29.ว่าด้วยเรื่องวางแผนทางการเงินในการสร้างบ้าน
  ไม่อยากจะจั่วหัวว่า "การกู้เงิน" 55+ ซึ่งใน blog นี้ก็คือเรื่องการกู้เนี่ยแหล่ะครับ ผมเชื่อว่าคนที่จะสร้างบ้าน หรือจะซื้อบ้านก็ตามที 80% กู้ทั้งนั้น แต่การกู้นี้เป็นการสร้างหนี้แห่งความสุขครับ 

     มีนักลงทุนที่ผมรู้จักบางท่านชอบบอกว่า "บ้านคือการลงทุน จะซื้อบ้านทั้งทีต้องดูทำเล ราคาที่จะขายต่อ บลาๆๆ ถ้าซื้ออยู่เองไม่ต้องใหญ่นักก็ได้ เปลือง เอาเงินมาลุงทุนดีกว่า" ข้อนี้ คหสต.ผมขอเถียงขาดใจเลยครับ ผมคิดว่าบ้านก็คือบ้านครับ คือที่พักอาศัยของเรา ของครอบครัว ทำงานเหนื่อยๆ ก็อยากกลับมาที่บ้าน มาพักผ่อน ใช่ครับบ้านคือการลงทุน แต่เป็นการลงทุนเพื่อชีวิตต่อจากนี้ของเราไปจนตาย(ถ้าไม่คิดย้ายบ้านอ่ะนะ) ดังนั้นส่วนตัวผมแนะนำเลยว่าอย่าไปคิดมากว่าต่อไปจะขายออกไหม ทำเลนี้ถ้าจะขายอีก 10 ได้เท่าไหร่ แบบนั้นไม่ใช่บ้านแล้วครับ แต่ผมเรียกว่า "สินค้า" ครับ แต่อย่างไรก็ตามก็อย่าให้หนี้มันเกินตัว จนทำให้ครอบครัวเดือดร้อนก็พอครับ

ท่านที่กำลังจะสร้างบ้าน หรือมีความคิดในหัวว่าจะสร้างแน่ๆ Blog นี้ผมจะมาเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวทางการเงินที่ท่านต้องเตรียมตัวไว้นะครับ ซึ่งสำคัญมากๆ เงินที่ท่านต้องเตรียมไว้สร้างบ้านมีอะไรบ้าง มาดูกัน

สมมุติราคาของบ้านเราทั้งตัวบ้าน ตกแต่ง รั้ว Landscape เป็น 100% นะครับ

1.เงินเพื่อก่อสร้างงานโครงสร้างและสถาปัตย์ภายนอก(70%)

     ซึ่งก็คือแบบที่ ผรม.เอาไปสร้างนั่นแหล่ะครับ เงินส่วนนี้ จะเป็นส่วนหลักที่จะกู้มาทำ โดยธนาคารปล่อยกู้ตามโปรโมชั่นสินเชื่อเดียวกับซื้อบ้าน คอนโดแหล่ะครับ โดยใช้ที่ดิน และมูลค่าบ้านในอนาคตเป็นตัวประเมิน แบงค์ไหนให้เท่าไหร่ ลองคุยดูเลยครับ จะใช้หลักฐานพวกใบอนุญาตก่อสร้าง โฉนดที่ดินที่เราไปสร้าง แบบก่อสร้างตัวสมบูรณ์ BOQ ของ ผรม.และสัญญาก่อสร้าง 
    - บางแบงค์ให้ 100% ของราคาสร้าง แต่ไม่เกิน 80% ของราคารวมที่ดิน แต่บางแบงค์ก็ให้แค่ 80% ส่วนของผมตอนแรกจะให้ 100% แต่วงเงินเกิน 10 ลบ. ทาง สนง.ใหญ่ เลยให้แค่ 80% เองครับ ขี้แตกเลย ไม่ได้เผื่อใจไว้ตรงนี้ ต้องมาปรับกระบวนท่าใหม่เลย
    - หากท่านมีตกแต่งภายในด้วย แนะนำว่าให้กู้ก้อนนี้ Over ไปเลยครับ เพราะจะได้ดอกเบี้ยถูกตามโปร ถ้าท่านกู้ตกแต่งเพิ่มเติม จะเสียดอกสูงมากๆครับ ดังนั้นผมแนะนำว่ากู้ Over ไปเยอะๆ คุยกับ ผรม.ว่าให้ืำ BOQ และ สัญญาอีกฉบับเพื่อยื่นแบงค์ครับ ส่วนจะผ่านไม่ผ่าน หรือจะได้เต็มวงเงินไหม ก็ลุ้นกันครับ

2.เงินเพื่อการตกแต่งภายใน(15%)

ปกติงบตกแต่งภายใน ถ้าไม่อลังการโอเวอร์ ก็จะอยู่ที่ 15 - 20% ของงบในข้อ 1 ครับ แต่บางบ้านต้องการวัสดุพรีเมียม ไม้แท้จากป่าสนออสเตรเรีย หินอ่อนจากอินเดีย พรมจากอียิปต์ อันนี้บางทีแพงกว่าค่าก่อสร้างก็มีครับ แต่บางคนก็ไม่ตกแต่งอะไรเลย อาจแค่บิ้วเคาเตอร์ครัว กับห้องน้ำนิดหน่อย ก็ไม่ว่ากันครับ แต่กันไว้หน่อยดีกว่าครับ เพราะกิเลสของเราไม่สิ้นสุด ถ้าหากเราไม่เผื่อใจไว้เลย พอบ้านเป็นรูปเป็นร่าง อยากจะมาตกแต่งภายใน ตังหมด ปูเสื่อนอนกันล่ะทีนี้
     - เงินกู้เพื่อตกแต่งภายใน แบงค์จะปล่อยไม่เกิน 30% ของราคาก่อสร้างนะครับ(ถาม % อีกที ไม่แน่นอนแล้วแต่แบงค์) ดอกเบี้ยก็ MLR เลยครับ ขรี้หักกันเลยทีเดียว ของผมต้องกู้ตรงนี้เพิ่มครับ เพราะขอกู้ข้อ 1 ไป ไม่ถึงที่ตั้งไว้ เลยต้องขอเพิ่มในส่วนตกแต่งไป ก็ต้องยอมดอกสูงขึ้นล่ะครับ เพราะไม่มีเงินสำรองจริงๆ (ตกแต่งภายในผม 20% ของราคาก่อสร้าง)

3.เงินเพื่อทำรั้ว และ Lanscape (5%)


   พวกปูหญ้า ต้นไม้ ทำรั้วบ้าน พวกนี้อย่าคิดว่าเล็กน้อยนะครับ อย่างรั้วผม คำนวนออกมาแล้วสูงถึงเก้าแสนกว่าบาทเลย Smiley บางคนอาจรวมใน BOQ ปลูกบ้านไปเลยก็ได้ครับ แบงค์ก็ให้ส่วนนี้เหมือนกัน หรือจะแยกออกมาก็ได้แล้วแต่เราครับ ของผมแยกอกมาเพราะถ้ารวมรั้วราคาจะสูงมากไป ค่อยมาคิดหาแบบถูกๆ หาเจ้าถูกๆ อีกเป็นปีครับกว่าจะทำรั้ว ค่อยวางแผนไป แต่ก็ต้องกันเงินมาก่อนนะครับ

4.เงินเพื่อซื้อของจำเป็นที่ไม่รวมใน BOQ (5%)

