ภัยเงียบจากห้องนอน (e-magazine)

          แหม ถ้าพูดว่าห้องนอน ใคร ๆ ก็อยากพุ่งเข้าใส่ อยากจะกระโจนลงเตียงนุ่ม ๆ ซุกหมอนนิ่ม พักผ่อน ให้ผ่อนคลาย สบายตัว หายเหนื่อย ยิ่งถ้าช่วงไหนอากาศหน๊าวหนาว นี่แทบไม่อยากโผล่ออกจากใต้ผ้าห่ม ไม่อยากลุกออกจากเตียงกันเลยทีเดียว แต่จะมีใครรู้ไหมว่า ห้องนอนเนี่ยล่ะตัวการดีที่จะสร้างภัยเงียบมาทำร้ายเรา


โรคที่มาจากห้องนอน

1. สิว

          การเกิดสิวมีโอกาสเกิดจากห้องนอนได้มาก ถ้าเกิดหมอนที่เรานอนนั้น ไม่หมั่นซัก ตากแดด หรือซักผ้าคลุมหมอน ผ้าปูที่นอนเลย แล้วยิ่งเวลาที่เรานอน เราไม่ทันรู้ตัวหรอกว่า น้ำลายเอย ฝุ่นจากเส้นผมเอย มันสะสมรวมกันอยู่บนหมอน เพราะฉะนั้นแล้วเวลาเรานอนแล้วเอามาซุกกับหมอนบ่อย ๆ ก็อาจทำให้เกิดสิวได้

2. โรคแพ้อากาศ หรือโรคโพรงจมูกอักเสบ

          เป็นโรคฮิตของคนเมืองที่มีปริมาณผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุที่พบบ่อยในผู้ป่วยส่วนใหญ่คือ ไรฝุ่น ที่มักจะซุกซ่อนและขยายพันธุ์อยู่ตามที่นอน หมอน ผ้าห่ม พรม และตุ๊กตา ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะตัวไรฝุ่นจะเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้ดีในที่อับชื้น อุณหภูมิพอเหมาะ และมีแสงสว่างน้อย อย่างในห้องนอน โดยกินเศษผิวหนังและรังแคของคน สัตว์ สารอินทรีย์ในฝุ่นละออง และมูลของมันเองเป็นอาหาร ด้วยเหตุนี้ตัวไรฝุ่นจึงขยายพันธุ์และเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว

          ผู้ที่แพ้ไรฝุ่น (หรือละอองต่าง ๆ ในอากาศ เช่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้) ภูมิต้านทานของร่างกายจะตอบสนองในลักษณะไอ จาม มีน้ำมูกใส คัดจมูก เคืองตา แน่นหน้าอก หรือมีผื่นแดงที่ผิวหนัง บางร้ายอาจมีอาการหนัก ถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาลก็เป็นได้
 

หลีกโรคร้ายจากภัยเงียบห้องนอน

          ภัยเงียบจากห้องนอนเรานี้ แม้ว่าจะไม่รุนแรงมาก แต่ก็บั่นทอนการดำเนินชีวิต และการทำงานของร่างกายเรา ซึ่งเราจะต้องหาทางรักษา ซึ่งบางรายอาจต้องรักษาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ตามความรุนแรงของโรค ดังนั้น การป้องกันจึงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ก็ควรดูแลตนเองและสภาพแวดล้อมในห้องนอนให้ดีที่สุด ดังนี้

          1. ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าม่าน หรือพรมในน้ำร้อน อุณหภูมิอย่างต่ำ 60 องศาเซลเซียส โดยแช่ไว้ในน้ำร้อนรอจนอุ่นเพื่อฆ่าไรฝุ่น แล้วนำมาซักต่อด้วยน้ำอุณหภูมิปกติเพื่อล้างสารก่อภูมิแพ้ออกไปจนหมด

          2. ใช้ผ้าปูที่นอน หมอน และหมอนข้างกันไรฝุ่น และไม่ควรมีตุ๊กตาขนฟู

          3. หลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์ที่หุ้มด้วยผ้า ควรเลือกวัสดุที่ทำจากหนัง พีวีซี หรือพลาสติก

          4. ควรเปิดม่านและหน้าต่างไล่ความอับชื้น ให้แสงแดดส่องถึงเพื่อช่วยกำจัดกลิ่นอับและฆ่าเชื้อโรคได้อีกทางหนึ่ง

          5. สำหรับผู้ที่แพ้ไรฝุ่นไม่ควรกวาดบ้านก่อนถู เพราะจะทำให้ไรฝุ่นฟุ้งกระจายในอากาศ จนเกิดอาการแพ้

          6. ทำความสะอาดห้องนอน ห้องอื่น ๆ ภายในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้ปลอดฝุ่นอยู่เสมอ ไม่ควรมีข้าวของเครื่องใช้มากเกินไป เพราะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง

          7. ปลูกต้นไม้รอบบ้าน เพื่อป้องกันฝุ่นจากท้องถนนไม่ให้เข้ามาในบ้าน อีกทั้งต้นไม้ยังช่วยกรองอากาศอีกด้วย

          มาดูแลทำความสะอาดบ้านให้เป็นระเบียบไม่รกรุงรัง จะได้ช่วยกำจัดไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ที่อาจทำให้คุณเจ็บป่วยได้อีกด้วย

บทความของ e-magazine.info