Bloggang.com : peeko : ★โรงพยาบาลญี่ปุ่น★

★โรงพยาบาลญี่ปุ่น★

หมู่นี้ดิฉันมีเรื่องต้องให้ไปแวะเวียนใช้บัตรประกันสุขภาพบ่อยเหลือเกิน แบบว่าไม่ได้อยากไปเล้ย....แต่มันมะหวาย...

เลยเอาเรื่องโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่นมาบ่นๆๆๆๆ ให้ฟังดีกว่า

ก่อนอื่นคำว่า "โรงพยาบาล" ที่ญี่ปุ่นเนี่ย หมายรวมได้ทั้งโรงพยาบาลขนาดใหญ่แบบ ร.พ.ศิริราช หรือ ร.พ.กรุงเทพ บ้านเรา แถมรวมไปถึงร.พ.เล็กๆ แบบที่บ้านเรานิยมเรียกว่าคลีนิค ที่มีหมออยู่เพียงคนเดียวนั่นแหละ

โรงพยาบาลขนาดเล็กๆ (คลีนิค) ของญี่ปุ่นยังแบ่งออกเป็นหมอเฉพาะทางมากมาย เช่น ผิวหนัง หูตาคอจมูก สูติ ฯลฯ คล้ายๆกับบ้านเรา

แต่.....โรงพยาบาลของบ้านนี้เมืองนี้นะคะ ไม่เปิดวันอาทิตย์ค่ะ วันอาทิตย์ห้ามป่วยเด็ดขาดเพราะไม่มีโรงพยาบาลที่ไหนเขาตรวจให้คุณ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลขนาดไหนก็ตาม วันธรรมดา-วันเสาร์ก็รับผู้ป่วยนอกแค่ครึ่งวัน ร.พ.เล็กๆ แบบเฉพาะทางอาจเปิดนานหน่อยแต่ก็จะหยุดทำการประมาณหกโมงเย็นหรือสองทุ่ม

ถ้าป่วยวันอาทิตย์หรือวันหยุดราชการ ต้องไปร.พ.ฉุกเฉินที่มีอยู่น้อยมาก ซึ่งจะเปิดแต่วันหยุดเท่านั้น ยาที่มีให้ก็มีแบบจำกัดทั้งชนิดและจำนวน

อ้อ...แล้วโรงพยาบาลที่นี่ส่วนมากเขาไม่ขายยาเองอีกด้วย เก็บแต่ค่าตรวจ ส่วนยาจะให้เป็นใบจ่ายยามาแล้วให้เราไปซื้อเอาเองตามร้านขายยาทั่วไป

**************

จะไปทำฟันก็ต้องจองคิวเป็นเดือน คือ ฟันที่เคยอุดไว้ที่เมืองไทย ยามันดันเกิดหลุดขึ้นมา เลยจะไปให้หมอญี่ปุ่นอุดให้ใหม่หน่อย พอดีเคยได้ยินมาว่าต้องโทรศัพท์ไปนัดก่อน เราก็นึกว่าโทรวันนี้นัดทำพรุ่งนี้ได้เลย ไหนได้ โน่น คิวยาวมาก อีก 2~3 อาทิตย์กว่าจะได้ทำ แล้วดันเป็นวันที่เราไม่สะดวกเลยต้องเลื่อนไปอีกอาทิตย์นึง เบ็ดเสร็จกว่าจะได้ทำฟันก็ปาไปเดือนนึง โอ้ว จอร์จ มันยอดมาก นี่หรือร.พ.ของประเทศที่พัฒนาแล้ว

เกิดคนปวดฟันกระทันหันขึ้นมาทำไงฟะ เดชะบุญที่เรายังไม่เคยประสบเคราะห์แบบนั้น

**************

ร.พ.เล็กๆ แบบที่เป็นคลีนิกเนี่ย ถ้าเลือกได้เราจะไม่ไปเด็ดขาด เพราะเคยไปแล้ว ไม่ปลื้มเป็นอย่างมาก ระยะเวลารอไม่ได้ต่างจากร.พ.ใหญ่เลย 2-3ชั่วโมงพอๆกัน แถมพอได้เข้าตรวจนะ หมอวิ่งรอกมาจากอีกห้องหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ยังไงน่ะเหรอ ก็ร.พ.มันหลอกเราเหมือนกับว่ามีห้องตรวจหลายห้องก็น่าจะมีหมอครบตามจำนวนห้อง ที่ไหนได้จะมีกี่ห้องก็ตาม หมอคนเดียวค่ะ วิ่งไปวิ่งมา แล้วก็ตรวจเราไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จ แบบว่ารีบๆตรวจแบบลวกๆ อยากให้เราออกไปเร็วๆ จะได้ให้คนอื่นเข้ามา คงรีบทำยอดจำนวนผู้ป่วยให้ได้ตามเป้าต่อวันแน่ๆ แหม๊ เหมือนอยู่โรงงานผลิตเลย

เราก็พยายามจะเล่าอาการให้หมอฟังให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้วินิจฉัยโรคให้ได้ถูกต้อง หมอไม่สนใจจะฟังเราเลยแม้แต่น้อย ตัดบทสุดฤทธิ์ สรุปว่าเราคิดมากเครียดไปเอง
ด้วยความไม่มั่นใจเลยไปหาหมอที่ร.พ.ใหญ่อีกที ถึงได้รู้ว่าเป็นโรค BPPV

************

ต่ออีก.....

เมื่อประมาณปีค.ศ. 2003 เคยเป็นลมหน้ามืดล้มในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่อนเซ็นแห่งหนึ่งที่ต่างจังหวัด แล้วตระกร้าหวายที่ใช้วางเสื้อผ้ากับชั้นวางทั้งชั้นล้มลงมาทับ สลบไปวูบนึง....พอรู้สึกตัวก็ปวดนิ้วนางข้างซ้ายมาก เลยรีบแจ้นไปหาหมอที่ร.พ.ขนาดใหญ่แถวนั้น ตรวจทั้ง MRI ทั้ง X-ray หมอว่าไม่พบอะไรผิดปกติ

พอกลับมาบ้านไอ้ที่ปวดนิ้วก็ไม่หายแถมมันบวมขึ้นมาเรื่อยๆ เราก็อดทนมากฮ่ะ หมอบอกไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรน่า แต่...มันปวดไม่หายสักที ไปหาหมอแถวบ้าน X-ray อีกที ปรากฎว่ากระดูกนิ้วหักค่ะ โอ้ว จอร์จ มันยอดมาก มิน่าทำไมมันบวมเป่งยิ่งกว่าไส้กรอกบีลักกี้อีก.....

*************

มีเรื่องเล่ากันในญี่ปุ่นเป็นที่สนุกปากกันมากว่า คนแก่ญี่ปุ่นเนี่ย นิยมไปโรงพยาบาลกันมาก แล้วคนที่ไปเนี่ย ไม่ใช่คนป่วยหรอกนะ เป็นคนแก่ที่แข็งแรงมากๆ ไปโรงพยาบาลเหมือนไปนั่งจิบชา ชิดแชดกับเพื่อนๆ คนแก่ด้วยกัน ประมาณว่าใครไม่มาโรงพยาบาลเนี่ย เพื่อนๆคนอื่นจะเริ่มเป็นห่วงว่า เอ..เขาไม่สบายหรือเปล่าถึงไม่มา

คนญี่ปุ่นทั่วไปเขาก็พูดกันสนุกปากต่อว่า คนแก่ที่มีแรงมาโรงพยาบาลได้ด้วยตัวเองเนี่ย เป็นคนที่แข็งแรง

เราก็ได้สัมผัสเห็นมาด้วยตาตัวเองเหมือนกัน ไปร.พ.ก็เจอแต่คนแก่มานั่งคุยกัน ทักทายพยาบาลอย่างเป็นกันเอง พอหาหมอเสร็จ พยาบาลก็บอกว่าวันนี้ก็ไม่ต้องรับยา ไม่เป็นอะไร

แล้วคุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยาย ก็มานั่งคุยกับเพื่อนๆ ต่อ

Create Date : 09 ธันวาคม 2549

Last Update : 11 ธันวาคม 2549 9:41:47 น.

12 comments

Counter : 2968 Pageviews.

โห ต้องเลือกวันป่วยด้วยหรือเนี่ย

โดย: PutterZ (ToppuT

) วันที่: 9 ธันวาคม 2549 เวลา:22:08:24 น.

มาทักทายก่อนนอนค่ะ

โดย: icebridy

วันที่: 9 ธันวาคม 2549 เวลา:22:50:51 น.

ต่อไปบ้านเรา หมอก็อาจจะตรวจแล้วสั่งยา ไปซื้อกันเองเหมือนกัน ตอนนี้หมอค้านกันอยู่

โดย: ต่อตระกูล

วันที่: 10 ธันวาคม 2549 เวลา:0:32:39 น.

ฟังๆ แล้วการแพทย์บ้านเรายังใจดีอยู่เลยหน่ะ.......อย่างว่าประเทศไทยดีที่ซู๊ดดดด เอิ๊กๆ

โดย: แพนด้าเริงระบำ

วันที่: 11 ธันวาคม 2549 เวลา:19:45:55 น.

ที่อังกฤษก็ต้องจองวันหาหมอค่ะ (เหมือนคลีนิคค่ะ)กว่าจะได้เจอหมอ ไอ้อาการที่เป็นมันก็หายไปแล้วอ่ะค่ะ แต่ถ้าตรวจแล้วหมอเห็นว่าน่าจะส่งไป รพ. คราวนี้ล่ะรอคิวไปเจอหมอที่ รพ.เป็นเดือนเลยค่ะ

โดย: bluecomet

วันที่: 12 ธันวาคม 2549 เวลา:6:31:28 น.

เรื่องระบบการจ่ายยาของโรงวบาลยี่ปุ่นมีช่วงหนึ่ง พวกผู้บริหารในบ้านเราพยายามให้เป็นแบบนั้นครับ ดีที่ไม่สำเร็จผมก็สาธุ ดีไม่อยากวุ่นวาย

เรื่องอุดฟันทำฟันเพื่อนผมสมัยเป็นนักเรียนทุนที่นั่น จะทำตั้งแต่อยู่เมืองไทยเลย ที่โน่นทั้งแพง ทั้งไม่สะดวกครับ

โดย: นายเบียร์

วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:3:14:01 น.

แล้วตอนนี้พีโกะจัง สุขภาพแข็งแรงดีหายเจ็บไข้ได้ป่วยยังอ่ะครับ

วันก่อนก็เห้นตั้งทู้ป่วยๆทีนึง ถ้ายังไงก็ขออวยพรปีใหม่นี้ให้ หายจากโรคภัยไข้เจ็บ หายไปแล้วก็อย่าได้กลับมาทำให้พีโกะจังป่วยอีกเลยเน้อออ

โดย: Qooma

วันที่: 19 ธันวาคม 2549 เวลา:7:48:26 น.

อืมม์ น่าจะมีที่ให้คนชราได้นัดกันชิทแชทมั่งเนาะ ได้ไม่ต้องไปรพบ.เดี๋ยวไปติดนั่นนี่มาแย่เลย คนแก่ๆยังไงก็ภูมิต้านทานต่ำกว่าเด็กหนุ่มสาวอยู่แล้ว

ที่เมกาแถวที่แม่ปูอยู่หมอก็วิ่งรอก คล้ายๆกันค่ะ

โดย: ปูขาเก เซมารู

วันที่: 21 ธันวาคม 2549 เวลา:8:49:47 น.