“วาเลนไทน์“ นี้ บอกรักทั้งทีต้องมีสักขีพยาน ประจานความรักกันแบบเปิดเผย เอ่ยกันโต้งๆ ไปเลยใน “ลิฟต์” ไม่ต้องซ้อมกับ “simsimi” ขอแค่เลือก “ลิฟต์” ให้ถูกตัว อย่ามั่วไปใช้ “ลิฟต์สำนักงาน” เดี๋ยวจะพาลกินแห้ว เพราะบรรยากาศไม่เป็นใจ แถมอาจมองไม่เห็นอะไรนอกจาก “หัวหน้า” ทีนี้ล่ะ รักก็ไม่สมหวัง แถมดังแบบต้องแทรกแผ่นดินหนี “ลิฟต์วิวติดอันดับโลก” ดีกว่ามั้ย!? อาศัยความสูงลิบลิ่ว บวกวิวสวย ฉกฉวยให้เธอหรือเขา “รับรัก” แบบไม่ทันตั้งตัว ^^

ซีเอ็น ทาวเวอร์ (CN Tower)
โตรอนโต แคนาดา

หอคอยสูง 1,815.4 ฟุต (553.33 ม.) แห่งนี้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ภายในมีลิฟต์ผนังกระจก 6 ตัว ที่จะพานักท่องเที่ยวไต่ระดับขึ้นไปบนความสูง 1,100 ฟุต (335 ม.) ภายในเวลา 58 วินาที

นอกจากผนังกระจกที่เผยให้เห็นมุมมองกว้างไกลแบบสุดลูกหูลูกตาแล้ว ที่พื้นลิฟต์ยังมี แผ่นกระจกใสไว้ให้ชมภาพอันน่าหวาดเสียวเบื้องล่างอีกด้วย (ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ประมาณ 456 บาท)

หมายเหตุ: ซีเอ็น ทาวเวอร์ เคยได้รับการจดบันทึกว่าเป็น “สิ่งก่อสร้างที่มีความสูงที่สุดในโลก” นานถึง 31 ปี ก่อนที่จะถูกทำลายสถิติโดยตึกเบิร์จ คาลิฟา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2550

……………………………………….

โรงแรมเวสติน เซนต์ ฟรานซิส (Westin St. Francis Hotel)
ซานฟรานซิสโก  สหรัฐอเมริกา

จริงๆ แล้วลิฟต์ภายในโรงแรมหรูแห่งนี้มีไว้ให้บริการแขกของทางโรงแรม แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปในโรงแรมเวสติน เซนต์ ฟรานซิส เพื่อขึ้นลิฟท์ชมวิวเท่านั้น  วิธีการก็ง่ายๆ แค่ทำตัวให้เหมือนแขก แล้วเดินผ่านเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับมุ่งหน้าไปยังลิฟต์ฝั่งทาวเวอร์ (มีป้ายบอกทาง) เพียงเท่านี้ก็จะได้เห็นวิวสวยๆ รอบจตุรัส “ยูเนียน สแควร์” นับตั้งแต่ชั้น 32 ขึ้นไป (ค่าใช้จ่าย: ฟรี)

……………………………………….

ฮัมเมทชวานด์ ลิฟต์ (Hammetschwand Lift)
ยอดเขาเบอร์เก้นสต็อค สวิตเซอร์แลนด์

ลิฟต์กลางแจ้งสูงที่สุดในยุโรปแห่งนี้ จะนำพานักท่องเที่ยวขึ้นไปกินลมชมวิวบนยอดเขา “เบอร์เก้นสต็อค” ที่ระดับความสูง 500 ฟุต (152.4 ม.) โดยให้มุมมองอันสวยตะลึงของทะเลสาบลูเซิร์น (ค่าใช้จ่าย: ฟรี)                  

     หมายเหตุ: ลิฟต์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเบอร์เก้นสต็อค  รีสอร์ท

……………………………………….

ซูร์ มูนามากี (Suur Munamägi)
วอรูมา เอสโตเนีย

แม้ว่าลิฟต์ของ “ซูร์ มูนามากี” จะนำนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์สูงจากระดับพื้นดินเพียง 95 ฟุต (เกือบ 29 เมตร) แต่ลิฟต์แห่งนี้ก็ตั้งอยู่บนจุดที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดของรัฐบอลติก* เมื่อมองผ่านผนังกระจกของลิฟต์จะได้เห็นความงามตามธรรมชาติของทุ่งหญ้าป่าเขาในแถบ “ฮานยา อัพแลนด์ (Haanja Upland)” ซึ่งในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ปลอดโปร่ง นักท่องเที่ยวจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกลถึง 48 ก.ม. เลยทีเดียว (ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ประมาณ61 บาท)

* รัฐบอลติก เป็นชื่อรวมเรียกสามประเทศทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลบอลติก คือ ลิทัวเนีย ลัตเวีย และเอสโตเนีย ในระหว่างปี 1918-1920 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

วิวสวยๆ ที่มองเห็นได้จากในลิฟต์

……………………………………….

เซ็นต์หลุยส์ เกตเวย์ อาร์ช (St. Louis Gateway Arch)
รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา

การขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ที่ระดับความสูง  630 ฟุต (192 ม.) บน “เกตเวย์ อาร์ช” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอนุสาวรีย์สูงที่สุดในอเมริกา สามารถทำได้ทั้งการเดินขึ้น-ลงบันได (ฉุกเฉิน) จำนวน 1,076 ขั้น และใช้บริการลิฟต์/รถรางขนาด 5 ที่นั่ง ซึ่งให้ความรู้สึกหวาดเสียวเล็กน้อยถึงปานกลางเพราะใช้เทคโนโลยีสมัยเก่า (ขาขึ้นใช้เวลานาน 4 นาที ส่วนขาลง 3 นาที)  แถมภาพที่มองเห็นจากภายในก็ไม่ใช่วิวทิวทัศน์แต่เป็นโครงสร้างภายในของเกตเวย์ อาร์ช และเมื่อขึ้นไปถึงจุดชมวิวทางด้านบนแล้วจะมองเห็นวิวที่สวยงามของเมืองเซ็นต์หลุยส์ และแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ (ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ประมาณ 153 บาท)

……………………………………….

ลิฟท์ไป่หลง (Bailong Elevator)
จางเจียเจี้ย ประเทศจีน

ลิฟต์แก้วริมหน้าผาสูงชันแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น “ลิฟต์กลางแจ้งสูงและหนักที่สุดในโลก” หากเดินทางมาเยือนที่นี่ นักท่องเที่ยว (ที่ไม่กลัวความสูง) จะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยตะลึงแมกไม้และภูเขาหินทรายรูปทรงแปลกตาบนความสูงถึง 1,070 ฟุต (330 ม.) (ค่าใช้จ่าย: 56 หยวน หรือประมาณ 265 บาทต่อเที่ยว)

……………………………………….

ตึกซันไชน์ 60 (Sunshine 60)
กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ลิฟต์ของตึก 60 ชั้นในกรุงโตเกียวแห่งนี้ ไม่ได้มีผนังเป็นกระจกใส จึงมองไม่เห็นวิวสวยๆ ทางด้านนอก แต่ระหว่างที่ขึ้นลิฟต์ไปยังจุดชมวิวบนชั้น 60 แขกผู้มาเยือนจะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศสุดอเมซิ่ง เพราะหลังจากเข้าลิฟต์แล้ว ไฟข้างในจะหรี่ลง จากนั้นก็จะมีเพลงบรรเลงเพราะๆ คอยขับกล่อม พร้อมการแสดงแสงสีอันน่าตื่นตาตื่นใจในระหว่างโดยสารลิฟต์ น่าเสียดายที่ช่วงเวลาอันแสนเพลิดเพลินนี้ช่างสั้นนัก เพราะลิฟต์ใช้เวลาเคลื่อนที่จากชั้น 1-60 เพียง 10 วินาทีเท่านั้น (ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ประมาณ 230 บาท)

……………………………………….

สเปซ นีดเดิ้ล (Space Needle)
เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา

หอคอยสูง 605 ฟุต (184 ม.) ในเมืองซีแอตเทิลแห่งนี้ มีลิฟต์แก้วที่ให้มุมมองอันสวยงาม โดยระหว่างที่ไต่ระดับขึ้นไปยังจุดชมวิวทางด้านบน (ใช้เวลา 43 วินาที) แขกผู้มาเยือนจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันกว้างไกลในแบบพาโนรามา ไม่ว่าจะเป็น ย่านดาวน์ทาวน์ของซีแอตเทิล, พิวเจ็ทซาวด์, ภูเขาเรเนียร์, เทือกเขาโอลิมปิก และเกาะต่างๆ ที่อยู่รายรอบ เป็นต้น (ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ประมาณ 337 บาท)

……………………………………….

แอตแลนต้า แมริออท มาร์ควิซ (Atlanta Marriott Marquis)
เมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา

ความจริงแล้ววิวเจ๋งๆ ไม่จำเป็นต้องอยู่กลางแจ้งเสมอไป ตัวอย่างเช่น บริเวณโถงเอเทรียมของโรงแรมแอตแลนต้า แมริออท มาร์ควิซ ที่มีความสูง 50 ชั้น หรือ 470 ฟุต (143 ม.) โดยระเบียงของแต่ละชั้นได้รับการออกแบบให้สามารถแสดงแสงสีที่หลากหลาย จึงแลดูน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่น่าเบื่อ ซึ่งในระหว่างขึ้น-ลงลิฟต์แก้ว แขกของโรงแรมจะมองเห็นแสงสีและรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตา แต่บางครั้งก็อาจรู้สึกหน้ามืดตาลายได้เช่นกัน  (ค่าใช้จ่าย: ฟรี)

……………………………………….

หอไอเฟล (Eiffel Tower)
กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

การขึ้นไปชมวิวสวยๆ บนหอไอเฟล  ซึ่งมีความสูง  1,063 ฟุต (324 ม.) หรือเทียบเท่าตึก 81 ชั้น  สามารถทำได้ทั้งการเดินขึ้นบันได และการขึ้นลิฟต์  โดยลิฟต์ 2 ชั้นบนหอไอเฟลนั้นมีทั้งหมด 4 ตัว ในจำนวนนี้มีอยู่ 3 ตัวที่จะพานักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวสวยๆ ของกรุงปารีสและชองป์ เดอ มารส์ บนจุดชมวิวชั้นที่ 1 และ 2  ซึ่งมีความสูง 187 ฟุต (57 ม.) และ 377 ฟุต (115  ม.) ตามลำดับ และถ้ายังไม่หนำใจก็สามารถขึ้นลิฟต์แก้วไปยังจุดชมวิวชั้นบนสุด  ซึ่งมีความสูงถึง 540 ฟุต (165 ม.) หรือเทียบเท่าตึก 54 ชั้น (ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นที่ประมาณ 368 บาท)

———————————————————–

ข้อมูลจาก : //paow007.wordpress.com / //www.travelandleisure.com/