    เช่น กระเบื้อง สุขภัณท์ โคมไฟ ดวงไฟ สวิตช์ ปลั๊ก หรือบางคนอาจเป็นลูกบิดประตู มือจับต่างๆ ถังเก็บน้ำ 9ล9 พวกนี้ต้องตกลงตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญาเลยนะครับว่าจะซื้ออะไรบ้าง หรือจะให้ ผรม.เหมาของไปเลย ซึ่ง ผรม.ส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากเหมา เพราะราคาสินค้าพวกนี้มันขึ้นลงบ่อย แถมมันเป็นเรื่องของแฟชั่น ความชอบส่วนบุคคล หากคุณให้ช่างเหมาชักโครกมา แต่นั่งแล้วไม่สบายก้น จะโทษใคร...
     - เงินก้อนนี้ แน่นอนต้องเป็นเงินสดครับ เพราะเราต้องไปเดินหาตามร้านวัสดุต่างๆ เลือกเอง ซื้อเอง จ่ายเอง แนะนำเลยว่าแยกเงินตรงนี้ออกมาเผื่อไว้เลย อย่าไปรวมกับงานก่อสร้าง แล้วหวังว่าจะกู้ผ่าน เพราะถ้ากู้ไม่ผ่าน หรือได้ไม่เต็มวง เราจะซวยครับ ถึงเวลากระเบื้องเข้า ตังค์หมด..ถึงเวลาสุขภัณท์เข้า ไม่มีเงิน..แย่แน่ๆครับ

5.เงินเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น (3%)

เช่นแอร์ ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น ไม่โครเวฟ เตาแก๊ซ/ไฟฟ้า ฮู้ดดูดควัน โทรทัศน์ พวกนี้ก็เป็นของจำเป็นนะครับ หรือใครจะบอกว่า โอ้ย เข้าไปแต่ตัวเปล่าก่อน ค่อยทยอยซื้อของพวกนี้ก็ได้ ท่านจะมีความสุขหรือครับ ไปปูเสื่อนอน เปิดพัดลม น้ำเย็นไม่มีดื่ม ทีวีไม่มีดู คงไม่ใช่แระ
       - นี่ก็ต้องเงินสดเช่นกัน หรือจะผ่อน 0% ก็ว่ากันไปครับ แต่ก็แนะนำว่ายังไม่ต้องรีบซื้อมากองไว้ เพราะบ้านเราพวกงานแฟร์จัดกันแทบทุกเดือน ไว้ไปซื้องานใกล้ๆตอนส่งมอบบ้านก็ได้ครับ เผื่อได้ราคาถูก ผ่อนบัตรได้

6.จิปาถะ(2%) พวกกันขโมย ปลวก อินเตอร์เนต พวกนี้เป็นสิ่งที่แล้วแต่เจ้าของบ้านครับ จะทำ ไม่ทำ ไม่จำเป็นมากนัก แต่ถ้าคิดว่าจำเป็นก็ทำแต่เนิ่นๆเลยครับ เพราะระบบบางอย่างเช่นเนต สายแลน สายกล้องวงจรปิด ทำไปพร้อมตัวบ้านดีที่สุด ไม่งั้นต้องมาร้อยท่อเพิ่ม เจาะผนังทีหลัง คงไม่งามแน่ๆ

   เอาทั้ง 6 ข้อมารวมกัน จะได้ภาพรวมของเงินทั้งหมดที่เราต้องใช้ในการสร้างบ้านหลังนึงครับ จะเห็นว่าการสร้างบ้านไม่ใช่แค่ BOQ แล้วจบ บางคนตังค์ยังไม่พอ แต่อยากสร้างมากก พอ ผรม.ประเมิณ BOQ ออกมาแล้ว เอาเลย กู้เลย ลืมนึกเรื่องเงินอื่นๆที่ต้องกันเผื่อไว้ แบบนี้หายนะมาเยือนแน่ครับ 

    ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่เริ่มต้นคิดจะสร้างบ้านไม่มากก็น้อยนะครับ บริหารเงินดีๆ จะได้ไม่เป็นภาระของครอบครัวในอนาคต อย่าลืมผ่อนบ้าน 30 ปีนะครับ เงินคล่องวันนี้ วันหน้าอาจฝืดก็ได้ ส่วนผมขอตัวไปทุบกระปุกก่อนครับ สงสัยต้องโละ Port หุ้นทิ้งแน่ๆเลย Smiley



Create Date : 31 มกราคม 2557
Last Update : 25 พฤษภาคม 2557 0:27:17 น.
Counter : 7116 Pageviews.

