มีนาคม 2553

 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
KTC Travel Master (7) : รีวิวเขาดินวนา


หลังจากประกาศผลกันไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่แน่ใจว่า เขาจะเก็บกระทู้ไว้ให้นานขนาดไหน

เลยถือโอกาสนำ ”ผลงานรอบตัดสิน” ที่เคยเขียนไว้
มาเก็บบันทึกไว้ที่นี่ด้วยละกัน
^^
.
.
.

~* เขาดินวนา – ในสองมุมมองที่แตกต่าง *~

ซองจดหมายสีขาว ที่ได้รับมาจากเจ้าหน้าที่ของ KTC
พร้อมกับโจทย์ในการทำรีวิว สำหรับผู้เข้ารอบสุดท้ายในโครงการ KTC Travel Master

หมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่ได้รับมา – KTC2
กับโจทย์ “เอกลักษณ์ของสวนสัตว์ดุสิต ในมุมมองของฉัน”




ฉันถือกระดาษจดหมายแผ่นสีขาวไว้ในมือ กับคำถามที่เกิดขึ้นในใจ
ว่า “ครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวเขาดิน คือ เมื่อไหร่กันนะ
??”

มันเป็นความทรงจำเลื่อนลางในวัยเยาว์ ที่ยาวไกล
ไกล ... ซะจนจำไม่ได้

แต่กลับจำได้ดีว่า “สวนสัตว์ดุสิต-หรือ-เขาดิน” คือ สวนสัตว์แรกในชีวิตนี้
ที่ฉันได้รู้จักและสัมผัส

++ Khao Din ... in my Memoery ++



ฉันเป็นชาวกรุง โดยแต่กำเนิด ... เกิดและโตที่บ้านใน”เขตดุสิต”นี่แหละ
พิกัดบ้านพัก อยู่ห่างจากเขาดินเพียงแค่ 2 กิโลเมตร
ใช้เวลาเดินทางจากบ้านไม่ถึง 10 นาที

ในอดีต ...
เขาดิน เคยเป็นเส้นทางที่ฉันต้องขับรถผ่านไปทำงานทุกวัน

ด้วยเพราะความที่ใกล้ หรือเคยชินมากเกินไปหรือเปล่านะ
??
เลยทำให้ฉันมองข้าม “ความทรงจำดีๆ ในวัยเยาว์” ไปโดยไม่ทันยั้งคิด

ฉันอาจจะจำไม่ได้ว่า
ได้มาเที่ยวเขาดินครั้งแรกในชีวิต เมื่อไหร่
แต่รู้ไหม ... ฉันกลับจำได้ดีว่า ฉันมาเขาดินครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
:)



- 4 กรกฏาคม 2541 -
นั่นคือครั้งสุดท้าย ที่ฉันมีโอกาสได้มาเยือน”เขาดิน”

ที่จำได้ดี ก็เพราะวันนั้น เป็นวันพระราชทานปริญญาบัตรที่สวนอัมพร
เลยทำให้มีโอกาสให้มาเดินเที่ยวเล่นถ่ายรูปในเขาดิน พร้อมกับชุดครุยที่ภาคภูมิใจ

จากการมาเยือนครั้งสุดท้าย
ยกนิ้วขึ้นนับดูแล้ว ก็ผ่านมาเกือบ 12 ปี
!!!!!

ให้ตายสิ
!!!! เผลออุทานกับตัวเองเบาๆ ว่า
‘ฉันเริ่มแก่ขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย’
><

อุ๊บบบ
~
กรุณาอย่าคาดเดาหรือคำนวณตาม ... ว่าฉันน่าจะอายุเท่าไหร่แล้ว
เพราะวันนี้ ฉันตัดสินใจแล้ว ว่าจะขอย้อนเวลาทำตัวกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง
โดยการกลับไปเยือน “เขาดิน – สวนสัตว์แรกในชีวิต ที่ฉันได้รู้จัก”

++ ลิงกัง ++


ในเมื่อยังหาคำตอบ ของคำถามแรกในใจ ให้กับตัวเองไม่ได้
ฉันเลยตัดสินใจยกหูโทรศัพท์ โทรหาแม่
เผื่อว่าท่านจะช่วยหาคำตอบให้ฉันได้

“แม่คะ ... แม่จำได้มั๊ย ว่าแม่เคยพาเอ๋ไปเที่ยวเขาดินครั้งแรก ตั้งแต่เมื่อไหร่??”

