การมีรูปร่างไม่ดีไม่ได้หมายความว่า ชีวิตจะต้องเหี่ยวเฉา                ลองมาดู เทคนิคการพรางหุ่น ที่อวบใหญ่ ท่อนแขนอันล่ำ ขาอันเต็มไปด้วยผิวเปลือกส้มและชั้นไขมัน ให้แลดูเพรียว ราวหุ่นนางแบบกันจ้า                1. เสือกสีพรางหุ่น

หากคุณมีสะโพกทอร์นาโดและต้นขาที่ใหญ่ดุจโต๊ะสนุ้ก การสวมใส่กระโปรงทรงดินสอสีดำ จะช่วยอำพรางข้อบกพร่องได้ ส่วนด้านบนควรใส่เสื้อด้วยสีสันสดใส ในกรณีที่คุณมั่นใจว่าบริเวณนั้นสามารถดึงความสนใจจากสายตาคนอื่น เช่น คุณมีหน้าอกที่เด้งสวย การคว้าเสื้อชีฟองสีส้มมาใส่จึงเป็นเรื่องที่เวิร์คสุดๆ                จำไว้ว่า "พื้นที่ที่มีปัญหา" ควรใส่สีทึมๆ คล้ำๆ ไม่ให้เป็นจุดสนใจ เเละอวัยวะใดที่อยากให้เป็นจุดดึงดูดต้องสีสดใส สีสว่างนะ                2. ซื้อยกทรงใหม่เป็นประจำ                "ผู้หญิงทุกคนสามารถทำให้ตัวเองดูผอมขึ้น ด้วยการซื้อชุดชั้นในใหม่" Charla Krupp นักเขียนแนวฮาวทู เรื่อง How to Never Look Fat Again กล่าว                "85% ของผู้หญิงกำลังใส่ในชุดชั้นในที่ไม่ถูกต้อง รู้ไหมว่า นั่นทำให้หน้าอกของพวกเขาดูต่ำกว่าที่ควร และจะเป็นเป้าหมาย ดังนั้นควรการสร้างพื้นที่ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในบริเวณระหว่างเอวและหน้าอกของคุณ เพื่อที่จะให้ลำตัวช่วงเอวของคุณเห็นชัดและดูผอมขึ้น                เคล็ดลับคือ แทนที่จะซื้อยกทรงไซส์เดิม เพราะบางคนซื้อมาเล็กกว่าหน้าอก หรือใส่ฟองน้ำจนช่วงบนดูใหญ่โต คราวนี้ซื้อใหม่และต้องได้รับการวัดไซส์อย่างได้มาตรฐานจากทางร้านเท่านั้น เพราะน้ำหนักตัวของทุกคนคงไม่ได้เท่าเดิมทั้งแต่วัยรุ่นยันวัยทองหรอกนะ การซื้อเสื้อในใหม่จึงทำให้รูปร่างดูดีขึ้นมาได้                รู้อย่างนี้แล้ว ก็รีบมุ่งหน้าไปยังแผนกชุดชั้นในที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านแล้วจัดการให้พนักงานวัดไซส์ที่แน่นอนของคุณซะ

