|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สปาหู
กลับเมืองไทยไปเมื่อต้นปี มีโอกาสได้ไปลองของใหม่ สปาหู มา
เรื่องมีอยู่ว่า วันนึงน้องสาวเอาแผ่นพับโฆษณาสปาหูของร้านนึงมาให้ดู เขียนแนะนำว่า คนที่ขึ้นเครื่องบินบ่อยๆ น้ำในหูไม่เท่ากัน ไซนัส ฯลฯ ควรทำสปาหู
เพราะเมื่อสองปีก่อนเกิดอาการประหลาดกับร่างกายของเรา คือ วันดีคืนดี ตื่นนอนขึ้นมา ลุกตัวนั่งเพื่อจะออกจากที่นอน ก็เห็นบ้านหมุนไปหมด ตาลาย เห็นทุกอย่างรอบตัวหมุนไปหมด ณ วินาทีนั้นเนี่ย มันปวดหัวจะอ๊อกมาก ทรงตัวนั่งต่อไปไม่ไหว เลยต้องล้มตัวลงไปนอนต่อ ทีนี้พอจะพลิกตัวไปทางซ้ายก็จะเห็นทุกอย่างรอบตัวหมุนอีก ขนาดหลับตายังหมุนเลยคิดดู แต่เวลาตะแคงขวาเนี่ยไม่เป็น ทรมานมาก เราก็เลยนอนอยู่ท่าเดิมพักนึง สักพักก็พอจะลุกขึ้นได้ แต่ต้องเคลื่อนไหวช้าๆ ไม่งั้นมันก็จะหมุนอีก เป็นหนักๆ อยู่สองถึงสามชั่วโมง ก็ดีขึ้น
วันต่อมาก็ยังคงมีอาการอยู่ แต่เบากว่าวันแรกมาก เราก็ไม่ได้ไปหาหมอ เพราะไม่รู้ว่าเป็นไร(ที่จริงก็เพราะไม่รู้น่ะแหละที่ควรไปหาหมอ) แล้วมันก็หายแล้วด้วย ก็เลยปล่อยไป จากนั้น อีกสองสามเดือนก็เป็นอีก อาการเหมือนกันเลย ก็ไม่ได้ไปหาหมออีก เพราะมันเป็นวันสองวันก็หายเลยไม่ได้ไปหาหมอ
หลังจากนั้น ได้มีโอกาสเจอน้องคนนึงคุยๆ กัน เขาเล่าว่าตัวเองมีอาการแบบนี้ เราก็เฮ้ย เหมือนกันเลย น้องคนนั้นบอกว่าพี่ต้องไปหาหมอนะ เป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ทำให้เสียการทรงตัว พอได้ฟังน้องเขาว่าเราก็ค่อยเบาใจหน่อย ที่มีคนเป็นเหมือนเราด้วย
อีกสักหลายเดือนต่อมาก็เป็นอีก ทีนี้ไม่ไหวแล้ว น่ากลัวมาก ก็เลยไปหาหมอ ก็ตรวจหลายอย่าง เจาะเลือด ให้ลองเดิน ให้ลองนอนแล้วตะแคงไปข้างที่ตาลาย เท่านั้นแหละ สาละมีที่ตามไปด้วยบอกว่า ลูกตาดำเล็กๆด้านในขยับซ้ายขวาไปตลอด แต่พอหมอจับศีรษะเรามาตามปกติไม่ได้ตะแคงแล้วลูกตาดำก็หยุดหมุน หมอก็วินิจฉัยว่า เป็นโรค 良性発作性頭位めまい症(benign paroxysmal postural vertigo;BPPV) ยาวมั้ย แล้วหมอก็ดึงเอากระดาษที่ก็อปปี้ชื่อโรค อาการ และวิธีรักษาตัวมาให้ดู หมอบอกว่าคนเป็นกันเยอะโรคนี้ สาเหตุที่ชัดเจนไม่อาจทราบได้ อาจเกิดจากการที่ศีรษะได้รับความกระทบกระเทือน (เราเคยล้มในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนไปอนเซนแล้วชั้นวางของล้มลงมาฟาดศีรษะทำให้สลบเหมือดไปสัก 1 วินาทีได้มั้ง) หรือการเครียดหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ(ช่วงที่เป็นส่วนมากจะเป็นช่วงที่ต้องออกไปทำงานล่ามข้างนอกซึ่งก็ทั้งเครียดทั้งนอนพักผ่อนน้อย) หรือการนอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลานาน (เวลานอนมักนอนตะแขงขวาเนื่องจากมีความคิดผิดๆ ว่าการนอนตะแขงซ้ายเป็นการทับหัวใจทำให้หัวใจทำงานไม่สะดวก) หรือการเจ็บคออย่างรุนแรง และยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้คิดได้ว่าทำให้เกิดอาการบ้านหมุนนี้ หมอก็ให้ยาเม็ดเล็กๆ สีขาวมาทาน เป็นยาลดอาการตาลาย ทานแล้วอาการบ้านหมุนก็หายเร็วกว่าปล่อยทิ้งไว้เองตามธรรมชาติ หมอยังแนะนำอีกว่าเวลานอนอย่านอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเพียงข้างเดียว แต่ถ้ายังเป็นอีกก็ให้ตะแคงไปทางข้างที่ทำให้รู้สึกว่าตาลายทิ้งไว้พักนึง แล้วหันไปตะแคงอีกด้านนึงสลับไปมาสี่ถึงห้าครั้ง อาการตาลายจะหายไป
หลังจากนั้น ก็ไม่ได้เป็นอีกนานเลย จนเมื่อกลางปีที่แล้ว อาการกำเริบอีก ทีนี้ ไม่ใช่จะอ๊อกอย่างเดียว มันอ๊อกออกมาเลย วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ซะด้วย รพ.ใหญ่ๆ แถวบ้านไม่เปิด เอาล่ะสิ ค้นหารพ.ที่เปิดวันอาทิตย์ทางอินเตอร์เนท เจอปุ๊บ สาละมีก็รีบขับรถพาไป ระหว่างทางก็อ๊อกอีก ไปถึงหมอถามถึงความเป็นไปได้ในการตั้งครรภ์ก่อนเลย อิฉันก็รีบปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ใช่ หลังจากนั้นก็ถามโน่นถามนี้ เราก็เล่าว่าเคยเกิดอาการอย่างนี้แล้วหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ หมอก็เลยให้ยาลดอาการตาลายมา หลังจากทานก็ดีขึ้น
พอกลับไปเมืองไทย เมื่อปลายปีที่แล้ว ไปตรวจร่างกายแล้วเล่าอาการที่เกิดขึ้นให้หมอที่รพ.ที่เมืองไทยหลายรพ.มาก แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน เพราะตอนนั้นไม่ได้มีอาการแค่อยากเล่าอาการให้หมอไทยด้วยภาษาพ่อแม่ดู แล้วก็อยากได้ยาไทยมาเผื่อเกิดอาการอีก ตอนหมอจะจ่ายยา หมอถามว่าจะใช้สิทธิ 30 บาทหรือเปล่า เราก็งงเล็กน้อย แล้วก็เลยนึกได้ว่าคืออะไร ก็ถามหมอว่าดีมั้ย (หมอคงดูจากการที่เรามีสาละมีเป็นคนญี่ปุ่นคงไม่ขัดสนเรื่องเงินทองมากนัก อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับผู้ใดทั้งสิ้น)แถมด้วยเราไม่ได้มีบัตร 30 บัตรด้วย หมอเลยแนะนำว่าก็เอายาตัวอื่นที่ไม่ใช่ยาของคนใช้สิทธิ 30 บาทแล้วกัน เราก็หมอว่าไงว่าตามกัน รับยามาหวังว่าเมื่อเกิดอาการอีกก็จะกินทันที แต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสได้ลองกินยาหมอไทยสักที
ย้อนกลับมาเรื่องสปาหู ดังสรรพคุณที่เขาอ้าง เราก็เลยไปลองทำดู ค่าใช้จ่ายก็ประมาณ 1,500 บาท มันจะมีมาเป็นเซทกับอย่างอื่นอีกเราบอกไม่เอาเป็นเซทได้ไหม เขาก็ตกลงราคาก็เลยถูกลงมาอีกหน่อย พนง.ก็ให้เราไปนอนบนเตียงเหมือนเตียงรพ.เล็กๆ ขาวๆ ให้นอนตะแคง แล้วก็ทำไรก็อกแก๊กที่หูเรา ไม่เห็นหรอกนะ เดาว่า ก็คงเอากระดาษไขเทียนม้วนใส่มาในหู แล้วเอาไฟจุดให้ควันขึ้น เราก็นอนเฉยๆ ระหว่างนั้นก็จะได้ยินเสียงกระดาษไหม้กับกลิ่นเทียนอบอวล สักพักใหญ่ๆ พนง.ก็มาเอาออก แล้วก็ทำแบบเดียวกันกับหูอีกข้าง ทันทีที่เสร็จนะ อาจจะหาว่าเราคิดเอาเองก็ได้นะ แต่เรารู้สึกว่าหูแห้งขึ้น เราก็ถามเขาว่าทำบ่อยๆ ได้ไหม พนง.บอกว่าไม่ค่อยดี
หลังจากกลับมาถึงญี่ปุ่น ก็ได้ลองค้นเรื่อง สปาหู ทางเนทดู ก็มีหลากหลายความเห็น ก็มีบางคนบอกว่ามันไม่มีผลอะไรกับร่างกายเลย ให้ระวังด้วยซ้ำ