“แม่ก็จำไม่ได้เหมือนกัน ....”
.
.

“... ถ้างั้น เราไปเที่ยวเขาดินด้วยกันมั๊ยคะ
??”
ฉันเอ่ยปากชวนท่านอย่างไม่รีรอ

แม่หัวเราะ ... แล้วบอกกับฉันว่า
“แม่จำไม่ได้หรอกนะ ว่าแม่พาเอ๋ไปเที่ยวเขาดินครั้งแรก ตั้งแต่เมื่อไหร่ ...
แต่แม่จำได้ว่า ตอนนั้นพอบอกว่าจะพาไปเที่ยวสวนสัตว์
เอ๋ก็พูดซ้ำๆแต่ว่า ไปเขาดิน ไปดูลิง ไปเขาดิน ไปดูลิง”

แม่ขำ ...
ที่ฉันกลับไปเป็นลูกสาวตัวน้อยๆของแม่คนนั้น
ที่เอาแต่ส่งเสียงร้องอย่างดีใจ เมื่อรู้ว่าจะได้ไปเที่ยวเขาดิน

:)

++ อุรังอุตัง ++



- วันอังคารที่ 19 มกราคม 2553 -
ตามวันเวลานัดหมาย ... ฉันขับรถ แวะไปรับพ่อกับแม่ที่บ้าน

ระหว่างการเดินทาง
พ่อเอ่ยปากบอกว่า “ได้ไปก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้ไปเขาดินเป็นสิบปีแล้ว”

ส่วนแม่ ... ดูท่าทางจะดีใจไม่ใช่น้อย
พูดอยู่หลายครั้งว่า “ดีใจจัง วันนี้ลูกชวนไปเที่ยวเขาดิน”


เราเลือกใช้เส้นทาง ”ถนนอู่ทองใน” ผ่านที่ทำการรัฐสภา
เดิมที ประตูที่เราเคยใช้ประจำ จะอยู่ตรงข้ามพระที่นั่งอนันตสมาคม

จนเพิ่งมารู้เอาวันนี้ ...
ว่าเขาปิดประตูนั้นไปแล้ว และให้ใช้ประตูใหม่ตรงข้ามที่ทำการรัฐสภาแทน

เลี้ยวรถเข้าไป ... ทุกคนอุทานเป็นเสียงเดียวกัน
ว่าเดี๋ยวนี้ เขามีอาคารจอดรถแล้วหรือ
??

สามีลดกระจกรถลง ...
แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ ถึงจำนวนสมาชิกในรถ เพื่อทำการซื้อตั๋วเข้าสวนสัตว์
เลยเพิ่งจะรู้ว่า
“ผู้สูงอายุเข้าชมฟรี
!!!”

:+: ข้อมูลเพิ่มเติม :+:
ค่าบำรุงอาหารสัตว์ (ค่าผ่านประตู)
ผู้ใหญ่ 50 บาท 
เด็ก-นักเรียนประถม-มัธยม 10 บาท
ปวส. - มหาวิทยาลัย - ทหาร - ตำรวจ (ในเครื่องแบบ) 30 บาท
ผู้สูงอายุ - คนพิการ - พระภิกษุ เข้าชมฟรี !!

++ การแสดงมหัศจรรย์สัตว์ป่า : 2 พิธีกร กับเจ้าหมีขอ "ออมสิน" ++


ยามบ่าย ของวันที่อากาศกำลังเย็นสบาย
ย่างก้าวแรกที่ได้มาสัมผัส “เขาดิน” อีกครั้ง หลังจากห่างเหินไปนานมากกว่า 10 ปี

ภาพเก่าๆที่เลือนลางอยู่ในความทรงจำของเขาดิน ที่ฉันเคยรู้จัก
... ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ...

