ถนนสายนี้มีตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 95 ภาคต่อ
ถนนสายนี้มีตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 95 ภาคต่อ
โจทย์โดยน้องชีริว ให้เขียนเรื่องราวต่อจากงานเขียนตะพาบที่เคยลงไว้แล้ว
เขียนต่อจากงานตะพาบครั้งที่ 91 "นิทานปรัมปรา"ตอนตำนานเกาะสวรรค์
ขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า"ความหมายของคนดี"
ความหมายของคนดี
ในฤดูดอกไม้บาน หน้าหนาวในปีนี้ บรรยากาศน่ารื่นรมย์
อบอวนไปด้วยรอยยิ้มของนักท่องเที่ยวทุกสารทิศ
ที่ไปสูดบรรยากาศสดชื่นและสัมผัสอากาศหนาวบนยอดดอย
เพื่อเฝ้ามองพระอาทิตย์ขึ้นจากทะเลหมอก
เป็นภาพที่สวยงามประทับใจไม่อาจลืมเลือน
หลังจากเสร็จภาระกิจ"ตำนานเกาะสวรรค์"ของทั้งสองเทพ
คือเทพดำและเทพขาวที่ก่อเรื่องวุ่นๆ จนเกือบทำให้ตัวเกาะ
และผู้คนแทบล่มสลายไปพร้อมกันมาแล้ว ผ่านมาหลายเดือน
ทั้งสองเทพจึงถือโอกาสพักหนาวเอ๊ย พักร้อน
มาแอบนั่งบนก้อนเมฆสูดอากาศโอโซนในยามเช้ากับเขาด้วย
ใกล้สิ้นปีจะสรุปงบความดีกันอีกแล้วนะท่านเทพดำเทพขาวเอ่ยขึ้น
ปีนี้ข้าทำยอดได้ไม่ดีเลย แต่ท่านซิทำยอดได้ทะลุเป้าเลยทีเดียว
เฮ้อ โลกนี้มันเปลี่ยนแปลงเร็วซะจนข้าตามไม่ทันแล้ว
ในยุคนี้ คนที่ข้าช่วยเหลือส่วนใหญ่สุดท้ายก็ไปไม่รอดสักราย
ผลบุญของข้าตกต่ำลงมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา
เทพดำโอดครวญถึงผลงานย่ำแย่ในปีนี้
ท่านเทพขาว ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนกันมานาน
ท่านช่วยแนะนำเราหน่อยว่าข้าควรช่วยเหลือคนประเภทไหนกันดี
ที่เมื่อช่วยเหลือแล้วเขาจะประสบความสำเร็จต่อไป ข้าจะได้อนุโมทนาบุญ
ได้เสริมบารมีเทพของข้าให้ได้อยู่บนสวรรค์ไปนานๆ
ใช่แล้วท่านเทพดำ สมัยนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปไวมาก
ตั้งแต่เรามี สังคมออนไลน์ มีสมาร์ทโฟน มีเฟสบุ๊ค ทวิซเตอร์ มีไลน์
คนสมัยนี้มีโลกส่วนตัวสูงมากเพราะมีแต่เพื่อนเสมือนจริงในอินเตอร์เน็ต
มีสิ่งสนใจอยากรู้มากมายในหน้าจอสัมผัสที่เปลี่ยนเรื่องไปแค่ปลายนิ้วสัมผัส
เลยไม่ค่อยมีเวลานิ่งๆ ให้คิดทบทวนแต่ละวันว่าควรทำอะไร
ควรแก้ไขตัวเองอย่างไรดี ควรจะพัฒนาอะไรเพื่อให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้น
คุณธรรมและความดีก็ไม่ค่อยได้สร้างกัน
เพราะมัวหลงเพลินสนุกสนานกับชีวิตไปวันๆ
ถ้าเปรียบคนสมัยนี้คงเหมือนนาฬิกาที่เคยเดินเที่ยงตรงทุกวัน
แต่เดี๋ยวนี้กลับเดินช้าไปบ้าง เดินเร็วไปบ้าง เดินบ้างหยุดบ้าง
บางเรือนก็เป็นนาฬิกาตายชนิดไม่เดินหน้า แต่กลับถอยหลังเป็นบางเวลา
เป็นนาฬิกาที่งอแงเรียกร้องการใส่ใจดูแลตลอดเวลาก็ว่าได้
คนสมัยนี้เลยคาดหวังอะไรได้ยากเต็มที อยากทำอะไรก็ทำ
ไม่อยากทำอะไรก็ไม่ทำ ละเลยหน้าที่ของตัวเองกันมาก
หรือถ้าเปรียบเทียบมาตรฐานความดีของคนสมัยนี้ไม่เหมือนแต่ก่อน
ไม่แยกแยะว่าขาวดำถูกผิดแน่นอนชัดเจน
เพราะส่วนใหญ่มาตรฐานคนสมัยนี้ออกสีเทาๆอ่อนบ้างแก่บ้าง
ผิดก็พอยอมรับได้ ถูกก็พอยอมรับได้ ไม่ผิดไม่ถูกก็ยังพอยอมรับได้อีก
จนบางทีคนรุ่นใหม่แยกแยะเรื่องดีชั่วถูกผิดกันไม่ค่อยออก
"คนดี"นั้นปกติย่อมพอจะดู"คนเลว"ออกจากการ"มองความดี"ที่มีอยู่ในใจ
แต่คนเลวด้วยกันต่างคนต่างก็คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น
เพราะ"มองไม่เห็น"ความดีในจิตใจของตัวเองซะแล้ว
ก็เลยคิดว่าคนอื่นคงเลวเหมือนตัวเอง
บ้างก็อวดความเลวว่าใครจะเลวได้มากและเลวได้ซะใจกว่ากัน
หรือที่ดีขึ้นหน่อยก็ทะเลาะกันว่าใครเลวน้อยกว่ากัน
แล้วก็ร่วมกันประนามคนที่คิดว่าเลวมากกว่าพวกของตน
แทนที่จะพยายามทำตนเองให้ดีขึ้นบ้างสักหน่อยก็ยังดี
เห็นแบบอย่างความดีของคนสมัยนี้แล้ว
ข้าเองเห็นแล้วก็ยังปวดหัวอยู่เลย"
แล้วคนประเภทไหนที่เราควรช่วยเหลือ
ที่ช่วยแล้วเขาจะดีขึ้นล่ะท่านเทพขาว
เทพดำกล่าวขึ้นด้วยความสนใจใคร่รู้
คนที่จะดีขึ้นและดียิ่งๆขึ้นเมื่อเราช่วยเหลือคือคนที่มีธรรมะในใจ
ยังไงล่ะท่านเทพดำ
คนที่เจริญได้นานก็เพราะมีธรรมะเป็นเครื่องรักษาชีวิตและจิตใจอยู่
ธรรมะไม่ได้อยู่กับพระ ไม่ได้อยู่ในวัด ไม่ได้อยู่ในศาสนาใดศาสนาหนึ่ง
ธรรมะอยู่ในใจ ธรรมะคือธรรมชาติคือความจริงของชีวิต
คือทัศนะคติที่ถูกต้อง ต่อตัวเอง ต่อผู้อื่น ต่อสังคม ต่อชีวิต
และต่อโลกที่เราอยู่ ก่อให้เกิดพลังแห่งความคิดและการกระทำอันดีงาม
มีเมตตาให้อภัย มีการหักห้ามใจในการทำความดีละเว้นความชั่ว
เพราะว่า...
ไม่มีใครสอนความดีให้เราได้
นอกจากใจเราที่เข้าใจเคารพยอมรับความดีนั้น
และน้อมนำมาใส่ในหัวใจ ด้วยตัวของเราเอง เท่านั้น
เหมือนคนที่แสวงหาเมล็ดพันธุ์พืชที่ดีมาไว้ในใจ
แล้วดูแลเอาใจใส่ รดน้ำใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้แห่งความดีงามนั้น
ได้เติบโตงอกงามแตกกิ่งก้าน ออกดอกออกผลอันงดงามหอมหวาน
เกิดสติปัญญาเพื่อชี้นำความจริงให้กับตัวเอง
และเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตแก่คนอื่นในทางที่ดี"
แล้วคนสมัยนี้จะไปหาคนที่ธรรมะจากไหนล่ะท่านขาว
เทพดำทำหน้าตางุนงงสงสัย
คนทุกคนก็มีธรรมะนะท่านเทพดำ ความคิดและสิ่งดีงาม
ที่เขายึดมั่นในใจก็มีกันทุกคน มากบ้างน้อยบ้าง
มีคนหลายๆประเภที่ข้านึกได้ตอนนี้ที่ยากในการทำความดี
คนที่มีความคิดเอนเอียงไปทางวัตถุนิยมมาก
แสดงว่าเขาให้คุณค่ากับจิตใจลดน้อยลงเห็นคุณค่าของความดีน้อยลง
คนที่มีความสุขความเจริญ ความสะดวกสบายไม่เคยลำบาก มักเกียจคร้าน
ย่อมไม่สนใจความทุกข์ยากลำบากของผู้อื่น มักเป็นคนไม่มีน้ำใจ
คนที่เรียนสูงฉลาดมากก็ใช้ความฉลาดแกมโกงของตัวเอง
คดโกงในหน้าที่ ไม่กลัวบาป ทำงานน้อย เอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน
คนพวกนี้ก็มีจิตใจที่ยังไม่พร้อมจะรับความดีงามของชีวิตเข้าสู่จิตใจ
คนที่มีมานะทิฐิมากยึดมั่นความคิดของตัวเองไม่ปล่อยไม่วาง
ถือดีอวดเก่งไม่ฟังใคร ที่เขาเรียกว่าทิฐิพระมานะครู
พวกนี้ก็ยังไม่พร้อมที่จะเปิดใจยอมรับความจริง
และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น
คนที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ดีคือคนที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย
ซื่อๆ ธรรมดาๆ ไม่ถือตัวถือตน คนที่คิดดี พูดดี ทำดีกับทุกๆคน
กลัวบาปกลัวกรรม คนที่หนักแน่นไม่เชื่อคนง่าย ไม่หลงไหลอบายมุข
หลงไหลในวัตถุนอกตัวจนเกินไป มีสติแยกแยะความจริง รู้ผิดชอบชั่วดี
คนที่รักดีใครพูดถึงความดีหรือสิ่งดีแล้วสนใจ
อยากรู้อยากมีสิ่งดีๆไว้ในตัวเอง
คนที่สู้ชีวิต คนที่มีความเข้มแข็งในจิตใจ
ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคในชีวิตและโชคชะตา
คนดีๆก็คือคนที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี
แต่ก็มักถูกคนไม่ดีรังแกอยู่เป็นประจำนี่แหละ
พอจะเข้าใจแล้วท่านขาว ข้าหลงคิดว่าคนดีต้องมีป้ายติดอยู่ซะอีก ฮ่าๆๆๆ
เทพเจ้าดำเริ่มยิ้มออก
อีกอย่างง่ายๆ ท่านก็สังเกตดูเวลาเขาเรียกท่านเพื่อขอความช่วยเหลือ
ท่านก็ลองดูซิว่าเขาอ้างอะไรในการขอความช่วยเหลือนั้น
ถ้าเขาอ้างว่าเขาเป็นคนดี อ้างบุญกุศลที่เคยทำไว้ในอดีตหรือปัจจุบัน
แล้วขอให้ช่วยเพื่อจะได้สิ่งนั้นสิ่งนี้มาทำประโยชน์ให้แก่ตัวเองและผู้อื่น
อย่างนี้ก็คาดหวังได้ว่า เมื่อช่วยแล้วเขาน่าจะดีขึ้นกว่าเก่า
มีความเจริญรุ่งเรือง มีผลบุญตอบแทนกลับมาให้ท่านได้อนุโมทนาบุญแน่ๆ
แต่ถ้าขอให้ถูกหวย ขอให้ร่ำรวยเงินทอง ขอให้เฮงๆโดยไม่ค่อยชอบทำงาน
จะนำเงินไปกินไปใช้ให้หนำใจหรือขอให้สอบผ่านได้โดยเป็นคนขี้เกียจ
เป็นคนที่ไม่มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ไม่เคารพครูบาอาจารย์
คิดลบหลู่บุญคุณท่าน
เป็นคนที่คิดถึงแต่ตัวเองไม่แคร์สังคม ไม่เคยคิดจะช่วยเหลือใคร
ถึงจะเป็นคนรวยสักแค่ไหน เป็นลูกเศรษฐีมั่งมีเงินทอง
มีแนวโน้มว่าอนาคตจะไปไกลสักแค่ไหน
ท่านก็ไม่ต้องไปช่วยเขาหรอก
เพราะจิตใจแบบนั้นย่อมไม่สามารถส่งบุญให้แก่ผู้ใดได้
มีแต่ความมืดมิดในจิตใจตลอดกาล
ขอบคุณท่านเทพขาวมากๆนะครับ ที่แล้วมาข้าก็หลง
ทำบุญกับคนไม่ดีมามาก ต่อไปนี้คนไหนที่เป็นคนไม่ดี
ไม่สนใจธรรมะ ฉลาดแกมโกง ถือตัวถือตน
มีมานะทิฐิมาก ถึงจะมีวาสนาบารมีตำแหน่งใหญ่โต
สักเพียงใดข้าก็จะไม่สนอีกต่อไปแล้ว จะขอช่วยเหลือ
แต่คนดีๆที่ถูกรังแก ใช้ชีวิตง่ายๆ และจะได้นำความช่วยเหลือที่ข้าให้
ไปสร้างประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อไป เทพดำยิ้มจนเห็นฟันขาว
ถูกต้องแล้วครับท่านเทพดำ
ท่านเทพขาวพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มแห่งความเป็นมิตร
ทั้งคู่นั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกอย่างมีความสุข
เรื่องและภาพประกอบวนารักษ์
ขอบคุณเพื่อนประจำบล็อกทุกๆคนที่ยังไม่ลืมกัน
ขอบคุณโจทย์ดีๆจากน้องชีริว
ขอบคุณน้องเป็ดสวรรค์ที่จัดงานตะพาบขึ้นทุกครั้ง
ขอบคุณหมู่เทพทั้งหลายที่ยังเฝ้าคอยคุ้มครองคนดีอยู่เสมอ ^^
Create Date : 16 ธันวาคม 2556 |
|
75 comments |
Last Update : 23 ธันวาคม 2556 16:10:50 น. |
Counter : 3612 Pageviews. |
|
|
|