Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
25 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
เช่ารถเที่ยวทั่วไทย ต้องทำใจ....เพราะต้องการหนีแท๊กซี่มาเฟีย

ทุกครั้งที่กลับไปเมืองไทยกับสาละมี เราจะเช่ารถเพื่อความสะดวก ปลอดภัย ในการเดินทาง

ก็แหม..เคยใช้บริการแท็กซี่แล้วไม่ประทับใจน่ะสิคะ
พวกที่ไปรอรับแขกที่แถวสนามบินอ่ะ ไม่ค่อยชอบรับคนไทย
เพราะอะไรก็รู้ๆ อยู่ ไม่ได้ทิป หลอกเอาเงินมากไม่ได้ ไม่ได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษ และอื่นๆ....

บางคนชอบถาม
พอเห็นมากับสามีต่างชาติก็มักจะคิดว่ามีตังค์ ชอบถามโน่นถามนี่
ก็มีอ่ะนะ ไม่ใช่ไม่มี แต่ก็ไม่ได้มีมากพอเอามาแจกจ่ายคนไม่รู้จัก กว่าจะหามาได้แต่สตางค์ ยากลำบากแสนเข็ญ (ไม่เหมือนนักการเมืองนิ พอได้ตำแหน่งหน่อย รีบแจกโน่นแจกนี่ เอาใจรากหญ้า เพื่อจะได้รับเลือกต่อไป แล้วไอ้ของที่มาแจกเนี่ย เงินใครยะ ถ้าเงินส่วนตัวก็แล้วไป...)

บางคนขับไปบ่นไป
"ถ้าไม่รับคุณนะ ได้ฝรั่งกลุ่มนั้นแล้ว จะได้พาไปพัทยา
วิ่งพัทยารอบเดียวได้เป็นพัน สบายไปแล้ว"
"หื (แค่นหัวเราะ แล้วคิดในใจ) อ้าว ไอ้... ถ้าฉานรู้ว่าต้องมานั่งฟังแกบ่น ฉันก็คงเลือกไม่มานั่งกับแกหรอก นี่เขาจัดคิวมาให้นะ ยังจะมาบ่นอีก"

บางคนชอบอำ
อำว่าไม่รู้ทาง พาไปวนอ้อมไปอ้อมมา

บางคนก็ขับลืมอาชีพ
นึกว่าเป็นนักแข่งรถ ขับปาดไปปาดมา.... และอื่นๆ อีกมากมาย


ก็อ่ะนะ ไปอาศัยรถเขานั่ง ให้เขาขับ เงินก็จ่ายให้ ฉันก็ต้องนั่งฟังเขาบ่นด้วย เท่านั้นไม่พอ บางครั้งต้องฟังเพลงคนละรสนิยม แอร์ที่จะร้อนหรือหนาวขึ้นอยู่กับอารมณ์ของคนขับ และที่น่ากลัวอินเทรนมากคือ การเมืองคนละขั้ว

เลยตัดปัญหาซะ เช่ารถซะเลยดีกว่า หลงทางกันเองดีกว่าเป็นลาโง่ให้เขาหลอกเอา

การเช่ารถก็ดีนะ อยากหยุดแวะที่ไหนก็แวะ ฟังเพลงที่อยากฟัง อยู่ในอุณหภูมิที่เรากำหนดเอง

บริษัทรถเช่าที่เราเคยใช้บริการมี ๒ บริษัท Avis กับ Budjet ที่เลือกบริษัทใหญ่ก็เพราะให้ความไว้ใจในระดับนึง