ทุกอย่างถูกปรับปรุง เปลี่ยนแปลงใหม่
ดูดีขึ้นกว่าเดิม และเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย

++ พนักงานทำความสะอาด เก็บขยะในสวนสัตว์++
^^"


แต่สิ่งหนึ่ง ... ที่ยังคงเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
นั่นคือ ที่นี่เป็น
”สถานที่สานความสัมพันธ์ของครอบครัว”
ที่สมาชิกจะได้มีช่วงเวลาดีๆร่วมกัน
เพื่อสร้างความผูกพัน ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ภาพของพ่อ-แม่ จูงลูกตัวน้อยๆ มาเดินเล่น ... บ้างก็ขี่คอ
คือ สิ่งที่พบเห็นได้ชินตา สำหรับสถานที่แห่งนี้

ทำเอารู้สึกดีทุกๆครั้ง ที่ได้เห็นภาพเหล่านี้
ถึงแม้จะเป็นวันธรรมดา เลยทำให้ผู้คนดูบางตาไปบ้าง

และฉันก็ดีใจมาก
ที่มีโอกาสได้จูงมือแม่ มาเดินเล่นที่เขาดินด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง

:)



เนื่องจากเกรงว่าพ่อกับแม่ อาจจะเหนื่อยมากเกินไป
เลยอำนวยความสะดวกให้ท่าน ด้วยการซื้อตั๋ว
“รถพ่วงหรรษา” ให้ท่านนั่งชมรอบๆ
ในราคาคนละ 25 บาท ... โดยสามารถนั่งได้ 1 รอบ

รถจะแวะจอดทั้งหมด 5 จุดด้วยกัน
อยากจะแวะลงตรงจุดไหน ก็แล้วแต่ตามอัธยาศัย



กลิ่นต้นไม้ ใบหญ้า ... เสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว ... บรรยากาศร่มรื่นย์ภายในสวนสัตว์
ทำให้ลืมตัวไปชั่วขณะ ว่าเรากำลังอยู่ใจกลางเมืองกรุง ที่แสนวุ่นวาย

++ มุมหนึ่งของเกาะนก (Bird Island) ++


- โลกของการเรียนรู้ ที่ไม่จำกัดวัย และชนชาติ -
ถึงแม้จะต่างวัยกัน หรือแม้แต่จะต่างชาติ ต่างภาษา
ทุกๆคน ก็สามารถสื่อสารถึงธรรมชาติได้



ฉันถือโอกาสทักทาย กับเพื่อนเก่าที่ฉันเคยรู้จัก
ไม่ว่าจะเป็นฮิปโป / งู / ช้าง / เสือ / กวาง
ฯลฯ

++ แม่มะลิ : ดาราดังของสวนสัตว์ดุสิต ++


++ เสือขาว : สัตว์ตัวโปรดในดวงใจ ++


รวมถึงไม่ยอมเสียโอกาส
ที่จะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่อีกหลายๆตัว เช่นกัน

++ มุมสัตว์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก : เต่าซูคาต้า ++


นอกเหนือ จากการพักผ่อนหย่อนใจ และเรียนรู้ธรรมชาติ

ฉันยังมีโอกาสได้พูดคุยกับใครบางคน
ที่เลือกสถานที่แห่งนี้ เป็นแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ
เพื่อสร้างสรรค์ "ผลงานทางศิลปะ" ที่แสนงดงาม จากปลายดินสอ
ด้วยท่วงท่าอันเป็นเอกลักษณ์ของสัตว์บางตัว



ท่วงท่า ... ที่บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของสัตว์แต่ละชนิด

แต่ภาพนี้ ได้มาจากการมองผ่านเลนส์
ดูออกกันไหมเอ่ย?? ... ว่าเป็นภาพของสัตว์อะไร





ฉันขอชื่นชม ที่ทางสวนสัตว์ดุสิตแบ่งสรรปันส่วน จัดการดูแลส่วนต่างๆได้ดี
ทำให้เดินเล่นชมสัตว์ได้อย่างเพลิดเพลิน