3. เลือกเสื้อคอ V                หลักการแต่งกายให้ดูผอมบางนั้น แนะนำให้เลือกเสื้อคอวี ด้วยลักษณะของเสื้อจะทำให้ช่วงบนดูแคบลง ผอมบาง ซึ่งเป็นภาพลวงตา เเต่ที่สำคัญเมื่อเป็นเสื้อคอวีแล้วจำเป็นต้องดูแลผิวของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณคอและหน้าอก เพราะช่วงคอทำให้ผู้หญิงดูแก่ได้ บางคนหน้าตึงเด้ง แต่คอย่นมาเชียว                4. ทลายกรุตู้เสื้อผ้า                การโล๊ะเสื้อผ้าที่ทำให้คุณดูไร้บุคลิก และทำร้ายสายตาผู้อื่น เช่น คุณมีแขนอันใหญ่โตแต่เสื้อแขนกุดแขวนเรียงรายในตู้เสื้อผ้า ขาใหญ่เว่อร์แต่กางเกงขาสั้นจู๋พับเรียงเป็นตับ! เสื้อยืดอันใหญ่โตเกินขนาดตัว หรือกระโปรงผ้าซาตินเงาวับที่เน้นให้ช่วงล่างดูใหญ่ขึ้น                ดังนั้นคุณควรทลายกรุตู้เสื้อผ้าให้เหลือแต่เพียงเสื้อผ้าที่ทำให้คุณดูดี อำพรางหุ่นบริเวณที่มีปัญหา ไม่ใช่อวดปัญหาให้คนอื่นเห็นซะไปหมด                5. เน้นเอว                "การใส่เข็มขัดเพื่อเน้นเอวของคุณ สามารถทำให้คุณดูผอมลง 2-3 กิโลกรัม" Romy Fazeli ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและสุขภาพจาก Kymaro ยังบอกเคล็ดลับต่ออีกว่า "การสร้างเส้นโค้งจะสามารถดึงความสนใจไปที่รอบเอว สร้างรูปแบบเพรียวบางและเซ็กซี่ชะมัด"                6. เผยเนื้อหนังมังสา                อย่าปล่อยให้การแต่งตัวของคุณดูมิดชิดจนเกินไปเพราะจะทำให้รูปร่างดูตัน การเปลือยแขนกรุบกริบ สวมเสื้อคอเว้าเผยให้เห็นร่องอกเล็กน้อย จะช่วยเผยสัดส่วนของร่างกายเพิ่มความเซ็กซี่อย่างเหมาะสม รู้ว่าบริเวณใดที่ควรเปิด จุดบกพร่องใดที่ควรปิด

7. โพสท่าให้เป็น                "เชิดหัวของคุณขึ้นมา และห่อไหล่" Jennifer Miller ช่างภาพแห่งนิตยสารชื่อดัง Cosmopolitan กล่าว                "การโพสที่ถูกวิธีจะทำให้คุณดูผอมได้ในทันที เคล็ดลับคือ โชว์ร่างกายของคุณ 3 ใน 4 ส่วน จะสามารถทำให้รูปร่างของคุณมีลักษณะบางและเป็นธรรมชาติมากขึ้น                แค่การยืนไขว่ขาใดขาหนึ่งไปข้างหลังก็ทำให้ขาดูยาว ขาเรียวสวยขึ้นมาได้ ส่วนสาวใดที่มีไขมันที่ต้นแขนเพียบยกวางมือไว้เท้าสะเอวไว้บนสะโพกหันหน้าสู้กล้อง เพียงแค่นี้รูปร่างจะดูสวย มีสัดส่วน ลบจุดบกพร่องที่กวนใจด้วยมุมกล้องได้"                8. เมกอัพทำหน้าเรียว                "การไฮไลท์- เฉดดิ้ง ทำให้หน้าคุณดูผอมได้" Brigitte Reiss-Andersen เมกอัพอาร์ทติสคนดัง                เเนะนำ 4 จุดสำคัญในการลงเฉดดิ้งคือ ใต้โหนกแก้ม ข้างสันจมูกทั้งสองด้าน แนวไรผมข้างหน้าผาก แนวขากรรไกร บริเวณโหนกแก้ม และหน้าผาก ด้วยการลงสีเข้มในเฉดสีน้ำตาลส้ม เพื่อเน้นส่วนบนใบหน้าหรืออำพรางส่วนกว้างให้ดูแคบลงได้                9. ยกเครื่องกางเกงยีนส์

ระวัง!กางเกงยีนส์ที่ไม่กระชับจะทำลายรูปลักษณ์ของคุณ สัญญาณเตือนจุดสังเกตที่ชัดเจนในการที่คุณต้องเปลี่ยนยันส์ตัวเก่งของคุณซะ คือ เป้าห้อย ไม่ตึงกระชับ                "คุณไม่ควรมีวัสดุส่วนเกินในช่วงขาของคุณ" Shatonia Amee สไตลิสต์นิวยอร์ก กล่าว "กางเกงยีนส์ของคุณต้องมีความเรียบบริเวณเป้า เพราะการหย่อนยานของกางเกง จะทำให้ช่วงสะโพก และขาดูใหญ่ได้ ยีนส์เอวต่ำจะสามารถตอบโจทย์ให้หุ่นดูเพรียวเรียวได้                อ้อ! ความยาวของกางเกงก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ไม่ควรจะยาวลากพื้นเรี่ยดิน หากมันยาวกวาดขยะได้ขนาดนั้นควรวัดความยาวให้พอดีกับช่วงขา และตัดมันทิ้งซะ!                แต่ไม่ได้หมายความให้ซื้อยีนส์ที่รัดเป้าจนแทบนั่งไม่ลงเพราะกางเกงที่รัดมากทำให้ดูอ้วนได้เช่นกัน ลองสังเกตสาวที่ใส่กางเกงรัดมากเวลานั่งเนื้อที่สะโพกและเอวจะปลิ้นทำให้เป็นที่ไม่น่ามอง หากเป็นเช่นนั้นแนะนำให้นุ่งกางเกงยีนส์ผสมผ้าสเปนเดกซ์ สามารถยืดเก็บไขมันที่ไม่ควรอวดได้                จำไว้ว่า อย่ากังวลที่จะใส่กางเกงที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเล็กน้อย เพราะเป้าหมายหลักของคุณคือ ความสะดวกสบาย ส่วนใครที่มีช่วงเอวหนาก็ไม่ควรใส่กางเกงเอวต่ำนะจ๊ะ"                10. ฝึกยืน-นั่ง                การยืนและนั่งนั้นไม่เพียงเเต่จะทำให้รูปร่างของคุณดูผอมบาง แต่ยังช่วยลดการสึกหรอในข้อต่อกระดูก คอ และหลัง ดังนั้นควรปรับปรุงท่านั่งเเละยืนด่วน                ลองนึกภาพเส้นตรงตามแนวด้านข้างของร่างกายของคุณจากหูผ่านไหล่สะโพกและหัวเข่าลงไปที่ตรงกลางของข้อเท้าของคุณ                จากนั้นให้คิดว่ามีสายดึงหัวของคุณขึ้นไปบนเพดาน โดยที่ดึงไหล่เเละหลังของของคุณลง เก็บท้องและกระดูกเชิงกรานของคุณ ให้มือของคุณอยู่ด้านหลังตะเข็บด้านข้างกางเกงของคุณ สุดท้ายกระจายน้ำหนักของคุณอย่างเท่าเทียมกันบนสองเท้าของคุณ

11. เคี้ยวช้าผอมเร็ว                การศึกษาจากมหาวิทยาลัยโรดไอส์แลนด์ พบว่า ผู้หญิงที่เร่งกินอาหารกลางวันด้วยความเร็วใน 9 นาทีนั้น ทำให้ได้รับแคลอรี่ถึง 646 เเคลอรี่ ต่างจากคนที่กินช้า ค่อยๆ เคี้ยว ไม่เพียงแต่จะทำให้เขากินอาหารน้อยลง แต่ทำให้อิ่มมากกว่าคนกินข้าวเร็วอีกด้วย                12. หมั่นดื่มน้ำ                H2O นั้นมีค่าเท่ากับ 0 แคลอรี่ เป็นเครื่องดื่มควบคุมอาหารที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณกำลังติดเครื่องดื่มที่มีเเคลอรี่มาก ให้ลองดูตัวเลขเหล่านี้เเล้วตัดสินใจอีกครั้ง                นักวิจัยที่ติดตามผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวเกิน 240 คน พบบว่าผู้หญิงที่ทานน้ำเปล่ามีน้ำหนักลดลงเฉลี่ย 2-3 กิโลกรัม คุณรู้ไหมว่าโค้ก 1 กระป๋องมีแคลอรี่สูงถึง 146 แคลอรี่ และน้ำองุ่น 1 แก้วที่แคลอรี่ถึง 154                เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว จะเลือกดื่มอะไรดีคะ?                13. นอนหลับพักผ่อนอย่างพอเพียง                การนอนไม่หลับนำความหายนะมาสู่รูปร่างของคุณได้ เพราะในค่ำคืนที่ทุกคนหลับใหลแต่กระเพาะของคุณกลับต้องการที่จะกิน เพราะหิว อารมณ์อยากหาอะไรใส่ปากจึงมีทวีมากขึ้น                มีการศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก พบว่า ผู้ทดลองใน 12 คนที่มีเวลานอนเพียง 4 ชั่วต่อวัน มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น 23% ดังนั้นเราควรนอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวันจึงจะเหมาะสมและปรับสมดุลในร่างกาย รู้ว่าเวลาใดควรนอน และเวลาใดควรกิน