บริษัทแรก AVIS ใช้บ่อยมาก แต่ไม่เคยประทับใจเลย ใช้บริการเพราะไม่มีทางเลือกอื่น ก็เมื่อก่อนที่สนามบินดอนเมืองไม่มีบริษัทรถเช่าอื่นๆเลย ก็เลยจำใจ การบริการแย่ ห่วยแตก ได้ประทับใจมาก
เคยมีที่เอารถมาให้เราโดยไม่ล้างรถ มอมแมมมาเชียว เวลาไปคืนรถก็ต้องไปคืนที่เคาท์เตอร์ ซึ่งไม่เคยมีพนักงานอยู่เลย เราต้องรอๆๆๆ จนกว่าเขาจะอยากทำงานก็จะโผล่หน้ามา โดยเฉพาะถ้าคืนรถช่วงเช้านะ เราไปตะโกนเรียกที่เคาท์เตอร์ ทีแรกก็เรียกธรรมดาหรอก แต่ไม่มีใครโผล่เฮดมา เลยต้องเรียกเสียงดัง ถึงกระนั้นก็ตามกว่าจะโผล่หน้ามาจากพาร์เทชั่น แถมหน้าตาก็แบบว่าเพิ่งตื่นจากการนอนหลับลึกมาอย่างเห็นได้ชัด (แปลกดีนะ บริษัทนี้จ้างพนักงานมานอน)


บริษัท Budjet เพิ่งเคยใช้เป็นคราวนี้เป็นครั้งที่สอง เพิ่งเห็นเข้ามาให้บริการภายในสนามบินสุวรรณภูมิ การบริการดีกว่า AVIS หน่อย ตอนคืนรถก็ไม่ต้องไปหาถึงเคาท์เตอร์ โทรไปแจ้งว่ามาถึงแล้ว พนักงานก็จะมารับรถคืนไป ค่อยรู้สึกว่าเป็นลูกค้าหน่อย กับบริษัทแรกเนี่ยรู้สึกเหมือนเราต่ำต้อยมาก
แต่ปัญหาที่เราจากบริษัท Budjet คือ เรื่องการเติมน้ำมันคืน
บอกตรงๆ นะ ตอนรับรถเราก็ไม่ได้เรื่องมาก ตอนรับรถ พอเห็นว่าเข็มมันอยู่ที่ F ก็โอเคแล้ว เข็มจะกระดิกตกลงมาตอนไหน เราก็ไม่ได้คิดอะไร (เคยมีอยู่ทีนึง ใช้รถ AVIS น้ำมันไม่เต็มถังด้วยซ้ำไป เราก็หยวนๆ แต่ถ้าจะว่าตามจริงเราอยากรีบออกจากสนามบินเร็วๆ มากกว่า) แต่พอเวลาไปคืนรถนี่สิ เราก็เติมเต็มถังมาแล้วนะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าขับเข้ามาในสุวรรณภูมิเนี่ยก็คงใช้ไปอยู่บ้าง หลังจากพนักงานเช็คแล้วก็เห็นอยู่ว่าเข็มแตะ F

พนักงาน "พี่เติมน้ำมันจากที่ไหน"
เรางงๆ (ถามไมฟะ) "เติมจากซังฮี้ ทำไมเหรอ"
พนักงานทำหน้าเบื่อๆ "กว่าจะมาถึงนี่ ก็ใช้ไปเยอะแล้ว เนี่ยวิ่งไปได้หน่อยเด๋วเข็มก็ตกแล้ว"
เราคิดในใจ "เฮ้ย แล้วเอาอะไรมาพิสูจน์ว่าวิ่งไปได้หน่อยแล้วเข็มจะตกฟะ"
เราพูดแบบเซ็งๆ "แล้วจะให้พี่จ่ายค่าน้ำมันเพิ่มเท่าไรล่ะ คงไม่เท่าไรมั้ง"
พนักงาน "ก็ประมาณ ๒๐๐ - ๓๐๐ บาท"
เรา "ห๋า อะไรกัน เติมเต็มถัง ๗๐๐ - ๘๐๐ บาท แล้วนี่เข็มยังอยู่ที่ F อยู่เลย ๒๐๐ - ๓๐๐ บาทเชียวเหรอ"

บลาๆๆๆๆ

สามีที่มาด้วยก็งงๆ ว่าเราคุยอะไรกัน พอเล่าให้ฟังก็ทำหน้าเซ็งๆ เขาก็พอจะรู้แหละว่าน่าจะหลอกเอาเงิน ฉันก็ไม่อยากให้สามีมีความรู้สึกไม่ดีกับเมืองไทย พยายามบอกเขาว่า น้องเขาว่าอย่างนี้ก็จริง แต่คงไม่ได้จริงจังมาก ทั้งๆ ที่พนักงานพยายามจะเอาเงินจากฉันให้ได้ แล้วก็คงไม่มีใบเสร็จให้ฉันแน่ (เพราะไม่เห็นพกอะไรมา) ขอคิดไปเองละกันว่าพนักงานจะหลอกเอาเงินจากฉันเพิ่ม โดยอ้างว่ากลัวบริษัทว่า ก็เก่งนะ เป็นจิตวิทยาอย่างนึงที่น่าจะหลอกเอาเงินจากคนที่เช่ารถได้ เพราะเราเองก็ไม่อยากมีปัญหา อยากรีบๆ ไปเช็คอิน กลัวตกเครื่อง ถ้าเป็นปกติเราคงรีบๆ จ่ายแล้วแจ้นไปเช็คอินแล้ว แต่วันนี้ฉันมาเร็วย่ะ เลยอยู่ถกปัญหาได้นาน

พูดตรงๆ นะ ถ้ามีเวลาก็อยากรอพิสูจน์เหมือนกันอ่ะว่าเข็มมันจะตกจริงหรือเปล่า จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย ไม่รู้ว่าพูดแบบนี้กับลูกค้าทุกคนหรือเปล่า แล้วก็ไม่รู้อีกว่าเป็นคำพูดของพนักงานเองหรือเป็นคู่มือของบริษัทที่ต้องประนามลูกค้าว่าน้ำมันที่คุณเติมมามันไม่เต็ม

เซ็งจิตเลย อุตส่าห์สนุกสนานกับการเดินทางต้องมาเจอเรื่องกวนใจตอนจะกลับเนี่ย เสียความรู้สึกมากเลย เราคนไทยยังรู้สึกเลย แล้วคิดเหรอว่าคนต่างชาติที่เขาเจอแบบนี้เขาจะไม่คิดอะไรกันเลยหรือไง



Create Date : 25 กันยายน 2551
Last Update : 3 ตุลาคม 2551 0:03:40 น. 3 comments
Counter : 1515 Pageviews.

 
นั่นสิ....ไม่ชอบเลยเรื่องการเอาเปรียบกันแบบนี้
อายคนต่างชาติอ่ะ นี่ขนาดมีเป็นคนไทยด้วยกัน มากับต่างชาติ ยังโดนโขกแบบนี้
แล้วถ้าต่างชาติมาเองล้วนๆจะโดนอะไรบ้างที่เราไม่รู้อีกเน๊อะ

ไม่ชอบคนไทยก้อตรงนี้แหล่ะ

เคยเรียกแท๊กซี่ต่อคิวที่ดอนเมืองเหมือนกัน
ทำหน้าหมาไม่แหลกเลย ( โทดนะ โมโห ) คงเซ็งอ่ะที่มาเจอคนไทย แทนที่จะได้คิวต่างชาติ

ขับไปชักสีหน้าไป นี่ถ้าไม่เหนื่อยเกินไปจากการเดินทาง แล้วอยากกลับไปนอนเร็วๆ คงมีเรื่องไปแระ หรือไม่ก้อขอลงด่วนเลย เรียกคันใหม่ดีกว่า แต่พอดีของเยอะ ลำลาบลำลนเกินไป เลยช่าง(แม่ม)มัน

อิอิ บ่นยาวเรยเรา


โดย: unsa วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:13:07:20 น.  

 
ช่ายๆๆ ประมาณนั้นเลยค่ะ ชักสีหน้าซะ
ไม่อยากรับก็น่าจะติดป้ายให้รู้ไปเลยว่าไม่รับคนไทย แล้วพวกที่ติด ป้าย I Love Farang เนี่ยก็อย่าจัดให้มารับคนไทยได้ไหมอ่ะ


โดย: peeko วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:17:28:00 น.  

 
//manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9510000117067

ข่าวแท๊กซี่มาเฟีย
มีคนแนะนำว่าให้ใช้บริการวิทยุเรียกแท๊กซี่


โดย: peeko วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:0:05:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

peeko
Location :
กรุงเทพ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add peeko's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.