แถมยังเผื่อแผ่พื้นที่ "บ้าน" ให้กับสัตว์อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในความดูแล
คืนธรรมชาติให้กับชีวิตน้อยๆ อีกหลายร้อยตัว
ที่ต้องการหาที่พักพิง ในเมืองกรุง



 ถึงริมบึงน้ำขนาดใหญ่ ภายในสวนสัตว์
ฉันจัดแจงหยิบขนมทานเล่นที่เตรียมใส่กระเป๋ามาด้วย
พร้อมกับ”แซนด์วิช” ที่เตรียมมาจากบ้าน เพื่อพักผ่อน-นั่งเล่นให้เต็มอิ่ม
ใต้ร่มเงาไม้ กับบรรยากาศที่แสนร่มรื่นย์

คุ้นเคย แต่กับชีวิตประจำวัน
ที่ได้แต่เดินเข้าร้านอาหารร้านโน้นที ร้านนี้ที หรือไม่ก็ทำอาหารทานกันเองในบ้าน

นานแค่ไหนแล้วล่ะ ที่ไม่ได้ลงมือทำอาหารใส่กล่อง
แล้วออกมาเปลี่ยนบรรยากาศ โดยการมา”ปิคนิค”นอกบ้าน แบบนี้



ระหว่าง การนั่งพักผ่อน
เราต่างพูดคุย รำลึกถึงเรื่องราวเก่าๆในอดีต

แม่เล่าให้ฉันฟังว่า
สวนสัตว์แรกในชีวิตที่แม่ได้ไปเที่ยว ก็คือ “เขาดิน” แห่งนี้นี่แหละ

ส่วนพ่อแซวฉันว่า ...
คราวนี้ ไม่ร้องจะเล่นเรือถีบแล้วหรือ
??
เมื่อก่อนนี้ ถ้ามาเขาดินทีไร ฉันจะต้องร้องขอเล่นเรือถีบทุกครั้งไป



“พ่อจำได้ ว่าครั้งนั้น เรามาด้วยกันกับคุณทวดอีกคน”

“จริงหรือคะ พ่อ .... !?!?”
ฉันเผลออุทานออกมาเบาๆ ... เพราะฉันจำคุณทวด(คุณยายของแม่)ได้ดี
ท่านช่วยเลี้ยงดูฉันมาตั้งแต่เล็ก และจากไปตอนที่ฉันเรียนอยู่ชั้น ม. 3

“ถ้างั้น ... แสดงว่าผ่านมาถึง 5 รุ่นแล้วสิเนี่ย
!! ”

ใช่ ... นับแล้ว ตอนนี้ก็ 5 รุ่นพอดี  
เพราะตอนนี้ ฉันมีหลานชายตัวน้อยๆอีกคน ที่รอคอยจะมาเที่ยวเขาดินในเร็ววันนี้

แม่บอกว่า
“รอให้สาธุ(หลานชายของฉัน)เดินได้ก่อนนะ ... แม่จะพาเขามาบ้าง”

“เอาสิคะแม่ ... เดี๋ยวเอ๋มาด้วย จะถ่ายรูปให้ทุกคนเลย”


ถึงแม้ภาพที่ฉันตั้งใจจะถ่าย(ในอนาคต) จะรวบรวมได้เพียงแค่ 3 รุ่น
แต่ฉันเชื่อมั่นว่า ภาพๆนี้ จะแสดงถึงความรัก-ความผูกพันที่เรามีให้กันและกัน
และความผูกพันที่ครอบครัวของเรา มีต่อ”เขาดินวนา”

.

.
.

เขาดินแห่งนี้ อาจจะมีตำนานและประวัติยาวนาน มากกว่าที่ฉันได้รับรู้
และฉัน ... คงไม่สามารถถ่ายทอดแง่มุมต่างๆที่ฉันสัมผัส ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

แต่สิ่งที่ฉันรู้ ... และอยากจะบอกต่อ ...
ที่นี่ – สวนสัตว์ดุสิต คือ มรดกตกทอดของชาวกรุง จากรุ่นสู่รุ่น

ฉะนั้นแล้ว “เอกลักษณ์ของเขาดิน ในมุมมองของฉัน”
คือ **ความผูกพัน ที่ไม่มีวันสิ้นสุด**



พื้นที่สีเขียว ธรรมชาติกลางเมืองกรุง
ที่อยู่เคียงคู่พระที่นั่งอนันตสมาคม ... เนิ่นนาน ผ่านมาหลายชั่วอายุคน

ความผูกพัน ที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
และไม่เคยเสื่อมคลาย ... หายไปตามกาลเวลา
.
.

ฉันให้พ่อกับแม่นั่งพัก
ผ่อนคลายความเมื่อยล้า จากการเดิน ด้วยการทำ”สปาปลา”
(คนละ 30 บาท ต่อ 15 นาที)

ไม่ค่อยจะแน่ใจนัก ... ว่าฉันกำลังมาทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
หรือมาพักผ่อนสบายๆกับครอบครัว ในสวนใกล้บ้านกันแน่
^^"



ฉันขับรถพาพ่อกับแม่ ไปส่งที่บ้าน
แม่กอดฉัน แล้วบอกขอบคุณที่แวะมาหา และพาแม่ไปเที่ยวด้วยกันในวันนี้

ฉันจับมือแม่ไว้แน่น แทนคำสัญญา
แล้วบอกกับแม่ว่า ถ้าหลานสาธุเดินได้เมื่อไหร่
ฉันจะมารับพ่อ-แม่ และน้องๆ รวมถึงหลานตัวน้อย ไปเที่ยวเขาดินด้วยกันอีกครั้ง

แล้วเราจะไปรำลึกความหลังวันเก่าๆ
รวมถึงสร้างความทรงจำใหม่ของครอบครัว ... ร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง

++ อีกวันหนึ่งในความทรงจำ ของครอบครัว ++


.
.
.

~* มุมมอง ... ของความรู้สึกที่แตกต่าง *~

- วันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2553 -
ฉันตัดสินใจ กลับไปยัง”สวนสัตว์ดุสิต” อีกครั้ง
เพื่อเก็บภาพเพิ่มเติม ... ในมุมที่ฉันยังไม่มีโอกาสได้ไป

เนื่องจากวันก่อน ยังเดินได้ไม่ทั่ว
สงสารพ่อกับแม่ หากจะต้องมาตรากตรำ เดินมาราธอนร่วมกับฉัน
ไหนจะกล้องคู่ใจที่ออกอาการงอแง ... เกิด
low battery ขึ้นมาซะดื้อๆ
T.T

และเป้าหมายสำคัญ ... ของ ยามเย็นวันศุกร์แบบนี้
ฉันตั้งใจมาเติมประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
โดยการเยี่ยมชม
“
Dusit Evening Zoo” หรือ “ยามเย็น เดินเล่นเขาดิน”

ซึ่งเปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์
ตั้งแต่เวลา 1800 – 2100 น.

++ ฤดูฟักไข่ ของนกฟลามิงโก้ ++


ฉันมาถึงเขาดิน เวลาประมาณ 1600 น.
แต่ลานจอดรถโล่ง ... รถพ่วงที่จอดนิ่ง ... บ้างก็วิ่งไป-มา แต่ไร้ผู้โดยสาร
บรรยากาศช่างผิดกับวันก่อน ที่ฉันได้มาเยือนตอนช่วงบ่าย



ทั้งๆที่สวนสัตว์แห่งนี้ ... จะเปิดให้บริการถึง 1800 น. ตามปกติ
และวันนี้ (
evening zoo) จะเปิดให้บริการถึง 2100 น.

ฉันเดินเล่น ไปเรื่อยๆ ตามที่ใจจะพาไป
เก็บภาพสัตว์น้อยใหญ่ ตามกรงต่างๆ ด้วยบรรยากาศเงียบเหงา





บึงน้ำ ... ที่ไร้เรือแล่นไป-มา
เครื่องเล่น ... ที่ไร้เสียงหัวเราะของเด็กน้อย



ฉันถือกล้องถ่ายรูปคู่ใจ กระชับมั่นอยู่ในมือ
เพื่อเก็บภาพทิวทัศน์รอบๆ

ขณะที่นิ้วมือ กำลังเตรียมจะกดชัตเตอร์
สายลมพัดวูบ ... พัดพาเอาใบไม้ร่วงหล่นโปรยปรายลงมาตรงหน้า

วินาทีนั้น ... ฉันแหงนหน้ามองใบไม้ที่พลิ้วไหว ร่วงลงมา
ชะงักงัน ด้วยความรู้สึกบางอย่าง ... สะท้อนใจ จนต้องหยุดนิ่งด้วยครุ่นคิดอะไรบางอย่าง



พลานนึกถึงป้ายสีเขียว ที่เพิ่งเห็นผ่านตา
ครบรอบ 70 ปี เขาดิน : พ.ศ. 2481 – พ.ศ. 2551

ถ้าหากจะเปรียบ ”สวนสัตว์ดุสิต” เป็นมนุษย์คนหนึ่ง
- เขาก็ถือเป็นคนชรา ที่มีอายุเกิน 70 ปี -

คนชรา ... ที่อยากได้พบเห็นลูกหลาน กลับมาเยี่ยมเยียนเขาบ้าง
ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ





ต้องการจะบอกกับฉันว่า
“กำลังเหงาอยู่ ... อย่างนั้นหรือเปล่าคะ??”

ฉันรำพึงกับสายลม ที่พัดผ่านมา ... เสียงยอดไม้ ที่พลิ้วไหวอยู่ตรงนั้น
เหมือนมีใครสักคนกำลังอยากพูดคุยกับฉัน

* โลกใบนี้ ... มีมุมมอง 2 ด้านเสมอ *

ทั้งวันที่แสนสุข เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ
และวันที่เงียบเหงา ซึมเศร้า เคล้าน้ำตา
.
.
.

ฉันมองเห็น ...

ภาพสะท้อนของคนชราคนหนึ่ง
ที่นั่งนิ่งๆ และกำลังเฝ้ารอคอยใครสักคน ด้วยความคิดถึง
. . . . . . .

ภาพสะท้อนของคนชราคนหนึ่ง
ที่กำลังเฝ้ารอคอย ให้ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์
เผื่อลูกหลานที่จากบ้านนี้ไป จะพาสมาชิกใหม่กลับมาเยี่ยมเยียนเขาอีกสักครั้งหนึ่ง



น้ำตาฉันเอ่อล้น คลอเบ้าตา  ... ด้วยความรู้สึกเวทนาตัวเอง
พลางนึกถึงพ่อกับแม่ ที่มีอายุพอๆกับสวนสัตว์ดุสิตแห่งนี้

ฉันเคยคิด ...
อยากจะพาท่านไปที่โน่น-ที่นี่ ให้ท่านได้พบเห็นสถานที่ใหม่ๆ ที่ท่านไม่เคยไป
โดยเผลอมองข้าม
”สิ่งใกล้ตัว”
ณ สถานที่ ที่เราเคยมีความทรงจำดีๆร่วมกัน

ถ้าฉันไม่ได้รับมอบหมายภารกิจ ต้องมาเขาดิน
ฉันจะมีโอกาสได้พาท่านมาเที่ยวเขาดินอีกเมื่อไหร่ ... ก็ยังไม่อาจรู้ได้

ใช่ ... ฉันยอมรับ ...
ว่าที่ผ่านมา ฉันได้มองข้าม และละเลยความรู้สึกดีๆ ที่มีอยู่ใกล้ตัว



เวลา 1800 น.
บรรยากาศยามเย็น ... ที่ไร้ผู้คน

ถึงแม้จะมีเสียงประกาศ ลอยมาตามสายลม
ว่าวันนี้ สวนสัตว์แห่งนี้ จะเปิดให้บริการถึงเวลา 2100 น.

ยังคงมีฉันเพียงคนเดียว ที่นั่งอยู่ริมบึง
ให้เวลากับตัวเอง ได้สัมผัสกับธรรมชาติ ... และค่อยๆเรียนรู้อะไรบางอย่าง
ที่ไม่ใช่ประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก
แต่กลับกลายเป็น “แง่คิดดีๆ” ให้กับชีวิต

สำหรับตัวฉัน ... ที่แต่งงาน และแยกเรือนออกมานานหลายปีแล้ว
ฉันพอจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมแม่ถึงเฝ้าแต่พร่ำถามว่า
“จะกลับมานอนค้างที่บ้านนี้ กับแม่เมื่อไหร่
??”

คนชราคนนี้ ...
กำลังบอกให้ฉันเอาใจใส่ ดูแลคนสำคัญของตัวเอง ให้มากกว่าเดิม

สุดท้ายนี้ ...
ฉันอยากขอบคุณ
KTC จากใจ สำหรับโจทย์ดีๆ และมีความหมาย
กับ ”ภารกิจนำเที่ยวเขาดิน”

ที่ทำให้ฉันมีโอกาสได้ย้อนเวลากลับไป รำลึกถึงช่วงเวลาในวัยเยาว์
และมีช่วงเวลาดีๆร่วมกับครอบครัวที่ฉันรัก อีกครั้ง

รีวิวนี้ คงไม่มีเนื้อหา หรือความรู้เกี่ยวกับเขาดินหรือสัตว์ต่างๆมานำเสนอ
เพราะข้อมูลเหล่านี้ สามารถหาได้จากเว๊บไซต์ของทางสวนสัตว์
//www.dusitzoo.org

หรือจะให้ฉันบอกเป็นนัย แบบอ้อมๆดีล่ะ
ที่ฉันไม่เล่า เพราะอยากให้คุณหาโอกาสไปเรียนรู้ และสัมผัสด้วยตัวเองยังไงล่ะ



หากแต่สิ่งที่ฉันต้องการถ่ายทอดผ่านรีวิวนี้ คือ “ความรู้สึกที่ฉันได้รับรู้ และสัมผัส”
ไม่ว่าจะสุข หรือเศร้า
... จากการได้กลับไปเยือนเขาดินอีกครั้ง ในชีวิตนี้

ฉันได้อะไรกลับมามากมาย
นอกเหนือจากภาพถ่าย - เรื่องเล่า - ความทรงจำ
และ “มุมมองใหม่ๆของชีวิต” ... ที่ได้เปิดกว้างขึ้นอีกครั้ง



.
.
.

พลานนึกถึงป้ายสีเขียว ที่เพิ่งเห็นผ่านตา
ครบรอบ 70 ปี เขาดิน
: พ.ศ. 2481 – พ.ศ. 2551

ถ้าหากจะเปรียบ ”สวนสัตว์ดุสิต” เป็นมนุษย์คนหนึ่ง
เขาก็ถือเป็นคนชรา ที่มีอายุเกิน 70 ปี
.
.
.

ฉัน ... อยากเห็นคนชราคนนี้ มีชีวิตที่ร่าเริงสดใส และมีความสุข
ที่ได้พบกับลูก-หลาน-เหลนที่เขารัก แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนทักทายเขาอยู่เสมอๆ
ด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ

และหวังให้คนชรา คนนี้ ... มีอายุมั่นขวัญยืน แข็งแรงสมบูรณ์
อยู่คู่ชาวกรุง เป็นตำนานและความทรงจำดีๆเช่นนี้
ของทุกครอบครัว ... ตลอดไป

Heart Heart

ปล. หากชีวิตวัยเด็กครั้งหนึ่งของคุณ เคยรู้จักคนชราที่ชื่อ"เขาดิน"คนนี้
ลองหาโอกาสแวะกลับไปเยี่ยมเขาดูสักครั้ง ... นะคะ
:)




Brochure Design - Small Business Bible 
- Since August 12, 2005 -




Create Date : 03 มีนาคม 2553
Last Update : 3 มีนาคม 2553 10:43:23 น.
Counter : 2370 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I-am-Nina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เรื่องราวของคนเดินทาง ที่ชอบสะพายกล้อง ท่องเที่ยว ไปทั่ว ... กับคนรู้ใจ

** สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของภาพและ/หรือข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด **