โอวาทธรรมของพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีร์เมธาจารย์ (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สติ เป็นชีวิตของใจ ลม เป็นชีวิตของร่างกายการเจ็บป่วยไม่ได้หมายความเพียงเท่าที่เราเจ็บ ปวด เมื่อย มึน
ถ้าลมหายใจของเรานี้อ่อนลง สติก็จะอ่อนตามด้วย
นี่ก็เท่ากับเรากำลังเจ็บป่วยอยู่แล้ว ถ้าเราเผลอทั้งสติด้วยเมื่อไร
ก็เท่ากับสลบหรือตายทีเดียว
คนที่สลบไปครั้งหนึ่ง ประสาทก็ย่อมเสียไปครั้งหนึ่ง
สลบหลายครั้งก็ยิ่งเสียมากเข้า
ฉะนั้นเราต้องคอยตั้งสติรักษาลมไว้ให้ดี
อย่าปล่อยให้มันเจ็บป่วย หรือสลบไปบ่อยๆ
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า คนไม่มีสติ ก็คือ คนที่ตายแล้วรู้กายในกายนี้เป็น กายคตาสติคือ รู้ลมในร่างกายของเรา ตั้งแต่เบื้องสูงจดเบื้องต่ำ
เบื้องต่ำขึ้นไปหาเบื้องสูง กระจายลมให้เต็มทั่วร่างกาย
เหมือนกับน้ำที่เต็มอ่าง ก็จะได้รับความเย็นตลอดทั่วร่างกาย
ความชำนาญ คือ การทำบ่อยๆผู้มีความชำนาญจะทำอะไรก็ได้สำเร็จกว่าผู้ไม่มีควมชำนาญ
เหมือนคนที่ชำนาณทางในกรุงเทพฯ เขาก็สามารถจะเดินลัดตัดทาง
ไปตามถนนสายต่างๆ ถึงที่หมายได้เร็วกว่าผู้ที่ไม่รู้จักทาง
ซึ่งเดินอยู่ ๓ เดือนก็ยังไปไหนไม่รอด วนเวียนอยู่ที่เดิมนั่นเอง
การเชื่อม ประสานลม ขยายลมไปตามธาตุต่างๆ
ตลอดทั้งอวัยวะเส้นเอ็นทุกส่วนในร่างกาย
ก็เหมือนกับเราทำการตัดถนนสายต่างๆให้ติดต่อถึงกัน
ประเทศใด เมืองใดที่มีถนนหนทางมากก็ย่อมมีตึกร้านบ้านเรือนแน่นหนาขึ้น
เพราะมีการคมนาคมสะดวก
บ้านนั้นเมืองนั้นก็ย่อมจะมีความเจริญมากขึ้นฉันใด
ร่างกายของเราก็เช่นเดียวกัน
ถ้าเรามีการปรับปรุงแก้ไขลมในส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ดีอยู่เสมอแล้ว
ก็เปรียบเหมือนกับเราตัดตอนต้นไม้ส่วนที่เสียให้กลับงอกงามเจริญขึ้นฉันนั้น