แต่ว่านะ ตั้งแต่ไปทำมาเนี่ยกอปรกับพยายามนอนสลับไปมา ก็ไม่เกิดอาการตาลายบ้านหมุนอีกเลย (ไม่อยากพูดเลย เด๋วเป็นอีก กลัวอ่ะ)
รูปที่เห็นนี่ก็เป็นกระดาษไขเทียนที่ใช้แล้ว(ของสาละมีเราเอง) พนง.บอกให้ฟังว่า ผงสีเหลืองแสดงความชื้นในหู ส่วนไขเทียนที่จับเป็นก้อนแสดงความเครียด ถ้าข้างไหนมีก้อนไขเทียนมากก็สงสัยได้ว่าคุยโทรศัพท์โดยใช้หูข้างนั้นมากเกินไปหรือหูข้างนั้นเครียดมากกว่าอีกข้าง สาละมีเรามีข้างซ้ายมากกว่า เฮียเลยรีบบอกเลยว่า "ฟังเราบ่นในรถมาก หูข้างซ้ายก็เลยเครียดกว่าหูข้างขวา" ดูมันพูดเด่ะ
Create Date : 12 มีนาคม 2549 |
Last Update : 19 มีนาคม 2549 11:19:13 น. |
|
21 comments
|
Counter : 18438 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Deliver วันที่: 12 มีนาคม 2549 เวลา:19:24:27 น. |
|
|
|
โดย: peeko วันที่: 13 มีนาคม 2549 เวลา:20:26:35 น. |
|
|
|
โดย: iamname IP: 218.140.64.54 วันที่: 13 มีนาคม 2549 เวลา:21:42:52 น. |
|
|
|
โดย: lily IP: 210.203.176.57 วันที่: 2 เมษายน 2549 เวลา:23:23:37 น. |
|
|
|
โดย: peeko วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:19:04:26 น. |
|
|
|
โดย: peeko วันที่: 1 สิงหาคม 2549 เวลา:22:29:27 น. |
|
|
|
โดย: peeko วันที่: 1 สิงหาคม 2549 เวลา:22:37:56 น. |
|
|
|
โดย: peeko วันที่: 18 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:46:40 น. |
|
|
|
โดย: Brighty วันที่: 29 ตุลาคม 2550 เวลา:16:28:49 น. |
|
|
|
โดย: ฝน IP: 202.149.106.227 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:47:51 น. |
|
|
|
โดย: leng IP: 58.8.48.71 วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:16:08:45 น. |
|
|
|
โดย: สายอรุณ IP: 124.120.87.247 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:14:35 น. |
|
|
|
โดย: สายอรุณ IP: 124.120.87.247 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:15:13 น. |
|
|
|
โดย: ยิ้มปะดิ๊ม IP: 124.121.112.210 วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:19:27 น. |
|
|
|
โดย: พี่สุ IP: 118.173.130.117 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:47:15 น. |
|
|
|
โดย: sue IP: 118.173.130.117 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:57:21 น. |
|
|
|
โดย: pat IP: 124.122.194.157 วันที่: 23 มิถุนายน 2552 เวลา:21:06:50 น. |
|
|
|
โดย: มะลิ IP: 117.47.9.147 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:35:34 น. |
|
|
|
โดย: jimmy IP: 223.204.54.200 วันที่: 6 เมษายน 2555 เวลา:21:21:03 น. |
|
|
|
โดย: amy IP: 27.55.14.62 วันที่: 29 พฤษภาคม 2556 เวลา:15:02:00 น. |
|
|
|
|
|
|
|