9 comments
  
เขียนได้ดีเช่นเคยนะคะพี่ มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ หนูยังไม่ได้คิดเผื่อค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่พี่แจกแจงมาเลย อ่านแล้วเห็นภาพชัดขึ้นเยอะ ต้องไปคิดปรับกระบวนท่าใหม่เหมือนกัน ไม่งั้นคงได้ปูเสื่อนอนจริงๆ ^_*
ปล. Port หุ้น ช่วยท่านได้ 555
โดย: Bluemoon IP: 27.55.197.158 วันที่: 31 มกราคม 2557 เวลา:13:00:05 น.
  
FC มารายงานตัวค่ะ แนะนำว่าสร้างบ้านเสร็จ พิมพ์บทความนี้ออกจำหน่ายเป็นค่ารั้วเลยค่ะ เพราะเขียนแนะนำได้ละเอียดครอบคลุมดีกว่าหนังสือสร้างบ้านบางเล่มที่ซื้อมาอ่านซะอีก
โดย: ML IP: 27.130.123.22 วันที่: 31 มกราคม 2557 เวลา:22:02:46 น.
  
ขอบคุณ FC ทุกท่านครับ แฮะๆ ผมว่าการสร้างบ้านมันเป็นศิลปะนะ คือไม่ตายตัวเหมือนหนังสือ อะไรที่หนังสือบอก เอาเข้าจริงกลับไม่ใช่ซะงั้น เขียน blog เพราะ remind ตัวเองด้วย และให้เพื่อนๆทราบด้วยแหล่ะครับ ยินดีๆ

ปล.คุณ ML บ้านไปถึงไหนแล้วครับ บอกกันมั่งน้า
โดย: Agent Molder วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:13:00:33 น.
  
ขอถามเรื่องกระเบื้องหลังคาอีกนิดค่ะ รู้มาว่ากระเบื้องเพรสทีจทำสีแบบเปียก ในขณะที่กระเบื้องนิวสไตล์ทำสีแบบแห้ง ซึ่งจะสีซีดได้เร็วกว่าเพรสทีจหรือเปล่าค่ะ ถ้าเป็นอย่างงั้น ทำไมจขกท.ไม่เลือกเพรสทีจ หรือเลือก Excella ไปเลยค่ะ ถ้ามีงบถึงๆ นะ

กำลังลังเลเรื่องเลือกกระเบื้องหลังคาค่ะ ทาง SCG แจ้งราคานิวสไตล์ราคาราว 5 แสนกว่า ส่วน Excella ราคาราว 8 แสนกว่า ส่วนเพรสทีจไม่ได้ประเมินราคาไว้ น่าจะถูกกว่า ราว 3 แสน ??
ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ

โดย: ML IP: 27.130.123.22 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:16:24:43 น.
  
ทั้งเพรสทีจและนิวสไทล์ ซีดทั้งคู่ครับ ที่ผมเลือกนิวสไทล์เพราะรูปแบบ ลักษระกระเบื้อง มันเรียบ คม เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์นครับ สีที่ผมเลือกก็เข้ากับตัวบ้านด้วยครับ

ส่วน เอกเซลล่ามันเป็นเซรามิคเลย สีมันเลยเงา สด ไม่ซีด แต่แพงเกินงบครับ เลยไม่เอา(ตัดใจ) ของผมนิวสไทล์หกแสนกว่า เอกเซลล่าเก้าแสนกว่าครับ
โดย: Agent Molder วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:18:13:11 น.
  
เข้ามาชมบล็อกคุณ Agent Molder. รายละเอียดเยอะมากครับ เป็นประโยชน์สำหรับคนสร้างบ้านได้ดีมากครับ จะคอยติดตามครับ
โดย: baanbaan-design วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:7:04:16 น.
  
ทำรั้วแบบเยรูซาเล็ม ใน World War Z นะ เจ๋งดี กันซอมบี้ด้วย
โดย: ไผ่ไผ่ IP: 133.28.73.28 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:16:03:22 น.
  
ตกลงใช้ผรม.เจ้าไหนคะ เดาว่าสามีเพื่อนแน่ๆ
โดย: i got it IP: 124.40.234.204 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:12:05:42 น.
  
@i got it : ใช่ครับสามีเพื่อน
โดย: Agent Molder วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:15:00:06 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Agent Molder
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 381 คน [?]



มกราคม 2557

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
14
15
16
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog