|
|
Mahasaraklam Province..เมืองตักศิลาอีสาน
รีบๆเขียนblog เพราะกลัวลืมคะ
ต่อจากกาฬสินธิ์กันเลย....ช่วงที่มาอบรมที่นี่ ทำงานหัวฟูกันเลยคะ
แต่ก็ไม่ลืมให้bonusกับชีวิตบ้าง...ยุ่งแค่ไหนก็ต้องไปเที่ยวให้ได้
คราวนี้เราไปแถวๆมหาสารคามกันนะคะ เมืองตักศิลาอีสานเพราะมีสถาบันการศึกษาอยู่มากมาย เป็นเมืองเล็กๆเงียบๆ และฤคูกาลที่ไม่แน่นอน ช่วงที่เราไปอยู่เป็นหน้าร้อนแต่มีฝนตกบ่อยมาก วันเดียวกัน มีฝน ร้อน และหนาว
..............................................................................................
วันนี้ปวดหัวมาก กินพาราก็ไม่หาย นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนชาวซูดานเคยบอกเราว่า
เวลายูปวดศีรษะให้ดื่มน้ำมากๆ น้ำเปล่านี่แหละยาดีที่สุด
เราลองทำตามบ้าง...ดื่มน้ำมากกว่าที่เป็นอยู่ทำให้ปวดปัสสาวะทั้งวัน ฮา!
แต่ได้ผลนะคะ...อาการปวดศีรษะดีขึ้นมาก แถมยังสดชื่นอีกด้วย...ต้องขอขอบคุณ Rachida เพื่อนชาวซูดานจริงๆ
................................
ไปเที่ยวต่อกันดีกว่าค้า
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าแอบดีใจมากมาย ยังมีคนแอบมาชมblog
เราด้วย...ดีใจจังThanks for silent visited na ka 
Phra That Na Dun&Buddhist Park of Isan .located in Na Dun district of Maha Sarakham Province.This area is home to the ancient city is "Champa Si City".It is believed that these artifacts dated back to the 13th-15 th century, during the Dvaravati period.
เริ่มจากพุทธมลฑลอีสานกันก่อนค้า อยู่ที่อำเภอนาดูนที่นี่เป็นแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพราะบริเวณนี้ได้เคยเป็นที่ตั้งของ นครจำปาศรีมาก่อน สันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่13-15 สมัยทวาราวดี น่าสนใจเชียวแหละ
entrance Phra That Na Dun..ถ่ายรูปไว้ก่อน ยืนยันว่ามาจริง
มองเห็นพระธาตุนาดูน ใกลๆ
สวยจริงๆคะ เรายืนมองอยู่มุมนี้อยู่นานมาก...
บริเวณรอบๆพระธาตุคะ
แหล่งช้อปก็มี
ชอบกระติ๊บเค้าคะ ลายสวยดี เราซื้ออันเล็กๆไปใส่เครื่องประดับด้วย
The Isaan Villeage Museam ,This is an open air museum near Phra That Na Dun. ข้างในรวบรวมบ้านเก่าๆของอีสานคะ
เหมือนบ้านคุณยายเราเลย ใต้ถุนสูงกว่านี้ มีแคร่ใต้ถุนบ้าน นอนสบาย
เรือนภูไท
บรรยากาศเหมือนย้อนอดีตจริงๆคะ...
เป็นสถานที่ๆชอบมากคะ เข้าไปแล้ว ร่มรื่น แคร่ๆใหญ่ๆใต้ต้นไม้ใหญ่น่านอนมาก ดูซิคะ ไม่อยากไปไหนต่อเลย...ขอบคุณพี่ที่ให้หนุนตักนะคะ..อิอิ
ไปอย่างรวดเร็ว ไหว้พระกันต่อคะ พระยืนมงคลและพระมิ่งเมือง
people of Kanthaarawichai built Buddha images to ask for rain after a period of drought.The men built an image known as Mueang Buddha while the women built the Phra Yuen Mongkhon Buddha. Once both the image were completed, the people held a big celebration to mark the occasion. Thereafter, the area has been getting regular rainfall
..สร้างขึ้นด้วยหินทรายแดง สร้างคู่กับพระมิ่งเมือง สร้างเสร็จพร้อมกัน สร้างเสร็จแล้วฝนตกตามฤดูกาล
see the link...//www.mahasarakham.go.th/masterset/index.php?option=com_content&task=view&id=76&Itemid=94
Phra Yuen Mongkhon Buddha.วัดพระยืนมงคลค้า
phra ming muang นี่พระมิ่งเมืองคะ เราได้ไปไหว้พระทั้ง2วัดเลยคะ
แถมอีกนิด หลังเลิกงานช่วงเย็นไปให้อาหารปลาที่วังมัจฉาด้วยคะ ไอ้เจ้าตัวนี้มันเจ้าถิ่น แต่เชื่อง...
ที่นี่สงบ เงียบ และดูเหงาๆจัง....
ลมเย็น ฝนกำลังมาเลย
ลืมจริงๆคะสถานที่นี้คือที่ไหน...จำได้ว่าด้านหลังเป็นสนามกีฬา
ขอโทษจริงๆคะ
ยังมีหลายที่ๆเราไม่มีโอกาสได้ไปชมแถวๆนี้ เพราะมีเวลาจำกัด และงานเยอะมากกกกกก .....ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยือนที่นี่กันอีกเมื่อไหร่
แต่ประทับใจผู้คนที่นี่คะ....ส้มตำและอาหารอิสานอร่อยมาก (แต่ทำไมถึงไม่ได้ลองชิม..หม่ำก็ไม่รู้ พลาดได้ไง..งง)
ไปแล้วจ้า ดู AF ก่อน...
Hug na Saraklam....
| Create Date : 13 สิงหาคม 2554 |
| Last Update : 26 ตุลาคม 2554 10:05:01 น. |
|
7 comments
|
| Counter : 2237 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: มิลเม  วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:19:05:12 น. |
|
|
|
| โดย: หมุนตามไมล์ วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:1:45:27 น. |
|
|
|
| โดย: Lika ka วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:9:06:07 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [