ยิ้มกันหน่อย คุยกันนิด ^^
ยิ้มกันหน่อย คุยกันนิด ^^หากชีวิตเหมือนการเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทาง เราทุกคนล้วนเป็นเพื่อนร่วมทางบนถนนชีวิตนี้ เพราะทุกคนเริ่มต้นที่การเกิด และสิ้นสุดที่การตายเหมือนกันทุกคน นั่นคือวิธีที่ธรรมชาติจงใจให้เกิดขึ้นกับพวกเราทุกๆคนอย่างเสมอภาคกัน เราทุกคนล้วนเกิดมากับความไม่รู้ ความโง่เขลาเหมือนออกมาจากป่าจากเขา จากถ้ำที่มืดมิด โดยไม่รู้ว่า เราควรจะทำอะไร อย่างไร กับตัวเองและผู้อื่น แต่เรานั้นจะค่อยๆได้รับการสั่งสอนและเรียนรู้จากพ่อแม่ จากเพื่อนฝูง จากสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เรานั้นอยู่และค่อยๆเติบโตขึ้น จนสุดท้ายเราจะคิดและสรุปได้เอง(ร่วมกับปัญญาและอุปนิสัยเดิม)ว่า สิ่งนี่แหละคือสิ่งที่เหมาะสมและเราเลือกที่จะใช้ชีวิตเช่นนี้ แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ถูกต้อง? สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เหมาะที่ควรจริงๆแล้วหรือ? เราเองไม่ได้ถูกค่านิยมกระแสทางสังคมวัฒนธรรม หรือสิ่งแวดล้อมพาใจไปให้หลงผิดใช่ไหม? เราทำดีที่สุดแล้วทำไมใจเราจึงยังทุกข์อยู่? บางครั้งการที่คุณเป็นคนขี้สงสัย รู้สึกไม่มั่นใจในสิ่งที่หล่อหลอมเราขึ้นมา ไม่มั่นใจแม้ในความคิดของคุณเอง สิ่งเหล่านี้อาจช่วยคุณได้ บางคนเกิดขึ้น โตขึ้นในสิ่งแวดล้อมหนึ่ง แล้วก็มีนิสัยและความคิดอย่างนั้น ไปจนวันตายไม่เปลี่ยนแปลง แต่บางคนก็เหมือนต้นไม้ที่ค่อยๆแผ่ลำต้นกิ่งก้านใบและร่มเงาออกไปเรื่อยๆ ตามอายุตามวัยที่เพิ่มขึ้น ค่อยๆเรียนรู้โลกปรับตัวได้ตามยุคสมัย เรียนรู้โลก เรียนรู้ชีวิตแก้ไขความผิดพลาด ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นได้ เป็นเสมือนต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาน่ารื่นรมย์เป็นที่พักแก่นกกาที่บินมาอาศัย และใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ต่อคนรอบๆข้าง ถ้าศาสนาคือความคิดความเชื่อความศรัทธาในจิตใจของแต่ละคน เราทุกๆคนก็ล้วนมีศาสนาที่ยึดถือในใจแล้วทั้งสิ้น แม้แต่คนที่ใช้ชีวิตหรือประกาศตัวเองอย่างชัดเจนว่าเป็นคนไม่มีศาสนาก็ตาม แต่เขาก็ย่อมจะเคารพตัวเองไม่ยอมให้ใครลบหลู่ความคิด ความเชื่อของตัวเอง ชนิดฆ่าได้แต่หยามไม่ได้เลยทีเดียว แต่สิ่งสำคัญก็คือ ศาสนาของแต่ละคนนั้นเป็นประโยชน์ หรือว่าทำร้ายตัวเองหรือสังคมมากน้อยสักเท่าใดต่างหากต่างหาก ความคิด ความเชื่อนี้เองที่ทำให้คนเราดูต่างกันเหลือเกินบนเส้นทางชีวิต ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย บางคนดีแสนดี และ บางคนก็เลวแสนเลวเหลือจะทน เราเหมือนกบที่อยู่ในหม้อที่ตั้งน้ำต้มไฟอยู่โดยไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง เพราะความเคยชินต่ออุณหภูมิของน้ำที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น สุดท้ายก็ถูกต้มจนสุกโดยไม่รู้สึกร้อน เราอาจกำลังมีความสุขบนความทุกข์ของตัวเอง ที่มันค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้น เพราะความเคยชินต่อสภาพความเป็นอยู่ ทำงานมากพักผ่อนน้อย เครียดสะสมจนรู้สึกเคยชิน สุดท้ายก็เกิดโรคร้ายขึ้นกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง ความดัน โรคหัวใจ โรคประสาท โรคซึมเศร้า นี่คือโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตแบบกบที่อยู่ในน้ำร้อน ของคนในสังคมปัจจุบันที่เห็นกันทั่วไป มีคนอาจสงสัยว่าทำไมผมต้องเขียนเรื่องธรรมะแบบขัดใจคนอ่าน ทุกๆครั้งในงานตะพาบหรือในบทความ น่าจะเขียนเรื่องเบาๆที่เข้ามาอ่านกันเพลินๆ น่าจะได้เพื่อนและคนสนใจติดตามบล็อกมากกว่านี้? คำตอบของผมก็คือ จะดีหรือไม่ถ้าจะมีกระจกเล็กๆชัดเจนสักบานหนึ่ง ให้เรามีโอกาสส่องดูใบหน้าเราตอนเช้าๆเย็นๆ เผื่อจะมีตรงไหน ที่เสื้อผ้าหน้าผมยังดูไม่เรียบร้อยเราจะได้ดูตัวเองเพื่อแต่งให้หล่อให้งามสมใจ หรือถ้ายังมีอะไรที่คุณลืมไป พอมองกระจกแล้วอาจนึกขึ้นมาได้เอง ก็อาจเป็นไปได้ ธรรมะที่ผมเขียนก็เหมือนกับกระจกดีๆบานหนึ่งที่มันอาจบอกบางสิ่ง ซึ่งปกติเรามองไม่ค่อยได้มอง ได้เห็นให้เราได้เห็นกันชัดๆ เพื่อให้เราได้เทียบเคียงแนวความคิดเรากับเรื่องที่อ่านในบล็อก เพื่อการปล่อยวางความยึดติดต่างๆจะได้ไม่มีความทุกข์ เหมือนมีจุดดำๆบนใบหน้าเราก็เขี่ยออก นี่คือหน้าที่สะท้อนความจริงของกระจกเงาโลกและธรรมนี้เหมือนโลกสองโลกที่ขนานกันอยู่ในมิติของเวลา เมื่ออยู่ในโลกการต่อสู่ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เพื่อให้ได้สิ่งต่างๆ มาครอบครองคือเป้าหมาย เมื่ออยู่ในธรรมการปล่อยวางเพื่อเข้าถึงความสุขสงบในใจคือเป้าหมาย โลกและธรรมเราเรียนรู้กันและกันจากความทุกข์ ที่เหมือนขั้นบันไดที่เชื่อมทั้งสองโลกเข้าด้วยกัน ถ้าอยู่ในโลกได้ อย่างไม่มีทุกข์ร้อนเลย ก็คงไม่มีใครอยากหนีโลกไปหาธรรมอย่างแน่นอน และถ้าไม่มีทุกข์และวิธีปล่อยวางแล้ว ธรรมก็จะคุยกับคนในโลกไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว และไม่ว่าคุณจะสนใจธรรมหรือไม่ ทั้งโลกและธรรมก็ใช้ทุกข์เป็นบันได้ไปสู่ความจริงได้เหมือนกัน ความทุกข์คือครูที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิตของคนในโลก แต่ธรรมศึกษาความทุกข์อย่างละเอียดลออทุกแง่มุม เป็นการเรียนรู้ทุกข์เพื่อที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์ การปฏิบัติธรรมด้วยการเจริญสติเป็นการเปิดประตูไปสู่โลกแห่งธรรมได้จริงๆ ธรรมเป็นโลกแห่งจิตใจที่ยิ่งเรียนรู้ก็ยิ่งทำให้เกิดปัญญาคลายความยึดติดในตัวเอง คลายความยึดติดในความคิด และความอยากจากกิเลสที่ทำให้เราต้องดิ้นรน ธรรมสำหรับผมไม่ใช่ข้อห้ามข้อกำหนดของกรอบความคิดอันเก่าแก่โบราณคร่ำครึ แต่มันเป็นโลกของจิตใจที่เราเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในนั้นได้อย่างมีเสรีภาพ และมันเป็นที่พักผ่อนจิตใจที่ผมใช้ชีวิตมากกว่าอยู่ในโลกอันวุ่นวายนี้ด้วยซ้ำไป ผมเขียนเรื่องต่างๆจากโลกของธรรมที่ผมคุ้นเคย ผ่านแนวความคิดของสิ่งที่เป็นทุกข์ของคนในสังคมปัจจุบัน ของเพื่อนๆที่ได้พบเห็นพูดจาแต่ไม่มีโอกาสได้แนะนำเสนอความเห็น เพื่อให้เกิดมุมมองที่จะคลายความยึดติดต่างๆที่ทำให้เกิดทุกข์ เป็นเหมือนกระจกเงา เป็นเหมือนขั้นบันได ที่จะพาเพื่อนๆข้ามไปสู่ความจริงข้างบนให้ได้ไวๆ โดยไม่ล่วงหล่นหัวคมำตำลงไป หรืออย่าติดอยู่ในขั้นของความทุกข์แต่ละขั้นนานจนเกินไป หรือจะปรึกษาวิธีการที่จะข้ามมาฝั่งธรรมอันสงบเย็นที่ผมอยู่ก็ได้ นี่คือเจตนาที่มีผ่านงานเขียนหลากหลายเรื่องราวในบล็อกแห่งนี้ ธรรมะสอนเรื่องเดียวก็คือ ทำอย่างไรไม่ให้เราทุกข์ ง่ายๆสั้นๆแค่นี้ ถ้ามีอะไรที่เรายังยึดอยู่ เพราะอยากได้ อยากมี อยากเป็นแล้วเป็นทุกข์อยู่ ไม่ปล่อยไม่วาง เรื่องที่ผมเขียนนี้อาจช่วยคุณได้บ้างไม่มากก็น้อย และหากมีข้อความอันใดที่อ่านแล้วรู้สึกขัดใจ ก่อให้ความไม่สบายใจ ไม่ถูกต้องด้วยประการใดก็ตาม ก็ขอให้กรุณาแนะนำติชมมาได้เสมอ ผมก็จะขอน้อมรับไว้เป็นความผิดของผมแต่เพียงผู้เดียว และพร้อมน้อมรับคำแนะนำทุกๆท่านเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นในโอกาสต่อไป แต่หากจะมีแง่คิดสะกิดใจดีๆสักเล็กน้อยที่ท่านเห็นว่าพอมีประโยชน์บ้าง เมื่อได้แวะมาเยี่ยมและอ่านงานเขียนของผมแล้วละก็ ผมก็ถือเป็นความภูมิใจสูงสุด ที่ได้มอบเป็นของขวัญของฝาก ติดไม้ติดมือเมื่อออกไปจากบล็อก"วนารักษ์" บล็อกเล็กๆที่มีแต่ความจริงใจให้กับทุกคน และถ้ามีโอกาส อย่าลืมแวะมาอ่านงานเขียนและร่วมติชมกันบ้าง ก็ถือเป็นน้ำใจอันมีค่าที่มอบให้บล็อกเล็กๆแห่งนี้แล้ว ^^ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่มาเยี่ยมชมบล็อกวนารักษ์ไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ ตอนนี้มี Interview The Blogger วนารักษ์ ที่่บ้านน้องริน Rinsa Yoyolive ให้อ่านกันแล้ว คลิ๊กที่ลิงค์ได้เลยครับ Interview the blogger วนารักษ์
Create Date : 31 สิงหาคม 2556
Last Update : 12 กันยายน 2556 21:53:42 น.
72 comments
Counter : 2619 Pageviews.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 31 สิงหาคม 2556 เวลา:22:06:59 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:15:56:44 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:16:01:15 น.
โดย: multiple วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:17:56:15 น.
โดย: multiple วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:18:02:31 น.
โดย: lovereason วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:18:28:10 น.
โดย: ชีริว วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:18:36:11 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:20:18:18 น.
โดย: หมอหว่อง วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:20:59:02 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:23:29:20 น.
โดย: tui/Laksi วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:23:32:14 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:23:37:02 น.
โดย: pantawan วันที่: 1 กันยายน 2556 เวลา:23:50:43 น.
โดย: schnuggy วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:0:50:59 น.
โดย: schnuggy วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:1:09:29 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:6:36:39 น.
โดย: multiple วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:7:41:32 น.
โดย: mambymam วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:8:47:26 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:11:36:56 น.
โดย: FreakGirL วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:13:05:19 น.
โดย: ตาลเหลือง วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:13:25:27 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:14:33:06 น.
โดย: mambymam วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:16:32:52 น.
โดย: JinnyTent วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:19:15:27 น.
โดย: anigia วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:20:13:50 น.
โดย: **mp5** วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:20:47:15 น.
โดย: พรไม้หอม วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:21:43:36 น.
โดย: NET-MANIA วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:22:10:58 น.
โดย: mambymam วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:22:54:27 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:23:05:09 น.
โดย: กาปอมซ่า วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:23:41:24 น.
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 2 กันยายน 2556 เวลา:23:59:28 น.
โดย: multiple วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:5:20:54 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:6:52:51 น.
โดย: yyswim วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:10:55:26 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:11:20:13 น.
โดย: ฝากเธอ วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:12:06:13 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:14:26:41 น.
โดย: ฝากเธอ IP: 118.173.211.159 วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:14:39:47 น.
โดย: เนินน้ำ วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:15:09:46 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:16:35:47 น.
โดย: pantawan วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:18:28:46 น.
โดย: ฝากเธอ2 วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:22:05:42 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:23:03:56 น.
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:23:53:57 น.
โดย: multiple วันที่: 3 กันยายน 2556 เวลา:23:55:12 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กันยายน 2556 เวลา:6:30:05 น.
โดย: mambymam วันที่: 4 กันยายน 2556 เวลา:7:56:56 น.
โดย: tui/Laksi วันที่: 4 กันยายน 2556 เวลา:8:33:18 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 25 กันยายน 2556 เวลา:14:45:48 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 28 ตุลาคม 2556 เวลา:8:05:36 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 19 พฤศจิกายน 2556 เวลา:8:12:55 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 6 ธันวาคม 2556 เวลา:12:02:15 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 26 ธันวาคม 2556 เวลา:15:38:40 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 2 มกราคม 2557 เวลา:7:47:33 น.
โดย: วนารักษ์ วันที่: 22 มกราคม 2557 เวลา:16:36:49 น.
Location :
ปราจีนบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [? ]
ขอต้อนรับสู่บล็อกเล็กๆแห่งนี้มีมิตรภาพและความจริงใจให้กับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะเข้ามาทักทายกัน ^^ บทความและรูปภาพนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน พร้อมทั้งขอมอบเป็นน้ำใจกับเพื่อนๆทุกคนที่แวะเข้ามา สามารถคัดลอกนำไปเผยแพร่ได้ ยกเว้นเพื่อประโยชน์ทางการค้าซึ่งต้องขออนุญาตก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่ เพื่อนบางคนมาครั้งเดียว นานๆมาที มาไม่บ่อย มาบ่อยๆ บางคนมาเยี่ยมทุกวันให้ชื่นใจ บางคนเคยมาทุกวัน บางคนเคยมานานแล้ว บางคนหายไปจากบล็อก บางคนก็จะไม่แวะมาทักทายกันอีก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะขอเก็บความรู้สึกดีๆที่มีให้กันไว้ตราบนานเท่านาน เพราะเมื่อรักกันแล้วย่อมเข้าใจกันได้ไม่ยาก จขบ.เป็นคนซื่อๆง่ายๆจริงใจ ไม่มีเจตนาแอบแฝงในการทำบล็อก แต่บทความหรือรูปภาพก็อาจทำให้ผู้อ่านขัดใจได้ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการของ จขบ.หรืออาจเป็นเพราะเราไม่เคยรู้จักดีพอ จึงกราบขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วย และขอขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียนด้วยความจริงใจนะครับ ^^ ฝากข้อความหลังไมค์
1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30 31