สิ่งแรกที่ยากต่อการสร้างมิตรภาพก็คือการ "สร้างความสัมพันธ์" แต่สิ่งต่อมาที่ยากยิ่งกว่าคือการ "รักษาความสัมพันธ์ "
นั้นให้ยืนยาวและคงเดิม
|
|||
โรตีน้ำปลาร้า เกียบ : กล้วยหอมใส่ฝอยทองกล่องนึงค่า ลุงขายโรตี : พยักหน้ารับ เกียบ : รอและรอ ลุงขายโรตี : ใส่น้ำตาลมั้ย ? เกียบ : ใส่ค่ะ ลุงขายโรตี : ใส่น้ำปลาร้ามั้ย ? เกียบ : หะๆ..................?!?!?!?!? มันคืออะไรอ่ะคะ ? ยิ้มเก้อๆ พยายามนึกสุดชีวิตว่าลุงแกหมายถึงอะไร แต่ก็นึกม่ายออก... ((เสียงคุณลุงจอดรถข้างๆ กัน หัวเราะหึๆ)) ลุงขายโรตี : น้ำปลาร้าไง ไม่รู้จักน้ำปลาร้าอีกละ เกียบ : หัวเราะปนงงอีกรอบ ก่อนตัดสินใจตอบกลับไป "ใส่ก็ด้ายค่าาาาาาาาาาาาา" ((ฮ่าาาาา เสียงหัวเราะไม่รู้ของใครเป็นของใคร แต่ที่แน่ๆ คุณลุงที่จอดรถข้างๆ กัน ผสมโรงด้วยอีกรอบอย่างกะแฟนพันธุ์แท้ --') ลุงขายโรตี : เอ้อ มันต้องงี้สิ !!!! หัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยความชอบใจ เกียบ : ยิ้มปนหัวเราะตอบและดูเหมือนต่อมไหวพริบจะเริ่มทำงานพอให้เดาได้ว่าน้ำปลาร้าที่ว่าหมายถึงอะไร......? นมข้นหวานถูกโรยเป็นสายไหลลงบนโรตีกล้วยหอมไส้ฝอยทองดูน่าอร่อย พร้อมมีเสียงโฆษณาเชิญชวนว่าว่างๆ ก็ให้ไปอุดหนุนโรตีอีกสาขาซึ่งอยู่ที่ตลาดบ้านคลอง แถมด้วยการการันตีคุณภาพน้ำปลาร้าไว้เสร็จสรรพว่าลูกค้าที่ตลาดบ้านคลองกินน้ำปลาร้าแกจนดั้งยุบไปหลายคนแล้ว ปกติร้านที่อยู่หน้าปากซอยนี้ เมียลุงแกจะเป็นคนขายประจำ อันที่จริง เมื่อก่อนลุงแกกับเมียก็ขายอยู่ร้านหน้าปากซอยด้วยกันนี่แหละ ต่อมาคาดว่ากิจการเจริญเติบโตรุ่งเรือง แกเลยยกร้านนี้ให้เมียแกบริหารจัดการ ส่วนลุงแกก็แยกตัวไปขายอยู่ตลาดบ้านคลองโน่น จำได้มีอยู่ครั้งนึง ไปซื้อกับข้าวที่ตลาด กะเดินไปซื้อโรตีแก เดินไปไม่ถึงสองก้าว ก็ต้องโบกมือลาด้วยจำใจ เพราะดูจากจำนวนคนที่ยืนรอ ตูอาจจะได้กินโรตีประมาณตอนสองสามทุ่ม ((เว่ออออออออออออออออร์ ฮ่าๆๆๆ)) ขับรถกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับความรู้สึกที่ว่า เออนะ...ชีวิตวันหนึ่งๆ ของเราตั้งแต่เช้าจรดเย็น มีแต่ "วิ่งไล่ตาม" จะยิ้มจะหัวเราะแต่ละที อย่างกะเล่นงิ้วหลอกกัน เลยไม่รู้ว่าอันไหนยิ้มจริง อันไหนยิ้มหลอก อันไหนพูดจริง อันไหนพูดหลอก อันไหนจริงใจจริงๆ หรืออันไหนจริงใจหลอกๆ แต่กับวันนี้ ฉันเจอยิ้มจริงๆ ไม่ใช่ยิ้มหลอกๆ และนั่นมันทำให้หัวใจฉันยิ้มได้จนถึงตอนนี้ มอบแด่...ลุงพ่อค้าโรตีผู้รวยอารมณ์ขัน
ps. + เมื่อวานนั่งดูข้อสอบติวถึงตีหนึ่ง ตอนเช้าติวป. ๖ ได้ ๓ ข้อ (แบบงงๆ) ตอนบ่ายกะลังจะทำท่าติวม. ๓ ครูตระกูลเดินเข้ามาบอกว่า มีครูเค้าจะมาแนะแนวนักเรียน นั่งรออยู่หน้าห้องจนเจ๊แกแนะแนวเสร็จ เดินกลับเข้าไปในห้อง เก็บข้อสอบที่เพิ่งแจกไปเมื่อ ๒๐ นาทีที่แล้ว โถ...ชีวิตอิเอม แล้วที่กูนั่งเบลอถึงตีหนึ่ง คืออาร้ายยยยย อย่างนี้ทุกทีสิชีวิต ฮ่วย ! + คิดอีกที...ก็ดีแล้ว บางข้อยังไม่ชัวร์ จะได้กลับมาทวน + สุดท้ายนี้ไม่มีอะไรมาก อยากบอก สทศ.ว่า "จะออกข้อสอบยากไปไหน???" อย่าว่าแต่เด็กเลย ครูยังงงกันเป็นไก่ตาแตก" สอบเสร็จมาซ่อมตาให้ครูด้วยแล้วกัน หึๆ
|
oramoreaim
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] หากมีใครถามฉันว่า ฉันเขียนตัวหนังสือพวกนี้ไปทำไม...? ฉันก็จะขอตอบอย่างจริงใจว่า ฉันเขียนมันไว้เพื่อให้ "คนที่ฉันรัก" ได้อ่าน... ในวันที่ฉันไม่มีชีวิตอยู่เป็นที่รักของ "พวกเขา" แล้ว นั่นแหละ ที่ฉันต้องการ... (ซึ้งอ่ะเดะ \(-0-)/ 5555+)
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |