บทที่ 2 กรรมของชาวไทยปัจจุบันและวิธีแก้ไข
หากมีคนตั้งคำถามว่า "กรรมอะไรหนอ ชาวไทยถึงได้พบกับความวุ่นวายอย่างนี้ " ตอบ กรรมเกิดจากเรื่องเงินที่ได้มาโดยมิชอบผลกรรมก็ต้องชดใช้ด้วยการอึดอัด จากการกระทำอันมิชอบที่มีที่มากับเรื่องเงิน และความเข้าใจผิดในส่วนของสภาวะโพธิสัตว์ โดยรับความโน้มเอียงจากนิกายมหายานฝังรากลงในจิตวิญญาณแทนที่เถรวาทอันมีจุดยืน คือการไม่เปลี่ยนแปลงพุทธบัญญัติ และกลายพันธุ์เป็น กายเป็นเถรวาท แต่พฤติกรรมเป็นมหายานส่งผลให้เกิดการกร่อนพุทธดำรัสซึ่งเป็นบาปกรรมไม่เล็กน้อย ปัญหาในแง่ จริยธรรมเนี่ยล่ะครับเป็นรากปัญหา มากกว่า 60 % ของชายไทยที่เคยบวช และก็ยังงงอยู่ว่าสอนให้ถือศีลแต่ทำไมยังรับเงินได้ มันได้แทรกลงไปในจิตใต้สำนึกว่ามีความชอบธรรมซ่อนอยู่ใน จริยธรรมอันบิดงอ หรือมีจริยธรรมจากปากแต่สามารถทำได้โดยสกปรกมันจึงเป็นบ่อเกิดปัญหาทั้งมวล สมัยที่ข้าพเจ้าเรียนรัฐศาสตร์ สรุปการแก้ปัญหาบ้านเมืองอยู่ที่ การศึกษา เพื่อให้ประชาชน เข้าใจระบบประชาธิปไตยเพื่อลดบทบาทและ/หรือทำความเข้าใจที่ถูกควร ของระบบอุปถัมภ์อันนำมาซึ่งการซื้อเสียง แต่ไม่ใช่เท่านั้นยังต้องปลูกจิตสำนึกให้เห็นคุณค่าจริยธรรม ซึ่งตรงนี้ชัดเจนว่าทำไม่ได้ครับ เพราะ ตราบใดที่พระไทยส่วนใหญ่ยังรับเงินและยังไม่ปฏิบัติตามศีล 150 ข้อหลัก ชาวบ้านไม่สนหรอกครับในจิตใต้สำนึกเพราะผู้นำทางจิตวิญญาณหรือพระเอง ตอบโจทย์ข้อนี้เป็นนัยๆ อยู่แล้วดังกล่าว แม้เณรน้อยพระก็ว่ากล่าวไม่ได้...จึงสรุปลงมาที่การไม่กล่าวว่าใครเป็นสิ่งดีมันจึงกลับตาลปัตรไปกันใหญ่ของสังคมไทย
อีกประเด็นของการความเบี่ยงเบน ของชนในชาติ คือ จิตบุคคลที่รับเอาสัทธรรมปฏิรูป มีอาการของการปรารถนาสภาพโพธิสัตว์ ซึ่งในสมัยที่พระพุทธองค์ ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ นั้น แม้เหล่ามดแมลงก็ ปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งต้องยอมรับในที่นี้ว่าความหลงนั้นเองที่ชักนำให้มีความคิดเช่นนั้น เพราะความหลงนั้นแหละที่ทำจิตติดสังสารวัฏ และในสมัยปัจจุบันบุคคลที่หลงดีอย่างสุดๆ ติดในดีสุด ก็อาจเกิดสภาพนี้ คือปรารถนาความเป็นโพธิสัตว์ซึ่งไม่ใช่คำสอนพุทธเจ้า เหตุเพราะธรรมเหล่านั้นเป็นใบไม้นอกกำมือที่พระองค์ทรงตรัส ฉะนั้น ยุคนี้คือยุคถิ่นกาขาว คือยุคที่ พระโพธิสัตว์มากเหลือหลาย แต่จะมีสักกี่ดวงล่ะที่เป็นปรารถนามาอย่างแน่วแน่ และพอจะมีทางออก สังคมไทยยกเอา ท่านเทวทัตต์ ออกมาเป็นสัญลักษณ์ของความหยาบช้า อย่าลืมว่า ท่านเทวทัตต์คือ ปัจเจกโพธิสัตว์พยากรณ์ หมายถึงท่านขึ้นจากอเวจีและจะตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าเมื่อใกล้สิ้นกัป ทางมีอยู่แล้วไม่เดินมัวหลงเข้าป่าเข้าพงลังแต่จะนำพาให้กร่อนพุทธดำรัสวินัยบัญญัติมากขึ้นทุกวัน...
จากเหตุดังกล่าวส่งผลให้เกิด สภาพการเบี่ยงเบนของบุคคลากรในพุทธศาสนา คือเกิดการประนอมแม้ วินัย คำสอนของพระพุทธองค์ เพื่อความสะดวกในการขนคนได้มากได้เยอะ รับเงิน รับทองโดยผิดวิธี เพื่อบำรุงพระศาสนา...!สิ่งเหล่านี้แหละที่เป็นขุยไผ่ทำลายต้นไผ่เอง หากจะกล่าวถึงความเบี่ยงเบนนี้ก็ต้องยกเอาความเบี่ยงเบนที่เห็นชัดที่สุดคือเรื่องเงิน หากมีคนตั้งคำถามว่าถวายเงินให้พระบาปไหม? ตอบว่า เป็น ส่วนผสมบุญและบาป บุญเกิดจากจิตที่ได้สละ บาปเกิดจากความปัญญาน้อยนำมาซึ่งโมหะวิบาก และวิบากในส่วนการสนับสนุนให้เกิดการกร่อนพุทธดำรัส ทางแก้ ศึกษาให้ออกว่าควรทำอย่างไร ? ให้ถูกต้อง...วิธีการที่จะถวายเงินที่ถูกต้องมีอยู่ และก็อย่าไปโฆษณาว่า "อย่าถวายเงินพระ" แต่หากต้องถวายให้ถูกต้องตามพุทธดำรัส ประโยชน์จะเกิดมหาศาลทั้งประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน,เพื่อประโยชน์ทางโลกและธรรมนี่การทำบุญของผู้มีปัญญา ข้อควรพิจารณา เงินก็เงินอย่าไปเรียกปัจจัยคนละเรื่อง ปัจจัยนั้นมีแค่ปัจจัย 4 เท่านั้น แต่ที่ใช้กันทุกวันนี้เพราะต้องการหาช่องทางถูกต้องให้กับความสบายใจโง่ๆเป็นความมักง่ายของผู้รับและผู้ให้
มีเรื่องเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง พระรูปหนึ่งบิณฑบาต โยมสตรีท่านหนึ่งก็ถวายบาตร และก็ยืนซองให้ ท่านก็ปฏิเสธการรับอันเป็นไปตามพระไตรปิฎกว่าต้องปฏิเสธการรับ แต่โยมก็ยังดึงดันที่จะถวาย พระท่านจึงกล่าวว่า ให้ตามเข้าไปในวัดแล้วจึงเดินจากมาในขณะที่พระที่มาจากวัดอื่นเกือบจะวิ่ง เข้า รับบาตร และกล่าวอีกว่าออเห็นเป็นเงิน 20/100 ละซิถึงไม่รับถ้าเป็นเงิน10,000/100,000--คงไม่ปฏิเสธ วันต่อมาพระองค์เดิมก็ ท่านบิณฑบาตตามปกติ โยมท่านนี้ก็หาทางแก้ใหม่โดยใช้ถุงสีทึบใส่อาหารและใส่เงินไว้ในถุงอาหารที่ ผนึกผูกไว้ ท่านเห็นดังนั้นจึงไม่รับบาตร และเดินเลี่ยง ถึงวัดจึงกล่าวกับลูกศิษย์ว่าอีกหน่อยคงใส่แบงก์ปั่นผสมข้าวให้พระฉันแน่แล้วยิ้มๆ บางท่านที่ชอบกล่าวว่าโลกสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้วพระต้องใช้เงิน--เดินทางจะทำอย่างไร-เจ็บป่วยจะทำอย่างไร? โปรดศึกษาใหม่อย่าเป็นพุทธแต่ในทะเบียนบ้าน เงินไม่ใช่พึ่งมี การใช่เงินไม่ใช่พึ่งมี การเดินทางโดยใช้เงินมีมานานแล้ว การใช้เงินรักษาการเจ็บป่วยมีมานานแล้วและสำคัญที่สุดพระพุทธองค์บอกไว้ชัด ในการดำรงเพศบรรพชิตว่าคืออะไร ให้ทำอะไรอย่างไร โดยชัดเจนในพระวินัยปิฎก อันเป็นพุทธกิจของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องทำคือบัญญัติพระวินัย และสามารถใช้ได้จนหมดพระศาสนา อนึ่งคำเขียนเรื่องกรรมของบ้านเมือง นี้ข้าพเจ้าไม่ได้ หมายเอาเฉพาะว่า เป็นความผิดของใครฝ่ายเดียวฝ่ายหนึ่ง แต่หากกรรมมันเกิดเป็นวงจรที่ไม่สามารถบอกเบื้องต้นเบื้องปลายที่แน่นอน อีกทั้งเพราะมันมีอนุวงจรซ้อนกันอยู่อีก อันนี้เป็นไปตามหลักพิจารณาปัญหาที่ซับซ้อนมากๆเพื่อที่จะหาแนวทางแก้ไข สมดังที่พระพุทธองค์แสดงเป็นตัวอย่างไว้แล้วในปฏิจจมุปบาท จึงสรุปลงถ้าจะแก้ต้องแก้ที่สาเหตุอันจะกล่าวในเบื้องหน้าตามแผนภูมิต่อไปนี้
อ่านต่อ -หลักธรรมที่ใช้ในการพิจารณาแนวทางแก้ไข คลิ๊ก...
Create Date : 13 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2554 11:00:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2096 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
การศึกษาทางโลก รบ. ธรรมศาสตร์ 2536(นักศึกษาทุนภูมิพล)
การศึกษาทางธรรม -สัทธิวิหาริก สมเด็จญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 พศ 2535 -พระเจ้าหน้าที่เวรดูแลพระอาการ สมเด็จญาณสังวร -อดีตพระป่า(หนองป่าพง) -ประธานรุ่นนักศึกษาภาคมหาบัณฑิตมหามกุฏราชวิทยาลัย 2546
|
|
|
|
|