใหม่ก้อไปนั่งจ๋อมแต่วาวี fern forest เด่วขึ้นไปชม ครั้งหน้าจะตามไปชิม

คราวก่อนไปนั่งร้านกาแฟ แถวหลังมอ ที่น้องๆ นักศึกษาทำร้านกันเอง น่ารักดีค่ะ

ว่างๆ พาไปชิมร้านอร่อยๆ บ้านด้วยนะคะ


 
 

โดย: sueko วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:22:37:56 น.  

 
 
 
แหะๆ ปรับกล่องข้อความหน่อยก้อดีนะคะ พิมพ์ยากจัง
 
 

โดย: sueko วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:22:43:21 น.  

 
 
 
ว้วคุณOK3 ตามมาชิมกาแฟจากห้อง scuba เลยเหรอเนี่ย เป็นเกียรติจัง ยินดีต้อนรับค่า

คุณ sueko ค้า - อยากทำให้พิมพ์ง่ายเหมือนกันแหละ แต่ว่ามันเป็น format ของทางbloggang อ่ะดิ แก้ไขไม่เป็นอ่ะ
 
 

โดย: AjN_O วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:9:59:16 น.  

 
 
 
ผมชอบกาแฟ เลยเข้ามาค้นแล้วเจอบล็อคของคุณครับ สุดยอดครับ ดีใจที่ได้รู้จัก บล็อคละเมียดละไมเหมือนรสกาแฟเลยครับ
 
 

โดย: ต้น IP: 117.121.208.2 วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:10:44:10 น.  

 
 
 
มาขอยืมภาพ ไปโพสต์ ใน mtp อ่ะ ค่ะ

ขอบคุณค่ะ
 
 

โดย: แอน ระยอง IP: 125.27.89.12 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:48:44 น.  

 
 
 
ไม่ได้ติดนะครับ แต่ไม่ได้ทานทำงานไม่ได้ นอนไม่หลับด้วย ไม่รู้เป็นไร
 
 

โดย: เอ IP: 118.173.190.185 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:19:38 น.  

 
 
 
มีแต่ของน่ารับประมานทั้งนั้น
จะลดไปปะนี่อิอิ
 
 

โดย: พี่ ดี๊ ครับ (ndystyle ) วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:51:47 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

AjN_O
 
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมค่ะ
ถ้าคุณเข้ามาที่นี้ แปลว่าคุณชอบกินและเที่ยวเหมือนกับเรา
ข้อความต่างๆ ที่อยู่บน blog เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ
ไม่ได้ทำเพื่อโปรโมทในเชิงการค้า ส่วนภาพถ่ายก็มาจากฝีมือของเราเอง สวยมั่งไม่สวยมั่ง ชื่นชมกันได้ตามสะดวกนะคะ
[Add AjN_O's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com