ถนนสายนี้มีตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 81กลลวง
ถนนสายนี้มีตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 81กลลวง
โจทย์โดยน้องเป็ดสวรรค์
ขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า สันตินคร
สันตินคร
เมฆฝนเริ่มตั้งเค้าว่าฝนจะตก แต่ยามบ่ายแดดแรงๆแบบนี้
ก็ร้อนจนสุดแสนทรมานเหลือเกิน เจมส์ยังคงต้องทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้างอยู่กลางแดดจ้า
ทั้งๆรูปร่างหน้าตาหล่อขั้นเทพ เขาเคยฝันว่าจะเป็นคุณชายหมอ
แห่งวังจุฑาเทพ แต่ก็เป็นไปไม่ได้เพราะเขาไม่ใช่หุ่นยนต์แอนดรอยด์
ในปีคศ.3013 โลกได้ถูกควบคุมด้วยหุ่นยนต์แอนดรอยด์โดยสมบูรณ์แบบ
มากว่าห้าร้อยปีแล้วด้วยความผิดพลาดของการพัฒนามือถือ
ให้ชาญฉลาดกับการสร้างหุ่นยนต์ร่วมกัน
สุดท้ายก็ได้หุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่สามารถคิดนึกและรู้สึกได้เหมือนมนุษย์
หุ่นยนต์ทั้งหมดได้ปฏิวัติมนุษย์ที่สร้างมันขึ้นมา ด้วยการครอบครอง
ทรัพยากรทั้งหมดบนโลกแล้วตั้งตัวเองเป็นชนชั้นปกครอง
บีบบังคับให้มนุษย์ทำงานก่อสร้าง กวาดขยะ
แม้กระทั่งเป็นคนรับใช้ของหุ่นยนต์ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างมันมากับมือ
เพื่อหาเงินมาประทังชีวิตไปวันๆหนึ่งเท่านั้น
มนุษย์ตกเป็นคนชั้นต่ำที่สุดของสังคม ด้วยความที่เจ็บป่วย
มีโรคระบาดมาก แก่ง่ายตายไว แถมยังแบ่งฝักแบ่งฝ่ายชอบใช้ความ
รุนแรงในการแก้ปัญหาอีกด้วย
หุ่นยนต์จึงมองว่ามนุษย์ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสมเพช
และจะต้องควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดการต่อสู้ลุกฮือกันขึ้นมา
ผมทนไม่ไหวแล้วนะพี่โป๊บ เราจะอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้
เราเป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อ มีความรู้สึกนึกคิด ผมจะต้องหนีออกไปจาก
สังคมหุ่นยนต์บ้าๆแห่งนี้ให้ได้เจมส์กล่าวด้วยความคับแค้นใจ
แกก็รู้นี่ว่าเราถูกฝังชิพไว้ในหัว ไม่ว่าแกจะคิดอย่างไรหุ่นมันก็รู้หมด
แล้วขืนแกยังคิดแบบนี้เรื่อยๆ เกิดเขาตรวจสอบข้อมูลขึ้นมาแกจะลำบาก
นะจะบอกให้ พี่ชายของเจมส์กล่าวด้วยความห่วงใย
ยังไงผมก็จะต้องหนีออกจากเมืองนี้ ไปตายเอาดาบหน้าให้ได้
พี่เคยเห็นใครที่มีกลลวงพวกหุ่นยนต์จนพวกมันตรวจความคิดเราไม่พบ
แล้วก็สามารถเข้าออกเมืองได้อย่างเสรีหรือเปล่าครับ?
เอ ขอนึกก่อนนะ เห็นจะมีแต่พวกพระเคร่งๆน่ะ ไม่เห็นหุ่นยนต์มันจะ
ถือสาอะไรพวกท่านเลย จะเข้าจะออกเมืองอย่างไรก็ได้พี่โป๊บกล่าว
อย่างนั้นผมจะต้องไปหาท่านแล้วขอความลับจากท่านให้ได้
แล้ววันหนึ่งหลังเลิกงานกลับมายังแคมป์ที่พักอาศัยอันคับแคบแสนอุดอู้
มีหลวงพ่อสูงวัยมาปักกลดใกล้ๆกับที่พักของเจมส์
กราบหลวงพ่อครับ ผมทนอยู่ในเมืองหุ่นยนต์บ้าๆอย่างนี้
ต่อไปไม่ไหวแล้ว ผมอยากให้หลวงพ่อสอนว่าทำอย่างไร
ผมถึงจะเข้าออกเมืองนี้โดยหุ่นยนต์มันไม่จับตัวไว้ครับ
เพราะถ้าเรามีความคิดที่จะหนีพวกมันจะรู้ พอออกไปเสียงหวอก็ดัง
มันก็ตามตัวเราได้ง่ายๆจากชิพที่ฟังในหัวเรานี้เองครับเจมส์กล่าว
โยมรู้ไหมไม่ใช่พระทุกคนที่จะออกจากเมืองนี้ไปได้นะ
ไม่อย่างนั้นก็คงจะมีคนมาบวชเพื่อหนีออกจากเมืองนี้กันไปหมดแล้ว
ถ้าเราจะมีกลลวงพวกหุ่นไม่ให้รู้แล้วล่ะก็ กลลวงนั้นต้องซับซ้อนมากๆเลย
เพื่อที่จะอยู่เหนืออำนาจของความคิด และอยู่เหนือสิ่งที่มายั่วเย้า
เหนือกิเลสที่ทำให้เกิดความอยากเลยทีเดียวนะโยม"
"ยากแค่ไหนผมก็จะฝึกให้สำเร็จครับ" เจมส์กล่าวพร้อมความเชื่อมั่น
"เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมานานแล้วในอดีต" หลวงพ่อกล่าว
"ยังไงหรือครับ เคยมีหุ่นยนต์ปกครองมนุษย์ในอดีตด้วยหรือครับ?"
"ก็ไม่เชิงนะ เมื่อก่อนนี้มนุษย์เราตกอยู่ใต้อำนาจของกิเลสตัณหา
ที่เฝ้าติดตามควบคุมเราจากความคิดและจิตใจของเราอย่างหมดทางสู้
เช่นเดียวกับพวกหุ่นยนต์ปกครองมนุษย์สมัยนี้นี่แหละ
มีมหาบุรุษท่านหนึ่ง คือพระพุทธเจ้าของเรานี่เอง
ที่ทรงเอาชนะกิเลสความหลงผิดที่คอยยั่วยุ
ปิดบังความจริงในโลกเอาไว้ จนสามารถหหลุดออกจากอำนาจมัน
เหมือนลูกไก่ตัวแรกที่จิกเปลือกไข่ออกมา แล้วทรงสอนพวกเราให้ออก
มาได้เช่นกัน คำสอนนั้นยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน
เรียกว่าการเจริญสติปัฏฐานสี่ หลวงพ่อจะแนะนำวิธีปฏิบัติง่ายๆให้ก็แล้วกันนะ
อาวุธที่จะสู้กับความคิดและความอยากก็คือสติ
เมื่อมีสติเราก็จะไม่หลงคิด หลงอยากไปตามอำนาจของสิ่งยั่วยุทั้งหลาย
ขั้นแรกให้ถือศีลห้า สำรวมกายวาจาใจให้เป็นปกติ
นั่งสมาธิเป็นประจำจนจิตใจตั้งมั่น
พอจิตตั้งมั่นแล้วจะเกิดจิตผู้รู้
จิตผู้รู้นี้แหละคือไม้ตายของเราล่ะ"
"จิตผู้รู้คืออะไรครับ"เจมส์ถามด้วยใจจดจ่ออยากรู้ความจริง
"จิตผู้รู้ก็คือจิตที่ไม่หลงไม่เผลอไปตามอารมณ์หรือสิ่งกระทบน่ะซิ
เราจะเห็นสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นมาในจิตของเรา
พอเริ่มมีสมาธิอ่อนๆก็จะมีสติตั้งมั่นขึ้นมา
จิตที่คอยเเฝ้ารู้เฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเรียกว่าจิตผู้รู้ไงหล่ะ
เมื่อเราหายใจก็ให้รู้ว่าเราหายใจ เมื่อทำอะไรก็ให้รู้ตัวอยู่เสมอเช่น
เมื่อยืน เมื่อเดิน นั่งนอน ก็ให้รู้ว่ายืน เดิน นั่งนอน ฯลฯ
เมื่อคิดก็รู้ว่าเผลอคิดไปแล้ว แล้วก็กลับมาอยู่กับรู้สึกตัว ฝึกอย่างนี้บ่อยๆ
จนจิตของเราแยกออกจากความคิดและความยึดถือว่ามีตัวตนออกจากกัน
ตัวเราประกอบด้วยกายและจิต เมื่อมีจิตผู้รู้ก็จะเห็นว่า
ร่างกายเป็นเพียงหุ่นกระบอกไร้ความคิดมีจิตคอยบงการให้เคลื่อนไหวไปตามคำสั่ง
จิตก็คิดนึกปรุงแต่ง รับรู้ไปตามเรื่องราวที่รับ
จิตผู้รู้ที่เกิดขึ้นจะทำให้ชีวิตของเราที่เคยคิดว่ามีเราคนหนึ่งมาตลอดเวลา
กลายเป็นมีตัวเราที่เผลอไปตามอารมณ์บ้าง รู้สึกตัวบ้าง มีตัวเองบ้าง ไม่มีบ้าง
นี่คือความรู้ความจริง ที่เพียงพอให้เราคลายความยึดถือตัวตน
ทิฏฐิมานะ อัตตา ที่มีมานานค่อยๆคลายลง
จิตเราจะค่อยๆว่างจากความยึดถือตัวตน มีตัวเราที่ว่างจากความรู้สึกนี้
สงบสดใสว่างสงบเป็นสุขสันติอยู่เสมอ
เมื่อไม่มีตัวตนที่แท้จริง เราจะเห็นอนิจจังความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์
อย่างชัดเจน จนเกิดความเบื่อหน่ายและปล่อยวางสิ่งต่างๆด้วยตัวของจิตเอง
สิ่งใดที่เกิดเป็นธรรมดา สิ่งนั้นก็ดับไปเป็นธรรมดา กิเลสตัณหาเริ่มควบ
คุมเราไม่ได้ เพราะเราจะรู้ทันความคิดของเรา มีแต่ชีวิตที่ดำเนินไปในปัจจุบัน
ทุกลมหายใจอย่างเป็นสุขสงบ ด้วยปัญญาและความเมตตาต่อตนเองและผู้อื่น
แทนที่ชีวิตเดิมที่มีแต่ความอยากดิ้นรนหาความสุขที่ไม่มีอยู่จริง
กลับกลายเป็นชีวิตที่เป็นอิสระอยู่ตลอดเวลา
ฟังเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลยนะครับเจมส์กล่าวด้วยความลังเล สงสัย
ได้ซิโยม โยมฝึกสมาธิและเจริญสติแบบนี้นะ
หนทางนี้มีเป้าหมายที่การปล่อยว่าง มีแต่เส้นทางแต่ไม่มีคนเดินไป
เพราะพบด้วยเองแล้วว่าตัวเรานั้นไม่มี
ในขณะปฏิบัติธรรมเราไม่มีเจตนาในการทำอะไร วางใจให้สงบแล้วหุ่น
ยนต์ก็จะตรวจไม่พบความคิดผิดปกติในการหนีออกจากเมืองนี้ของโยม
นะ โยมจะได้อิสระทั้งในโลกนี้ และ อิสระทางจิตใจ
หลวงพ่อกล่าวพร้อมรอยยิ้มอันมีเมตตา
ขอบคุณหลวงพ่อมากๆครับ
ผมจะพยายามปฏิบัติตามที่หลวงพ่อแนะนำ
จะไม่ท้อถอยแม้แต่วันเดียวครับผม
นอกจากผมจะได้เป็นอิสระจากพวกหุ่นยนต์แล้วก็ยังเป็นอิสระจากความ
อยากต่างๆนาๆที่มาทำให้ผมทุกข์ไม่รู้จักจบสิ้นครับ
หนุ่มเจมส์กล่าวจบพร้อมก้มลงกราบหลวงพ่อด้วยความเคารพสุดหัวใจ
ในระยะเวลาเพียงเจ็ดเดือนเขาก็สามารถเดินออกไปนอกเมืองหุ่นยนต์นี้ได้
เจมส์ได้ไปรวมกับกลุ่มคนมากมายในเมืองสันตินคร เมืองที่มีแต่ความสงบ
ทุกคนล้วนได้รับคำแนะนำจากเหล่าพระสงฆ์ที่เข้าออกจากเมืองเป็นประจำ
เพื่อสอนการเจริญสติ และสอนในระดับสูงขึ้นไป
เพื่อไม่ให้ตรวจพบความผิดปกติในสมอง
จนสุดท้ายเจมส์ได้พบรักกับสาวกรองแก้ว สาวบ้านป่าอันมีจิตใจงดงาม
เขาและเธอได้แต่งงานและครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดชีวิต ^^
บทความนี้เขียนขึ้นเป็นพุทธบูชาในวาระโอกาสวันวิสาขบูชาพุทธยันตี 2600 ปี
วันศุกร์ที่ 24 พ.ค.2556 ครับผม ^^
เรื่องและภาพประกอบ วนารักษ์
ขอบคุณทุกๆท่านที่แวะเข้ามาอ่าน
ขอบคุณเพื่อนๆประจำบล็อกที่ยังไม่ลืมกัน
ขอบคุณน้องเป็ดสวรรค์สำหรับหัวข้อดีๆแบบนี้
ขอบคุณพระพุทธ พระธรรมะ พระสงฆ์
ที่เป็นที่พึ่งให้กับมนุษย์โลกได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ มานานแสนนาน
ขอบคุณความดีในใจที่ทำให้เราได้มาพบกันนะครับ ^^
Create Date : 23 พฤษภาคม 2556 |
|
81 comments |
Last Update : 29 พฤษภาคม 2556 16:11:41 น. |
Counter : 3838 Pageviews. |
|
|
|