Bloggang.com : peeko : ปัญหาการปลอมแปลง/ซ่ิอนเร้นข้อมูลระดับความทนทานของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว

ปัญหาการปลอมแปลง/ซ่ิอนเร้นข้อมูลระดับความทนทานของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว

ข่าวใหญ่ประเด็นร้อนอีกเรื่องในญี่ปุ่นขณะนี้คือ “ปัญหาการปลอมแปลง/ซ่ิอนเร้นข้อมูลระดับความทนทานของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว”

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีแผ่นดินไหวมากที่สุดประเทศนึงในโลกนี้ เราเองอยู่ที่ญี่ปุ่นมาหลายปี รู้ด้วยตัวเองเลยว่าเยอะมาก 3~4 ลิกเตอร์เนี่ยเป็นเรื่องธรรมดา ในที่นี้หมายถึงเกิดบ่อยมาก ช่วงหลายปีที่ผ่านมา(อย่างน้อยก็สัก 10ปีได้แล้วล่ะ) มีการรายงานว่าจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โตเกียวและปริมณฑล คนญี่ปุ่นรวมทั้งเราด้วยก็อยู่ด้วยความหวั่นไหว เวลาแผ่นดินไหวแม้จะไม่กี่ลิกเตอร์แต่มานานๆ เราก็กลัวมากๆแล้วล่ะ

ด้วยเหตุนี้ การสร้างอาคารบ้านเรือนในญี่ปุ่นสมัยใหม่ เขาจะเน้นที่โครงสร้างที่สามารถทนทานต่อแรงไหวของแผ่นดินโดยทั่วไปก็ต้องให้ได้ประมาณ 5 ริกเตอร์ขึ้นไป ซึ่งเท่าที่ทราบถ้าเป็นบ้านเดี่ยวก็มีทั้งโครงสร้างที่เป็นเหล็กตีฝาผนังเป็นไม้ บางโครงสร้างก็เป็นไม้ทั้งหลัง บางโครงสร้างก็เป็นแผ่นซีเมนต์สำเร็จรูปยกมาประกอบกันที่บ้านเลย เป็นต้น อาคารขนาดใหญ่อย่างที่ทำการกรุงโตเกียวก็มีการสร้างแบบแปลกๆ คือ ไม่มีเสาเข็ม เวลาที่แผ่นดินไหวอาคารจะโยกไหวไปตามแรงสั่นสะเทือนแต่จะไม่ถล่มล้มพังลงมา

สื่อมวลชนยกปัญหานี้ขึ้นมาเนื่องจากมีเบาะแสว่าสถาปนิกระดับหนึ่ง* คนนึง ได้คำนวณโครงสร้างอาคารโดยไม่ปลอดภัย ไม่น่าจะทนต่อแรงสั่นของแผ่นดินไหวได้ อย่างมากก็ทนได้แค่ 3 ริกเตอร์เท่านั้น อาคารโรงแรมหรือแมนชั่นที่พักอาศัยที่ควรจะมีเหล็กเส้นขนาดใหญ่ที่ฐานของอาคาร 20 กว่าเส้นเป็นอย่างต่ำ อีตาสถาปนิกคนนี้ก็บอกว่าใช้เหล็กเส้นขนาดเล็กไม่ถึงสิบเส้นก็พอ เป็นต้น คนที่ให้เบาะแสมาก็ไม่ใช่คนนอกวงการเป็นคนในวงการก่อสร้างเช่นเดียวกัน เข้ามาตรวจสอบข้อมูลขออีตาสถาปนิกคนนี้ เพราะเทศบาลเมืองโยโกฮะมะซึ่งว่าจ้างให้อีตาสถาปนิกคนนี้คำนวณก่อนทีแรกไว้ไม่ค่อยไว้ใจ เรื่องจึงได้ปูดออกมา

ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการไต่สวนจากตำรวจ และส.ส.พรรคการเมืองต่างๆ โดยมีการเรียกผู้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทั้งหมดมาชี้แจงตอบข้อสงสัยกันในสภา โดยผู้ที่มาชี้แจงเป็นระดับผู้บริหารสูงสุดขององค์กร/บริษัทนั้นๆทุกคน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีทุกคน เป็นที่น่าสังเกตุว่าไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไร ผู้บริหารจะเป็นผู้ที่ออกมาแถลงข่าวทุกครั้ง บ่อยครั้งสังคมให้แสดงความรับผิดชอบโดยให้ผู้บริหารลาออก เขาก็ละอายลาออกกันเป็นเรื่องปกติ** แม้ว่าผู้ที่กระทำผิดจะไม่ใช่ผู้บริหารแต่สังคมที่นี่เขาถือว่าผู้บริหารมีหน้าที่ต้องดูแล ตรวจสอบ และรับผิดชอบกิจการทุกอย่างขององค์กร เรียกมาชี้แจง 2 ครั้งแล้ว อีตาสถาปนิกคนนี้ไม่ปรากฎตัวทั้งสองครั้งอ้างว่าสุขภาพร่างกายไม่ดีพอที่จะเข้ามาชี้แจงได้ แล้วก็ช็อกที่มีผู้สมรู้ร่วมคิดอีกคนฆ่าตัวตายไปแล้ว การเรียกมาชี้แจงครั้งที่สองบิ๊กๆของบริษัทที่เกี่ยวข้องก็เริ่มอิืดออดไม่ออกมาชี้แจง โดยอ้างว่ากลัวคนทำร้ายขอเก็บตัวอยู่ในบ้านดีกว่า ทีนี้ก็โดนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแมนชั่นที่พวกนี้สร้างกันออกมาด่าระงม “พวกนายกลัว(คนทำร้าย)ก็หลบอยู่ข้างในบ้านได้อย่างอบอุ่นสบาย แล้วพวกเราล่ะ กลัว(ถ้าแผ่นดินไหวมาตึกจะถล่ม) แต่อยู่ในบ้านไม่ได้ ต้องออกมาหาที่ซุกหัวนอนข้างนอก”

เรื่องนี้เกี่ยวพันกันหลายฝ่ายเพราะอีตาสถาปนิกให้การซัดทอดว่าโดนกดดันจากบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ว่าให้ทำยังไงก็ได้ ให้ cost down ถ้าทำไม่ได้จะไปว่าจ้างที่อื่นแทน อีตาสถาปนิกก็หวังโกยงานเพื่อประโยชน์ส่วนตนก็ยอมตกลงทำ ซึ่งที่จริงขั้นตอนการอนุมัติการก่อสร้างอาคารในญี่ปุ่น จะมีองค์กรอิสระที่หลุดจากหน่วยราชการออกมา ทำหน้าที่ตรวจสอบแปลนงานก่อสร้างอยู่หลายองค์กร ที่ทำท่าว่าจะโดนหนักก็คือ “นิฮนอีอาร์ไอ” เพราะไม่ทำการตรวจสอบ ประธานบริษัทนิฮนอีอาร์ไอออกมาชี้แจงว่า “ไม่คิดว่าจะมีสถาปนิกที่ทำงานแบบนี้ส่งมา ก็เลยไม่ได้ตรวจสอบอะไร***” ทั้งๆที่มีคนแจ้งเบาะแสหรือรายงานเข้ามาแล้วว่าโครงการที่สถาปนิกคนนี้รับผิดชอบนั้นไม่ชอบมาพากลนะ แต่หน่วยงานที่ตรวจสอบกลับเพิกเฉย นึกว่าแค่คำนวณผิดธรรมดาไม่ได้เฉลียวใจว่าจะเป็นการฮั้วกันของบริษัทก่อสร้างกับสถาปนิกเพื่อลดต้นทุน

จากที่ฟังๆ คนที่แจ้งเบาะแสเขาก็ตกใจ คาดไม่ถึงว่าจะมีคนที่ทำงานโดยไม่มีจิตสำนึกเช่นนี้อยู่ คนญี่ปุ่นโดยทั่วไปจะทำงานโดยสำนึกในความรับผิดชอบที่ตนมีอยู่ และเขาจะมี PRIDE ความภูมิใจ รักในอาชีพของเขา

เรื่องนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปคงไม่จบง่ายๆ ตอนนี้จำเลยแต่ละคนก็ซัดทอดกันไปมา พยายามโยนน้ำแกงร้อนไปที่คนอื่นอ้างว่าตนเองต่างหากที่เป็นฝ่ายเสีัยหายโดนหลอกบ้าง โดนกดดันบ้าง รวมถึงโยนไปที่กระทรวงที่รับผิดชอบด้วย เพราะไม่ยอมตรวจสอบให้ดีเอง เพราะคนที่ผิดต้องรับผิดชอบชดใช้กันมหาศาลทีเดียว เพราะการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นไม่ใช้เรื่องง่ายๆ ใครๆก็รู้ดี
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

* สถาปนิกระดับหนึ่ง คือ สถาปนิกที่สอบเอาใบประกาศความสามารถในการเป็นสถาปนิก ระดับหนึ่งเป็นระดับที่ดีที่สุด

* ใครที่ติดตามข่าวการเมืองญี่ปุ่น จะทราบว่าหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน(มินชุโต)ของญี่ปุ่นเปลี่ยนตัวกันบ่อยมาก อาทิ เมื่อการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคคนเก่าลาออกทันทีที่ทราบผลว่าแพ้ให้กับพรรคแอลดีพี(จิมินโต)อย่างย่อยยับ เพราะเขาถือว่าเขาเป็นหัวเรือผู้บังคับเรือแต่ไม่อาจพาเรือไปให้ถึงฝั่งได้เขาก็ยอมสละเก้าอี้ให้คนอื่นเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทน

รวมทั้งพรรครัฐบาลแอลดีพีเองก็เช่นเดียวกัน หัวหน้าพรรคคนก่อน นายโมริ เป็นคนที่อาวุโสในพรรคแต่ไม่ค่อยระวังเรื่องคำพูดคำจา ทำให้คะแนนความนิยมของพรรคเสื่อมลง พรรครีบเปลี่ยนตัวเอาคนที่ประชาชนนิยมออกมาเป็นหัวหน้าพรรคแทน

***นี่ก็เป็นธรรมชาติการทำงานของคนญี่ปุ่นโดยแท้เลย คือ เขาจะเชื่อถือไว้ใจซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างก็คิดว่าทุกคนทำงานด้วยความสุจริตใจ มีความรับผิดชอบ มีความหยิ่งในศักดิ์ศรีในหน้าที่การงานของตนเอง แรกๆอาจจะลำบากหน่อยในการที่จะผ่านด่านเพื่อให้เขาไว้ใจได้ แต่ถ้าเขาไว้ใจใครแล้วเขาจะทำงานกับคนคนนั้นด้วยความไม่ลังเลใดๆเลย

Create Date : 08 ธันวาคม 2548

Last Update : 8 ธันวาคม 2548 0:40:30 น.

2 comments

Counter : 593 Pageviews.

คล้ายๆบ้านเราล่ะครับ ตึกไหนต่อเติมไม่ค่อยมีแจ้งเท่าไหร่
จะรู้อีกที ตอนมันถล่มเป็นข่าวใหญ่โตละครับ

เรื่องต่อเติมแล้วตึกถล่ม บ้านเราเกิดขึ้น หลายครั้ง แต่มันก็ยังเหมือนเดิม ไม่เคยทำอะไรให้มันถูกต้องหรือดีขึ้นเลย
รอวันดูข่าวต่อไปว่ามันจะเกิดที่ไหนอีก

น่าเศร้าใจยิ่งนัก

โดย: Qooma

วันที่: 8 ธันวาคม 2548 เวลา:8:01:39 น.

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมนะคะ

โดย: peeko

วันที่: 8 ธันวาคม 2548 เวลา:8:32:02 น.